มีแค่เราที่เป็นเนโครแมนเซอร์
เป็นวันธรรมดาวันหนึ่งในมหาลัยในขณะที่จู่ ๆ ก็มีข้อความและการ์ดภารกิจโผล่ขึ้นมาในกลางอากาศ
ขณะที่ทุกคนกำลังลุกลี้ลุกลนกับเหตุการณ์ประหลาด แสงสว่างทั้งหมดกลับมืดมิดลง ห้องเรียนถูกปกคลุมไปด้วยความมืดสนิท ทุกคนตื่นตระหนกและหวาดกลัวที่จะหยิบการ์ดภารกิจ แต่ไม่ใช่กับซองอู เขารับรู้ได้โดยสัญชาตญาณว่าเราต้องหยิบการ์ดเพื่อเอาชีวิตรอด เขาจึงเลือกเป็นเนโครแมนเซอร์
ไม่นานหลังจากนั้นก็ได้มีภารกิจแนะนำปรากฏขึ้นมา ทั้งมหาลัยได้จมสู่ความยุ่งเหยิง จู่ ๆ ก็มีกอบลินโผล่ขึ้นมาเต็มไปหมดเพื่อฆ่าคน ผู้รอดชีวิตต่างปรับตัวกับความเปลี่ยนแปลงอันรวดเร็วได้ยาก แต่ซองอูได้ฆ่ากอบลินฝูงหนึ่งไปด้วยพลังของสกิลเนโครแมนเซอร์และเริ่มทำภารกิจที่เขาได้มา
ซองอูเพิ่มพลังของตัวเองเช่นเดียวกับจำนวนพวกพ้อง เขาถูกรายล้อมไปด้วยพลังแห่งความตายที่ภักดีต่อเขาเช่นเดียวกับพรรคพวกที่เชื่อใจได้ แต่เขาก็ถูกท้าทายโดยคนเลวร้ายมากมายและระบบที่ขู่ว่าจะทำให้มนุษยชาติเสื่อมทรามลง
บนโลกที่กำลังพบเจอกับความเปลี่ยนแปลงที่ไม่เคยมีมาก่อน เนโครแมนเซอร์คนหนึ่งได้ทำลายทุกสิ่งทุกอย่างด้วยพลังของเขา!
( จบ )
เสพติดการอ่าน.
นี่คือสิ่งที่ฉันได้ยินจากอาจารย์ประจำชั้นมัธยมของฉัน.อย่างไรก็ตาม,ฉันไม่ได้สนใจมัน เพราะอย่างที่อาจารย์บอก,ฉันติดมันจริง ๆ.
ฉันรักการอ่าน.
ความกล้าหาญ? แฟนตาซี? การเขียน? โรแมนติก? มนุษยศาสตร์? วิทยาศาสตร์? บทความ? มันไม่สำคัญว่าจะเป็นแนวอะไร.แค่อ่านอะไรบางอย่างและการอ่านเป็นสิ่งที่ฉันรัก.
ฉันเป็นคนเสพติดการอ่าน.
รยูจีฮวัน ที่ปรึกษาด้านการเงินสุดเนี้ยบและปากร้าย อยู่มาวันหนึ่งมีผู้หญิงแปลกหน้าเข้ามาประชิดตัวเขา ใบหน้าของเธอซีดเผือด เหงื่อเกาะพราวอยู่เต็มดวงหน้า อีกทั้งยังหายใจหอบถี่ เธอกระซิบข้างหูเขาด้วยน้ำเสียงแหบพร่า
“ได้โปรด ชะ ช่วยฉันด้วย อึก!”
ยังไม่ทันที่จีฮวันจะตั้งสติได้ หญิงสาวก็วิ่งพรวดพราดเข้าไปในห้องของเขา แล้วเสียง ปู้ด! ป้าด! ที่ได้ยินจากห้องก็แทนคำอธิบายได้เกินพอ
หลังจากนั้นชีวิตของจีฮวันราวกับต้องคำสาป เขาตกงานเพราะปฏิเสธรักหลานสาวลูกค้ารายใหญ่ของบริษัท นับว่าโชคยังเข้าข้างอยู่บ้าง เขาได้งานเป็นที่ปรึกษาของนักเขียนชื่อดัง แต่ลูกค้าคนนั้นดันเป็น โกอึนคัง หญิงสาวที่เข้ามาอึในห้องของเขา ซ้ำร้ายเธอยังอยู่คอนโดเดียวกันกับเขาอีกต่างหาก!
แล้วเรื่องราววุ่นๆ ของชายหญิงที่นิสัยต่างกันสุดขั้วจึงเกิดขึ้น!
บทนำ
เป็นเรื่องราวของชายหนุ่มคนหนึ่งที่เสียชีวิตและได้เกิดใหม่เป็นโครงกระดูก เลเวล 1 ในโลกใต้ดิน ตัวเอกของเราต้องเอาตัวรอดในการต่อสู้ราวกับเกมส์ RPG ที่ล้อมรอบไปด้วยอันตรายและมอนเตอร์ เฝ้าดูเขาชนะอุปสรรคและความเพียรอย่างเฉลียวฉลาด
ทักษะใช้ (สเตมิน่า) เวทมนตร์ใช้ (มานา)
บางครั้งมันสามารถใช้อัตราส่วน 1: 1 ของทั้ง สเตมิน่า และ มานา จากนั้นจะถูกจัดประเภทเป็นทักษะ
ทักษะไม่จำเป็นต้องใช้การร่ายใด ๆ ในขณะที่คาถาใช้
การวัดระดับทักษะ / เวทย์มนตร์
ทั่วไป→ระดับกลาง→ขั้นสูง→เหนือกว่า→หายาก (-) →หายาก→หายาก (+)
เทพ
→เทพชั้นต่ำ→เทพ→เทพชั้นสูง
แร้งค์:
– ขึ้นอยู่กับสถิติและความแข็งแกร่งโดยรวม
– ไม่ใช่การวัดความกล้าหาญของแต่ละคนอย่างแท้จริงเพราะไม่ได้คำนึงถึงทักษะหรือเวทมนตร์
– ในระดับเดียวกันความแตกต่างของทักษะหรือคาถาอาจทำให้พลังแตกต่างกันอย่างมาก
น่ากลัว – ความแข็งแกร่งของมนุษย์ทั่วไปเรียกอีกอย่างว่าอันดับของมนุษย์
ดี – ความแข็งแกร่งของมนุษย์ที่แข็งแกร่งเป็นพิเศษ
พอใช้ – ทหารผ่านศึกเป็นจุดสูงสุดของมนุษย์ทั่วไป
ยอดเยี่ยม – ถือว่าเป็นผู้เริ่มต้นตามเส้นทางแห่งอำนาจ
เด่น – ระดับเฉลี่ยของนักรบที่ถูกเลือก
ผู้พิชิต – อันดับสูงสุดที่นักรบที่เลือกสามารถบรรลุได้
ปฐมกาล – ความแข็งแกร่งของมังกร.
สมบูรณ์ – ความแข็งแกร่งของมังกรอาวุโส
ผู้เป็นเลิศ – ความแข็งแกร่งของราชามังกร
เทพ – ความแข็งแกร่งของเทพชั้นต่ำ
โดย นำเรื่อง Artifact Reading Inspector มาเป็นบางส่วน
บทนำ
ตลาดของเก่าที่เต็มไปด้วยสมบัติล้ำค่าและขยะ
ในท่ามกลางสิ่งเหล่านี้ แฮจิน เขาคือคนที่พยายามจะเป็นนักประเมินที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก
เรื่องย่อ
ณ ห้องหินสีดำสนิท สถานที่แห่งนี้มันสูญเสียรูปลักษณ์เดิมของมันไปแล้ว ตอนนี้ทั้งห้องมันเต็มไปด้วยความยุ่งเหยิง บนพื้นมีหลุมที่ถูกขุดอยู่ทุกที่
หากไม่ใช่เพราะโคมไฟLEDขนาดเล็กที่แขวนอยู่บนผนัง เราก็จะไม่สามารถเห็นแม้แต่มือของตัวเอง
“เฮ้ ปาร์ค! นายกำลังทำอะไรอยู่ ? ตอนนี้เราต้องรีบออกไปแล้ว!”
แม้ว่ามันจะเป็นเสียงกระซิบ แต่มันก็แฝงไปด้วยความเร่งรีบ ยอนซอกมองกลับไปครู่หนึ่ง แต่ไม่นานเขาก็หันกลับมาเหมือนเดิม
ดวงตาแดงก่ำของเขากำลังจ้องมองไปที่กองดินในความมืด
‘มันมีบางอย่างอยู่ตรงนั้น!’
เขารู้สึกราวกับว่ามีใครบางคนกำลังเรียกเขาอยู่ ในตอนแรกนั้นเสียงมันฟังคล้ายกับว่ามีคนกำลังแทะอะไรบางอย่าง แต่หลังจากที่เขาฟังต่อไป เขาก็รู้สึกเหมือนกับว่าเสียงนั้นมันกำลังพูดกับเขาอยู่
ราวกับเขาถูกครอบงำโดยบางสิ่ง เขาเริ่มขุดโดยไม่ใช้จอบหรือมีด เขาใช้เพียงแค่มือของเขาเท่านั้น แต่ราวกับว่าเขารู้ว่ามันอยู่ตรงไหน ทำให้มือของเขาขยับไปยังทิศทางนั้นโดยไม่ลังเล
เขาไม่ได้กังวลเลยว่าการขุดของเขามันจะไปทำลายของที่ซ่อนอยู่ข้างใน ไม่สิ ในหัวของเขามันไม่ได้มีเรื่องนั้นอยู่ตั้งแต่แรกแล้ว
“ปาร์ค! ตำรวจกำลังจะมาแล้ว! ตอนนี้นายบ้าไปแล้วรึไง? รีบออกไปกันได้แล้ว!”
“รอ….. รอเดี๋ยว….”
ในขณะที่เขาถูกเร่งจากด้านหลัง ยอนซอกกลับพูดออกมาเพียงให้โจรอเขาเท่านั้น
“แม่ง…งั้นฉันจะออกไปแล้วนะ นายอยู่ที่นี่คนเดียวแล้วกัน ฉันจะอยู่ที่ท่าเรือชองโดถึงวันที่ 17 และนายก็น่าจะรู้อยู่แล้วว่าฉันจะไม่รอนายถ้านายมาสาย”
“…….”
ยอนซอกไม่ได้ตอบกลับไป มือของเขายังคงขุดอยู่ น่าแปลกที่ดินซึ่งควรจะแข็งและขุดได้ยากกลับขุดได้ง่ายราวกับว่ามันเป็นเพียงทรายในสนามเด็กเล่น โดยปกติแล้วเขาจะต้องสังเกตเห็นสิ่งผิดปกตินี้ ตอนนี้เขากลับไม่ติดใจอะไร
“อ้า…อย่ามาโทษฉันล่ะกันถ้ามันมีอะไรเกิดขึ้น!”
หลังจากสิ้นเสียง โจก็คลานผ่านอุโมงค์เล็กๆที่นำมายังห้องที่ยอนซอกอยู่ ตอนนี้พวกเขาได้ปล้นวัตถุโบราณมาค่อนข้างมาก ดังนั้นหลังจากนี้พวกเขากำลังจะได้รับเงินจำนวนมหาศาล โจจึงไม่อยากเสียเวลาและเสี่ยงที่จะถูกจับ
ด้านยอนซอกเขาก็รู้สึกแบบนั้นเช่นกัน หากเขาคิดถึงลูกชายของเขาที่กำลังรอเขาอยู่สักนิด เขาก็คงจะวิ่งโดยไม่หันหลังกลับมามอง อย่างไรก็ตามหลังจากที่เขาสูญเสียความนึกคิดทั้งหมดไป เขาก็ยังคงขุดต่อไปดั่งเช่นคนบ้า ในหัวของเขามีเพียงแต่ความคิดที่จะหาของให้พบเท่านั้น
“แฮ่ก..แฮ่ก…”
ไม่ช้ามือของเขาก็ไปแตะโดนกล่องไม้สีดำเข้า จากนั้นยอนซอกก็ได้สติขึ้นมาพร้อมกับปัดดินออกจากมันเบาๆ
“มันยังไม่ผุ?”
วัตถุโบราณของสุสานแห่งนี้มีอายุอย่างน้อยสองถึงสามศตวรรษ อย่างไรก็ตามกล่องที่มีสัญลักษณ์แปลกๆที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อนกลับไม่มีร่อยรอยของการผุพังเลย บางทีมันอาจจะไม่ได้ทำมาจากไม้จริงๆก็ได้
คลิก…
ยอนซอกสะดุ้ง เขาไม่ได้เปิดมัน ไม่สิบางทีมือของเขาอาจจะไปแตะโดนมันก็ได้…. ภายในมีวัตถุทรงสี่เหลี่ยมสีดำที่ไม่มีการตกแต่งวางอยู่ ยอนซอกเอาของข้างในใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อของเขาและทิ้งกล่องไป จากนั้นเขาก็เดินเข้าไปในอุโมงค์ขนาดเล็กที่พอดีกับร่างกายของเขา
ตอนนี้มันได้เวลาหนีแล้ว