[โอ้วววววว! ขอร้องล่าา ได้โปรดทารุณรังแกป๋มให้ล้มคว่ำหมดสภาพไปเลยทีเถ้ออออ!]
ฉันหันหลังรับเสียงร้องเอ็ดตะโรของไอ้โรคจิตที่ไล่มาอย่างสุดจะตื๊อ แล้วจึงกุมหัวปวดตับไปด้วย
(ตรูปัญญานิ่มรึเปล่าฟะเนี่ย……นี่มันทางตันนี่หว่า!)
เพราะเอาแต่เผ่นหน้าตั้งสุดชีวิตเพื่อหนีจากบุรุษมาโซที่ปราดเปรียวกว่าที่คาด เลยหลังชนฝากลายเป็นลูกไก่ในกำมือมันไปซะแล้ว
แม้จะวิ่งหลบเข้ามาในห้องเรียนใกล้ๆทันที แต่นี่ก็เป็นชั้นสอง ไม่อาจจะหนีออกทางหน้าต่างได้อีก
“ อะ เอ่อ…… ”
“ เอ๊ะ? ”
นักเรียนหญิงพลันชี้นิ้วไปยังมุมห้องเรียนอย่างกล้าๆกลัวๆ
“ ……ลองหลบซ่อนตัวตรงนั้น……ดีมั้ยคะ? ”
ล็อกเกอร์สำหรับใส่อุปกรณ์ทำความสะอาด
มันแคบเกินไปที่จะใช้หลบกันสองคน แล้วก็ไม่รู้แน่ว่าจะใช้หลอกตาบุรุษมาโซได้รึเปล่าก็จริงหรอก……
“ ถะ ถ้าไม่รีบเข้าละก็ ผู้ชายคนนั้นตามมาติดๆแล้ว…… ”
พอฉันลังเลอยู่ นักเรียนหญิงก็ดึงมือฉันไปด้วยท่าทางตื่นกลัวสุดขีด
“ ……ขึก ”
เว้ย ไม่มีทางอื่นด้วยนี่นะ แถมถ้าไม่สลัดการไล่ล่าของบุรุษมาโซให้ได้รอบนึงก่อน ก็จะไม่อาจตั้งหลักเตรียมความพร้อมใหม่ได้ด้วย
สุดท้ายจึงลองเสี่ยงดวง เข้าไปหลบข้างในล็อกเกอร์ด้วยกันทั้งสองคนดู
“ โอ๊ะ แคบจริงแฮะ ”
“ ขะ ขอโทษค่ะ……แน่นหน่อย……นะคะ ”
จะโยนอุปกรณ์ข้างในล็อกเกอร์ออกไปก็ไม่ได้ เราจึงฝืนพากันยัดร่างตัวเองเข้าไปยัดไว้อยู่ในนั้น
[ท่านราชินีขอร๊าบบบบบบ!!]
““ ……ขึก!! ””
สัมผัสได้ว่าบุรุษมาโซมันลอยทะลุประตูเข้าภายในห้องเรียน
[……ท่าน ราชินี?]
พอจ้องมองผ่านช่องระบายอากาศ ก็เห็นเหมือนว่าบุรุษมาโซที่คลาดสายตาจากพวกเรานั่นจะกำลังหงอยเหงาเศร้าสร้อยอยู่แฮะ
[……ฮืออ ท่านราชินี……ไปอยู่ไหน……จะต้องยังอยู่ ใกล้ๆนี้แน่……]
มันร้องครวญครางเช่นนั้น พร้อมกับลอยออกจากห้องเรียนไปอย่างเนิบนาบ
แต่เหมือนว่าจะยังไม่ตัดใจโดยสมบูรณ์ เพราะเค้าลางมันยังคงวนเวียนอยู่ตามทางเดินไม่ยอมหายไปซะที
หลบซ่อนตัวไปจนกว่าที่เหล่าผู้ปราบมารคนอื่นๆจะวางมาตรการรับมือได้ดีกว่าละมั้ง
คิดแล้วฉันก็กะจะหยิบสมาร์ทโฟนที่อยู่ในโหมดปิดเสียงออกมาเพื่อบอกกล่าวเล่าสถานการณ์ให้กับโซยะ แต่แล้วก็สังเกตรู้สึกตัวได้โดยพลัน
(มะ ไม่ตัวติดกันแน่นเกินไปหน่อยเรอะเนี่ย……)
เพราะรีบร้อนก็เลยไม่ได้ใส่ใจ แต่พอมองดูแบบใจเย็นแล้วมันก็ส่อแววฉิบหายในหลายๆแง่เลย
ก่อนอื่น ฉันกับนักเรียนหญิงนั้นกำลังอยู่ในสภาพเอาขาสองข้างรัดไขว้ใส่กันและกันอยู่ ต้นขาของคุณเธอมันหนีบรัดเข้ามาใส่ต้นขาของฉันนี่ ระดับที่หากขยับเข้าไปข้างหน้าอีกนิดเดียวของลับพวกเรามันก็จะชนกันแล้วแน่ะ
ส่วนท่อนบนก็อยู่ในสภาพที่เรียกได้ว่านมปลอมของฉันกับนมใหญ่เบิ้มบักเอ้ก (ระดับทำเอานางุโมะคลั่งตายได้) ของคุณหล่อนมันกำลังประสานหนุบชนกันหนิบ ตัวติดชิดใกล้มากขนาดที่สัมผัสลมหายใจของกันและกันได้เลยทีเดียว แถม……
“ ……เอ่อ มีอะไรหรือคะ……? ”
“ อ๊ะ เปล่า…… ”
นักเรียนหญิงที่อยู่ตรงหน้า ยังเป็นสาวงามสุดยอดเลยอีกต่างหาก
ผมหน้านั้นถูกปล่อยยาวจนปกปิดใบหน้าไปราวครึ่งนึง แต่ความเปราะบางที่สถิตอยู่ภายในสีหน้าซึ่งดูเหนียมอายกลับบีบเค้นสร้างออกมาเป็นเสน่ห์หาที่ห่างไกลจากของนักเรียนม.ปลาย เปี่ยมล้นถล่มทลายไว้ด้วยมนตร์เสน่ห์เย้ายวนขนาดที่ถ้าสติหลุดแม้ซักนิดคงเผลอโผเข้ากอดไปแล้ว
นมนั้นใหญ่ผ่าเหล่ามากดังที่ได้กล่าวไปก่อนหน้า ต้นขาก็อวบนุ่มนิ่มระดับที่สัมผัสได้แม้กระทั่งผ่านเนื้อผ้า
(หรือว่าพวกวิญญาณคนเป็นมันจะถูกดึงดูดเข้ามาหาเธอคนนี้……)
เกือบจะเผลอตัวกระโจนออกไปนอกล็อกเกอร์แล้ว แต่จะทำเสียงดังก็ไม่ได้ แม้จะรู้ดีว่าเป็นการขัดขืนที่เปล่าประโยชน์แต่ฉันก็ลองพยายามลดระดับพื้นที่ผิวที่แตะสัมผัสโดนกัน ทว่ามันเป็นในจังหวะนั้นเอง
“ อ๊ะ…… ”
ที่นักเรียนหญิงพลันกล่าวออกมาเบาๆ
“ เป็นแผล……ขอโทษด้วยนะคะ เพราะเข้ามาช่วยคนอย่างฉันเอาไว้แท้ๆ……แถมยังเป็นที่หน้าด้วย…… ”
ว่าแล้ว คุณหล่อนก็ใช้ผ้าเช็ดหน้าที่หยิบออกมาจากกระเป๋าเช็ดแก้มฉันนี่
โดนสาวแกย่นระยะห่างเข้ามาใกล้อย่างกะทันหันทำเอาผงะไปเลยหรอก แต่ท่วงท่าการขยับของมือข้างนั้นมันก็อ่อนโยนนุ่มนวลและสง่างามเหลือเกิน รู้สึกอีกทีก็ปล่อยตัวไปกับสัมผัสซะแล้ว
“ ……เอ่อ ฉัน เป็นนักเรียนปี 3 ชื่อโคฮินาตะ ชิซึกะค่ะ…… ”
ถ้าไม่พูดอะไรเลยมันก็คงจะอึดอัดละมั้ง
นักเรียนหญิง—–เห็นว่าชื่อ โคฮินาตะ ชิซึกะ สินะ—–จึงเริ่มต้นทำการกล่าวแนะนำตัวในขณะที่เช็ดแผลให้
“ เอ๊ะ อ๊ะ แก่กว่าสินะเนี่ย……สินะคะ เอ่อ ฉันฟุรุยะ ฮารุโกะค่ะ มาจากโรงเรียนปราบมาร…ยังเป็นเด็กปีหนึ่งอยู่เลย ฉะนั้นรุ่นพี่โคฮินาตะไม่ต้องพูดเคารพกันแบบมีหางเสียงก็ได้นะคะ ”
*ชักจะทนพูดจาแบบผู้หญิงไม่ไหวแล้ว จึงอาศัยจังหวะนี้เปลี่ยนมาพูดมีหางเสียงซะเลย
“ ……อ๊ะ งั้นหรอกเหรอ เพราะดูเท่แล้วก็พึ่งพาได้มาก ก็เลยเผลอคิดว่าอายุมากกว่าไปน่ะ…… ”
ยิ้ม……รุ่นพี่โคฮินาตะแย้มยิ้มให้เล็กๆ
อุ……หวา มันอะไรกันเนี่ย
แค่เป็นสาวงามอย่างเดียวไม่พอยังจะนิสัยดีมีระดับอีก……ทุกคนในโรงเรียนคุณหนูเป็นสาวเรียบร้อยแบบนี้หมดเลยเรอะ?
ชักพอเข้าใจแล้วแฮะว่าทำไมไอ้พวกวิญญาณคนเป็นมันถึงได้ยึดติดโหยหากันนักหนา……
“ ……อื้อ เท่านี้ก็ห้ามเลือดหยุดไหลได้แล้วล่ะ……อื๋อ? ”
เป็นในจังหวะที่ฉันใจเต้นตึ๊กตั๊กอยู่กับความมีระดับของรุ่นพี่โคฮินาตะนั่นเอง
สายตาของคุณเธอขยับขึ้นไปยังจุดที่อยู่เหนือแก้ม พร้อมกับที่ดวงตาอันดูเหนียมอายนั่นพลันเบิกโพลงออกกว้าง
(ขึก!? อย่าบอกนะว่า รู้แล้วเรอะว่าเป็นวิกน่ะ!?)
หัวใจมันถึงกับเต้นโครมๆเลยเชียว แต่นั่นก็เป็นแค่ความกลัวไม่เข้าเรื่องเท่านั้น
“ ……เอ่อ ที่คาดผมนั่น……หรือว่า…… ”
สิ่งที่รุ่นพี่โคฮินาตะกำลังชี้นิ้วตรงไปหาก็คือ ที่คาดผมซึ่งได้รับมาจากคาราสึมะ
อะ อะไรกัน แค่สนใจเครื่องประดับเท่านั้นเองหรอกเรอะ ……ฉันโล่งอกอยู่แบบนั้นหรอก ทว่า
“ ……ใช่จริงด้วย ไม่ผิดแน่……ของแถมพิเศษจากเกมโปะ โป๊……[มิดาเรโบตั๋น] นั่น……! ”
ไอ่คาราสึม้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา!!!
ไอ้หอกนั่น มันเอาอะไรมาให้ตรูใส่วะเนี่ย!?
เวรแล้วไง! ของพรรค์นี้ต่อให้ไม่ถูกรู้ว่าเป็นผู้ชายก็เหอะแต่มันโคตรจะน่าสงสัยสุดๆไปเลยนะเฮ้ย!
ต้องเค้นสมองคิดหาข้ออ้างดีๆออกมาให้ได้!
“ ……อ๊ะ ขอโทษนะ เป็นเด็กผู้หญิง ถ้าถูกรู้ว่าเล่นเกมพวกนั้น……ก็คงจะอายสินะ……ขอโทษนะ ที่จู่ๆก็ถามอะไรแปลกๆ…… ”
พอฉันแตกตื่นลนลานอยู่ ก็ไม่รู้ว่ารุ่นพี่โคฮินาตะเกิดเข้าใจอะไรผิดรึไง เค้าจึงเม้มปากด้วยท่าทางรู้สึกผิด แต่ทว่าในไม่กี่วินาทีให้หลัง เค้าที่มีสภาพเหมือนฝืนกลั้นอดใจเอาไว้ไม่ได้ก็พลัน
“ ……แล้ว คือว่า [มิดาเรโบตั๋น] นี่ มีฉากแบบไหนบ้างเหรอช่วยบอกมาแบบละเอียดๆเลยทีได้มั้ย……? ”
ถามเกี่ยวกับเกมโป๊เข้ามาอย่างสนใจใคร่รู้เฉยเลยเฮ้ย!?
“ ……………………เอ๊ะ? ”
“ ……อ๊ะ มะ ไม่ใช่นะ ไม่ใช่ว่าสนใจในเกมโป๊หรอก……แต่คือว่า ได้ยินว่าเป็นเกมที่มีพล็อตซึ้งกินใจมากเลยน่ะสิ……เลยติดใจน่ะ……ฉันแทบจะไม่ได้ออกไปข้างนอกโรงเรียน……โอกาสที่จะได้รับฟังความรู้สึกของคนจากข้างนอกที่สามารถเล่นเกมพวกนี้ได้อย่างอิสระ มันก็เลยล้ำค่าหายากมากๆเลยน่ะนะ…… ”
พอฉันเงิบแดกอยู่ รุ่นพี่โคฮินาตะก็พูดปฎิเสธมาด้วยท่วงท่าแตกตื่นลุกลี้ลุกลน
“ ……แล้วทีนี้ คือว่า เป็นเกมที่ทำให้น้ำตาร่วง แบบไหนกันเหรอ…… ”
แม้รุ่นพี่โคฮินาตะจะหน้าแดงแจ๋ แต่ก็ยังดึงดันถามซ้ำกลับมาอย่างไม่ลดละ
กะ ก็ไม่ค่อยจะเข้าใจเท่าไหร่หรอกนะ แต่ถ้าพูดว่า [ที่คาดผมนี่เป็นของที่ได้มาจากคนอื่น ก็เลยไม่รู้] ออกไปตรงนี้ มันก็จะดูแปลกไม่เป็นธรรมชาติอีก……ลองอธิบายเนื้อหาใจความที่พวกโคบายาชิพูดกันอยู่ไปแบบส่งๆดูก่อนละกัน……
พอนำเอาความรู้ที่มีอยู่เพียงเศษๆเสี้ยวๆมาเล่าเรียงกันให้ฟังดูพอใช้ได้ รุ่นพี่โคฮินาตะก็พยักหน้าหงึกหงึก ก่อนจะ
“ ……ถ้างั้นก็ ขอถามเพื่อใช้อ้างอิงไว้หน่อย……คือว่า ฉากโป๊ๆนี่เป็นยังไงบ้างเหรอ……? ”
สนใจใคร่รู้ตรงฉากโป๊จริงๆด้วยนี่หว่าเฮ้ย!
ให้ว่าแล้ว มันก็แปลกตั้งแต่ตอนดูออกได้ในปราดเดียวว่าที่คาดผมนี่มันคือของแถมพิเศษจากเกมโป๊แล้วนี่หว่า ดูท่ารุ่นพี่โคฮินาตะจะโปรดปรานเห็นของพวกนี้เป็นไปไม่ได้เลยงั้นสินะเนี่ย
(อะ เอ้อ ถึงพวกแบบคาราสึมะจะไม่นับก็เหอะ แต่ถ้าเป็นเด็กผู้หญิงวัยกำลังโต ต่อให้ศึกษาอยู่ในโรงเรียนคุณหนู แต่จะสนใจอยากรู้อยากเห็นในเรื่องพวกนี้มันก็คงจะไม่แปลกหรอกเนาะ……)
เผลอๆถ้าอยู่ภายใต้แนวทางการฝึกสอนแบบปลอดเชื้อยุงไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอมแล้ว อาจจะมีความสนใจอยากรู้อยากเห็นรุนแรงกว่าปกติก็ได้แฮะ
เนื่องจากความสงสารนิดๆ บวกกับความรู้สึกผิดที่เผลอลากเข้ามายุ่งเกี่ยวด้วยเนื่องจากความผิดพลาดระหว่างไล่ผี ฉันจึงลองพยายามอธิบายเกี่ยวกับฉากโป๊ดูสุดกำลังเท่าที่จะทำได้
“ ……อือ อือ เหะ เห~ ดุเด็ดถึงขนาดนั้น……ว้าวว……สุดยอดเลย…… ”
รุ่นพี่โคฮินาตะแกทำดวงตาเป็นประกายเจิดจ้ามากระดับที่เทียบกับตอนเล่าฉากซึ้งไม่ได้เลยทีเดียว พยักหน้าหงึกๆอย่างน่าเอ็นดูยกใหญ่ก่อนจะรุกไล่เค้นถามเข้ามาอย่างใคร่รู้รุนแรง
“ ……นี่ ตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว……มีแอบเลี่ยงอธิบายอยู่นิดหน่อยสินะ……? สุดท้ายแล้ว มิดาเรโบตั๋นที่เป็นชื่อเกมนั่นคือท่าเซ็กส์แบบไหนเหรอ……? ”
เค้นถามกันรุนแรงจริงว้อย!
รุ่นพี่โคฮินาตะยื่นหน้าเข้ามาชิดใกล้ราวสื่อว่า “เล่าให้ฟังอีกสิ” …และเป็นในจังหวะที่ฉันอดรนทนไม่ไหวพยายามจะเอียงคอหนีนั่นเอง
หนุบ
“ ขึก!? ”
“ ……เอ๊ะ? นี่มัน อะไรน่ะ……? ”
ต้นขาของรุ่นพี่โคฮินาตะที่รุกไล่ย่นระยะเข้ามาใกล้ มันแตะชนกับเป้าอูมของไอ้ฉันเข้าอย่างจัง
(ฉิบหา……!? เพราะมัวแต่สนใจท่อนบนก็เลย……)
“ ระ รุ่นพี่โคฮินาตะ! นี่มันคือแบบว่า แค่อ้วนนิดๆหรือว่าไงดี……! ”
พอร่ายข้ออ้างทับใส่รุ่นพี่โคฮินาตะที่เอียงคอด้วยสีหน้าอึ้งปุ๊บ
น๊วบ
“ —————-อึก! ”
มือเรียวเล็กของรุ่นพี่โคฮินาตะพลันขยับเข้ามาอย่างเป็นธรรมชาติมากเหลือเกิน ขยับเข้ามาแตะตรงระหว่างขาของฉันนี่ ก่อนจะขยำเบาๆอย่างไม่รอช้า
พอฉันตัวแข็งทื่อเนื่องจากรับความเป็นจริงที่บังเกิดขึ้นไม่ได้อยู่ รุ่นพี่โคฮินาตะก็ยื่นมือเข้ามาแตะวิกกับผ้าคลุมหน้าของฉันต่อ พร้อมกับกระชากฉุดให้หลุดออก….และในพริบตาถัดมา ใบหน้าของรุ่นพี่ก็เริ่มที่จะซีดเผือดขึ้นมาทันตา ก่อนจะ
“ กรี๊ดดดดดดดด!? ผะ ผู้ชายยยยยยยยยยย!? ”
ปัง! หลุนหลุนหลุนหลุน!
“ เอ้ย รุ่นพี่โคฮินาตะ!? ”
กลิ้งหลุนๆออกไปนอกล็อกเกอร์โดยไม่ให้มีจังหวะได้หยุดเฉย
“ อ่าก็เข้าใจความรู้สึกอยู่หรอกนะครับ! จะอยากเผ่นหนีป่าราบก็ไม่แปลกเลยตรงนี้เข้าใจแต่ช่วยสงบอารมณ์ก๊อน! ถ้าขืนส่งเสียงอึกทึกครึกโครมตอนนี้เดี๋ยวก็ได้ถูกวิญญาณร้ายมันรู้ตำแหน่งเข้าพอดีสิ! ”
“ ยะ ยะยะ อย่าเข้ามาใกล้นะ! ”
แม้จะพยายามลากกลับเข้าไปในล็อกเกอร์ใหม่อย่างแตกตื่น แต่รุ่นพี่โคฮินาตะกลับหันมองมาทางฉันด้วยสีหน้ากลัวสุดขีด
“ พะ พวกผู้ชายทั้งหมดทุกคนต่างก็คือกลุ่มเสี่ยงเป็นอาชญากร……ขะ คิดกะจะขูดรีดเด็กผู้หญิงในเชิงกามๆอยู่ใช่มั้ยล่ะ!? ……มะ เหมือนกับในเกมโป๊……เหมือนกับในเกมโป๊! ”
จะว่าไอ้มุมมองที่มีต่อผู้ชายนั่นมันอคติได้สุดยอดหรือไงดี…มันดูเมากาวเหมือนดูดม้าชอบกลแล้วนะเนี่ยเฮ้ย!?
ตะกี้ยังถามถึงเกมโป๊ที่ว่าอย่างสนใจใคร่รู้อยู่เลยแท้ๆ!
แม้จะมีสิ่งที่อยากพูดอยู่มากมาย แต่เอาเป็นว่าถ้าไม่ทำให้เค้าเงียบโดยเร็วละก็งานงอกบรรลัยแน่นอน
ลองถอยเว้นระยะห่างเพื่อไม่ให้เป็นการกดดันแล้วพยายามยุให้ใจเย็นหรอก แต่รู้ตัวอีกทีมือของรุ่นพี่โคฮินาตะก็เอื้อมไปจับสิ่งที่โคตรจะฉิบหายไว้ซะแล้ว นั่นมัน กริ่งฉุกเฉินกันอาชญากร!?
“ ตะ แต่ทำไมกันล่ะ……ถ้าเป็นผู้ชาย……กะ ก็จะต้องมองฉันด้วยแววตาทะลึ่งกันหมด น่าจะรู้สึกตัวได้ในทันทีเลยนี่นา…… ”
รุ่นพี่โคฮินาตะทำสีหน้างงงวยสุดขั้ว พร้อมเอานิ้วเกี่ยวสลักกริ่งฉุกเฉินกันอาชญากรที่เป็นดั่งระเบิดมือ
หยู๊ดดดดดด! อย่าลั่นไอ้เจ้านั่นนะว้อยยยยยยย!
“ อ๊าา แต่ว่า ตอนนี้น่ะเอาเป็นว่า……ตะ ต้องเรียกคนให้มาช่วย……!! ”
รุ่นพี่โคฮินาตะที่สับสนสติแตกโดยสมบูรณ์นั้นไม่ยอมรับฟังคำพูดโน้มน้าวใดๆเลยแม้ซักนิด
หวอหวอหวอหวอหวอหวอ!!!
เสียงประหลาดอันเป็นเอกลักษณ์ของกริ่งฉุกเฉินกันอาชญากรพลันแผดก้องดังสนั่นสั่นสะเทือนสุดขีด
(ยัยบ้าห้าร้อยยยยยยย! ให้ว่าแล้วกริ่งฉุกเฉินกันอาชญากรนี่มันเสียงดังกระหึ่มขนาดนี้เลยเรอะ!?)
ต้องรีบหยุดกริ่งฉุกเฉินอาชญากรให้ได้โดยด่วน…เป็นในจังหวะที่ฉันกะจะพุ่งเข้าไปหารุ่นพี่โคฮินาตะเพื่อทำเช่นนั้นนั่นเลย
[ท่านราชินี๊———–! อยู่ที่นี่จริงๆด้วยสินะขอร๊าบบบบบ!]
นั่นปะไร ไอ้บุรุษมาโซถล่มเข้ามาในห้องเรียนจนได้ มันทะยานพุ่งตรงแหน่วเข้ามาใส่รุ่นพี่โคฮินาตะในทันใด
“ ฮิ๊!? ”
รุ่นพี่โคฮินาตะสะดุ้งตัวสั่นในบัดดล เอ้ยก็พูดได้ว่าคุณเป็นคนเรียกมันเข้ามาหาเองเลยไม่ใช่เรอะ!?
“ ว้อยยโธ่เว้ย! ลงอีหรอบนี้ก็เอาตามที่วางแผนไว้แต่แรก……! ”
เคราะห์ดี โพรงเสน่ห์กายิกสุขของบุรุษมาโซมันอยู่ในจุดที่จิ้มจากตรงนี้ได้ง่ายพอดี
เหมือนกับว่าใช้รุ่นพี่โคฮินาตะเป็นเหยื่อล่อเลย ชวนปวดใจอยู่เหมือนกันหรอกนะ แต่ไม่มีทางอื่นนอกจากต้องทำการขับไล่มันตรงนี้เท่านั้นแล้ว
จ้องเขม็งไปยังโพรงเสน่ห์กายิกสุขของบุรุษมาโซ แล้วพุ่งทะยานอัดเข้าไปในพรวดเดียว
ฉวยจังหวะที่บุรุษมาโซเคลิบเคลิ้มตาค้างอยู่กับรุ่นพี่โคฮินาตะ กระแทกกระทั้นอัดปลายนิ้วเข้าไปยังโพรงเสน่ห์กายิกสุขนั่น
[คุ่ก!? ……ไหงผู้ชายถึง มาอยู่ที่นี่ด๊าาายยยยยย!?]
ไอ้หมูมาโซที่เก็บเอาเรื่องของตัวเองขึ้นหิ้ง พลันสังเกตเห็นตัวฉันแล้วเหวี่ยงแขนฟาดเข้ามา
การโจมตีของร่างวิญญาณที่มีสเกลสูงเกินระดับนึงนั้นจะมีอิทธิพลอำนาจในเชิงกายภาพด้วย
นิ้วของไอ้หมูมาโซมันเกี่ยวโดนชุดพริ้วไหว ส่งร่างฉันให้ปลิวไปกระแทกชนเข้ากับกำแพง
“ คั่ก!? ”
เสื้อขาดวิ่น ฟองน้ำที่ช่างฝีมือนมปลอมนางุโมะยัดมาให้ก็ฉีกกระจาย ทว่าในจังหวะเดียวกันนั้น
[……อื๋อ? นะ นี่มันอะโร้ววววโฮ๊วววววววววววววววววว!?
]
ทั่วร่างของบุรุษมาโซพลันสั่นเทิ้ม น้ำแตกกระจายดัง ปิ้วปิ้ว! ก่อนจะระเหิดหายไปกับอากาศ ภาพสุดสยดสยองที่โคตรจะเลวร้ายชัดๆ
แต่ก็เอ้อ ทำการขับไล่บุรุษมาโซที่ว่าเป็นศูนย์กลางของแก๊งวิญญาณไปเรียบร้อยแล้วนี่นะ เท่านี้งานของฉันก็เป็นอันจบสิ้นล่ะ
……ที่เหลือก็ อือ โดนรุ่นพี่โคฮินาตะรู้ว่าเป็นผู้ชายแล้วด้วยนี่นะ จุดยืนในสังคมของฉันก็จบเห่เหมือนกันแล้วมั้งงี้
เป็นในระหว่างที่ฉันกำลังนิ่งเฉยปล่อยวางกับการตายทางสังคมครั้งที่เท่าไหร่ไม่รู้ตั้งแต่เข้าปีนี้มาอยู่
“ อะ เอ๊ะ……? ช่วย……ฉันเอาไว้……เหรอ? ทั้งที่เป็น ผู้ชาย แท้ๆ……? ”
รุ่นพี่โคฮินาตะที่หมอบกลิ้งอยู่กับพื้นพลันแผดเสียงที่แหบพร่าออกมา
“ ……อะ อ๊ะ ขอโทษนะ……ขอโทษนะ……! เป็นเพราะฉัน……แต่ว่า ฉัน มีแค่ผู้ชายนี่แหละที่ไม่ว่ายังไงก็ทนรับไม่ได้……! ”
เค้ากำผ้าเช็ดหน้ากับพลาสเตอร์ปิดแผลแล้วเดินเข้ามาใกล้ทางนี้ แต่ฝีเท้านั่นก็พลันหยุดกึกลงกลางทาง
“ อะ อุ…… ”
มือและขานั่นกำลังสั่นกักๆ คงเป็นเพราะ ฉันเป็นผู้ชายละมั้งนะ
แต่แล้วรุ่นพี่โคฮินาตะก็สังเกตเห็นวิกและผ้าคลุมหน้าที่ตัวเองเป็นคนกระชากเหวี่ยงไปเมื่อกี้ แล้วจึงขว้างมันกลับมาให้ฉันนี่ ……จะสื่อว่าให้สวมซะเรอะ? ฉันจึงขยับเพียงแค่มือหาทางสวมกลับใหม่อีกรอบได้อย่างสุดจะลำบาก
“ อ๊ะ……ถ้าแบบนี้ละก็……พอไหวอยู่…… ”
ถึงจะอย่างนั้นแต่ก็ยังกลัวผู้ชายละมั้ง รุ่นพี่โคฮินาตะก็เลยหลั่งเหงื่อเป็นสายน้ำไปพลาง ก้มคุกเข่าลงข้างๆฉัน
พูดว่าขอโทษนะ ขอโทษนะซ้ำแล้วซ้ำอีก ในขณะที่ช่วยปฐมพยาบาลให้กับฉันที่ขยับไม่ได้
(อะไรของเธอคนนี้น่ะ……)
พอนึกว่าเป็นคนดูดีมีสกุลที่ถูกเลี้ยงดูอย่างประคบประหงม ก็ดันทราบเข้าว่าสนใจใคร่อยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับเกมโป๊สุดๆ แต่พอคิดแบบนั้นก็เผยว่าตัวเองเกลียดผู้ชายขั้นหนัก……ไม่สิ เป็นโรคกลัวผู้ชายเรอะ? จะยังไงก็ตามแต่ไม่ปกติชัดๆแล้วแบบนี้
ที่แน่ใจอย่างก็คือไม่ใช่คนเลวแหละนะ……
ตึงตึงตึงตึง!
“ ทางนี้ค่ะ! จับเสียงแล้วก็ตำแหน่งที่อยู่กริ่งฉุกเฉินของลูกสาวได้จากทางนี้! ”
“ ฮึก! ”
ได้ยินเสียงฝีเท้าอย่างแตกตื่นลนลานหลายคู่ดังก้องมาจากฝั่งทางเดิน
คงจะเป็นเหล่าผู้ปราบมารที่เร่งรุดเข้ามาเพราะได้ยินเสียงกริ่งฉุกเฉินละมั้ง เอ้ยแต่ว่า ไม่ได้มีแค่นั้นแฮะ
(ลูกสาวนี่……หรือว่าผู้ปกครองของรุ่นพี่โคฮินาตะก็มาด้วยเรอะ!?)
ถ้ามีแค่เหล่าผู้ปราบมารที่รู้เรื่องการแต่งหญิงก็ว่าไปอย่าง แต่ผู้ปกครองนี่ไม่ไหวนะเฮ้ย
ตัวฉันตอนนี้อยู่ในสภาพเสื้อผ้าขาดวิ่นเผยหุ่นของผู้ชายได้เห็นได้เต็มตา ถ้าไม่นับหัวที่ถูกหุ้มไว้ด้วยวิกกับผ้าคลุมหน้าแล้ว ก็สามารถดูออกได้ในปราดเดียวเลยแหละว่าเป็นผู้ชายน่ะ
“ ……มะ มาทางนี้ สิ…… ”
“ เอ๊ะ? ”
พอฉันที่ยังเค้นแรงใส่เข้าไปในร่างไม่ไหวแตกตื่นอยู่ รุ่นพี่โคฮินาตะก็ช่วยฉุดฉันให้ลุกขึ้นมาโดยที่สั่นเทิ้มอยู่แบบนั้น ไม่รู้ว่าเพราะแค่เรี่ยวแรงของผู้หญิงมันทำได้ลำบาก หรือเพราะเหตุผลอื่นกันแน่ หน้าของรุ่นพี่โคฮินาตะก็เลยแดงแจ๋ไปหมด แถมทั่วร่างก็ยังจะสั่นเทิ้มหงึกหงึกระดับที่ชักสงสารขึ้นมาเลยอีกต่างหาก ลมหายใจก็ฟืดฟาดดัง “แฮ่ก……แฮ่ก……นะ นี่น่ะเหรอ ร่างกายของผู้ชาย…… ” ……รู้สึกเหมือนว่าจะมีคำพูดพิลึกๆผสมปนอยู่ในลมหายใจแรงนั่นรึเปล่าหว่า……
เอาเป็นว่า พอรุ่นพี่โคฮินาตะดันร่างฉันเข้าไปในล็อกเกอร์ทั้งอย่างนั้นแล้ว เค้าก็เก็บฟองน้ำและเสื้อผ้าที่ปลิวขาดกระเด็นทั้งหมดกลับมาส่งให้กับฉัน
“ ……ถะ ถ้าถูกคุณแม่จับได้……กะ ก็ไม่รู้ว่าจะโดนอะไรบ้างน่ะ…… ”
ที่ว่านั่น หมายความว่ายังไง……
แต่ประตูล็อกเกอร์ก็ถูกปิดซะก่อนจะทันได้ถาม และในฉับพลันเดียวกันนั้นก็มีเสียงบานประตูห้องเรียนถูกเปิดอย่างรุนแรง
“ ชิซึกะ! ปลอดภัยรึเปล่าคะ!? ”
ผู้ที่วิ่งปรี่ตรงเข้ามา ก็คือสตรีวัยกลางคนที่เหมือนเอารุ่นพี่โคฮินาตะมาทำให้ดูมีบรรยากาศเข้มงวดมากขึ้น
พอโผเข้ากอดรุ่นพี่โคฮินาตะปุ๊บ เค้าก็เอ่ยว่า “โชคดีจริงที่ลูกปลอดภัย……” มางั้นแน่ะ
ภาพนั้นมันก็คือคนเป็นแม่ที่เป็นห่วงลูกสาวแทบขาดใจดีๆนี่เอง
“ วิญญาณร้ายที่ไล่ตามเธอมาไปอยู่ไหนแล้ว……? ”
“ อ๊ะ เอ่อ จู่ๆมันก็ ลอยไปทางนั้น…… ”
พอเหล่าผู้ปราบมารหญิงที่วิ่งมาถึงทำการตรวจสอบเชิงวิญญาณใส่บริเวณโดยรอบพร้อมถามเช่นนั้น รุ่นพี่โคฮินาตะก็ชี้นิ้วมั่วซั่วไปยังอีกทิศนึง คงจะโกหกแบบส่งๆเพื่อเปิดช่องให้ฉันหนีงั้นสินะ
เหล่าผู้ปราบมารที่เชื่อในคำพูดของรุ่นพี่โคฮินาตะ พลันวิ่งอย่างแตกตื่นออกไปยังทางเดินทันที
แต่ก็มีหลายคนในบรรดานั้นยังคงหยุดนิ่งอยู่ที่นี่ ก่อนจะ
“ วิญญาณร้ายอาจจะเพ่งเล็งคุณอีกก็ได้ค่ะ พวกเราจะช่วยคุ้มกันให้เองนะ ไปด้วยกันเถอะ ”
กล่าวกับรุ่นพี่โคฮินาตะและคุณแม่แกว่าอย่างนั้น
“ เข้าใจแล้วค่ะ แต่ว่า ขอเวลาให้ฉันได้อยู่กับลูกสาวเพียงสองคนซักครู่จะได้ไหมคะ? ดูท่าว่าจะต้องวิ่งอีกซักพักเลยด้วย อยากจะทำให้ลูกสงบอารมณ์ได้ก่อนน่ะค่ะ ”
พอคุณแม่ของรุ่นพี่โคฮินาตะกล่าวกับเหล่าผู้ปราบมารว่าแบบนั้น เค้าก็นิ่งรอให้คนอื่นๆออกไป จนอยู่ด้วยกันกับรุ่นพี่เพียงสองต่อสองในห้องเรียน
เท่านั้นแหละท่าทางของคุณแม่พลันกลับตาลปัตรจากเมื่อกี้ เค้าถ่มคำพูดออกมาด้วยโฉมหน้าที่ดุร้ายจนผิดปกติในทันที
“ ให้ตายเถอะ เรื่องวุ่นวายสุดงี่เง่าคราวนี้มันอะไรกันน่ะ……น่าหงุดหงิดที่สุดเลย อุตส่าห์กำหนดแนวทางของโรงเรียนให้เชื่ออย่างถี่ถ้วนว่าถ้าสร้างโลกที่ไม่มีผู้ชาย ทุกอย่างก็จะสงบสุขได้แท้ๆ ”
โคฮินาตะคนแม่เผยดวงตาที่มีประกายแสงประหลาดสถิตอยู่ภายใน แล้วจึงมองดิ่งเข้าใส่รุ่นพี่
“ เพราะเธอขอร้องอ้อนวอนอยากจะออกไปเที่ยวข้างนอกในวันหยุดด้วยกันกับเพื่อนซักครั้งก็เลยยอมผ่อนปรนอนุญาตให้ไป……เท่านั้นแหละกลายเป็นเรื่องวุ่นวายแบบนี้เลย หน้าตากับเรือนร่างที่ยั่วยุให้ท่าพวกผู้ชายของเธอนั่นล่ะ มันจะต้องเป็นตัวดึงดูดจิตของไอ้พวกสวะหาดีไม่ได้มาอย่างแน่นอน ”
รุ่นพี่โคฮินาตะก้มหน้าลงต่ำ พร้อมเกร็งร่างกายตัวเองดังกึ๊ดด
“ ตั้งแต่นี้ไป จะไม่อนุญาตให้ออกไปข้างนอกโดยไม่จำเป็นไร้เหตุเร่งด่วนอีกแล้ว หากถึงสุดสัปดาห์ก็จงกลับมาที่บ้าน แล้วเข้าร่วม [พิธีกรรม] ดังเช่นตลอดมานี้ซะ เพราะท่านผู้นั้นได้กล่าวเอาไว้ ว่าบุคลากรที่เหมาะสมจะเป็นผู้นำพิธีมากที่สุดนั้นมีเพียงแค่เธอเท่านั้น ”
“ ……เข้าใจ แล้วค่ะ ”
โคฮินาตะคนแม่ก้าวออกจากห้องเรียนไป ด้วยท่าทางราวกับว่าบอกสิ่งที่จำเป็นต้องบอกเสร็จเรียบร้อย
ส่วนรุ่นพี่โคฮินาตะก็ยืนค้างอยู่ตรงนั้นซักระยะ ก่อนที่จะ
ผงก
ก้มหัวให้กับทางนี้ แล้วจึงเดินไล่ตามแม่ไป
“ ……มันอะไรกันนั่น ”
เพราะอยู่ข้างในล็อกเกอร์ที่เสียงมันจะสะท้อนหลายชั้นก็เลยได้ยินแค่นิดๆหน่อยๆหรอก แต่แค่ดูจากบรรยากาศก็รู้แล้ว นั่นมันไม่ใช่การสนทนาแบบปกติอย่างแน่นอนเลย
เอ้ยแต่ก็นะ ในกรณีคราวนี้ถ้าเค้าจะด่าตำหนิความบ้าๆบวมๆของผู้ชายขึ้นมา เราก็เถียงอะไรไม่ได้จริงๆนั่นแหละฟ่ะ……
และในระหว่างที่รอให้โซยะกับซากุระเอาเสื้อผ้าสำหรับใช้เปลี่ยนมาให้นั่น ฉันก็ใช้เวลาไปกับการนั่งงุ่นง่านติดค้างคาใจอยู่ข้างในล็อกเกอร์นั่นแหละ
*พูดเคารพมีหางเสียงของญี่ปุ่นนี่ชายหญิงแทบพูดแบบเดียวกันเลย ฮารุฮิสะคุงจึงเนียนพูดสไตล์เดิมได้น่ะเองครับ แต่พอแปลเป็นไทยแล้ว จะติดตรงครับ/ค่ะนี่แหละที่ชายหญิงใช้ต่างกัน ตรงฉากนี้เลยขอพิมพ์ ค่ะ ให้เข้ากับบริบทไปละกันครับ
MANGA DISCUSSION