จวนโหวเต็มไปด้วยเสียงมโหรีดังอึกทึก ภายในประดับประดาด้วยโคมไฟและผ้าแพรหลากสี
อันหลิงเกออยู่ในชุดแต่งงานสีแดง นางกำลังใช้ชาดทาปากอยู่หน้ากระจก ด้านหลังมีสาวใช้สองคนกำลังช่วยนางหวีผมแต่งตัว
วันนี้ นางจะต้องเป็นเจ้าสาวที่งดงามที่สุดในเมืองหลวง
(จบ)
สามพันปีก่อนที่แผ่นดินเทียนเหอจะได้รับการจดบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์
สกุลซู ตระกูลแพทย์ที่เก่าแก่และร่ำรวยแห่งแคว้นจงหนิง ภายในห้องที่รกร้างทรุดโทรมห้องหนึ่ง บุตรสาวคนที่เจ็ด ‘ซูจิ่นซี’ เสื้อผ้าขาดลุ่ย ร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผลถูกมัดติดกับเสา
ข้างกายคือสาวงามนางหนึ่ง นางสวมอาภรณ์หรูหรา ในมือถือกริชค่อยๆ เฉือนลงบนร่างกายของซูจิ่นซี
“ไอ้โง่ เจ้ายังไม่ยอมอ้าปากพูดอีกหรือ หยกกิเลนอยู่ที่ใด”
ร่างของซูจิ่นซีสั่นสะท้านด้วยความเจ็บปวด ทว่าปากก็ยังถูกปิดสนิทให้ไม่สามารถพูดได้แม้แต่คำเดียว ดวงตาสีเข้มมืดมนคลอด้วยหยาดน้ำตา ส่งสายตาวิงวอนต่อสาวงามนางนั้น
หญิงสาวยิ้มมุมปากอย่างพอใจแล้วดึงผ้าที่อุดปากซูจิ่นซีออก
สาวงามตะโกนอย่างเกรี้ยวกราด “พูด! ”
แต่นางกลับคาดไม่ถึงว่าซูจิ่นซีจะร้องไห้ส่งเสียงดังสนั่นราวกับเด็กน้อยขึ้นมา
“พี่หญิงเป็นคนหลอกลวง ฮือ…ฮือฮือ…บอกว่าจะให้ข้ากินปลา ท่านพี่หลอกข้า ฮือฮือ ลวี่หลี… ข้าเจ็บเหลือเกิน! ลวี่หลี…ฮือฮือฮือ…ข้าเลือดไหล ลวี่หลี…”
ดวงตาส่องประกายของสาวงามหม่นแสงลงทันที กริชในมือยกขึ้นจ่อคอของซูจิ่นซีอย่างไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย
“หุบปาก! หากยังตะโกนอีก ข้าจะฆ่าเจ้าเสียตอนนี้! ”
ซูจิ่นซีหวาดกลัวเสียจนหยุดส่งเสียงร้องไห้ในทันใด อีกทั้งยังมองสาวงามด้วยแววตาขยาด ทว่าในขณะที่ดวงตาอันสับสนของซูจิ่นซีมองทะลุผ่านสาวงามไปยังบุรุษผู้มีรังสีมืดมนบนเก้าอี้ไม้จันทน์สีแดงแปดเหลี่ยมข้างหลังนาง ซูจิ่นซีก็รู้สึกกระสับกระส่ายขึ้นมา
"โฮสต์จะต้องภาคภูมิใจกับการเป็นกุลสตรีที่แสนดีงามแบบนี้!""ภูมิใจอะไรยะ ให้เขารังแกเนี่ยนะ!""ไม่ได้นะครับโฮสต์ คุณต้องใจเย็น ๆ เอาไว้! การตบตีสตรีอื่นเป็นหนึ่งในข้อห้ามร้ายแรงที่สุดของภรรยาที่ดี ถ้าคุณตบเราเสียคะแนน!""โว้ย! แล้วจะให้ฉันทำยังไงฮะ!?""ยิ้มอ่อนหวานแล้วกล่าวต้อนรับผู้มาใหม่สิครับโฮสต์""แต่นั่นมันเมียน้อยของผัวฉันนะเว้ย!" เหยียนอันหลันสาวแซ่บยุคใหม่ กลับต้องมาอยู่ในร่างของคุณหนูใหญ่ตระกุลเสิ่นพร้อมระบบที่จะมาควบคุมเธอให้กลายเป็นสุดยอดภรรยาอันดับหนึ่งของแผ่นดิน
การหมั้นหมายครั้งหนึ่ง พวกเขาได้เข้ามาใช้ชีวิตร่วมกันเธอแสร้งทำเป็นเย็นชา ทำหน้าขี้เหร่ แต่งตัวแบบป้า ทำให้เขาไม่มีความอยาก ไม่เคยมามองเธอแม้แต่ตาเดียวเข้าเปลี่ยนคนรักบ่อยๆราวกับเปลี่ยนเสื้อผ้า แถมยังไม่กลับบ้าน ไม่สนไม่ถามภรรยาหน้าเหม็นในบ้านที่แต่งงานกันมาหนึ่งปี เขารู้แต่ว่าภรรยาตนเองนั้นขี้เหร่มาก อย่างอื่นไม่รู้สุดท้ายเขาทนไม่ไหว พูดว่า“ฉันขอบอกนะ จิดาภา เราหย่ากันเถอะ”เธอตกใจเล็กน้อยแต่ก็ไม่เศร้าศอก“อยากจะหย่ากันก็ได้ แต่ผลที่ตามมานายต้องรับผิดชอบเอง อีกทั้งห้ามมาขอความช่วยเหลือจากบริษัทบ้านฉัน!”สองปีต่อมา เธอกลายเป็นนักออกแบบเครื่องเพชรพลอยที่ยอดเยี่ยม และได้เข้าบริษัทเครื่องเพชรที่ใหญ่ที่สุด เมื่อพวกเขาได้เจอกันอีกครั้ง เขาที่เป็นสามีเก่านั้นกลับกลายเป็นหัวหน้าของเธอซะแล้ว!เมื่อความจริงถูกเปิดเผย เขากดเธอลงใต้ร่างกายอย่างแรงๆ“ฉันไม่เคยรู้เลยว่า เธอก็คือผู้หญิงที่ทั้งแก่ทั้งขี่เหร่ในสองปีก่อน”
(จบ)