“ ……ฝัน หรอกเรอะ? ”
ฉันที่ลืมตาตื่นขึ้นมาเพราะเสียงปลุกของสมาร์ทโฟนนั้น ถึงกับเผลอเอามือขึ้นมาแตะๆสัมผัสหน้าผากตัวเองกับเตียงนอนเพื่อตรวจสอบให้แน่ใจก่อนเลยเชียว…เพราะสัมผัสที่ได้รับรู้ภายในฝันเมื่อตะกี้มันสมจริงแล้วก็ร้อนแรงมากมายเป็นล้นพ้นขนาดนั้นเลยนั่นเอง ระดับที่ทำเอาฉงนสงสัยเลยน่ะนะ ว่าตอนนี้ตัวเองยังคงอยู่ภายในความฝันอีกรึเปล่า
ไม่พอ สิ่งที่เรียกว่าความฝันเนี่ย บ่อยครั้งแล้วมันน่าเป็นอะไรที่จะเลือนหายไปจากความทรงจำในทันทีเลยแท้ๆ แต่ไอ้ฝันครั้งนี้มันกลับสลักฝังคาหัวฉันอย่างชัดเจนอยู่แบบนั้น ขนาดที่ทำให้หลอนเข้าใจผิดว่ากามกิจที่ทำกับซากุระนั่นมันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงเลยทีเดียว
แล้วก็ไม่ได้หมดแค่นั้น
——หากอยากจะเห็นตอนต่อของฝัน ก็ใช้เทคโนเบรคเกอร์ให้เยอะๆกว่านี้อีกนะคะ!
นั่นมันคือเสียงเดียวกับที่มักจะดังขึ้นมาให้ได้ในยินภายในฝันเป็นระยะๆ ตั้งแต่ที่ถูกเทคโนเบรคเกอร์เข้าสิง
และนี่ก็ถือเป็นครั้งแรกเลย ที่ฉันจดจำคำพูดของเสียงที่ได้ยินภายในฝันได้อย่างชัดเจนมากขนาดนี้
“ มันกำลังยุให้ฉัน ใช้เทคโนเบรคเกอร์……? ”
พลังที่หาดีไม่ได้นี่น่ะเรอะ? ทำไมกันน่ะ?
พอรู้สึกเสียวสันหลังนิดๆกับเสียงที่น่าจะเข้ามาช่วยเหลือเสมอทุกครั้งในยามวิกฤตินั่นอยู่ เสียงที่บ่งชี้บอกว่ามีใครบางคนเข้ามาภายในห้องก็พลันดังขึ้น
“ เดี๋ยวเถอะ ยังนอนอยู่อีกเหรอ!? รีบตื่นเลยเชียวนะเดี๋ยวก็ไม่มีเวลากินข้าวเช้ากันพอดีหรอก! ”
“ ฮิ๊!? ”
ตามเดิมแล้วไม่จำเป็นต้องตกใจแล้วก็ไม่มีเหตุให้ต้องสะดุ้งตื่นกลัวเลยด้วยซ้ำ ก็แค่ซากุระมาตระเตรียมข้าวเช้าให้ดังปกติเท่านั้นเอง แต่เพราะฝันที่สมจริงเกินเหตุนั่นมันยังฝังหัว ฉันก็เลยเผลอตัวคว้าผ้าห่มมาคลุมปกปิดร่างกายเอาไว้ในทันใด
“ ……? ทำอะไรของนายน่ะ แสดงรีแอ็คชั่นซะหยั่งกะเด็กผู้หญิงที่โดนจับปล้ำงั้นแหละ ”
“ อ่า เปล่า…… ”
ซากุระจ้องมองต่ำลงมาด้วยแววตาสงสัยข้องใจ
และหัวของฉันที่ยังคงตื่นได้ไม่เต็มที่ ก็พลันเผลอหลุดปากพูดเช่นนี้ให้กับคุณหล่อนแกไปในทันที
“ ทะ เธอ…คงจะไม่จับฉันปล้ำหรอกสินะ……? ”
“ ห้ะ……? ”
เท่านั้นแหละซากุระถึงกับอึ้งอ้าปากค้างไปหลายวินาที ก่อนจะหน้าแดงแจ๋ขึ้นมาในฉับพลัน พร้อมกับ
“ ละ ละเมออะไรของนายน่ะ! อย่ามัวพูดอะไรบ้าๆ แล้วไปล้างหน้าล้างตาให้ตื่นตาสว่างขึ้นมาเลยนะ! ”
พลั่ก! เพี๊ยะเพี๊ยะ! ผั๊วะ!
“ เหวย!? โทษที หยุดที๊! ฉันผิดเองแหละช่วยหยุดทีเหอะนะ! ”
ซากุระที่หน้าแดงหยั่งกับปลาหมึกต้มพลันปล่อยลูกถีบปลุกให้ตาสว่างและฟาดลูกตบปลุกให้ตาเบิกกว้างเข้ามา ทำให้ฉันถูกซ้อมน่วมไล่ลงมาจากเตียงนอนในทันใด
นะ นั่นสิเนอะ ซากุระไม่มีทางจะจับฉันปล้ำแหงอยู่แล้วเนอะ
ก็ฉันกับซากุระเราโตขึ้นมาแบบไม่ต่างกับพี่น้องแท้ๆเลยนี่นา
“ อย่าบอกนะว่า ถูกจับได้ซะแล้วเหรอ เรื่องที่ฉันแอบฉกเอากางเกงในของพี่จ๋าไปใช้นั่น…… ถูกโซยะ มิซากิรู้นี่ไม่เป็นไรเพราะจะถือเป็นการใช้คุมเชิงอีกฝ่ายได้ แต่ถ้าตัวพี่จ๋าเกิดรู้ขึ้นมานี่……ไม่สิไม่หรอก ซื่อบื้อแบบพี่จ๋าไม่น่าจะจับได้หรอก…… ”
ซากุระที่ทำข้าวเช้าให้นั่นกำลังพึมพำอะไรซักอย่างอยู่ด้วยหน้าตาซีเรียสสุดขีดเลยก็จริงหรอก แต่เพราะฉันล้างหน้าอยู่พอดีก็เลยได้ยินไม่ชัดเท่าไหร่ สงสัยจะเกิดปัญหาในระหว่างเตรียมเครื่องเคียงสำหรับมื้อเช้าหรืออะไรทำนองนั้นละมั้งนะ
“ ให้ตายเถอะ พอโดนคำสาปพิลึกๆสิงเข้าแล้ว หัวก็เลยเพี้ยนตามไปด้วยรึไงยะ!? ”
กินข้าวเช้าที่ถูกเตรียมมาให้เรียบร้อยโดยไม่มีปัญหาใดๆเป็นพิเศษ จากนั้นเราจึงเดินออกมาจากห้องหอพัก
สงสัยซากุระจะยังคงหงุดหงิดกับคำพูดเพ้อเจ้อของฉันอยู่ละมั้ง ในระหว่างเดินไปโรงเรียนนี่คุณหล่อนจึงแสดงท่าทีไม่สบอารมณ์ใหญ่เลยเชียว
“ คำสาปของสองมือนั่นมันทรุดหนักขึ้นมารึเปล่าก็ไม่รู้ ไปให้นังจิ้งจอกนั่นตรวจดูให้ชัดเจนเลยเชียวนะ!? ”
“ รู้แล้วแหละน่า คาเอเดะก็บอกมาแล้วด้วยเหมือนกันนี่นะ ว่าในที่สุดก็มีเวลาว่างแล้วซะที ”
นังจิ้งจอกที่ว่านั่นหมายถึง เพื่อนสมัยเด็กที่แก่กว่าฉันกับซากุระหนึ่งปี—-คุซึโนะฮะ คาเอเดะ น่ะ
เทคโนเบรคเกอร์ พลังต้องสาปที่จะบีบบังคับทำให้ผู้ที่ถูกจิ้มน้ำแตกถึงจุดสุดยอด แถมต่อให้จะเป็นวิญญาณร้ายไคอิที่แข็งแกร่งทรงพลังมากมายขนาดไหนก็จะถูกขับไล่ให้สลายหายไปได้ทั้งมวล ……พลังความสามารถสุดแสนจะหาดีไม่ได้ซึ่งถูกผนึกอยู่ภายในสองแขนฉันนี่ ก็ได้คาเอเดะนี่แหละเป็นคนคอยดูแล และตรวจเช็คให้อยู่เสมอว่าคำสาปมันอาการทรุดหนักลงมั้ย แต่ช่วงนี้เรากลับไม่ค่อยได้ติดต่อคุยกันเท่าไหร่เลย
เป็นเพราะเหตุการณ์โลลิค่อนสเลเยอร์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันก่อนนั่นล่ะ เนื่องจากค้นพบว่า เผ่ามาร ซึ่งถือเป็นตัวตนเชิงวิญญาณระดับสูงมันมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องราวอยู่เบื้องหลัง ทำให้คาเอเดะถูกส่งตัวไปให้ทำหน้าที่สืบสวนไล่ตามรอยนั่นเอง
“ เอ้อเรื่องของฉันน่ะช่างไปก่อนเถอะ……เธอนั่นแหละไม่เป็นไรแน่เรอะ หลังจากนั้นมาเป็นไงมั่งล่ะ พวกสุขภาพร่างกายน่ะ ”
ผู้ที่ถูกเผ่ามารมันเพ่งเล็งหมายหัว และโดนบังคับฝังไคอิที่มีนามว่าโลลิค่อนสเลเยอร์เข้าไปภายในร่าง—-ก็คือซากุระที่กำลังเดินอยู่เคียงข้างกันกับฉันนี่แหละ ผลจากการตรวจสอบ ได้ความว่าไม่พบผลสืบเนื่องหรือไคอิตกค้างเลยก็จริงอยู่ แต่ถึงยังไงมันก็ยังอดเป็นห่วงไม่ได้ จึงถามไถ่อาการร่างกายออกมาอยู่แบบนี้แหละซ้ำซากหลายรอบแล้ว
“ น่ารำคาญจริง นายนี่เอาแต่ถามแบบนั้นอยู่เรื่อยเลยนะ คิดว่านี่มันผ่านเหตุการณ์นั้นมาได้กี่วันแล้วยะ ปาเข้าไปเดือนหกแล้วนะตอนนี้ ”
แต่ซากุระกลับฟาดหมัดอัดเปรี้ยงเข้ามาใส่ไหล่ฉัน หยั่งกับจะสื่อไม่ให้กังวลใจไม่เข้าเรื่องงั้นแหละ
“ ……เพราะได้การขับไล่ที่สุดจะหาดีไม่เจอของนายช่วยไว้ ไคอิมันก็เลยหายเกลี้ยงไปโดยไม่เหลือซากเลยไงล่ะ ”
ซากุระเบี่ยงสายตาหนีออกห่าง พึมพำเสียงค่อยแบบนั้นออกมาด้วยท่าทางอึดอัด
“ ……อุ ”
ที่แล่นเข้ามาภายในหัว ก็คือซากุระที่โดนอัดด้วยไล่ผีโดยทำให้ถึงจุดสุดยอดของฉันเข้าไปจนมีสีหน้าและร่างกายร้อนรุ่มเสร็จได้ที่
ภาพนั่นมันผนวกซ้อนทับเข้ากับฝันเปียกอันแสนเดือดพล่านเมื่อเช้านี้ และพอฉันถึงกับพูดอะไรไม่ออกอยู่
“ ……แต่ว่า ถ้าให้พูดตามตรงแล้ว ก็ยังกลัวอยู่หน่อยๆละมั้งนะ ”
ซากุระก็ปล่อยเสียงที่แผ่วเบาราวกับจะเลือนหายไปเช่นนั้นออกมา
“ ก็ไม่รู้สึกตัวซักนิดเลยนี่นา ว่าถูกมันเอาไคอิฝังเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่น่ะ ”
ไคอินี่ตามเดิมแล้ว มันคือสิ่งที่จะกำเนิดขึ้นมาโดยมีแกนกลางคืออารมณ์แง่ลบและปมในใจซึ่งถูกปลดปล่อยออกมาจากตัวมนุษย์เป็นๆน่ะ….หากถูกฝังอะไรแบบนั้นเข้ามาจากภายนอก แถมยังด้วยฝีมือระดับที่แม้แต่ตัวเองซึ่งเป็นผู้ปราบมารที่เก่งกาจก็ยังไม่ทันได้รู้ตัวเลยแบบนี้แล้ว จะรู้สึกกลัวขึ้นมาก็ไม่แปลกเลย
แต่แล้วซากุระกลับปั้นหน้าสร้างขึ้นมาเป็นรอยยิ้ม ก่อนที่จะ
“ แต่ว่า ไม่ได้เป็นกังวลอะไรหรอกนะ ”
“ เอ๊ะ? ”
“ ก็ต่อให้จะจนมุมมืดแปดด้านหลังชนฝาซักเท่าไหร่ แต่ถึงยังไงนายก็จะเข้ามาช่วยอยู่ดีใช่มั้ยล่ะ? พ่อคุณชอบแส่ ”
แม้จะขมวดคิ้วอย่างเหนื่อยหน่าย แต่ซากุระก็แย้มยิ้มอย่างดีใจไปด้วย
พอฉันเผลอจับจ้องมองตาค้างไปยังรอยยิ้มที่ทำให้สัมผัสได้ถึงเค้าหน้าในช่วงที่ยังเป็นเด็กๆ ซากุระก็พลันยกคิ้วขึ้นสูงอย่างแตกตื่นลนลาน
“ อ๊ะ ตะ แต่นี่ไม่ใช่ว่าฉันอยากให้นายเอาใจหรือคิดหวังพึ่งพานายอะไรแบบนั้นหรอกนะ! อย่าเหลิงได้ใจแล้วมาทำวางท่าเป็นพี่ชายเชียวล่ะ!? เข้าใจใช่มั้ย!? ”
“ รู้แล้วน่า รู้แล้ว ”
“ อย่ายิ้มกริ่มแบบนั้นนะหยะแหยงที่สุดเลย! ”
นิสัยตอนนี้เรียกได้ว่าเป็นขั้วตรงข้ามกับนิสัยขี้อ้อนตอนเด็กเลย แต่แบบนี้ก็สมกับเป็นพี่น้องกันดี……เริ่มที่จะคิดชื่นชอบความสัมพันธ์กับซากุระแบบใหม่นี่ขึ้นมาเช่นนั้น
แต่ยิ่งคิดแบบนั้นมากเข้า ความรู้สึกหงุดหงิดมันก็เริ่มจะก่อตัวเข้ามาอยู่ภายในใจฉัน
(บังอาจฝังไคอิโง่ๆใส่น้องสาวสุดน่ารักคนนี้ของฉันได้……ต่อให้จะเป็นเผ่ามารหรือผีห่าซาตานอะไรก็ช่างหัวมัน ถ้าเกิดเจอตัวขึ้นมาละก็จะซัดให้หน้าแหกหมอไม่รับเย็บเลย)
เอ้อ แต่ถ้าเผ่ามารที่เป็นตัวตนเชิงวิญญาณระดับสูง เกิดมาท้าชนกับคนน้ำหน้าอย่างฉันขึ้นมาจริงก็คงสู้ไม่ได้เลยนั่นแหละ แถมให้ว่าแล้วมันยังเป็นตัวระดับที่หนีรอดจากการไล่ล่าของพวกคาเอเดะได้อย่างสมบูรณ์เลยอีกต่างหากนี่นะ คงไม่บังเอิญหาเจอตัวได้ง่ายๆแบบนั้นหรอก
และแล้วฉันที่เก็บงำความรู้สึกที่คลับคล้ายกับความโกรธพิโรธให้คุกรุ่นอยู่ภายในใจ ก็ก้าวเท้าเข้าไปภายในตึกเรียนของโรงเรียนปราบมารดั่งทุกที
MANGA DISCUSSION