記憶喪失の俺には、三人カノジョがいるらしい . ตัวผมคนเดิมก่อนที่จะความจำเสื่อมนั้น ดูเหมือนว่าจะมีแฟนสาวอยู่สามคนครับ - ตอนที่ 1.2 ความจำเสื่อม 2
- Home
- 記憶喪失の俺には、三人カノジョがいるらしい . ตัวผมคนเดิมก่อนที่จะความจำเสื่อมนั้น ดูเหมือนว่าจะมีแฟนสาวอยู่สามคนครับ
- ตอนที่ 1.2 ความจำเสื่อม 2
บทที่ 1.2 ความจำเสื่อม (2)
[จากการวินิฉัยแล้ว ซานาดะคุงตอนนี้มีภาวะความจำเสื่อมน่ะ]
[อา..]
ไม่รู้จะยังไงกับการได้ยินชื่อของตัวเองที่เหมือนไม่ใช่ของตัวเองเลยสักนิด ก็เลยอ้าปากตอบ ๆ ไปก่อน
สถานการณ์ตอนนี้คือผมกำลังพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยอยู่
“ซานาดะ ยูกิ” ดูเหมือนจะเป็นชื่อของผมเอง
ได้โอกาสลองส่องกระจกดูแล้ว แต่ก็จำหน้าของตัวเองไม่ได้เลยสักนิดเดียว
ตอนเห็นครั้งแรกก็หลุดปากมาว่า “ธรรมดาจัง” มองเหมือนเป็นคนอื่นคนไกลเลย
แต่พักหลังก็ตื่นมาพร้อมกับหน้าแบบนี้บ่อย ๆ เลยเริ่มชินแล้ว เป็นความรู้สึกที่แปลกดีจัง
[อธิบายง่าย ๆ ก็คือ ภาวะความจำเสื่อมนั้นอาจมีได้หลายประเภท บางคนจะลืมเรื่องราวที่ผ่านมาทั้งชีวิตไปหมดเลยก็มี แต่อาการของซานาดะคุงไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น]
ทั้งชื่อทั้งหน้าก็จำไม่ได้สักนิดเดียวแท้ ๆ แต่นี่ยังไม่ใช่อาการหนักเหรอเนี่ย
ตอนที่กำลังอึ้ง ๆ กับอาการของตัวเองอยู่ คุณหมอก็เอาสมาร์ทโฟนออกมาจากกระเป๋า
[นี่น่าจะทำให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น บอกได้ไหมว่าเจ้าสิ่งนี้มีไว้ทำอะไร]
[สมาร์ทโฟนสินะครับ เอาไว้ใช้สำหรับโทรศัพท์ แล้วก็ใช้งานได้คล้าย ๆ กับคอมพิวเตอร์ด้วย]
[ถูกต้อง ถึงจะมีอาการแบบนี้ แต่ความรู้ในชีวิตประจำวันจะยังคงจำได้อยู่นะ……3×6 ได้เท่าไหร่]
[9 ครับ]
[…]
[……18 ครับ]
[ถูกต้อง แต่ขอให้หยุดการแกล้งให้สับสนไปก่อนนะ]
[ขอโทษครับ]
ถึงกับต้องหลบสายตาเย็นเฉียบนั่นเลยแฮะ นึกว่าจะตายซะแล้ว
คุณหมอได้บอกผมมมาแบบนี้
ดูเหมือนสิ่งที่ผมหลงลืมไปเพราะอุบัติเหตุ นั่นก็คือความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์
หรือก็คือผมได้ลืมเรื่องราวและความทรงจำที่เคยเจอกับผู้คนไปทั้งหมด จะทั้งเพื่อนหรือครอบครัว แน่นอนว่าผู้หญิงคนที่มาเฝ้าไข้ผมก่อนหน้านี้ก็ไม่มียกเว้น
พอนึกถึงหน้าเศร้า ๆ ตอนนั้นแล้ว ในใจก็เจ็บแปล๊บขึ้นมาเลย
[คุณหมอครับ คือผม ตอนที่เห็นคนที่มาเฝ้าไข้ผมดูเศร้า ๆ ก็รู้สึกเศร้าขึ้นมาเหมือนกันเลย คงจะมีปาฏิหาริย์แบบพลังสายสัมพันธ์ที่ก้าวข้ามความจำเสื่อมได้อะไรแบบนี้อยู่สินะครับ]
[ไม่มีหรอก]
[ไม่มีเหรอครับเนี่ย !?]
อุตส่าห์ตั้งสมมติฐานได้ดีแล้วเชียวนะ ตกใจแทบหงายหลัง!
คุณพยาบาลที่อยู่ข้าง ๆ คุณหมอถึงกับหลุดพูดว่า [คุณหมอคะ] ออกมาเลยละ
แต่ว่าคุณหมอก็ยังพูดต่อโดยไม่กลัวคำเตือนนั้นเลย
[ต้องขอโทษด้วย อาจจะเป็นเรื่องที่ไม่ควรจะพูดตอนนี้ก็จริง แต่รู้ไว้ก่อนก็ไม่ได้แย่หรอก คืออย่างนี้นะ การที่เธอเห็นคนแปลกหน้าร้องไห้แล้วใจเจ็บตาม มันก็แค่เธอเป็นคนใจดีเท่านั้นเอง แค่นั้นเลย]
[อะ อา ฟังแล้วทางนี้รู้สึกดีใจเหมือนกันนะครับ]
ท่าทางคำตอบของผมจะไม่แย่เท่าไหร่ คุณพยาบาลแอบยิ้มนิดหน่อยด้วย ถึงจะรีบหุบยิ้มทันเลยก็เถอะ
ดูเหมือนจะมาหลุดขำกันแบบนี้ไม่ได้สินะ
แหงละ ก็ผู้ป่วยความจำเสื่อมนั่งอยู่ตรงหน้านี่นา
[หลุดขำออกมาหน่อยก็ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมจะได้ผ่อนคลายด้วย]
คนคนนึงที่ฟื้นขึ้นมาแล้วมีแต่คนเป็นห่วงเป็นใยเนี่ย ถ้าตัวเองบาดเจ็บก็เรื่องนึง แต่นี่ไร้แผลแข็งแรงดี
การที่ไม่อยากให้ใครมาห่วงหรือใส่ใจกันมาก คงเป็นนิสัยปกติของผมสินะ
[เข้มแข็งจังนะ ซานาดะคุง ตัวเธอคนเดิมก็แข็งแกร่งแบบนี้หรือเปล่านะ]
[คิดแบบนั้นเหมือนกันครับ ก็แบบว่า หลังจากนี้ไปก็หลาย ๆ อย่างก็จะเป็นเรื่องใหม่ไป ถือว่าน่าสนใจไม่น้อยเลยนะครับ]
คุณพยาบาลถึงกับเม้มปากเลยแฮะ คงจะรู้สึกเห็นใจอย่างช่วยไม่ได้ละมั้ง แต่ที่เราพูดแบบนั้นไป คือใจจริงของเราเองหรือแค่ทำเป็นเข้มแข็งกันนะ
พอหันกลับไปหาคุณหมอที่เหมือนจะพูดอะไรต่อ แต่เหมือนจะเป็นแค่คำสั้น ๆ เท่านั้น
[….ดีแล้ว เรื่องอื่นเอาไว้คุยกันทีหลัง วันนี้กลับห้องไปก่อนนะ ]
[ครับผม]
ผมตอบคุณหมอไปด้วยประโยคง่าย ๆ
ตัวเราตอนนี้เป็นใครก็ยังไม่รู้ เรื่องใหญ่กวนใจขนาดนี้ แต่ผมกลับใจเย็นได้อย่างน่าแปลกใจ
ขนาดว่าสถานการณ์ตอนนี้มันพิเศษมากแท้ ๆ มนุษย์เราเนี่ย ปรับตัวได้ง่ายจริง ๆ