記憶喪失の俺には、三人カノジョがいるらしい . ตัวผมคนเดิมก่อนที่จะความจำเสื่อมนั้น ดูเหมือนว่าจะมีแฟนสาวอยู่สามคนครับ - ตอนที่ 5.1 อริสึคาวะที่นั่งข้าง ๆ กัน 1
- Home
- 記憶喪失の俺には、三人カノジョがいるらしい . ตัวผมคนเดิมก่อนที่จะความจำเสื่อมนั้น ดูเหมือนว่าจะมีแฟนสาวอยู่สามคนครับ
- ตอนที่ 5.1 อริสึคาวะที่นั่งข้าง ๆ กัน 1
บทที่ 5.1 อริสึคาวะที่นั่งข้าง ๆ กัน (1)
เวลาผ่านไปจนจบคาบที่สี่ เสียงกริ่งบ่งบอกว่าถึงเวลาพักกลางวันแล้วดังขึ้น
เสียงกริ่งนี่กระตุ้นความทรงจำได้เป็นอย่างดีเลย ถึงจะจำใครไม่ได้สักคนแต่ก็เริ่มมั่นใจแล้วว่าเป็นนักเรียนที่นี่จริง ๆ
ถ้าเป็นแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ละก็ความทรงจำอาจจะกลับมาได้ก็ได้นะ
ระหว่างที่กำลังหมกมุ่นกับเสียงกริ่ง สมาร์ทโฟนในกระเป๋าผมก็สั่นขึ้น มีข้อความสองข้อความส่งมา
「hina: รุ่นพี่ วันนี้มาถึงโรงเรียนโดยสวัสดิภาพหรือเปล่าคะ?」
「Asuka: เป็นไงบ้าง?」
มีคนแต่คนเป็นห่วงแฮะ ผมเนี่ย
เพื่อคลายความเป็นห่วงของทั้งสองคน ผมเลยเริ่มตอบข้อความของฮินะก่อน
「Yuki: ขอบคุณนะ ถึงจะมาสายไปหน่อยแต่ก็มาถึงได้โดยไม่มีปัญหาเลย!」
หลังจากรอพักนึงแล้วข้อความก็ยังไม่ขึ้นว่าอ่านเลย เทียบกับที่เคยบอกว่าส่งไลม์รัว ๆ มาสองร้อยข้อความเนี่ยดูธรรมกว่าที่คิดแฮะ
ต่อไปเป็นข้อความของอาสึกะ
「Yuki: จบคาบเรียนแล้วละ!สถานการณ์ปกติดี ถึงพักกลางวันแล้วนะ」
พอตอบไปคราวนี้ข้อความถูกอ่านในทันทีเลย
「Asuka: สบายดีเหรอ(หัวเราะ) ถ้าสบายดีก็ดีแล้วละ(หัวเราะ)」
「Yuki: ก็บอกว่าปกติดีไง!แล้วพักกลางนี้จะเอาไงเหรอ?」
「Asuka: นายอยากทำอะไรละ?」
「Yuki: อยากกลับบ้านแล้ว!」
「Asuka: ตัวเลือกแบบนั้นไม่มีหรอกนะ」
ตัดบทกันได้เย็นชาจังเลยแฮะ
แต่การที่รู้สึกเหมือนได้รับความเสียหายทั้ง ๆ ที่ส่งข้อความกันเนี่ยแปลกดีจังนะ
ถ้าได้ใช้เวลาร่วมกันตอนกลางวันด้วยกันคงสนุกไม่น้อยเลยละ
แต่เหมือนอาสึกะจะคิดคนละอย่างกันแฮะ
「Asuka: วันนี้ไปกินข้าวกับเพื่อนที่ห้องก่อนไหม? ไม่ได้มาเรียนตั้งแต่เลื่อนชั้นด้วยสิ ถึงจะไม่นับเรื่องความจำก็ไม่รู้ว่านายจะเข้ากับคนในชั้นเรียนได้ไหมด้วย」
「Yuki: เอ๋ เอาจริงดิ!? ยังแอบกังวลอยู่เลย วันนี้วันแรกด้วยอาสึกะไม่ได้มีอะไรจะบอกฉันไว้เป็นพิเศษเลยเหรอ」
「Yuki: ว่าแต่เรื่องที่อาสึกะอยู่คนละห้องกันก็ไม่ยอมบอกกันก่อนเลยนะ!」
「Asuka: เรื่องนั้นขอโทษนะ」
「Asuka: ถ้าไปกินข้าวกลางวันกันก็คงจะบอกอะไรหลาย ๆ ให้ได้ก็จริงอยู่หรอก แต่คนที่บอกว่าอยากจะเห็นนู่นนี่ด้วยตัวเองมันก็นายนี่?」
พอเห็นข้อความนั้นผมก็หยุดมือที่กำลังพิมพ์อยู่
…จริงด้วยสิ
ก่อนที่จะให้อาสึกะบอกให้ฟัง ต้องเห็นด้วยตาตัวเองก่อน
「Yuki: จริงด้วยนะ ขอบคุณมาก ขอออกไปสำรวจก่อนนะ」
「Asuka: ไปดีมาดีจ้า!(หัวเราะ)」
ผมเอาสมาร์ทโฟนเก็บใส่กระเป๋าแล้วเงยหน้าขึ้นด้วยความตั้งใจจริง
ความสัมพันธ์ของคนในห้องนี้ผมต้องรู้ด้วยตัวเอง ไม่งั้นก็จะเดินหน้าต่อไปไม่ได้
[เขาห้ามเล่นโทรศัพท์นะรู้เปล่า]
[อุว๊าก!?]
อริสึคาวะเอนตัวมาจากที่นั่งข้าง ๆ เข้ามาหาผม แถมไม่รู้ทำไมถึงมีขนมถืออยู่ที่มือขวาด้วย
พอได้กลิ่นหวาน ๆ เข้าจมูกมาผมก็เอนหลบไปข้างหลัง อริสึคาวะกระพริบตาแล้วมองดูภาพนั้นของผม จากนั้นก็ยิ้มเล็กน้อย
ริมฝีปากสีชมพูระเรื่อนั่นดูแวววาวมากจนไม่ว่าผู้ชายไหนเห็นก็ต้องใจเต้นแน่นอน ทำผมนึกไปถึงตอนที่เราจูบกันในห้องผู้ป่วยเลย
[ยูกิคุง วันนี้มาสายจังเลยนะ เป็นพวกตั้งใจดื่มดำกับอาหารเช้าเหรอ?]
[ไม่ใช่น่า ไม่ใช่ ไม่ได้ใกล้เคียงเลย]
ผมรีบส่ายหัวพร้อมกับตอบคำถามนั้น จากนั้นเจ้าตัวก็โน้มตัวเข้ามาใกล้ผมอีก
[กลัวอะไรเนี่ย?]
[ไม่ได้กลัวสักหน่อย! ก็บอกแล้วนี่ว่าแค่ตื่นสายแค่นั้นเอง!]
ผมขยับตัวกลับเข้ามาที่เดิมแล้วเริ่มเก็บหนังสือเรียน อริสึคาวะก็ลุกขึ้นมาใกล้เหมือนจะก่อกวนผม
[เอ๋ เรื่องจริงแน่น้า]
[ใกล้ไป ใกล้ไป ใกล้ไป]
[ฟุฟุ ขี้กังวลจังเลย ครั้งหน้าเราเองก็มาสายด้วยดีไหมนะ จริงด้วย พรุ่งนี้มาสายด้วยกันไหม? พอดีว่าสตาร์บั*ออกของใหม่ละ ไปลองกันน้า]
[ไม่เอาด้วยหรอก เดี๋ยวคะแนนความประพฤติก็หมดกันพอดี!]
พอรีบปฏิเสธคำเชื้อชวนสุดแปลกที่ไม่สมกับเป็นเด็กม.ปลายออกไปผมก็รีบหันไปมองรอบ ๆ
ทุกคนรอบ ๆ มีการตอบสนองต่อพฤติกรรมของอริสึคาวะมากมายแตกต่างกันออกไป
ผู้ชายหลายคนมีอาการหลงไหล อีกหลายคนก็ยิ้มออกมาแปลก ๆ ส่วนผู้หญิงกำลังนั่งกินข้าวแล้วคุยไปด้วย แล้วก็มีอีกคนนึงที่กำลังอ่านหนังสืออยู่
ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ชายที่แสดงปฏิกิริยาออกมาตามตรงละ
แต่ไม่นานก็หันกลับไปทำอย่างอื่นเหมือนเดิม คงเป็นเพราะอยู่ห้องเดียวกันมาเดือนนึงเลยชินกันแล้วสินะ
คงจะเป็นประมาณอาหารตาหลังเรียนเสร็จอะไรแบบนั้นละมั้ง แต่ก่อนอื่นเลยคือผมรู้สึกดีใจที่ไม่ได้มีสายตาริษยาจ้องมองมาเลย
ไม่สิ หรือก่อนจะความจำเสื่อมผมอาจจะจัดการเรื่องพวกนี้ไปแล้วก็เป็นได้นะ
ตัวผมทำกำลังคิดไปเรื่อยกำลังหันกลับมาที่เดิน จังหวะนั้นสายตาของผมก็ผ่านกับยูเมะซากิไป
เหมือนยูเมซากิจะมองผมอยู่แว๊บนึง คงแค่บังเอิญสบตากันเฉย ๆ ละนะ
งั้นก่อนอื่นก็ขอบคุณที่ช่วยกันเมื่อเช้ากันดีกว่า
[ยูเมซากิ เมื่อเช้านี้ขอบคุณนะ]
[….]
[….เมินกันเหรอ?]
[อื้อ ด้วยความยินดี]
พูดเสร็จยูเมซากิก็ยืนขึ้นแล้วถือข้าวกล่องออกไปจากห้อง
[เอ๋ นี่ฉันโดนเกลียดจริง ๆ ด้วยเหรอ…?]
ถึงจะคิดว่าไม่ได้ทำอะไรพลาดก็เถอะนะ
แต่ของแบบนี้อาจจะต้องคิดมุมกลับก็ได้ ไม่ใช่ว่าทุกคนจะชอบผูกมิตรกับใครต่อใครที่มาคุยด้วยนี่นะ เหตุผลแค่นี้ก็น่าจะเพียงพอแล้วละ
แต่แค่คิดว่าจะโดนคนที่เหมือนเป็นหัวหน้าเกลียดเอานี่ก็ชวนให้เจ็บปวดอยู่เหมือนนะ
ขณะที่กำลังซึมอยู่นั้นแขนเสื้อก็ถูกดึงขึ้น
อริสึคาวะกำลังเงยหน้ามองผมอยู่
[งั้นไปกันเถอะ]
[เอ๋? ไปไหนเหรอ]
[แน่อยู่แล้วสิ มื้อเที่ยงไง ไปกัน ขอหยิบข้าวกล่องแป๊บนึง]
อริสึคาวะไปหยิบข้าวกล่องที่อยู่ในกระเป๋าออกมา
ส่วนผมมองข้าวกล่องของตัวเองแล้วครุ่นคิด
—-พอดีเลย
มีเรื่องหลายอย่างที่อยากจะถามอริสึคาวะอยู่พอดี
เหมือนอริสึคาวะจะเป็นพวกสายข่าวลือด้วยสิ นี่เป็นโอกาสที่ผมจะได้เห็นอะไรหลายอย่างด้วยตัวเองตั้งแต่วันแรกเลยละ
ผมพยักหน้าให้อริสึคาวะหนึ่งครั้งแล้วหยิบข้าวกล่องขึ้นมา