วันรุ่งขึ้น หลังจากที่ได้รับหนังสือเตือนจากทางโรงเรียน
[ช่วงบ่ายๆของวันนี้ มีเรื่องอยากจะคุยพร้อมทำตรวจวินิจฉัยตามวาระไปด้วยน่ะ ถึงพวกเธอจะร่อแร่จวนเจียนถูกปลดจากหน้าที่เต็มทีอยู่แล้ว แต่ก็คงมีงานการต้องสะสางอยู่เหมือนกัน ฉะนั้นบอกช่วงเวลาที่สะดวกกลับมาซะ]
พอเริ่มคาบโฮมรูมช่วงเช้า ก็พลันมีเมลที่บอกกล่าวเช่นนั้นถูกส่งมาจากคุซึโนะฮะ คาเอเดะ เพื่อนสมัยเด็กซึ่งเป็นรุ่นพี่ฉันหนึ่งปี
หลังจากที่เด็กม.ปลายของโรงเรียนปราบมารทำการตั้งทีมภายในโรงเรียนได้เรียบร้อย ก็มีความจำเป็นจะต้องรับคำร้องออกไปทำงานนอกโรงเรียนหรอก แต่การทำงานนอกโรงเรียนนี่มันจะถือว่าเป็นคาบเรียนปฎิบัติที่จะเริ่มต้นตั้งแต่บ่ายเป็นต้นไปน่ะนะ ฉะนั้นในช่วงเช้าก็เลยจะมีสอนคาบเรียนวิชาปกติแล้วก็คาบเล็คเชอร์ทฤษฎีศาสตร์วิชา ช่วงเช้าก็มีคาบโฮมรูมเหมือนกับโรงเรียนปกติทั่วไปด้วย
เพราะงั้นแหละ ฉันก็เลยกะจะใช้จังหวะก่อนที่อาจารย์จะมาถึงนี่ ส่งเมลกลับไปให้ยัยเพื่อนสมัยเด็กที่คอยดูแลผนึกของเทคโนเบรคเกอร์อยู่เสมอเรื่อยมาหรอก ทว่า
“ เฮ้ยฟุรุยะ เอ็งรู้ป่าว? เหมือนว่าวันนี้จะมีนักเรียนย้ายใหม่เข้ามาในห้องนี้แหละ แถมยังเป็นเด็กผู้หญิงซะด้วยนะ ”
ไอ้เจ้าเด็กผู้ชายที่นั่งอยู่โต๊ะข้างๆมันดันเข้ามาชวนคุยด้วยท่าทางระริกระรี้เข้าก่อนซะนี่ ไอ้เจ้านี่มันชื่อโคบายาชิ เป็นผู้ชายที่โดนเนตรมารฝันของโซยะแฉว่ามีเฟติชพิลึกพิลั่นในนามน้ำดื่มจากเต้าแม่ 100% คนนั้นแหละ
ตั้งแต่เหตุการณ์สาวนมหลีกเป็นต้นมา เจ้าโคบายาชิก็เอาแต่ตามถามไถ่ใส่ไอ้ฉันว่า “ไม่ใช่ว่าเอ็งจะโดนไล่ออกจากโรงเรียนเพราะไปลวนลามไคอิในเมืองชิโนโนเมะหรอกเรอะ” อยู่พักนึงก็จริง แต่เนื่องจากตอนนี้ข่าวลือเริ่มจะซาลงไป มันก็เลยกลับมาคุยเล่นกับฉันได้เหมือนแต่ก่อนแล้วน่ะนะ
“ เด็กนักเรียนย้ายเข้าในช่วงนี้นี่หายากเนอะว่าป่ะ? นี่มันก็ผ่านช่วงตั้งทีมมาแล้วด้วย ”
“ อะ เออ ก็จริงอยู่นะ ”
ฉันตอบกลับโคบายาชิมันไปอย่างส่งเดช พลางสัมผัสได้ถึงลางสังหรณ์ไม่สู้ดีที่กำลังถาโถมเข้ามารุมเร้า เออยัยนั่นบอกว่ามีโอกาสจะได้ย้ายเข้ามาในโรงเรียนปราบมารสูงก็จริงหรอก แต่ตั้งแต่นั้นมาก็หายไปแบบไม่มีข่าวคราวใดๆเลยไง ให้ว่ากันแต่แรกแล้ว ขืนให้ฉันที่ทำการปราบผีแบบนั้นกับยัยนั่นมาอยู่ร่วมห้องเดียวกันมันก็น่าจะมีปัญหาหลายๆอย่าง——เป็นในฉับพลันที่ฉันครุ่นคิดหนักจนลืมตอบเมลกลับไปสนิทอยู่นั่นเอง
“ เอ้าๆกลับไปนั่งที่กันได้แล้ว ออกจะกะทันหันหน่อยก็จริง แต่จะมีนักเรียนใหม่ย้ายเข้ามาอยู่ในห้อง D ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปล่ะ ”
อาจารย์ประจำชั้นห้อง D กล่าวออกมาเช่นนั้นในทันทีที่เข้ามาในห้องเรียน แล้วจากนั้นจึงมีเด็กผู้หญิงคนนึงที่สวมชุดนักเรียนของโรงเรียนปราบมารเดินตามหลังเข้ามาในห้อง
และที่แผดก้องดังกังวานตามมาให้หลัง ก็คือเสียงร้องอย่างยินดีของไอ้พวกผู้ชายที่มีหัวหอกคือโคบายาชิ ภายในนั้นก็มีคาราสึมะกำลังร้องลั่น “แม่หนูหน่มน้ม!? แม่หนูหน่มน้มไม่ใช่หรือนั่น!” อยู่ด้วยท่าทางที่โคตรจะตื่นเต้นกระปรี้กระเปร่ากว่าใครเขาด้วย
พอแหงนหน้าที่เกือบๆจะปลงแล้วขึ้นมา—–ก็พบว่าลางสังหรณ์ไม่สู้ดีมันถูกเผงอย่างงดงามเลยเชียว
“ นางุโมะ มุตสึมินะ จริงๆแล้วมีเหตุผลหลายอย่างก็เลยเป็นมือสมัครเล่นไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลยเกี่ยวกับผู้ปราบมารเนี่ย อาจจะต้องขอรบกวนเป็นภาระเยอะอยู่ก็จริงหรอก…….แต่เอาเป็นว่า ตั้งแต่วันนี้ไปก็ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยล่ะ ”
เห็นไอ้พวกเด็กผู้ชายมันเฮลั่นแล้วคงจะรู้สึกประหม่าขึ้นมานิดๆละมั้ง นางุโมะก็เลยก้มหัวให้ด้วยท่าทางหวั่นใจเล็กๆ โฉมหน้าอันผ่าเผยเข้ากันได้ดีกับผมทรงหางม้า กับร่างกายที่แค่มองจากการก้มหัวเคารพเพียงปราดเดียวก็รู้ได้เลยว่าถูกขัดเกลาฝึกฝนมาอย่างดี
สาวนมหลีก—-ไม่สิ หญิงสาวผู้เป็นโฮสต์ของสาวนมหลีกที่พวกเราปราบลงไปเมื่อสองสัปดาห์ก่อน กำลังยืนอยู่หน้าโต๊ะอาจารย์ด้วยท่าทางเขินอาย แม้จะเล็กลงมายิ่งกว่าในตอนที่ฉันเข้าโรงบาลนิดนึงแล้ว แต่ก็ดูท่าว่าจะยังไม่เลิกใส่ฟองน้ำเสริมอึ๋มให้เห็นว่านมใหญ่อีกแฮะ
“ โอววว ในที่สุดห้องนี้ก็มีสาวงามสติดีๆกับเค้าซะที…….แถมยังนมใหญ่ด้วย ”
“ ขอบคุณสวรรรค์……ขอบคุณสวรรค์……… ”
ไอ้พวกเด็กผู้ชายมันถึงกับแหงนมองท้องฟ้าหยั่งกับจะกล่าวขอบคุณต่อพระเจ้าเลยเชียวนั่น ที่แหละน้าที่เค้าว่าบางเรื่องไม่รู้ซะจะสบายกว่า
“ เฮ้ย ไหงถึงทำหน้านิ่งแบบนั้นเล่าฟุรุยะ เห็นมิซากิจังกับท่านคุซึโนะฮะบ่อยจัดจนชินชากับสาวสวยแล้วเหรอไงฟะไอ้บรรลัยนี่ ”
เจ้าน้ำดื่มจากเต้าแม่ 100% โคบายาชิมันว่าพร้อมกระทุ้งไหล่ฉันเบาๆ แต่เหมือนว่าการด่าฉันมั่วซั่วมันจะไม่สำคัญเท่าสาวสวยที่ย้ายเข้ามาใหม่ สีหน้าของมันก็เลยยิ้มเล็กยิ้มใหญ่ดูไม่ได้เรื่องเอาซะเลยนั่น
“ ไม่ใช่แบบนั้นซะหน่อยเฟ้ย ”
เป็นในฉับพลันที่ฉันบอกปัดคำหาเรื่องของโคบายาชินั่นเลย
พลั่ก!
“ เหวย เผลอไปอีกแล้ว! …….ขอโทษนะ พอดียังควบคุมได้ไม่คล่องเท่าไหร่ ”
เกิดเสียงสนั่นก้อง พร้อมกับที่ไวท์บอร์ดหน้าชั้นเรียนทรุดร่วงลงมา แถมพอนางุโมะที่กำลังเขียนชื่อตัวเองอยู่รีบกระชากแขนออกห่างอย่างแตกตื่นปุ๊บ คราวนี้แหละเปรี้ยงง! ไวท์บอร์ดมันโดนกระชากหลุดออกมาจากกำแพงเลยนั่น
““““ ………….. ””””
ห้องเรียนที่เฮฮาลั่นกับการที่มีสาวสวยย้ายเข้าใหม่มาตลอดจนถึงเมื่อกี้พลันเงียบเป็นเป่าสาก
“ อ่า….ก็ไม่จำเป็นต้องปกปิดด้วยฉะนั้นจะขออธิบายไว้ก่อนเลยแล้วกัน เธอคนนี้คือคนที่เคยเป็นโฮสต์ของไคอิ A แห่งเมืองชิโนโนเมะน่ะ เนื่องจากมีไคอิตกค้างหลงเหลืออยู่มาก ก็เลยถูกส่งตัวมาให้โรงเรียนเรารับดูแล อ่า ก็คิดซะว่าอาฟเตอร์แคร์ประเภทนี้มันถือเป็นส่วนหนึ่งของงานแล้วช่วยสนิทสนมกับเค้าทีแล้วกันนะ เค้าจะมาอาศัยอยู่ในหอพักหญิงของที่นี่ด้วย ฉะนั้นฝากเด็กผู้หญิงช่วยดูแลในด้านนั้นให้ด้วยล่ะ ”
อุปกรณ์ห้องเรียนพังยับเยินเลยแท้ๆ แต่อาจารย์กลับพูดแนะนำตัวนางุโมะต่อราวกับไม่ได้สนใจเฉย
พวกนักเรียนก็ไม่แพ้กัน แม้พอเห็นแรงช้างสารของนางุโมะเข้าไปแล้วจะอึ้งตะลึงงันกันอยู่พักนึง แต่ก็ราวกับว่าสิ่งที่เห็นไปมันเป็นเรื่องปกติสามัญที่เจออยู่ทุกวัน ความสนใจนั่นพลันถูกเบี่ยงเบนไปยังจุดอื่นในทันใด
“ เฮ้ย ไคอิแห่งเมืองชิโนโนเมะนี่มัน……. ”
“ เออ มันคือตัวที่ฟุรุยะฉวยโอกาสตอนที่เขากำลังปราบเข้าไปลวนลามนั่นนี่ ”
“ ห้ะ? งั้นถ้าข่าวลือเป็นจริง แสดงว่าฟุรุยะมันขยี้หัวนมของสาวสวยนมใหญ่คนนั้น…..? ”
ซุบซิบซุบซิบซุบซิบ……สัมผัสถึงแววตาอันร้อนแรงได้จากทั่วทุกมุมห้องเรียน โคบายาชิเขวี้ยงขี้ยางลบอัดใส่ไอ้ฉัน ส่วนคาราสึมะที่ถูกเด็กผู้ชายใกล้ๆถามไถ่ความจริงก็ดันปากพล่อยโพล่ง “จริงไม่ติงนังเลยเชียวแหม่ช่างน่าอิจฉาเสียนี่กระไร!” อีกต่างหาก
เฮ้ย……เดี๋ยวเดี๋ยวเดี๋ยวเดี๋ยว!
ข่าวลือเรื่องที่ว่าฉันเป็นผู้ปราบมารลวนลามหญิงอุตส่าห์ซาลงไปแล้วแท้ๆ แต่แบบนี้เดี๋ยวมันก็กลับมารีรีนใหม่กันพอดีสิวะ!
“ ถ้าอย่างนั้นก็ นางุโมะไปนั่งตรงนั้นนะ ”
บัดซบ ไอ้คนที่ทำเรื่องให้นางุโมะย้ายเข้ามาอยู่ในห้องเดียวกับฉันนี่มันเป็นใครกันน่ะ……ในระหว่างที่ฉันเศร้าหมองอยู่แบบนั้น ที่นั่งของนางุโมะก็เป็นอันถูกกำหนดเรียบร้อย โชคยังดีหน่อยแฮะที่นั่งอยู่ห่างจากฉัน ถึงจะทำให้สบายใจไม่ค่อยได้เท่าไหร่แต่ก็ดีกว่าโดนจับให้นั่งข้างๆละนะ เนี่ยฉันคิดโล่งใจอยู่แบบนั้นหรอกเว้ย แต่
“ โย่ ห่างหน้าห่างตากันไปนานเลยนะเว้ยฟุรุยะ ”
“ …………………………โอ้ว ไม่เจอกันนานนะ ”
ไม่รู้ทำไมยัยนางุโมะถึงอ้อมโลกมาอยู่ข้างหน้าฉันเลย แถมยังส่งเสียงทักอย่างสนิทสนมเป็นกันเองอีกตะหาก
หยุดทีว้อย! ช่วยรู้สึกตัวทีเหอะนางุโมะ! ถึงเรื่องที่แววตาจากทั่วห้องเรียนมันกำลังทวีความรุนแรงจิ้มแทงฝังลึกเข้ามาในร่างฉันนี่น่ะ!
“ อะไรเล่าทำตัวห่างเหินไปได้ เพราะประหม่าก็เลยอุตส่าห์ขอย้ายมาอยู่ห้องเดียวกับฟุรุยะแท้ๆนะ ”
เป็นตัวเธอเองหรอกเรอะเฮ้ย! คนที่บังอาจทำเรื่องให้เธอย้ายเข้ามาอยู่ในห้องเดียวกับฉันเนี่ย!
เอ้ยแต่ ถึงจะมีพลังช้างสาร แต่นางุโมะที่มีความรู้เกี่ยวกับผู้ปราบมารเป็น 0 จะถูกส่งมาอยู่ในห้อง D มันก็สมควรแล้วหรอกนะ สมควรแล้วอยู่หรอกเว้ย!
“ อะ เอาเหอะน่า รีบๆไปนั่งที่ได้แล้วเฟ้ย นี่มันยังอยู่ระหว่างคาบโฮมรูมอยู่เลยนะ ”
ฉันเบือนหน้าหนีจากนางุโมะ พร้อมกับสะบัดมือชิ๊ชิ๊ราวกับไล่ไสส่ง แต่ในฉับพลันให้หลัง
“ ฮิ๊❤!? ”
นางุโมะร้องเสียงแปลกๆพร้อมกับสะดุ้งตัวลอยเฉย
“ เอ๊ะ? เอิ่ม นางุโมะ? ”
ปะ เป็นอะไรน่ะจู่ๆก็ร้องเฉย แค่นิ้วฉันมันพลาดไปแตะโดนต้นแขนเธอนิดเดียวเองไม่ใช่เรอะ?
พอฉันหันมองไปทางนางุโมะอย่างตกใจ ก็พบว่าคุณหล่อนนั่นกำลังหน้าแดงแจ๋เลยทีเดียว แถมยังใช้ดวงตาที่เคลิ้มแฝงไว้ด้วยความเร่าร้อนอย่างประหลาด จับจ้องมองตาไม่กระพริบลงมายังมือสองข้างของฉันที่ถูกผนึกเอาไว้ด้วยกำไลติดกางเขนเงินอีกต่างหาก
แค่แววตาที่กระหน่ำเทลงมาหยั่งกับโลมเลียไม่พอ ขาอ่อนที่ดูแข็งแรงสุขภาพดีนั่นยังถูไถกันอยู่ไม่สุขราวกับหวนระลึกถึงอะไรบางอย่างได้อีก
“ นะ นั่นสิเนอะ ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนหรอก ยังมีเวลาอยู่เยอะแยะเหลือเฟือเลยนี่เนาะ…… ”
และพอพึมพำอะไรที่ดูมีความหมายลึกซึ้งเช่นนั้นแล้ว นางุโมะก็เดินไปยังที่นั่งตัวเองอย่างตุปัดตุเป๋ว่ะเฮ้ย
……..มันอะไรกันหว่า อีแบบนี้มันชักจะเกินขีดสังหรณ์ใจไม่ดีธรรมดาๆแล้วนะเนี่ย
“ ……เฮ้ย ฟุรุยะ ”
พอฉันสัมผัสถึงอะไรไม่ชอบมาพากลได้จากนางุโมะแล้วกำลังแข็งทื่ออยู่ ไอ้เจ้าน้ำดื่มจากเต้าแม่ 100% โคบายาชิมันก็แปะมือลงเหนือไหล่ฉันซะงั้น เป็นอะไรวะโคบายาชิ ไม่มีใครสั่งสอนเอ็งเรอะว่าเวลาจะแตะต้องตัวใครห้ามเอาหมุดปลายแหลมสอดเอาไว้อยู่ตรงฝ่ามือน่ะ?
“ จะขอเตือนในฐานะเพื่อนก็แล้วกัน รีบไปซื้อป้ายสะท้อนคำสาปมาซะจะดีกว่านะเว้ย ”
“ ทำเป็นพูดเท่ไป เอ็งนั่นแหละมั้งคนที่จะสาปเล่นของใส่ฉันคนแรกสุดเลยน่ะ? ”
“ ฮะฮะฮะ ”
ตามันไม่ได้หัวเราะด้วยเลยซักนิดเดียวว่ะ
ทนอยู่ในห้องเรียนที่ราวกับถูกล้อมรอบโดยหนามแหลมมาได้จนหมดช่วงเช้า แล้วพอกริ่งหมดคาบเรียนดังขึ้นปุ๊บฉันก็วางแผนกะจะเผ่นแน่บออกจากห้องเรียนในทันใด ทว่าเป็นในตอนนั้นเอง
“ เดี๋ยวก่อนฟุรุยะ ”
ผู้ที่เข้าขัดขวางการหลบหนีของฉันกลับเป็นคนที่เหนือความคาดหมาย—-อาจารย์ประจำชั้นห้อง D
แถมอาจารย์แกยังถึงกับใช้ยันต์ เหนี่ยวรัดตัวฉันให้ติดอยู่กับเก้าอี้เลยอีกต่างหากว้อย
“““ อาจารย์! ขอบพระคุณมากคร้าบบบบบบ! ”””
ไอ้พวกเด็กผู้ชายห้อง D ที่รอคอยให้คาบเรียนจบลงแบบใจจดจ่อเพื่อที่จะได้จับฉันมาเฆี่ยนทรมานมันลุกพรวดขึ้นมาก้มหัวให้อาจารย์กันอย่างพร้อมเพรียง พวกเอ็งไม่มีงานทำในช่วงบ่ายเหรอไงวะเฮ้ย
“ อ่าไม่ใช่แบบนั้นสิ มีเรื่องที่อยากจะขอร้องกับฟุรุยะนิดหน่อยน่ะนะ ”
ว่าแล้วอาจารย์ก็ปายันต์อัดใส่ไอ้พวกเด็กผู้ชายทุกคนที่ลุกพรวดขึ้นอย่างกะทันหัน บังคับผนึกการเคลื่อนไหวของพวกมันเอาไว้ สมกับเป็นมืออาชีพจริงๆแฮะ ทะลวงผ่านศาสตร์ป้องกันของนักเรียนห้อง D ได้หยั่งกับแหวกผ่านอากาศเลย แม้ไอ้พวกเด็กผู้ชายมันจะร้องเอ็ดตะโรว่า “บังอาจเหยียบย่ำทำร้ายความรู้สึกของนักเรียนได้ไง!” “ไอ้ครูบาอาจารย์สวะ!” กันยกใหญ่ แต่อาจารย์ก็เมินเฉยโดยสมบูรณ์
“ เอิ่ม….แล้วเอ่อคือว่า เรื่องที่อยากขอร้องนี่คือ? ”
พอฉันเมินเสียงโวยวายของไอ้พวกเด็กผู้ชายแล้วถามออกไป อาจารย์ก็ชำเลืองสายตาไปทางนางุโมะ ก่อนจะ
“ ก็นั่นไง อยากให้เธอไปเรียนเสริมเป็นเพื่อนนางุโมะหน่อยน่ะ ”
……….ห้ะ? เรียนเสริม?
“ ถึงจะเน้นหลักอยู่ที่การอาฟเตอร์แคร์เรื่องไคอิตกค้าง แต่เธอคนนั้นก็กลายมาเป็นนักเรียนของเราเรียบร้อยแล้วนี่นะ จำเป็นต้องสอนให้มีความรู้ในฐานะผู้ปราบมารเอาไว้ด้วย แล้วทีนี้ก็เลยกะจะให้นางุโมะใช้เวลาคาบปฎิบัติช่วงบ่ายมาเรียนเสริมน่ะนะ เธอเองก็ไปเรียนเป็นเพื่อนด้วยซะ เอาแค่ในช่วงที่ว่างๆไม่มีงานก็ได้ ”
เอ้ยๆๆๆ
“ ทำไมต้องเป็นผมด้วยอะครับ ”
ตัวฉันที่สัมผัสได้ถึงประกายประหลาดได้จากดวงตาของนางุโมะ พลันแสดงเจตนาต่อต้านออกมาโดยเกือบๆตามสัญชาติญาณ
“ ทำไมเรอะ ก็เพราะนอกจากเธอจะผลการเรียนเป็นที่โหล่แล้ว ทีมยังร่อแร่ใกล้จะถูกเพิกถอนใบอนุญาตชั่วคราวอยู่แล้วด้วยไม่ใช่รึไง ถือเป็นโอกาสไปให้เค้าช่วยติวให้หนักซะด้วยเลย เธอกับนางุโมะก็รู้จักคุ้นหน้ากันเพราะเรื่องในเมืองชิโนโนเมะด้วยนี่นะ คงเหมาะจะเป็นคนคอยแนะนำอะไรต่างๆนาๆมากที่สุดแล้ว ”
ขุ่ก ยิงเหตุผลที่โต้แย้งโคตรยากมารัวๆเลย! ……..ไม่ดิ เดี๋ยวก่อนนะ?
“ ถ้างั้นก็ไม่เห็นต้องเป็นผมเลย คาราสึมะก็ได้เหมือนกันไม่ใช่เรอะครับ! ถ้าเป็นเจ้านั่นละก็ต้องยินดีพร้อมยอมไปด้วย—– ”
แต่พอมองไปยังคาราสึมะที่สงบเสงี่ยมแปลกๆ ทั้งที่นางุโมะย้ายเข้ามาเรียนด้วยแล้วปุ๊บ
“ ไม่ได้นะ ไม่ได้เชียวคาราสึมะ อาโอย…..แม่หนูมุตสึมิไม่ใช่ไคอิอีกต่อไปแล้ว……จะใช้เชือกแสงเดือดพล่านพันธนาการหรือโคลนแสงนรกผูกพันไม่ได้……ขุ่ก แต่องคชาติในใจมันกลับหวนนึกถึงแล้วยืนหยัดตั้งโด่ชูชันเฉียดฟ้า…..อุกก ”
คาราสึมะมันกำลังหอบหายใจแฮ่กๆพยายามสะกดตัวเองอยู่สุดฤทธิ์สุดเดช อีแบบนั้นมันไม่ไหวอีกต่อไปแล้วล่ะ ในฐานะมนุษย์อะนะ
“ ก็ตามนั้นแหละเว้ย ฝากตัวด้วยนะฟุรุยะ ”
นางุโมะที่ไม่รู้ว่าโผล่มาอยู่ข้างๆตั้งแต่เมื่อไหร่พลันส่งรอยยิ้มอันมีชีวิตชีวาให้
“ ………..โอ้ว ”
คงต้องรอให้เรียนเสริมจบก่อนสินะถึงจะไปหาคาเอเดะได้…….เป็นในระหว่างที่ฉันซึ่งถูกปลดปล่อยจากยันต์กำลังส่งเมลกลับไปให้คาเอเดะอย่างปลงๆนั่นเอง
“ แล้วก็พวกแก ”
นางุโมะพลันหมุนตัว หันไปเผชิญหน้ากับพวกเด็กผู้ชายห้อง D ที่กำลังส่งแรงกดดันอย่างเงียบเชียบตรงเข้ามาใส่ไอ้ฉันนี่
ยืดตัวตรงเอามือแตะสะเอว ก่อนจะกล่าวออกมาด้วยสีหน้าอันผ่าเผยระดับไม่คิดเลยว่าจะเพิ่งย้ายเข้ามาเรียนได้วันนี้วันแรก
“ อย่าถามไถ่อะไรไม่เข้าเรื่องดิวะ ฉันน่ะได้ฟุรุยะช่วยเอาไว้หลายๆอย่างตอนอยู่โรงเรียนเก่า ฉะนั้นมันก็ต้องดูสนิทกันมากกว่าคนอื่นๆแหงอยู่แล้ว ไม่ได้คิดจะฮุบฟุรุยะเอาไว้เป็นของตัวเองคนเดียวซะหน่อย ถ้าอยากจะสนิทด้วยก็มาพูดกันดีๆสิ ”
ถึงจะคลาดเคลื่อนยังไงชอบกลอยู่นิดๆ แต่ดูเหมือนนางุโมะจะช่วยพูดเสริมช่วยเหลือฉันที่กำลังถูกเพ่งจิตสังหารใส่อยู่แฮะ พอถูกนางุโมะพูดอัดใส่แบบนั้นปุ๊บ ไอ้เจ้าพวกเด็กผู้ชายมันก็ถึงกับติดสตันต์ ก่อนจะ
“ อาเจ้……. ”
“ ช่วยเหยียบสั่งสอนผมให้หลาบจำทีคับ……. ”
“ แต่ฉันอยากโดนนมนั่นตบสั่งสอนให้หลาบจำมากกว่า ”
“ นมตบสั่งสอนได้ด้วยเหรอวะ? ”
โดนชนะใจในเปรี้ยงเดียวเลยนั่น
………เอ้อ ในสายงานผู้ปราบมารนี่ มันต้องปะทะเข้าเผชิญกับกลุ่มก้อนจิตมุ่งร้ายอย่างวิญญาณร้ายหรือไคอิอยู่เสมอเลยนี่น่ะ ไม่แน่แล้วถ้าเป็นไอ้พวกเมากาวจิตหรรษานิดๆหน่อยๆไว้ซะมันอาจจะดีกว่าก็ได้ละมั้ง
“ ถ้างั้นก็ ตั้งแต่วันนี้ไปช่วยตามติดมาให้ชิดๆทีนะ รุ่นพี่ฟุรุยะ ”
………อื~ม ที่สัมผัสถึงอะไรไม่ชอบมาพากลได้จากตาของนางุโมะในช่วงโฮมรูมนั่น เป็นแค่ฉันเข้าใจผิดไปเองหรอกเรอะ?
เห็นนางุโมะที่ยิ้มร่าอย่างเบิกบานแล้ว ฉันก็คิดแบบนั้นขึ้นมาโดยพลัน
MANGA DISCUSSION