เปรี๊ยะ ข้างหน้าชั้นตอนนี้มีรอยร้าวอยู่ โลกที่เคยมีแต่ความมืดก็มีแสงส่องเข้ามา ชั้นแลตามองออกไปดูรอยร้าวที่กำลังใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ หืม นี่มันป่าเหรอ? เหมือนว่าจะอยู่บนยอดต้นไม้ซะด้วย พอชั้นลองยืนขึ้น ก็ได้ยินเสียงอะไรแตกอยู่ใต้เท้า เอ ชั้นเหยียบอะไรอยู่ล่ะเนี่ย แบบว่า เหมือนมันกำลังแตกอยู่เลยอะ ทันทีที่คิดอย่างนั้น ก็มีอะไรบางอย่างที่ดูคล้ายเกมก็ปรากฏขึ้นในหัว ---------------------------------------------------------------
สามพันปีก่อนที่แผ่นดินเทียนเหอจะได้รับการจดบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์
สกุลซู ตระกูลแพทย์ที่เก่าแก่และร่ำรวยแห่งแคว้นจงหนิง ภายในห้องที่รกร้างทรุดโทรมห้องหนึ่ง บุตรสาวคนที่เจ็ด ‘ซูจิ่นซี’ เสื้อผ้าขาดลุ่ย ร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผลถูกมัดติดกับเสา
ข้างกายคือสาวงามนางหนึ่ง นางสวมอาภรณ์หรูหรา ในมือถือกริชค่อยๆ เฉือนลงบนร่างกายของซูจิ่นซี
“ไอ้โง่ เจ้ายังไม่ยอมอ้าปากพูดอีกหรือ หยกกิเลนอยู่ที่ใด”
ร่างของซูจิ่นซีสั่นสะท้านด้วยความเจ็บปวด ทว่าปากก็ยังถูกปิดสนิทให้ไม่สามารถพูดได้แม้แต่คำเดียว ดวงตาสีเข้มมืดมนคลอด้วยหยาดน้ำตา ส่งสายตาวิงวอนต่อสาวงามนางนั้น
หญิงสาวยิ้มมุมปากอย่างพอใจแล้วดึงผ้าที่อุดปากซูจิ่นซีออก
สาวงามตะโกนอย่างเกรี้ยวกราด “พูด! ”
แต่นางกลับคาดไม่ถึงว่าซูจิ่นซีจะร้องไห้ส่งเสียงดังสนั่นราวกับเด็กน้อยขึ้นมา
“พี่หญิงเป็นคนหลอกลวง ฮือ…ฮือฮือ…บอกว่าจะให้ข้ากินปลา ท่านพี่หลอกข้า ฮือฮือ ลวี่หลี… ข้าเจ็บเหลือเกิน! ลวี่หลี…ฮือฮือฮือ…ข้าเลือดไหล ลวี่หลี…”
ดวงตาส่องประกายของสาวงามหม่นแสงลงทันที กริชในมือยกขึ้นจ่อคอของซูจิ่นซีอย่างไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย
“หุบปาก! หากยังตะโกนอีก ข้าจะฆ่าเจ้าเสียตอนนี้! ”
ซูจิ่นซีหวาดกลัวเสียจนหยุดส่งเสียงร้องไห้ในทันใด อีกทั้งยังมองสาวงามด้วยแววตาขยาด ทว่าในขณะที่ดวงตาอันสับสนของซูจิ่นซีมองทะลุผ่านสาวงามไปยังบุรุษผู้มีรังสีมืดมนบนเก้าอี้ไม้จันทน์สีแดงแปดเหลี่ยมข้างหลังนาง ซูจิ่นซีก็รู้สึกกระสับกระส่ายขึ้นมา
บทนำ
เป็นเรื่องราวของชายหนุ่มคนหนึ่งที่เสียชีวิตและได้เกิดใหม่เป็นโครงกระดูก เลเวล 1 ในโลกใต้ดิน ตัวเอกของเราต้องเอาตัวรอดในการต่อสู้ราวกับเกมส์ RPG ที่ล้อมรอบไปด้วยอันตรายและมอนเตอร์ เฝ้าดูเขาชนะอุปสรรคและความเพียรอย่างเฉลียวฉลาด
ทักษะใช้ (สเตมิน่า) เวทมนตร์ใช้ (มานา)
บางครั้งมันสามารถใช้อัตราส่วน 1: 1 ของทั้ง สเตมิน่า และ มานา จากนั้นจะถูกจัดประเภทเป็นทักษะ
ทักษะไม่จำเป็นต้องใช้การร่ายใด ๆ ในขณะที่คาถาใช้
การวัดระดับทักษะ / เวทย์มนตร์
ทั่วไป→ระดับกลาง→ขั้นสูง→เหนือกว่า→หายาก (-) →หายาก→หายาก (+)
เทพ
→เทพชั้นต่ำ→เทพ→เทพชั้นสูง
แร้งค์:
– ขึ้นอยู่กับสถิติและความแข็งแกร่งโดยรวม
– ไม่ใช่การวัดความกล้าหาญของแต่ละคนอย่างแท้จริงเพราะไม่ได้คำนึงถึงทักษะหรือเวทมนตร์
– ในระดับเดียวกันความแตกต่างของทักษะหรือคาถาอาจทำให้พลังแตกต่างกันอย่างมาก
น่ากลัว – ความแข็งแกร่งของมนุษย์ทั่วไปเรียกอีกอย่างว่าอันดับของมนุษย์
ดี – ความแข็งแกร่งของมนุษย์ที่แข็งแกร่งเป็นพิเศษ
พอใช้ – ทหารผ่านศึกเป็นจุดสูงสุดของมนุษย์ทั่วไป
ยอดเยี่ยม – ถือว่าเป็นผู้เริ่มต้นตามเส้นทางแห่งอำนาจ
เด่น – ระดับเฉลี่ยของนักรบที่ถูกเลือก
ผู้พิชิต – อันดับสูงสุดที่นักรบที่เลือกสามารถบรรลุได้
ปฐมกาล – ความแข็งแกร่งของมังกร.
สมบูรณ์ – ความแข็งแกร่งของมังกรอาวุโส
ผู้เป็นเลิศ – ความแข็งแกร่งของราชามังกร
เทพ – ความแข็งแกร่งของเทพชั้นต่ำ
บทนำ
เรื่อง ปล้นสวรรค์
นักเรียนมัธยมปลายธรรมดา นามว่าเย่หยู จู่ๆวันหนึ่งก็มีลำแสงพุ่งลงมาที่มือของเขา ด้วยเหตุนี้เขาถึงได้ระบบปล้นสวรรค์มาคลอบครอง ในแต่ละวันเขาสามารถเปิดช่องมิติ เพื่อที่จะใช้มือของเขา ล้วงเข้าไปขโมยของต่างๆจากทุกที่มาเป็นของตน
“ยอดภูเขาดาบ ซึ่งมีดาบวิเศษปักอยู่ จู่ๆก็เกิดวังวน พร้อมทั้งมีมือยื่นออกมา คว้าดาบวิเศษ ที่นิกายดาบสวรรค์เฝ้ารอคอย”
“ดร.อากาสะแว่นตารุ่นล่าสุดของผมอยู่ไหนครับ” “ โอ้มันอยู่ตรงนี้ โคนัน เอ๊ะ! มันหายไปไหนแล้ว!”
“ ฮ่าฮ่า ในที่สุดตำราฝังเข็มเล่มนี้ก็เป็นของข้า! อ๊ะ! ใครบังอาจขโมยไป”
โดย นำเรื่อง Artifact Reading Inspector มาเป็นบางส่วน
บทนำ
ตลาดของเก่าที่เต็มไปด้วยสมบัติล้ำค่าและขยะ
ในท่ามกลางสิ่งเหล่านี้ แฮจิน เขาคือคนที่พยายามจะเป็นนักประเมินที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก
เรื่องย่อ
ณ ห้องหินสีดำสนิท สถานที่แห่งนี้มันสูญเสียรูปลักษณ์เดิมของมันไปแล้ว ตอนนี้ทั้งห้องมันเต็มไปด้วยความยุ่งเหยิง บนพื้นมีหลุมที่ถูกขุดอยู่ทุกที่
หากไม่ใช่เพราะโคมไฟLEDขนาดเล็กที่แขวนอยู่บนผนัง เราก็จะไม่สามารถเห็นแม้แต่มือของตัวเอง
“เฮ้ ปาร์ค! นายกำลังทำอะไรอยู่ ? ตอนนี้เราต้องรีบออกไปแล้ว!”
แม้ว่ามันจะเป็นเสียงกระซิบ แต่มันก็แฝงไปด้วยความเร่งรีบ ยอนซอกมองกลับไปครู่หนึ่ง แต่ไม่นานเขาก็หันกลับมาเหมือนเดิม
ดวงตาแดงก่ำของเขากำลังจ้องมองไปที่กองดินในความมืด
‘มันมีบางอย่างอยู่ตรงนั้น!’
เขารู้สึกราวกับว่ามีใครบางคนกำลังเรียกเขาอยู่ ในตอนแรกนั้นเสียงมันฟังคล้ายกับว่ามีคนกำลังแทะอะไรบางอย่าง แต่หลังจากที่เขาฟังต่อไป เขาก็รู้สึกเหมือนกับว่าเสียงนั้นมันกำลังพูดกับเขาอยู่
ราวกับเขาถูกครอบงำโดยบางสิ่ง เขาเริ่มขุดโดยไม่ใช้จอบหรือมีด เขาใช้เพียงแค่มือของเขาเท่านั้น แต่ราวกับว่าเขารู้ว่ามันอยู่ตรงไหน ทำให้มือของเขาขยับไปยังทิศทางนั้นโดยไม่ลังเล
เขาไม่ได้กังวลเลยว่าการขุดของเขามันจะไปทำลายของที่ซ่อนอยู่ข้างใน ไม่สิ ในหัวของเขามันไม่ได้มีเรื่องนั้นอยู่ตั้งแต่แรกแล้ว
“ปาร์ค! ตำรวจกำลังจะมาแล้ว! ตอนนี้นายบ้าไปแล้วรึไง? รีบออกไปกันได้แล้ว!”
“รอ….. รอเดี๋ยว….”
ในขณะที่เขาถูกเร่งจากด้านหลัง ยอนซอกกลับพูดออกมาเพียงให้โจรอเขาเท่านั้น
“แม่ง…งั้นฉันจะออกไปแล้วนะ นายอยู่ที่นี่คนเดียวแล้วกัน ฉันจะอยู่ที่ท่าเรือชองโดถึงวันที่ 17 และนายก็น่าจะรู้อยู่แล้วว่าฉันจะไม่รอนายถ้านายมาสาย”
“…….”
ยอนซอกไม่ได้ตอบกลับไป มือของเขายังคงขุดอยู่ น่าแปลกที่ดินซึ่งควรจะแข็งและขุดได้ยากกลับขุดได้ง่ายราวกับว่ามันเป็นเพียงทรายในสนามเด็กเล่น โดยปกติแล้วเขาจะต้องสังเกตเห็นสิ่งผิดปกตินี้ ตอนนี้เขากลับไม่ติดใจอะไร
“อ้า…อย่ามาโทษฉันล่ะกันถ้ามันมีอะไรเกิดขึ้น!”
หลังจากสิ้นเสียง โจก็คลานผ่านอุโมงค์เล็กๆที่นำมายังห้องที่ยอนซอกอยู่ ตอนนี้พวกเขาได้ปล้นวัตถุโบราณมาค่อนข้างมาก ดังนั้นหลังจากนี้พวกเขากำลังจะได้รับเงินจำนวนมหาศาล โจจึงไม่อยากเสียเวลาและเสี่ยงที่จะถูกจับ
ด้านยอนซอกเขาก็รู้สึกแบบนั้นเช่นกัน หากเขาคิดถึงลูกชายของเขาที่กำลังรอเขาอยู่สักนิด เขาก็คงจะวิ่งโดยไม่หันหลังกลับมามอง อย่างไรก็ตามหลังจากที่เขาสูญเสียความนึกคิดทั้งหมดไป เขาก็ยังคงขุดต่อไปดั่งเช่นคนบ้า ในหัวของเขามีเพียงแต่ความคิดที่จะหาของให้พบเท่านั้น
“แฮ่ก..แฮ่ก…”
ไม่ช้ามือของเขาก็ไปแตะโดนกล่องไม้สีดำเข้า จากนั้นยอนซอกก็ได้สติขึ้นมาพร้อมกับปัดดินออกจากมันเบาๆ
“มันยังไม่ผุ?”
วัตถุโบราณของสุสานแห่งนี้มีอายุอย่างน้อยสองถึงสามศตวรรษ อย่างไรก็ตามกล่องที่มีสัญลักษณ์แปลกๆที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อนกลับไม่มีร่อยรอยของการผุพังเลย บางทีมันอาจจะไม่ได้ทำมาจากไม้จริงๆก็ได้
คลิก…
ยอนซอกสะดุ้ง เขาไม่ได้เปิดมัน ไม่สิบางทีมือของเขาอาจจะไปแตะโดนมันก็ได้…. ภายในมีวัตถุทรงสี่เหลี่ยมสีดำที่ไม่มีการตกแต่งวางอยู่ ยอนซอกเอาของข้างในใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อของเขาและทิ้งกล่องไป จากนั้นเขาก็เดินเข้าไปในอุโมงค์ขนาดเล็กที่พอดีกับร่างกายของเขา
ตอนนี้มันได้เวลาหนีแล้ว