วันรุ่งขึ้นหลังจากที่ทำการไล่ผีในวิทยาลัยหญิงชิรายูกิแล้วเสร็จ
ฉัน โซยะ แล้วก็คาราสึมะ เราสามคนกำลังไล่ตามร่องรอยพลังวิญญาณที่ยืดออกมาจากวิทยาลัยหญิงชิรายูกิ โดยมีเป้าหมายเพื่อทำหน้าที่จัดการความเรียบร้อยหลังคลี่คลายเรื่อง
ก็ในหมู่พวกวิญญาณคนเป็นที่มั่วสุมกันอยู่ในวิทยาลัยหญิงชิรายูกิ มันมีตัวที่ครองพลังอำนาจเหลือล้ำมากยิ่งกว่าใครเพื่อนอยู่ใช่มั้ยล่ะ เราก็เลยกำลังเดินทางมาเพื่อพบหน้าติดต่อกับคนที่เป็นต้นตอสร้างเจ้านั่นขึ้นมาแหละ
มันคืองี้ไง เจ้าสิ่งที่เรียกว่าวิญญาณคนเป็นเนี่ยก็อย่างที่รู้กัน มันมีร่างหลักคือมนุษย์ซึ่งยังเป็นๆมีชีวิตอยู่นั่นล่ะ แค่ขับไล่วิญญาณคนเป็นที่ปรากฎขึ้นมาจึงเป็นได้แค่การแก้ปัญหาแบบเฉพาะหน้าเท่านั้นเอง หากปล่อยเอาไว้ซักพักเดี๋ยวมันก็คงจะฟื้นคืนชีพกลับมาใหม่
ดังนั้นหากไม่ทำการใช้ศาสตร์วิชาผนึกวิญญาณคนเป็น ใส่มนุษย์ที่เป็นต้นตอตัวการส่งวิญญาณคนเป็น (ถึงส่วนใหญ่พวกนี้จะทำแบบนั้นกันไปโดยไร้จิตรับรู้โดยสมบูรณ์เลยก็เหอะนะ) ให้ลอยมายังวิทยาลัยหญิงชิรายูกิโดยตรงซะ ก็จะยังไม่ถือว่าคลี่คลายเรื่องได้อะนะ
ถ้าวางผนึกวิญญาณคนเป็นไปรอบนึง มันก็จะสำแดงอำนาจเพื่อหยุดยั้งระงับไม่ให้เกิดกำเริบขึ้นมาใหม่ได้อย่างชะงัดนักเลยหรอกนะ แต่เนื่องจากมันเป็นศาสตร์วิชาที่จะทำงานได้ไม่ค่อยดีหากไม่ปราบวิญญาณคนเป็นให้ได้รอบนึงเพื่อลดระดับพลังของเป้าหมายลงก่อน การจัดการก็เลยล่าช้าแบบนี้อยู่เรื่อยร่ำไป ถึงตัววิชานี่มันจะดีขนาดที่ต่อให้ผู้ใช้ศาสตร์ระดับโซยะเป็นคนเปิดใช้งาน ก็ยังจะสำแดงพลังได้มากพอสมควรเลยก็เหอะนะ……
“ งุงุงุ ร่องรอยของวิญญาณคนเป็นมันยืดมาจาก……ตรงนั้น! ”
โซยะที่เปิดใช้ศาสตร์วิชาสายตรวจสอบเชิงวิญญาณนั้นเดินไล่ตามทางไปดั่งกับเป็นสุนับตำรวจ
วันนี้เราพบเจอกับต้นตอแหล่งกำเนิด และทำการร่ายศาสตร์ผนึกวิญญาณคนเป็นให้ไปเรียบร้อยแล้วสองราย แต่ดูท่าโซยะจะยังสบายๆชิลๆอยู่แฮะ สงสัยมันจะเป็นศาสตร์วิชาที่ผลาญปริมาณพลังวิญญาณน้อยละมั้งนะ
อีกทางด้านนึง เนื่องจากฉันกับคาราสึมะไม่มีปัญญาจะใช้ศาสตร์วิชาหลากหลายรูปแบบได้เหมือนโซยะ ก็เลยได้แต่เดินตามเฉยๆอะนะ
เอ้อ งานของฉันกับคาราสึมะในวันนี้ ก็คือการใช้กำลังบีบบังคับในยามที่ต้นตอแหล่งกำเนิดของวิญญาณคนเป็นมันขัดขืนนั่นแหละ
พอตัดใจคิดเช่นนั้นแล้วเดินไปอย่างเหม่อลอยอยู่
“ ฟุรุยะคุง ยังติดใจเรื่องคนที่ชื่อคุณโคฮินาตะอยู่อีกเหรอ? ”
“ อื๋อ? อ่า ก็นะ ”
คงจะเห็นฉันเงียบไม่ค่อยพูดอะไรแล้วเป็นกังวลละมั้ง โซยะก็เลยหันขวับมาหา
“ เกี่ยวกับคุณโคฮินาตะ…ชื่อนี้สินะ? นี่เราก็รายงานกับศูนย์ให้คำปรึกษาด้านภัยวิญญาณของวิทยาลัยหญิงชิรายูกิเผื่อไว้แล้วด้วย ที่เหลือก็ไม่น่าจะมีอะไรต้องกังวลหรอกนะ ”
“ เอ้อก็ใช่อยู่หรอก ”
ศูนย์ให้คำปรึกษาด้านภัยวิญญาณของวิทยาลัยหญิงชิรายูกินั้นมีมีฝีมือเป็นเลิศเลยทีเดียว
เค้าอาจจะต้องขอยืมแรงของซากุระแล้วง่วนหัวหมุนกับการประกอบสร้างข่ายอาคมใหม่ไปซักระยะก็จริง แต่ถ้าเกิดเหตุผิดปกติขึ้นมาก็คงจะรับมือได้ในทันท่วงทีเลยหรอก
……ทว่าหากให้พูดในเชิงกลับกัน ก็จะหมายความว่าถ้าไม่เกิดเหตุผิดปกติก็จะไม่อาจลงมือทำอะไรได้เลยนั่นแหละนะ
“ อื้ม แต่แกจะกังวลขึ้นมาก็หาได้เป็นเรื่องแปลกแต่อย่างใดไม่เลยนะ ฟุรุยะ ฮารุฮิสะ ”
ตุบ…คาราสึมะว่าพร้อมวางมือลงกับไหล่ฉัน
“ ตามจริงแล้วหลังจากนั้น ฉันอดกลั้นความหงี่เอาไว้ไม่ได้ก็เลยมาเดินป้วนเปี้ยนอยู่รอบวิทยาลัยหญิงชิรายูกิ……ช้าก่อนฟุรุยะ! นั่นจู่ๆแกหยิบสมาร์ทโฟนออกมาโทรแจ้งความไปหาใครกัน!? ”
“ ตำรวจไงเฮ้ย จะเป็นใครได้อีกวะ ”
“ หยุดเชียวนะเจ้าบ้าห้าร้อยจำพวก! ฉันไม่ได้กระทำการใดที่ถือเป็นการละเมิดกฎหมายเลยแม้แต่นิด! แค่ไปเที่ยวดมชมเชยกลิ่นของโรงเรียนหญิงล้วนเพียงนิดหน่อย……หยุดแล้วฟังกันเสียที! ”
โดนมันบังคับให้ต้องหยุดแจ้งความซะงั้น ชิ
“ นามโคฮินาตะ ชิซึกะนี่เป็นที่โจษจันมากเลยเชียว แม้จะปรากฎตัวออกมาต่อหน้าธารกำนัลน้อยมากในระดับที่นับนิ้วได้ แต่ไม่ว่าใครต่างก็พูดตรงเป็นเสียงเดียวกันหมดว่าที่ชิรายูกิมีสาวงามเลิศอย่างยิ่งยวดอยู่ล่ะ คงจะต้องมีรูปร่างหน้าตาที่ยอดเยี่ยมมากเป็นแน่แท้ ”
พอคาราสึมะเว้นช่วงหยุดพูดไปตรงนั้น มันก็ปั้นรอยยิ้มเหมือนกับตาลุงโรคจิตขึ้นมา ก่อนจะ
“ ฟุรุยะ แกถูกโปรยเสน่ห์จนหลงโงหัวไม่ขึ้นเข้าแล้วใช่ไหม? ”
“ ……หา? ”
จู่ๆเรื่องก็โดดไปนู่นเฉย ไอ้เบื๊อกนี่พูดอะไรของมัน
“ หากไม่ได้หลงใหลก็ไม่มีเหตุให้ต้องเป็นกังวลถึงขั้นนั้นเลย ……ฮื่ม แต่ตกฟุรุยะที่ไม่สันทัดในเรื่องกายท่อนล่างได้ในพริบตาเลยหรือ นักเรียนที่ชื่อโคฮินาตะนี่ท่าจะเด็ดเอาเรื่องเลยเชียวนะ……เห็นเช่นนี้ต่อให้จะต้องแอบย่องเข้าไปแต่ก็มีคุณค่ามากพอให้อิกิ๊วววววววววววววววววว!?❤ ”
ฉับพลันนั้น
โซยะที่อ้อมไปอยู่ข้างหลังคาราสึมะพลันกระซวกนิ้วเข้าไปในรูหูสองข้างของมัน แล้วจึงขยับนิ้วลูบไล้ให้ทั่วไปทุกซอกมุมนั่นอย่างเดือดพล่าน เท่านั้นแหละคาราสึมะที่ไม่ถูกกับการโดนกระซวกรุกใส่รูหูถึงกับหมดสภาพ ส่วนโซยะก็แย้มยิ้มหน้าบาน
“ โธ่ อาโอยจังนี่ไม่ได้เรื่องเลยน้าา ฟุรุยะคุงไม่ใช่พวกหน้าหม้อเหมือนอาโอยจังซะหน่อย ไม่มีทางติดสัดง่ายๆแบบนั้นหรอก ……เน้ออ? ฟุรุยะคุง ”
“ ……ขึก!? ”
เครื่องหมายหัวใจมันทะลุคอนแทคเลนส์สำหรับใช้ปกปิดเนตรมารฝัน ปรากฎขึ้นมาให้เห็นเด่นอยู่เหนือดวงตาของโซยะ
งะ ไหงยัยโซยะถึง มองเข้ามาด้วยโหมดเอาจริงระดับที่ดูรู้ไปถึงข้อมูลสัดส่วนร่างกายเชิงกามๆเฉยเลยเล่า!?
แถมแรงกดดันนี้มัน……เอ้อ การที่ผู้ปราบมารมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับผู้ว่าจ้างหรือคนที่โดนลากเข้ามาพัวพันกับเหตุการณ์ไปด้วยนี่ มันถือเป็นการกระทำที่นอกรีตผิดศีลธรรมเหมือนครูคบหากับลูกศิษย์ หรือหมอคบหากับคนไข้เลยนั่นแหละ ลำพังแค่คาราสึมะก็น่าปวดหัวพออยู่แล้ว ถ้าเกิดฉันคลั่งตามไปด้วยอีกคนมันก็คงจะดูแย่จริงๆแหละมั้ง
“ อ๊ะ แต่ฟุรุยะคุงก็เป็นพวกหน้าหม้อที่มองน้องสาวด้วยแววตาลามกเหมือนกันนี่เนอะ กะอีแค่หลงรักมีอารมณ์กับสามัญชนแค่นี้ทำได้ง่ายๆสบายๆเลยรึเปล่านะ? ”
“ มะ ไม่ใช่เฟ้ยไม่ใช่! ไม่ได้หลงเหลิงอะไรทั้งนั้นแหละ! อย่าไปเชื่อคำพูดของคนบ้าอย่างคาราสึมะมากนักสิเฮ้ย! ”
หลังจากนั้นโซยะก็จ้องมองฉันอย่างต่อเนื่องโดยที่มีเครื่องหมายหัวใจลอยขึ้นมาไปซักระยะนึงเลยหรอก แต่พอมองไปพักนึงแล้วก็พอใจขึ้นมาละมั้ง คุณหล่อนจึงกลับไปทำหน้าที่ดั้งเดิมต่อได้ซะที
“ ขอโทษนะค้า~ มีใครอยู่รึเปล่าค้า~? ”
ที่โซยะก้าวมาถึง ก็คืออพาร์ทเม้นท์สามัญธรรมดาสำหรับพักอาศัยอยู่ตัวคนเดียว
เนื่องจากยังเป็นหัววันก็เลยสงสัยว่าจะออกไปข้างนอกละมั้ง สัมผัสเค้าลางของคนที่อยู่ข้างในไม่ได้เลย
“ งื~ม อื้อแต่ก็รู้ตำแหน่งบ้านที่อยู่แล้วนี่เนอะ ที่เหลือก็ไว้ค่อยประสานงานกับทางตำรวจจัดการ……ทำนองนั้นละมั้งนะ ”
เป็นในจังหวะที่โซยะจดตำแหน่งที่อยู่ และกำลังจะกลับเท้าเพื่อไล่ตามร่องรอยวิญญาณถัดไปนั่นเอง
“ เอ่อ ใช่คนรู้จักของไซโตะรึเปล่าคะ? ”
ที่ผู้หญิงชุดสูทซึ่งเหมือนจะเป็นพนักงานบริษัทพลันส่งเสียงเข้ามาหาพวกเรา
“ อ่า เปล่าครับ พวกเราเป็นคนของโรงเรียนปราบมารน่ะ ”
พอตอบไปแบบนั้นปุ๊บ สีหน้าของผู้หญิงคนนั้นก็เปลี่ยนสี
“ โรงเรียนปราบมารนี่……ถ้างั้นก็แสดงว่า ไซโตะประสบอุบัติเหตุอะไรซักอย่างเข้าจริงด้วยสินะคะ? ”
“ เอ๊ะ อ่า ก็ ประมาณนั้นละมั้งครับ……พอจะรู้อะไรรึเปล่าครับ? ”
จะให้ประกาศบอกโต้งๆว่าเค้าส่งวิญญาณคนเป็นสุดสัปดนไปยังโรงเรียนคุณหนูแบบนั้นก็ไม่ได้ จึงลองเอ่ยถามกับผู้หญิงโดยที่เลี่ยงอธิบายรายละเอียดดู
“ คือว่า พอดีเขาหยุดงานแบบไม่ได้แจ้งต่อเนื่องมาตั้งแต่เมื่อวาน……ติดต่อก็ไม่ได้ เลยมาดูข่าวคราวนี่แหละค่ะ ”
ผู้หญิงคนนั้นใช้กุญแจที่ขอมาจากผู้ดูแล เปิดประตูเข้าไป
“““ …… ”””
พวกเราสามคนมองหน้ากันอย่างสงสัยว่ามันหมายความว่าไง ก่อนจะร่วมเดินตามหลังเค้าไปด้วย
กลิ่นร่องรอยของการอยู่อาศัยลอยโชยเข้ามา ถุงขยะที่ลืมเอาออกไปทิ้ง กับหน้าประตูที่เกลื่อนไปด้วยรองเท้าหลากหลายคู่
ภายในเป็นห้องเดี่ยวที่ไม่มีอะไรเด่นเป็นพิเศษเลย
ตู้เย็นกับเตาไมโครเวฟดีไซน์บ้านๆที่ดูเหมือนว่าจะใช้งานมานาน หม้อหุงข้าวขนาดเล็ก กล่องกระดาษชำระและทิชชู่ที่ซื้อมาตุนเอาไว้ จานชามเปื้อนที่กองอยู่เต็มอ่างล้างจาน
ก็ไม่ได้ดูเปื้อนสกปรกหรือสะอาดเรียบร้อยเป็นพิเศษแต่อย่างใด ให้ความรู้สึกเหมือนห้องพักของผู้ชายธรรมดาสามัญที่ยังโสดนี่แหละ
ทว่า ห้องนั้นกลับมีความแปลกประหลาดอย่างชัดเจน
ไฟห้องนั่งเล่นได้ถูกเปิดไว้เจิดจ้าสว่างไสว ทีวีก็ถูกเปิดค้างเติ่งคาไว้อย่างนั้น
เจ้าของบ้านน่าจะไม่อยู่แท้ๆ แต่กลับมีเสียงใสเฮฮาจากรายการบันเทิงดังกังวานไปทั่วห้องอันเงียบสงัดอย่างต่อเนื่อง
ภายในเครื่องซักผ้า มีเสื้อผ้าที่ซักปั่นเสร็จเรียบร้อยถูกปล่อยคาให้ชื้นอยู่ทั้งอย่างนั้น
บนโต๊ะมีเบียร์กระป๋องที่เปิดฝาออกแล้วแต่เนื้อในแทบไม่ลดลงไปเลย กับจานที่ถูกพอกเต็มไปด้วยเครื่องเคียงถูกตั้งกองอยู่
ราวกับ เป็นบรรยากาศที่ทำให้หลอนคิดว่าเจ้าของบ้านน่าจะยังนอนกลิ้งเรื่อยเปื่อยอยู่ภายในห้องรึเปล่าเลย
แต่ภายในห้องกลับไม่มีเจ้าของบ้าน
ทั้งในห้องแช่น้ำ ห้องน้ำ ระเบียงที่อยู่อีกฟากของหน้าต่างที่ถูกล็อกกุญแจ ตู้เสื้อผ้าที่ถูกเปิดประตูคาไว้ครึ่งนึง…สำรวจทั่วสารพัดที่ก็แล้ว อย่าว่าแต่หัวเจ้าของบ้านเลย สัมผัสถึงเค้าลางของมนุษย์ไม่ได้ด้วยซ้ำ
“ ……นี่ ฟุรุยะคุง ฉันน่ะ ยังเปิดใช้งานศาสตร์สำหรับใช้ตามตัว ต้นตอแหล่งกำเนิดของวิญญาณคนเป็นอยู่แหละนะ…… ”
โซยะเข้ามาดึงแขนเสื้อของฉัน
ดวงตานั่นกำลังจับจ้องไปยังเตียงที่ถูกตั้งไว้ข้างโต๊ะ เสียงนั้นสั่นเครือเล็กๆ
“ แต่จู่ๆร่องรอยวิญญาณมัน……ก็ขาดห้วงไปจากบนเตียงเฉยเลย…… ”
หยั่งกับว่าหายตัวไปอย่างกะทันหันในระหว่างที่อยู่กลางห้องงั้นแหละ……โซยะส่งสายตามองไปตามมือถือและกุญแจห้องที่ถูกวางไว้เหนือโต๊ะพร้อมพึมพำเช่นนั้น
“ ……กลับกันก่อนท่าจะดีกว่าละมั้งนะ ”
แม้เสียงทีวีอันร่าเริงสดใสไร้ก้นบึ้งจะสะท้านดังไปทั่วห้อง แต่กลับรู้สึกเหมือนว่ามันเงียบสงัดอย่างน่าขนลุกมากยิ่งกว่าเมื่อกี้ซะอีก
หลังจากนั้น พอรายงานเรื่องราวกับศูนย์ให้คำปรึกษาด้านภัยวิญญาณของวิทยาลัยหญิงชิรายูกิแล้ว เราก็ทำเรื่องขอความร่วมมือกับทางตำรวจด้วยหรอก แต่ตำแหน่งที่อยู่ของเจ้าของบ้านก็ยังคงเป็นปริศนาไม่อาจล่วงรู้ได้อยู่ดี
MANGA DISCUSSION