ไคอิจะไม่รู้ตัวว่าตนเองนั้นคือไคอิ
จะไม่แสดงอาการให้ผู้คนรอบข้างรับรู้ว่าเป็นไคอิ
แกนกลางของไคอิจะหลบซ่อนอยู่ในจุดลึกล้ำของดวงวิญญาณ ดังนั้นหากไม่ทำการร่ายตรวจสอบเชิงวิญญาณแบบลึกๆเข้าใส่ก็จะไม่อาจแยกแยะได้เลย
เรื่องพวกนั้นน่ะรู้อยู่แล้ว
โดนย้ำเตือนให้รู้ซึ้งฝังหัวมาในคราวเหตุปั่นป่วนของสาวนมหลีกนั่นแล้ว
แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังปักใจให้เชื่อไม่ลง—–ซากุระเนี่ยนะ เป็นไคอิ?
“ อย่างที่เขาพูดกันบ่อยครั้งว่าเส้นผมบังภูเขาละมั้งนะ แต่ไม่ผิดแน่นอนเลย สายเชื่อมพลังวิญญาณที่ยืดออกมาจากโลลิค่อนเมกเกอร์ที่ยัยหนูโซยะจับมาได้ มันกำลังเชื่อมต่อกับเธออยู่ ”
“ โกหกใช่มั้ย…… ”
แม้ซากุระจะพึมพำออกมาอย่างตกตะลึง……แต่บรรยากาศที่ห่อหุ้มรอบกายของเหล่านักปราบมารที่มารวมตัวกันนั่น กลับกำลังบ่งชี้ว่าไม่ได้โกหกล้อเล่นกันแต่อย่างใดทั้งสิ้น
“ แต่ว่า แต่ฉัน ฉันวางมาตรการรับมือเพื่อไม่ให้กลายเป็นไคอิเอาไว้เรียบร้อยแล้วนะ! คอยคุมสภาพจิตอยู่เสมอด้วย……ทำตามที่ถูกฝึกมาตลอด……ตรวจเช็คตัวเองก็ทำแล้ว…… ”
“ ถึงจะอย่างนั้น แต่เธอก็เป็นโฮสต์ของโลลิค่อนสเลเยอร์อย่างแน่นอนเลย ”
ตุบ ตุบ….คาเอเดะถือยันต์ไว้อยู่ในมือพร้อมก้าวกระชั้นชิดเข้ามา
“ อยู่นิ่งๆซะเถอะ ในยามที่เผอิญกลายเป็นไคอิแบบนี้ หากเธอเป็นผู้ปราบมารเต็มตัวแล้วจริงๆ ก็มีหน้าที่ต้องสะกดตัวเองไว้สุดกำลังเพื่อระงับไม่ให้ความเสียหายกระจายไปมากยิ่งขึ้นนะ ”
“ ……ขึก ”
ได้ยินคำพูดของคาเอเดะที่แม้จะโหดร้าย แต่ก็ยอมรับเป็นนัยๆว่าซากุระเป็นคนเก่งเต็มตัวนั่นแล้ว ซากุระก็พยักหน้าให้อย่างเงียบกริบ
“ เธอทำถูกต้องแล้ว ……แต่ขอโทษด้วยนะ คงจะทำการชำระล้างไล่ผีให้ในทันทีเลยไม่ได้หรอก ”
คาเอเดะเหวี่ยงยันต์ลงมายังบริเวณเท้าของซากุระ
นั่นก็คือศาสตร์วิชาที่หากเปิดใช้แล้ว จะทำการเหนี่ยวรั้งการเคลื่อนไหวของซากุระเอาไว้
“ เพื่อที่จะล่อโลลิค่อนสเลเยอร์ให้เข้ามาหาแล้ว จำเป็นต้องให้ฟุรุยะคุงมีสภาพเป็นโลลิค่อนอยู่แบบนี้น่ะ ก่อนอื่นจึงต้องร่ายตรวจสอบเชิงวิญญาณแบบลึกใส่เธอก่อน แล้วพอเช็คว่าไคอิลุกลามไปได้มากเท่าไหร่ได้แล้วถึงจะทำการวางผนึก—— ”
คาเอเดะกล่าวอธิบายขั้นตอนภายหลังจากนี้ พร้อมกับจะทำการเปิดใช้งานศาสตร์เหนี่ยวรั้งขึ้นมา ทว่ามันเป็นในฉับพลันนั้นเลย
เปรี๊ยะ!!
““ ฮึก!? ””
ไม่มีวี่แววบ่งบอกล่วงหน้าใดๆเลยซักนิด
ยันต์ที่คาเอเดะเหวี่ยงมาใส่ พลันแหลกกระจุยไปพร้อมกับศาสตร์วิชาที่เกือบจะทำงานขึ้นมาอยู่แล้ว
มันดูเหมือนกับว่าซากุระลบล้างศาสตร์วิชาทิ้งอยู่ชั่วขณะก็จริงอยู่ ทว่า—-
“ ——อึ้ก!? อ๊าาาาาาาาาา!? ”
“ ซากุระ!? ”
เสียงกรีดร้องพลันแผดก้องออกมาจากปากของซากุระ
“ อะ ไร……เนี่ยย……!? ”
ซากุระเอามือกุมหัว บิดเบี้ยวใบหน้าด้วยท่าทางเหมือนเจ็บแสบทุกข์ทรมานสุดขีด
และในไม่ช้าแสงสว่างก็เลือนหายไปจากดวงตาสองข้างนั้น พร้อมกับที่มีไอพิษอันแปลกประหลาดคนละแบบกับไคอิ สเกล 6 ที่เคยพบเจอมาก่อนหน้าโดยสิ้นเชิง ทะลักพุ่งพวยแผ่ซ่านออกมา
“ [เฮ่อ~ ความแตกซะแล้วเหรอเนี่ย] ”
ที่ดังก้องออกมาจากปากของซากุระที่หน้านิ่งเฉยเมยไปในทันใด ก็คือเสียงลึกลับที่ไม่ได้ใกล้เคียงกับของซากุระเลยซักนิดเดียว
ฟังดูแสนอ่อนหวาน ราวกับกำลังยียวนกวนประสาทกันอยู่ยังไงชอบกล หนำซ้ำยังน่ารักซะจนดูไม่เหมาะกับสถานการณ์เลยด้วยซ้ำ—-เป็นเสียงของหญิงสาวที่ให้ความรู้สึกแบบนั้นแหละ
ยัยนี่มันอะไรกันน่ะ……!?
“ [งั้นก็ช่างมันละ ปล่อยเต็มที่เต็มกำลังเลยแล้วกันเนาะ❤] ”
พอเสียงลึกลับป่าวประกาศอย่างส่งๆออกมาโดยอาศัยปากของซากุระปุ๊บ
“ อ๊าาาาาาาาาาาาาาา!? ”
——ซึ่ดซึ่ด
คงจะได้สติกลับคืนมาแล้วละมั้ง
พลันมีเด็กผู้หญิงตัวเล็กจำนวนมากมายงอกถือกำเนิดออกมาจากร่างกายของซากุระที่แผดเสียงกรีดร้องโหยหวน ทำการดึงดูดสายตาของฉันให้มองไปไม่อาจละ—ทว่า ภาพที่เกิดขึ้นตามมานั่น กลับเป็นอะไรที่น่าตกตะลึงระดับทำให้ฉันที่กลายเป็นโลลิค่อนไปครึ่งตัว ถึงกับต้องละสายตาออกห่างจากเหล่าน้องหนูตัวน้อยๆเลยทีเดียว
——ฟู่ม
มีอะไรบางอย่างสีดำ ทะลักทลายออกมาจากทั่วร่างของซากุระ
และไอ้เจ้าสิ่งนั้นก็ค่อยๆถูกอาบไปด้วยประกายแสงราวกับเป็นโลหะ กระจายห่อหุ้มปกคลุมไปยังทั่วร่างของซากุระ
ร่างนั้นมันดูราวกับเป็น—–
“ โลลิค่อนสเลเยอร์!? ”
นี่มันอะไรกันน่ะ
มันเกิดบ้าอะไรขึ้นวะ
“ จะมัวเหม่อลอยไปถึงเมื่อไหร่น่ะ ฟุรุยะคุง! ”
และผู้ที่ขยับตัวเคลื่อนไหวในทันที ท่ามกลางสถานการณ์ที่ไม่ว่าใครต่างก็ตกตะลึงสับสนนั่น ก็คือคาเอเดะ
คาเอเดะที่ใช้หางอสูรอันฟูฟ่องเหวี่ยงฉันปลิวกระเด็นไปด้านหลัง พลันส่งไฟจิ้งจอกจำนวนมหาศาลแล่นตรงดิ่งอัดเข้าใส่ซากุระ นอกจากนั้นยังสั่งการให้เพื่อนร่วมทีมทั้งสองและเหล่าผู้ปราบมารทำการกางข่ายอาคมอีกด้วย
ทว่า
“ ……ขึก! ”
ทั้งไฟจิ้งจอกของคาเอเดะ ทั้งศาสตร์วิชาระดับสูงจำนวนมากที่ถาโถมเข้าไปเพื่อหมายมั่นจะเหนี่ยวรั้งตัวซากุระเอาไว้
ต่างก็ถูกปัดกระดอนกลับราวมีอะไรคล้ายๆกำแพงกั้นกลางขวางอยู่ ส่งไปไม่ถึงตัวซากุระที่กำลังถูกกลืนหายเข้าไปในชุดเกราะสีดำสนิทเลยแม้แต่นิด ศาสตร์วิชาของคาเอเดะที่ใช้ถล่มจัดการโลลิค่อนสเลเยอร์ได้อย่างราบคาบในเมื่อวานนั่น มาตอนนี้กลับใช้ไม่ได้ผล
“ ทั้งเสียงยียวนกวนประสาทเมื่อกี้ ทั้งพลังอำนาจอันแปลกประหลาดนี้……อย่าบอกนะว่า! ”
สีหน้าของคาเอเดะบิดเบี้ยวไปด้วยความตื่นตระหนกและร้อนรน
“ อูววว คู๊ววว ขะ ของพรรค์นี้……จะใช้พลังของ……ฉันนี่แหละ…… ”
เป็นตอนนั้นเอง ที่ซากุระซึ่งกำลังถูกกลืนหายเข้าไปในชุดเกราะพลันส่งเสียงอุดอู้หลุดออกมา
แม้จะบิดสีหน้าไปด้วยความเจ็บปวด……แต่ยัยนั่นก็กำลังต่อต้านอยู่ ต่อต้านการลุกลามของไคอิอยู่สุดกำลังเลย
“ ……ขึก ”
ฉันทำการปลดกำไลออกโดยเกือบๆตามสัญชาติญาณ
ถ้ามีกำแพงขวางกั้นอยู่รอบซากุระ งั้นก็ลองเจอมือข้างนี้ที่ทำให้ข่ายอาคมของพวกเจ้าหน้าที่ตรวจสอบน้ำแตกกระจายดูหน่อยเป็นไง
ทว่า
“ อูวววว อู้ววววว! ทำ ไมถึงได้……ขนาดนี้……! ต้านไม่ได้เลย……! ”
การต่อต้านของซากุระกลับแทบไม่มีความหมายเลย
“ ไม่……เอานะ…… ”
ในระหว่างช่วงที่รอให้สองมือกับการมองเห็นแปลงสภาพกลายเป็นอมนุษย์นั่น ร่างกายของซากุระก็ยิ่งถูกกลืนหายเข้าไปในชุดเกราะสีดำเรื่อยๆเรื่อยๆ
ส่งตัวฉันพุ่งทะยานออกไปโดยไม่รอให้ผนึกของสองมือคลายก่อนเลยด้วยซ้ำ
“ ซากุระ!! ”
ดวงตาของซากุระที่กำลังจะถูกชุดเกราะสีดำครอบปกคลุมจนมิดหมดนั่น ได้จ้องมองตรงดิ่งมายังฉันนี่——-
สติหลุดไปชั่วพริบตา แล้วพอรู้สึกตัวขึ้นมาอีกที ฟุมิโดริ ซากุระก็ได้ถูกสัมผัสอันไม่เคยพบเจอห่อหุ้มปกคลุมไปทั่วกายแล้ว
ราวกับว่าอะไรบางอย่างสีดำสนิทที่พุ่งพวยเอ่อล้นออกมาจากห้วงลึกสุดของดวงวิญญาณนั่น มันกำลังดูดกลืนทั้งใจและร่างกายของเธอเข้าไปเลยหยั้งงั้นแหละ
แม้จะถูกพลังงานด้านลบที่ไหลหลากเชี่ยวกรากถาโถมคุกคามเข้าใส่จนหัวหมุน แต่ซากุระก็พยายามเค้นสติที่หลงเหลืออยู่เพียงน้อยนิด ทำการหยุดยั้งการรุกรานของไคอิเอาไว้ตามสัญชาติญาณ ทว่า
(นี่มันอะไรน่ะ……ไม่ใช่ไคอิธรรมดาเหรอ……!?)
นั่นมันคือสัมผัสของไคอิที่ต่างไปจากที่ถูกสอนมาพอสมควร
ไคอิก็คือ ปรากฎการณ์เชิงวิญญาณที่เกิดจากอารมณ์ด้านลบอันบิดเบี้ยวของโฮสต์เจ้าของร่าง ฉะนั้นต่อให้จะเป็นไคอิที่ประหลาดและเกรี้ยวกราดเป็นภัยต่อตนรุนแรงขนาดไหน แต่ก็ว่ากันว่าผู้ที่ถูกไคอิกลืนกินเข้าไปนั้นจะเคลิบเคลิ้มรู้สึกดีไปด้วยราวกับประสาทหลอน
โดยส่วนมากแล้วจะเป็นสัมผัสที่เหมือนปล่อยกายปล่อยใจไปกับความโกรธหรือจิตคิดล้างแค้น ถูกอธิบายมาว่าแบบนั้น
แต่ว่า สิ่งที่กำลังถาโถมคุกคามซากุระอยู่ในตอนนี้ มันคือคลื่นอารมณ์สีดำสนิทสุดแสนจะน่าสะอิดสะเอียนเหลือล้นท่วมท้นที่แสนเชี่ยวกราก
ไม่ได้ใกล้เคียงกับคำว่าเคลิบเคลิ้มเลย สัมผัสนี่มันหยั่งกับว่าถูกโยนทิ้งลงไปลอยคออยู่กลางทะเลในยามค่ำงั้นแหละ
เห็นได้ชัดเจนว่าไม่ใช่ไคอิธรรมดาแน่นอน แต่ถึงจะอย่างนั้นก็เถอะ
(จะใช้พลังของฉันนี่แหละ ต้านเอาไว้ให้ได้เลยคอยดู……)
คงจะต้านไคอิเอาไว้โดยสมบูรณ์ไม่ได้หรอก แต่ถ้าถ่วงเวลาทำให้การกลายเป็นไคอิล่าช้าขึ้นได้ซักหน่อย แบบนั้นก็จะช่วยลดหลั่นภาระของพวกคาเอเดะลงได้
คิดเช่นนั้น ก่อนจะเค้นจิตที่ค่อยๆเลือนหายไปทีละนิด ทำการประกอบศาสตร์วิชาแล้วเปิดใช้งานอย่างสุดชีวิต ทว่า
“ อูวววว อู้ววววว! ทำ ไมถึงได้……ขนาดนี้……! ต้านไม่ได้เลย……! ”
การต่อต้านนั่นกลับจบลงอย่างไร้ค่าเปล่าโดยสมบูรณ์
ร่างกายมัน จิตใจมัน ถูกกลืนหายเข้าไปในวังวนสีดำอันเชี่ยวกราก ค่อยๆเปลี่ยนสภาพกลายเป็นอะไรที่ไม่ใช่ตัวเองเรื่อยๆ
เป็นตรงนี้เอง ที่ความหวาดกลัวอันมหาศาลพลันถาโถมเข้ามาใส่หัวใจของซากุระเป็นครั้งแรก
ไคอิที่ปรากฎขึ้นมาโดยไม่ได้รู้ตัวเลยซักนิด หนำซ้ำยังใช้ศาสตร์วิชาใดๆต่อกรไม่ได้เลยซักอย่าง
ภายในวิสัยทัศน์ที่ค่อยๆแคบเล็กลงมากเข้า มองเห็นได้ว่าแม้กระทั่งคุซึโนะฮะ คาเอเดะคนนั้นก็ยังถึงกับคิดหนักไม่กล้าลงไม้ลงมือเข้ามาเลยด้วยซ้ำ
ถ้าถูกไคอินี่กลืนหายเข้าไปทั้งแบบนี้ ตนจะกลายเป็นยังไงนะ
จะกลับมาเป็นคนได้รึเปล่านะ
รู้สึกอีกทีมือก็กำดาบเล่มยาวเอาไว้แล้ว
ไม่ใช่ไคอิสุดอ่อนหัดที่จะเปลี่ยนคนให้กลายเป็นโลลิค่อนหรอก
เจ้านี่น่ะ มันคือไคอิที่เกิดขึ้นมาเพื่อฆ่าคนต่างหาก
“ ไม่……เอานะ…… ”
“ ซากุระ!! ”
ที่ทะยานเข้ามาในการมองเห็นของซากุระ ก็คือเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่กำลังวิ่งตรงดิ่งเข้ามาหาด้วยสีหน้าลนลานสุดชีวิต
ตัดสินใจเด็ดขาดแล้วว่าจะไม่ยอมพึ่งพาเขาอีก ตัดสินใจเด็ดขาดแล้วว่าจะไม่ยอมให้เขาเอาใจอีก ที่ฝึกฝนยกระดับฝีมือตลอดมาก็เพื่อการนั้น
เพราะไม่อยากจะเป็นตัวถ่วงที่ได้แต่ต้องคอยถูกปกป้องอีกต่อไปแล้ว เพราะอยากจะช่วยสู้เป็นกำลังให้กับคนสำคัญบ้าง
แต่ว่า ความกลัวที่เกิดขึ้นเพราะกำลังจะถูกดูดหายเข้าไปในความมืดอันลึกล้ำไร้ก้นบึ้งนั่นมันก็ถาโถมอัดเข้ามา และในระหว่างที่สติเลือนรางใกล้จะดับวูบนั่นเอง ที่ปากของซากุระ พลันปลดปล่อยคำพูดนั่นออกมาเองแบบเกือบๆโดยพลการ
“ ไม่เอานะ……ช่วยด้วย—— ”
“ ——ช่วยด้วยพี่จ๋า! ”
“ ……ขึก ”
ในพริบตาที่ซากุระแผดเสียงร้อง และฉันยืดมือเข้าไปหานั่นเอง
ใบหน้าของซากุระพลันถูกห่อหุ้มโดยเฮลเมทชุดเกราะตะวันตกจนมองไม่เห็น—–พร้อมกับที่ร่างยักษ์มหึมาที่สูงเหนือกว่า 3 เมตรนั่น เลือนหายวับไปพร้อมกับเหล่าเด็กผู้หญิงตัวน้อยที่ยืนทำสีหน้านิ่งเฉยอยู่รอบตัวมันในบัดดล
“ —–แม่งบ้าอะไรกันวะเนี่ยบัดซบเอ๊ย! ”
เจอะกับเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันเข้าไปอย่างซ้ำซ้อน ทำให้ฉันได้แต่สบถออกมาอยู่ท่าเดียว และเป็นในฉับพลันให้หลังนั่นเลย
[แย่แล้วล่ะฟุรุยะคุง!]
มีสายเข้ามาจากโซยะที่น่าจะกำลังอยู่ระหว่างตามหาและคุ้มครองเหล่าผู้คนที่กลายเป็นโลลิค่อน
[จู่ๆก็มีโลลิค่อนเมกเกอร์จำนวนมหาศาลโผล่ขึ้นมาที่ฮารุงาฮาระ……แถมยังมีโลลิค่อนสเลเยอร์โผล่มาอีกต่างหากย่ำแย่สุดๆเลยล่ะ!]
“ ……ขึก! ”
ฉันที่ได้รับการติดต่อจากโซยะ พลันเริ่มที่จะเคลื่อนไหวออกไปด้วยความรู้สึกราวๆกับถูกผลักให้พุ่งทะยาน
ที่ทั้งหัว ทั้งร่างกาย แล้วก็หัวใจมันร้อนรุ่มราวกับว่าจะมอดไหม้เป็นตอตะโกนี่
——ช่วยด้วยพี่จ๋า!
เป็นเพราะน้ำเสียง กับสีหน้าของน้องสาวที่หวาดหวั่นสั่นเทิ้มเพราะความกลัวนั่น มันฝังลึกอยู่ในใจไม่ยอมเลือนหายไปซะทีนั่นเอง
MANGA DISCUSSION