未練タラタラの元カノが集まったら/จุดเริ่มเรื่องราวคือเหล่าแฟนสาวที่ไม่ยอมตัดใจมารวมตัวกัน (LN) - ตอนที่ 1 แฟนเก่าเป็นคนดัง
- Home
- 未練タラタラの元カノが集まったら/จุดเริ่มเรื่องราวคือเหล่าแฟนสาวที่ไม่ยอมตัดใจมารวมตัวกัน (LN)
- ตอนที่ 1 แฟนเก่าเป็นคนดัง
ยามได้ผันผูกเข้าไว้ด้วยกันแล้วครั้งหนึ่ง ก็ยากจะหาใดมาตัดขาด
นั่นเป็นสิ่งที่ อีกไม่นานจะรู้ด้วยตัวเอง
──── อยากจะเริ่มใหม่อีกครั้ง
คำพูดนั้นพัดผ่านเข้ามาในหูคู่นี้
และนี่คือเรื่องราวของฉันกับพวกเธอทั้งหลายที่แสนพิเศษ
บทที่ 1 แฟนเก่าเป็นคนดัง
「สำหรับช่วงดูดวงนักกษัตริย์ในวันนี้ จะขอแนะนำไอเทมนำโชคกันเลย~!」
เช้าในเดือนสี่ ฮาชิมะ ฮิโรกิ กำลังกินขนมปังไปพลางดูช่องข่าวไปด้วย โดยตอนนี้เป็นมุมดูดวง
ปกติแล้วไม่ค่อยจะได้สนใจนัก เพียงแต่วันนี้เปิดเทอมใหม่จึงดูไว้ถือเป็นรู้ไว้ใช่ว่า
และฮิโรกินั้นเกิดในเดือนสิงหาคม ดังนั้นจึงเป็นราศีสิงห์
「──── อันดับหนึ่งคือราศีสิงห์」
[ว้าว]
การที่ได้ติดอันดับขึ้นมาอย่างกระทันหันทำให้ฮิโรยูกิที่ไม่สามารถละสายตาได้รีบเช็ดปาก ขณะนั้นผู้ประกาศข่าวหญิงก็พูดต่อด้วยน้ำเสียงสดใส
「ดวงความรักกำลังมาแรงค่ะ! อาจจะเป็นจังหวะที่จะได้ย่นระยะห่างกับอีกฝ่ายก็ได้นะคะ ส่วนไอเทมนำโชคก็คือขนมรามูเนะค่ะ」
[…ดวงความรักเหรอ]
ดวงความรักถูกจัดให้อยู่ในระดับห้าดาว การงานและการเงินจะอยู่ที่สี่ดาวทำให้ภาพรวมแล้วจึงขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่ง สำหรับวันที่จะก้าวเข้าสู่การเป็นนักเรียนมัธยมปลายปีสองแล้วถือว่าเหมาะเป็นอย่างมาก
แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น ดวงความรักมาแรงถึงมีไปก็ใช่จะมีประโยชน์ เพราะฮิโรกิในตอนนี้ไม่มีใครใดในใจเลย เรียกว่าไม่ปรารถนาในด้านความรักเลยด้วยซ้ำ
ที่จริงแล้วจนถึงตอนนี้ฮิโรกินเคยมีประสบการณ์คบกับผู้หญิงมาแล้วสามคน
เพียงแต่เป็นแค่เรื่องในอดีตเท่านั้น ปัจจุบันยังคงโสด
และตัวฮิโรกิเองก็ไม่ได้สนใจอะไรมากด้วย
อีกทั้งยังไม่ได้หมายความไปในแง่ลบแต่อย่างใด เมื่อพูดถึง 「แฟนเก่า」 แล้ว ความทรงจำเหล่านั้นก็นับว่าสำคัญ ทุกวันนี้ยังคงมีความรู้สึกดี ๆ ให้แก่อีกฝ่ายตลอด
ตัวฮิโรกิเองก็แค่มองว่าทุกอย่างเป็นเพียงเหตุการณ์ในอดีตเท่านั้น และตอนนี้เขาเองก็ไม่ได้อยากจะมีแฟนแต่อย่างใด ทำแค่มุ่งไปข้างหน้าเรื่อย ๆ เท่านั้น
ดังนั้นถ้าถามว่ามีเรื่องต้องกังวลไหม ก็ตอบได้ว่าไม่
[รามูเนะ ในบ้านน่าจะมีนะ…]
ฮิโรกิลองไปดูตามตู้และที่ที่หาได้ดู แต่ก็ต้องถอนหายใจออกมาอย่างผิดหวัง
ไม่อาจรู้ได้ว่าไอเทมนำโชคจะทำงานได้ดีแค่ไหน แล้วก็ไม่ใช่ว่าจะเชื่อเรื่องดูดวงขนาดนั้น แค่อยากจะมีไว้ให้อุ่นใจ
เหตุผลก็คือวันนี้เป็นวันเปิดเทอมใหม่
คนที่รู้สึกกังวล────หรือเรียกว่าคนที่จะเป็นสาเหตุของเรื่องเหล่านั้นก็อาจจะมีโอกาสได้พบกันก็ได้
[เอาเถอะ ไม่มีก็ช่างมัน]
ตั้งแต่ต้นก็ดูดวงเพียงเพราะอยากจะผ่อนคลายเท่านั้น
ไม่ได้คิดว่าจะซื้อขนมรามูเนะระหว่างทาง การที่ดวงขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งได้ก็น่าตื่นเต้นมากพอแล้วจึงไม่คิดจะอะไรเพิ่มอีก
****
ทันทีที่เตรียมตัวเสร็จก็ทำการออกจากบ้าน แสงสว่างจากดวงอาทิตย์ก็สาดส่องเข้ามาในดวงตา
วันนี้มีพิธีปฐมนิเทศจึงได้ตัดสินใจออกจากบ้านเร็วกว่าปกติ
────กริ๊ก
ได้ยินเสียงประตูบ้านข้าง ๆ เปิดออก เด็กผู้หญิงที่หน้าคุ้นเคยออกมา
สายลมแห่งฤดูใบไม้ผลิพัดผ่านให้เส้นผมปลิวไสว ใบหน้าแสนน่ารักที่แต่งหน้าพอประมาณดึงดูดสายตาของฮิโรกิไป
มิสึซาวะ มิยุ
เธอเป็นเพื่อนบ้านรุ่นเดียวกันกับฮิโรกิมานานตั้งแต่สมัยก่อนแล้ว ครอบครัวก็สนิทกัน เป็นสิ่งที่เรียกกันว่าเพื่อนสมัยเด็ก
แต่ว่าสภาพการณ์ตอนนี้ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว
เสน่ห์ที่ขับออกมาจากใบหน้ายังคงเดิม หากแต่แต่งหน้ามากขึ้น หน้าอกก็เติบโตไปตามสัดส่วน เพียงแต่จะเรียกว่าโตตามวัยได้จริงหรือโตได้ไวกว่าปกติดี สรุปโดยรวมคือเด็กผู้หญิงคนนี้เติบโตมาได้อย่างยอดเยี่ยม
ถ้าให้จำกัดความในคำเดียวก็คงเป็นคำว่าน่ารักแน่นอน
หากเทียบหนึ่งถึงสองปีก่อนที่จะเข้าโรงเรียนมัธยมปลายแล้ว ถือเป็นการเติบโตไปในทางที่โดดเด่นมาก
และเรื่องที่เปลี่ยนไปก็ไม่ใช่เพียงรูปร่างอย่างเดียว────
[────เดี๋ยวเถอะมิยุ─ รีบคืนดีกับฮิโรกิคุงได้แล้วน่า]
ณ เวลานั้นแม่ของมิยุก็ส่งเสียงออกมาจากบ้านข้าง ๆ
มิยุที่รู้สึกรำคาญจึงหันกลับเข้าไปพูดใส่
[ก็ไม่ได้ทะเลาะอะไรกันสักหน่อยนี่! แม่ไม่ต้องมาพูดเลย! …โธ่ หนูเองก็…]
การที่ฮิโรกิมีชื่ออยู่ในบทสนทนาของแม่ลูกคู่นี้ด้วยนั้นทำให้บรรยากาศตรงที่นี้มาคุขึ้นมาเหมือนกัน และอีกอย่างครึ่งหลังก็เป็นมิยุพึมพำอะไรอยู่คนเดียวจึงไม่ค่อยได้ยินเท่าไหร่นัก
และที่ตรงนั้น
ที่หน้าประตูมิยุก็เปิดประตูใส่และหันมาตาสบกับฮิโรกิพอดี
ต่อมามิยุก็พลันหน้าแดง
ฮิโรกิจึงเริ่มทำการยิ้มอย่างเป็นมิตรให้
[อะ อรุณสวัสดิ์ คุณมิสึซาวะ]
พอฮิโรกิทักทายอย่างเก้ ๆ กัง ๆ ไปมิยุก็หันหลบสายตา
[…อรุณสวัสดิ์ ฮาชิมะคุง]
มีการพึมพำเสียงเบาเป็นการทักทายกลับมา กระโปรงนักเรียนพริ้วไหวเป็นสัญญาณว่าออกตัวไปแล้ว
[ฟู่]
เหลือไว้แค่เพียงฮิโรกิที่ถอนหายใจเบา ๆ อยู่คนเดียว
หากไม่นับว่าได้เห็นว่าบทสนทนาของแม่ลูกที่น่าอายได้เมื่อกี้ จะว่าห้วน ๆ ก็ดีหรือจะว่าไม่ถูกกันก็ดี…ถึงจะบอกว่าเป็นเพื่อนสมัยเด็กกัน แต่ระยะห่างที่รู้สึกได้ตอนนี้ก็เป็นเพียงเพื่อนร่วมชั้นกันเท่านั้น
แต่แรกเริ่มเดิมทีทั้งที่เป็นเพื่อนสมัยเด็กกันแต่เรียกกันว่า 「คุณมิสึซาวะ」「ฮาชิมะคุง」 อย่างกับคนอื่นคนไกลก็ผิดธรรมชาติมากแล้ว แต่ก็มีเหตุผลในตัวมันเองอยู่ หากให้กล่าวตรง ๆ คือเป็นสิ่งที่มิยุขอเอาไว้ตั้งแต่ก่อนจะเข้ามัธยมปลาย
ขอไว้ว่าไม่อยากให้ใครรู้ถึงความสัมพันธ์ของพวกเรา
จึงเรียกชื่อกันอย่างคนแปลกหน้าตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
หากแค่เป็นเพียงเพื่อนสมัยเด็กกันเรื่องอย่างนี้คงไม่เกิดขึ้น
หากให้เล่าก็คือฮิโรกิและมิยุนั้นเคยเป็นแฟนกันมาก่อน
ทั้งสองคนเริ่มคบกันเมื่อสมัยอยู่มัธยมต้น ความสัมพันธ์นี้เกิดขึ้นเมื่อฮิโรกิตัดสินใจสารภาพรัก
จากนั้นก็เลิกกันไปหลังคบกันได้หนึ่งปี ส่วนคนที่ตัดสัมพันธ์คือตัวมิยุ
และหลังจากนั้นตอนนั้นความเหินห่างก็เริ่มดำเนินมาจนถึงปัจจุบัน
หากแต่บางครั้งกลับรู้สึกขอบคุณเลิกกันไป อย่างน้อยก็ไม่ใช่เหตุผลที่ว่าทะเลาะกันจนเลิกรา
ฮิโรกินั้นก็ไม่ได้รู้สึกเสียใจแต่อย่างใด หากให้พูดจากใจก็คงมีเพียงว่าอยากจะกลับไปเป็นเพื่อนสมัยเด็กที่สนิทกันดังเดิมเท่านั้นที่ยังคงอยู่
แต่นั่นเป็นสิ่งที่ฮิโรกิเข้าใจดีว่าเป็นความเอาแต่ใจเท่านั้น หลังจากเลิกกันก็คิดแล้วคิดอีกว่าจะวางตัวอย่างไรดี รู้ตัวอีกทีก็ไม่ได้คุยอะไรกันมาสามปีแล้ว
[…ดูดวงอะไรกัน อย่างที่คิดไม่เห็นจะแม่น]
เจอสาเหตุของความกังวลตั้งแต่เช้า ถูกปฏิบัติตัวอย่างห้วน ๆ เหมือนเคย หากมาบอกกันว่าจะโชคดีคงจะทำใจให้เชื่อลงไม่ได้
อีกเดี๋ยวจะเริ่มเทอมใหม่แล้ว จริงอยู่ที่เจอเรื่องชวนให้หงุดหงิดแต่จะมาอยู่ตรงนี้ต่อไปก็คงไม่ช่วยอะไร ฮิโรกิจึงตบแก้มสองข้างของตัวเองเบา ๆ
[────เอาละ! เปิดเทอมทั้งที ปรับอารมณ์แล้วไปกันเถอะ]
ฮิโรกิให้กำลังใจตัวเองเช่นนั้น ตัดอารมณ์แย่ ๆ ออกไปแล้วจึงเริ่มเดิน
พอเดินไปได้สักสิบห้านาที
ตัวฮิโรกิที่เดินทางมาถึงโรงเรียนมัธยมปลายซากุระมิเนะนั้นก็ต้องตกตะลึงไปกับกระดาษเกี่ยวกับการเปลี่ยนห้องเรียนใหม่ที่แปะอยู่บนกระดานประกาศ
ฮิโรกิถูกจัดห้องไปที่ห้อง B และชื่อที่ปรากฎให้อ่านนั้น
────มิสึซาวะ มิยุ
มีชื่อของแฟนเก่าปรากฎอยู่ด้วย
[…]
เพราะปีก่อนทั้งสองอยู่คนละห้องกันจึงทำให้ตอนนี้หงุดหงิดเล็กน้อย แต่เขาก็ปัดเป่ามันไปแล้วมุ่งหน้าสู่ห้อง B
พอมาถึงห้องเรียนประตูห้องก็ปิดอยู่แต่เสียงคุยเล่นอันมีชีวิตชีวานั้นดังอยู่ภายในห้อง
(สงบใจเข้าไว้…)
และด้วยเหตุนั้นฮิโรกิจึงตัดสินใจเข้าห้องไป
ภาพแรกที่เห็นก็คือกลุ่มของผู้หญิงที่กำลังคุยกันใกล้ ๆ กับแท่นบรรยายการสอน────โดยมีมิยุเป็นศูนย์กลาง
[[…]]
มิยุหันสายตาหลบไปเหมือนกับตอนที่จะมาโรงก่อนก่อนหน้านี้ ฮิโรกิจึงเดินไปหาที่นั่งตัวเองทั้ง ๆ แบบนั้น
ตามที่เขียนบนกระดานดำ ที่นั่งของฮิโรกิอยู่แถวกลางเป็นอันดับที่สองนับจากหลังห้อง ส่วนที่นั่งของมิยุอยู่แถวหน้าต่างเป็นอันดับสามนับจากหน้าห้อง สรุปก็คือไม่ใช่ตำแหน่งที่จะเรียกได้ว่าใกล้หรือไกล
ฮิโรกิตัดสินใจหย่อนตัวลงบนที่นั่งของตัวเอง พลันได้ยินเสียงพูดคุยกับมิยุกับกลุ่มผู้หญิงผ่านเข้าหูมา
[ทีนี้นะ─ ในมินตราแกรมของมิวเมื่อวานนี้อย่างปังเลยอะ! เจอคอมเมนต์โหด ๆ ก็จริงแต่โปรมากเลยนะ!]
[เอ๋─ โปรที่ว่าคืออะไรอะ แต่─ ก็ปังอย่างที่บอกจริง ๆ แหละ]
[แต่นั่นน่ะผิดปกติแล้วนะ มิวเมื่อวานน่ารักสุดเบอร์เลย คิดว่าเป็นนางฟ้าหรือเทพธิดาแล้ว ]
[ถ้างั้นหรือว่าของจริงจะโผล่มาแล้วกันเนี่ย]
[อ๊ะ ─ จะว่าไปก็ใช่นะ]
[[[ฮ่า ๆ ๆ ]]]
ไม่รู้ว่ามีอะไรน่าสนุกนักแต่เสียหัวเราะของกลุ่มผู้หญิงนั้นดังมา
มาดูกันที่ 「มิว」 นั่นก็คือนามแฝงของมิยุนั่นเอง โดยเป็นชื่อเล่นที่ใช้ในการเล่น SNS และท่าทางแล้วจะเป็นคนดังอย่างมาก
มีครั้งหนึ่งที่เคยเข้าไปใน SNS ก็ได้แอบดูบัญชีของ 「มิว」 และต้องตกตะลึงกับจำนวนผู้ติดตามที่มีมากมาย ตัวมิยุเองนั้นมีความน่ารักมากพอที่จะทำให้คนรอบข้างบอกว่าน่ารัก แต่เพียงแค่นั้นอาจจะไม่ได้ง่ายพอจะกลายเป็นคนดังก็เป็นได้
มิยุนั้นเป็นคนที่เซ้นส์ดี หรือที่เรียกกันว่ามากความสามารถ เลือกเสื้อผ้าหน้าผมได้ดี มีสีหน้าที่ชวนให้ใจสงบเมื่อได้เห็นรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยพลังของเด็กสาว ลักษณะเช่นนั้นรวม ๆ กันแล้วทำให้เป็นคนที่มีชื่อเสียงได้อย่างกว้างขวาง
อีกทั้งหลังจากเข้ามัธยมปลายงานอดิเรกของโอตาคุเหมือนจะถูกปลุกขึ้นมา มีการแต่งชุดคอสเพลย์แล้วถ่ายรูปลงไปจนกลายเป็นหัวข้อใหญ่ไปพักนึง
และยังไม่ใช่แค่ในโรงเรียนแต่เป็นคนดังไปทั่วอินเทอร์เนตในฐานะ JK ผู้มากความสามารถไป ทำให้มิยุในตอนนี้เปลี่ยนไปจากที่ฮิโรกิเคยรู้จักไปแล้ว เป็นคนห่างคนไกลในหลาย ๆ ความหมาย
────และหัวข้อที่ฮิโรกิไม่เข้าใจก็ลอยเข้าหูมา
[แล้วก็นะ ว่านี้มิวจะไลฟ์อีกใช่ไหม? ช่วงนี้เราติดมากเลย แบบว่าตั้งตารอเลย!]
[อ๊ะ─ ก่อนนี้ฉันเองก็ได้ดูเหมือนกันนะ อย่างสุดอะ─ วันนี้ก็มีอีกเนอะ]
เรื่องที่มิยุทำการไลฟ์สตรีมนั้น ฮิโรกิเพิ่งเคยได้ยินเป็นครั้งแรก เนื้อหาเป็นแบบไหนกัน ฮิโรกินึกสงสัยไปตามมธรรมชาติเขาจึงลองตั้งใจฟังเรื่องที่คุยต่อ
[เอ๊ะ ไลฟ์ของฉันก็ธรรมดา ๆ นี่นา? เนื้อหาก็แค่แนะนำเครื่องสำอางแล้วก็อย่างอื่นวน ๆ ไปเท่านั้นเอง]
[แค่นั่นก็เจ๋งแล้ว! จะว่าเหมือนได้รับการเยียวยา หรือสงบจิตสงบใจดี บางครั้งก็ดูป้ำ ๆ เป๋อ ๆ แต่บางทีที่ฉูดฉาดหน่อยก็ยอดเลย ให้ซ้ำกี่ครั้งก็ทำได้! ช่องก็มีคนกดซับเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยนะเนี่ย]
[หวา─ ซัจจังเนี่ยเหมือนเป็นแฟนคลับฉันเลยนะนั่น น่าอายยังไงไม่รู้]
[ไม่ใช่แค่เหมือนแต่เป็นแฟนคลับเลยแหละ ถ้าอย่างนั้นขอลายเซ็นต์ด้วยดีไหมน้า นี่ไงเซ็นต์ตรงหลังเลย]
[โธ่~ เกินไปแล้วน้า~]
[[[ฮ่า ๆ ๆ ]]]
เสียงคุยกันดังขึ้นมาอีก นักเรียนคนอื่นก็ [อะไรกันอะไรกัน คุยอะไรกันเหรอ─?] แล้วค่อย ๆ เข้าไปในวงสนทนา
พอรู้สึกตัวอีกทีหน้าแท่นบรรยายก็กลายเป็นสภาพกลุ่มคนรุมกันเต็มไปหมดแล้วเรียบร้อย
(กะแล้วเชียว มิยุเนี่ยเป็นศูนย์กลางเลยสินะ)
ฮิโรกิจ้องมองภาพนั้นด้วยความรู้สึกลึกซึ้ง
ที่ได้ยินว่าเริ่มไลฟ์สตรีมเมื่อก่อนหน้าก็ชวนให้ตกใจแล้ว หากแต่ถ้าได้ยินว่ามีกิจกรรมอย่างอื่นที่หนักกว่านี้ก็คงจะไม่แปลกอีกต่อไป
กลับถึงบ้านแล้วจะลองดูดีไหมนะ ขณะที่ฮิโรกิคิดอะไรไปเรื่อยอยู่ มิยุกันหันมาอย่างกระทันหัน
ตาพลันสบกันขะณที่ฮิโรกิกำลังคิดว่าควรจะโบกมือดีไหมมิยุก็หันสายตาหลบไปอีกครั้งแล้ว
ถึงจะตกอยู่ในบรรยากาศเช่นนี้ฮิโรกิไม่ได้คิดอะไรมากมาย แต่การที่ไม่สามารถคุยได้ดั่งใจนึกก็ชวนหงุดหงิดเช่นกัน
ครั้งหนึ่งฮิโรกิกับมิยุเคยเป็นเพื่อนสมัยเด็กที่เรียนโรงเรียนมัธยมต้นเดียวกัน เพียงแต่ไม่ได้เป็นเพื่อนสมัยเด็กที่สนิทสนมอะไรกันมากนัก และเมื่อตอนที่คบกันเมื่อมัธยมต้นนั้นก็ไม่เคยบอกกล่าวเรื่องนี้ก็กับใครและความเสี่ยงที่จะถูกจับได้นั้นก็ไม่ได้มีตั้งแต่แรกแล้ว
หากว่าบอกกับเพื่อนร่วมชั้นว่ากำลังคบกันอยู่ขึ้นมา สภาพแวดล้อมรอบตัวฮิโรกิในตอนนี้คงจะวุ่นวายไม่ผิดแน่และตรงจุดนั้นคงต้องขอบคุณตัวเองที่หนักแน่นมากพอ
จังหวะที่ฮิโรกิคิดเรื่อยเปื่อยทางด้านนั้นก็เหมือนจะคุยกันถึงอย่างสนุกสนานเต็มที และกริ่งแจ้งเตือนก็ดังขึ้น เหล่ากลุ่มเพื่อนร่วมชั้นทั้งหลายต่างทำตัวอย่างลูกแมงมุมแตกรังวิ่งกลับไปที่ที่นั่งของตน
และแน่นอนว่ามิยุก็กลับไปที่นั่งตรงหน้าต่างของตัวเองเช่นกัน แต่คราวนี้ตาไม่สบกันแล้ว