กรมตรวจสอบแห่งสมาคมผู้ปราบมาร
นั่นก็คือฟันเฟือนหนึ่งภายในสมาคมผู้ปราบมารซึ่งมีหน้าที่เฝ้าปกป้องผู้คนจากภัยพิบัติเชิงวิญญาณ—–รวมทั้งยังเป็นหน่วยงานพิเศษภายในองค์กรที่ถูกหวาดหวั่นยำเกรงโดยเหล่าผู้ปราบมาร
เพราะว่าหน้าที่ภารกิจหลักของพวกเขา คือการเฝ้าจับตา และคอยกำกับเหล่าผู้มีพลังวิญญาณภายในประเทศนั่นเอง โดยเฉพาะผู้ปราบมารที่สังกัดอยู่กับสมาคมนี่ก็จะยิ่งตกเป็นเป้าหนัก
ผู้ที่ใช้พลังพิเศษที่ได้รับติดตัวมาไปในทางที่ผิด, ผู้ที่มีเส้นสายติดต่ออยู่กับตัวตนเชิงวิญญาณระดับสูงหรือองค์กรอาชญากรรมที่คิดร้ายต่อประชาชน, ผู้ที่ใช้งานพลังความสามารถซึ่งผิดจารีตศีลธรรมอันดี ——–เหล่าผู้ใช้พลังวิญญาณอย่างไม่สมควรนาๆนับประเภทจะถูกตามควบคุมให้อยู่หมัด และในบางกรณีแล้ว อาจจะถูกกำจัดทิ้งก่อนที่สังคมจะทันได้ทราบถึงการกระทำอันแสนน่าละอายนั่นเลยด้วยซ้ำ
กล่าวคือเป็นองค์กรชำระล้าง ซึ่งมีหน้าที่ปกป้องรักษากฎระเบียบและภาพลักษณ์ของสมาคมผู้ปราบมารนั่นเอง
เนื่องจากมีจุดยืนเป็นองค์กรชำระล้าง หน่วยงานนี้จึงถูกพิจารณาว่ามีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อแนวทางการเมืองภายในองค์กร ทำให้มีผู้สืบสายเลือดจาก <<ตระกูลเก่าทั้ง 9>> ซึ่งมีอิทธิพลอำนาจเหนือวงการผู้ปราบมารของญี่ปุ่นอย่างมหาศาล เข้ามาประจำการอยู่ภายในหน่วยงานเป็นสัดส่วนที่มากพอสมควรอยู่เสมอมา
เพราะมีภูมิหลังเช่นนี้ ระดับความสามารถโดยรวมของสมาชิกภายในหน่วยงานจึงสูงมาก กลายเป็นเหตุผลให้กรมตรวจสอบถูกหวาดกลัวอยู่โดยผู้ปราบมารจำนวนมาก
“ ขออนุญาตนะคะ อาจารย์ ”
กองภูเขาเอกสารที่ทำท่าจะถล่มลงมาได้อยู่ทุกเมื่อ กำแพงและเพดานที่เปรอะเปื้อนสกปรก
เครื่องอาคมที่ถูกติดป้ายกำกับว่า [หลักฐาน] และ [ของกลาง] กองกระจัดกระจายอยู่เหนือพื้นเต็มไปหมด ปลดปล่อยแสงบรรยากาศที่ชวนวิงเวียนออกมา
และผู้ที่ก้าวเท้าเข้ามาภายในห้องอธิบดีกรมตรวจสอบที่รกรุกรังไปหมดแห่งนั้น ก็คือหญิงสาวผู้มัดผมไปด้านข้างและห่อหุ้มกายไว้ด้วยบรรยากาศที่เปี่ยมล้นไปด้วยความมั่นใจ อายุน่าจะราวซัก 15-16 ปีได้ แม้ตามเดิมแล้วจะมีอายุอานามอยู่ในวัยที่สมควรได้รับการฝึกฝนอยู่ภายในโรงเรียน แต่ ณ บริเวณอกของเธอคนนั้นก็มีตราเครื่องหมายที่บ่งชี้ว่าเป็นสมาชิกอย่างเป็นทางการของกรมตรวจสอบเฉิดฉายแวววาวอยู่
[โอ้~ว มาแล้วเรอะ เอ้อแล้วก็ บอกอยู่ไม่ใช่เรอะว่าถ้าอยู่ที่นี่ให้เรียกว่าอธิบดีอะ]
ผู้ที่ต้อนรับหญิงสาวด้วยน้ำเสียงอันแสนเฉื่อยแฉะ ก็คือสตรีร่างโปรงแสงซึ่งเป็นเจ้าของห้องแห่งนี้
“ ขอโทษค่ะ พอดียังไม่ค่อยชินปาก ……..แล้ว ที่บอกว่ามีงานอยากจะฝากฝังให้กับฉันนี่คือ ”
[อ่อ เกี่ยวกับเรื่องนั้นอะนะ]
ต่างจากหญิงสาวผู้พรั่งพรูเปี่ยมล้นไปด้วยความมีชีวิตชีวา อธิบดีแห่งกรมตรวจสอบยกนิ้วขึ้นมาสะบัดด้วยดวงตาที่ราวกับเป็นปลาตาย เท่านั้นแหละพลันมีกระดาษก๊อปปี้จำนวนนึงล่องลอยขึ้นมาจากกองภูเขาเอกสาร ปลิวเข้ามาอยู่ภายในมือหญิงสาวในทันใด
[อยากขอให้เธอช่วยเฝ้าจับตาดูไอ้เจ้านี่หน่อย]
“ ………..ฮึก ”
ในฉับพลันที่เห็นเอกสารซึ่งมีภาพถ่ายและประวัติโดยคร่าวของเป้าหมายที่ต้องจับตามองถูกปรินต์ออกมา ใบหน้าของหญิงสาวก็พลันแข็งเกร็งขึ้นในบัดดล เป็นสีหน้าที่แฝงไว้ด้วยความตกตะลึง สับสน และดูจะสัมผัสได้ถึงความโกรธเกรี้ยวอย่างไรชอบกล
หลังจากเพ่งสายตาเฝ้าสังเกตการเปลี่ยนแปลงเช่นนั้นของหญิงสาว อธิบดีกรมตรวจสอบก็พลันอ้าปากขึ้นพูดราวกับเสริมรายละเอียดของเป้าหมายที่ต้องจับตามอง
[เธอก็น่าจะได้ยินมาบ้างเหมือนกันไม่ใช่เรอะ ไอ้เรื่องที่ทีมเด็กนักเรียนตัวลูกเจี๊ยบปราบ สเกล 6 ลงได้นั่น]
“ ……….ค่ะ ”
ไคอิ A แห่งเมืองชิโนโนเมะ สมญานาม : สาวนมหลีก
นั่นล่ะคือไคอิ สเกล 6 ที่ปรากฎตัวขึ้นมาเมื่อราวหนึ่งอาทิตย์ก่อน
แม้จะเป็นไคอิที่เกิดขึ้นด้วยเหตุผลฟังดูปัญญานิ่มอย่างยึดติดคิดมากกับปมนมเล็กจนคลั่งลอบทำร้ายผู้คน แต่ก็ว่ากันว่ามันเป็นตัวตนสุดอันตรายที่ครองอำนาจระดับทำให้ทีมมืออาชีพมากประสบการณ์ย่อยยับได้เลยทีเดียว
จะต้องมีผู้บาดเจ็บล้มตายมากเท่าไหร่เลยเชียวนะ กว่าที่กำลังรบสูงสุดที่สมาคมผู้ปราบมารมีอยู่ในครอบครอง—12 เซียนอัมพรจะรุดมาถึง…..เป็นในจังหวะที่บุคคลในสถานที่จริงเตรียมใจยอมรับหายนะเช่นนั้นนั่นเอง……ที่สถานการณ์อันมืดแปดด้านนั่น ถูกโค่นล้มทำลายลงด้วยฝีมือของทีมเด็กนักเรียนไร้ชื่อที่ยังไม่มีกระทั่งใบอนุญาตชั่วคราวด้วยซ้ำ
และเป้าหมายที่ต้องจับตามองในคราวนี้ ก็คือตัวการที่ทำการปราบ สเกล 6 ลงได้คนนั้นนั่นเลย
[ไม่รู้รายละเอียดลึกๆของความสามารถก็จริง แต่จะต้องเป็นพลังที่ปราบ สเกล 6 ลงได้ในเปรี้ยงเดียวอย่างแน่นอนเลย….สเกล 6 ที่แม้กระทั่ง พวกฉัน ก็อาจจะต้องถึงกับหืดขึ้นคอนั่น แค่มีพลังอันแสนยิ่งใหญ่เกรียงไกรแบบนั้นโผล่มาแบบกะทันหันก็น่ากลัวมากพอแล้วแท้ๆ…..แต่ประเด็นมันดันไม่ได้อยู่ตรงนั้นนี่ซี้]
“ ………แบบนี้นี่เอง ข่าวลือที่ชวนให้สงสัยว่าหูเพี้ยนไปเองรึเปล่านั่นมันเป็นเรื่องจริงงั้นสินะคะ ”
พอเห็นว่าอธิบดีกรมตรวจสอบพูดจาอ้ำๆอึ้งๆอย่างเห็นได้ยากแล้ว หญิงสาวก็ขมวดคิ้วราวกับไม่สบอารมณ์จากเบื้องลึกของหัวใจ
เรื่องราวไม่ได้จบตรงที่เด็กนักเรียนปราบ 6 ลงได้แค่นั้น มันยังมีเรื่องราวต่อจากนั้นอีก
เหมือนว่าความสามารถไล่ผีที่โค่น สเกล 6 ลงได้นั่น มันจะเป็นอะไรที่สุดจะทะเล้นสัปดนเป็นอย่างยิ่งเลยหรือยังไงนี่
เรื่องราวเท่าที่หญิงสาวได้รับฟังก็คือ เหมือนว่าในตอนที่ถูกปราบ ไคอิ A แห่งเมืองชิโนโนเมะจะมีสภาพราวกับว่าถึงจุดสุดยอดทางเพศเลยยังไงยังงั้น
ข่าวลือมันเป็นสิ่งที่ถูกปลอมแปลงแต่งเติมได้ง่าย ฉะนั้นตรงที่ว่าถึงจุดสุดยอดอะไรนั่นก็คงเป็นแค่เรื่องโกหกไม่มีมูลความจริงหรอก แต่เอาเป็นว่าดูเหมือนเรื่องที่ใช้พลังในแบบสัปดนในการปราบนั่นมันจะเป็นเรื่องที่ไม่ผิดพลาดอย่างแน่นอนน่ะ
การที่กรมตรวจสอบเคลื่อนไหวแบบนี้ก็ถือเป็นหลักฐานที่ชัดเจนอย่างยิ่งยวดแล้ว
[เอ้อ ก็ตามนั้นแหละนะ แล้วทีนี้ งานในคราวนี้ก็คือการเฝ้าจับตาไม่ให้ไอ้เจ้าผู้ปราบมารเด็กนักเรียนนั่นมันใช้ความสามารถมั่วซั่วจนสมาคมสูญเสียความเชื่อใจแหละ แต่ประเด็นคือไอ้เจ้านี่มันออกจะมีกลิ่นฉึ่งๆยังไงชอบกลด้วยอะนะ]
“ หมายความว่า? ”
[พวกคุซึโนะฮะมันมีส่วนรู้เห็นด้วย]
“ ……….. ”
พอได้ยินนามคุซึโนะฮะซึ่งเป็นหัวหอกของ <<ตระกูลเก่าทั้ง 9>> อันเป็นตระกูลดังที่ปกครองอยู่เหนือวงการผู้ปราบมารของญี่ปุ่นนั่นเข้า สีหน้าของหญิงสาวก็ยิ่งบิดเบี้ยวหนักไปใหญ่
[มีความเป็นไปได้ที่พวกคุซึโนะฮะมันจะจงใจปกปิดเรื่องความสามารถของเป้าหมายเอาไว้น่ะ ได้ข่าวว่าไอ้คุณลูกสาวผู้สืบสกุลคุซึโนะฮะที่สุดแสนจะงานยุ่งคนนั้น มันถึงกับเจียดเวลามาคอยดูแลเอาอกเอาใจเป้าหมายโดยตรงด้วยตัวเองเลยด้วย คิดยังไงก็น่าสงสัยเต็มๆ]
“ ……..ก็น่าสงสัยจริงนั่นแหละค่ะ ได้โปรดให้ฉันทำหน้าที่เป็นผู้จับตาทีเถอะ ”
หญิงสาวกล่าวกับอธิบดีกรมตรวจสอบด้วยแก้มที่หงิกงอ
แม้จะสัมผัสถึงความน่าหวั่นใจได้จากท่าทางที่ดูจริงจังเกินเหตุนั่น แต่อธิบดีกรมตรวจสอบก็ถามยืนยันกับหญิงสาวที่เป็นทั้งลูกน้องและศิษย์รัก
[จะไหวจริงๆเรอะ? เค้าเสนอเธอมาเพราะเห็นว่าเธอน่าจะเป็นคนที่เป้าหมายมันวางใจอยู่ด้วยได้โดยไม่หวาดระแวงก็จริง แต่ผู้จับตาเนี่ย เป็นจุดยืนที่ต้องทำเรื่องกำจัดเป้าหมายทิ้งด้วยตนเองหากถึงคราวจำเป็นนะ และก็แน่นอนว่าต้องลงมือกำจัดมันทิ้งกับมือตัวเองเลยด้วย แถมใกล้ๆตัวเป้าหมายยังมี โซยะ มิซากิคนนั้น——]
“ ไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใดเลยค่ะ ”
หญิงสาวให้คำขาดออกมาในระดับที่ขัดคำพูดของอธิบดีกรมตรวจสอบเลยทีเดียว
แล้วพอเธอขยำเอกสารที่ปรินต์รูปถ่ายของเป้าหมาย—–ฟุรุยะ ฮารุฮิสะเอาไว้อย่างเคียดแค้นปุ๊บ
“ เพราะทั้งคุซึโนะฮะ ทั้งเป้าหมายที่ต้องเฝ้าจับตา ต่างก็เป็นคนที่ฉันเกลียดเข้าเส้นทั้งคู่เลย! ”
หญิงสาวถ่มคำพูดทิ้งท้ายออกมา ก่อนจะรีบก้าวเร็วออกไปจากห้องเพื่อตระเตรียมตัวให้พร้อมเข้าชนกับการงาน
[…………งั้นก็ดีหรอกนะ]
อธิบดีกรมตรวจสอบถอนหายใจไปพร้อมพูดคนเดียว
[แต่ก็เหอะ ความสามารถสุดสัปดนที่ปราบได้แม้กระทั่ง สเกล 6 เรอะ ……..ไม่มีอยู่ในฐานข้อมูลก็จริง แต่ก็หวังว่าจะไม่ใช่อย่างที่คิดนะ]
หลังจากพึมพำเฉยๆกับตนเอง อธิบดีกรมตรวจสอบก็หันไปเปิดจัดการงานชิ้นถัดไป
ยามสนธยา ช่วงเวลาระหว่างกลางวันและกลางคืน ณ ดาดฟ้าของตึกที่จับจ้องมองลงมายังความเนืองแน่นเอะอะของเมือง
“ ปัดติโธ่ถัง มาดูลาดเลาช้าเกินไปหน่อยเหรอเนี่ยยย กรมตรวจสอบเริ่มเคลื่อนไหวกันแล้วนี่นา ”
หญิงสาวผู้หนึ่งจ้องมองท้องฟ้าที่เริ่มจะเข้าสู่ช่วงยามค่ำ พร้อมกับพึมพำออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย
ชุดนักเรียนมัธยมปลายที่สวมอยู่แบบไม่เรียบร้อย ขาสีขาวเนียนที่ยืดยาวออกมาจากกระโปรงสั้น พวงกุญแจทรงตุ๊กตาหมีที่ห้อยลงมาจากกระเป๋าโรงเรียนบังคับใช้
ท่าทีที่เอามือสองข้างแตะแก้มที่ถูกเพนต์เอาไว้เป็นลายหัวใจพร้อมทำปากจู๋นั่น มันปลดปล่อยบรรยากาศที่ดูเจ้าเล่ห์แสนกลอย่างประหลาด
แต่เธอผู้ซึ่งมีรูปโฉมแสนน่ารักซะจนทำให้ไม่มีคนคิดติดใจกับความเจ้าเล่ห์นั่นเลย กลับกำลังทำแก้มปูดพองทั้งที่ไม่มีใครมอง พร้อมกับสะบัดขาสองข้างดิ้นดุ๊กดิ๊กลงมาจากดาดฟ้า
“ อื~ม ทำยังไงดีน้าา ถ้ากรมตรวจสอบเริ่มเคลื่อนไหวขึ้นมา งั้นเหล่า [ผู้ครองชิ้นส่วน] ก็น่าจะขยับตัวลำบากด้วย…….เอาเป็นว่า ลองใช้ ไคอิของเค้า ปั่นป่วนสถานการณ์ดูดีกว่ามั้ง ”
พอกล่าวเช่นนั้นแล้ว เธอผู้นั้นก็จ้องมองลงไปยังความเนืองแน่นที่แผ่หราอยู่ใต้สายตาอันห่างไกล
“ เอาล่ะ ใครกันน้าที่จะเหมาะสมคู่ควรกับไคอิ [แห่งความยุติธรรม] ที่ทุกคนต่างก็ช๊อบชอบ♪ ”
ดวงตาของเธอที่แย้มยิ้มเหมือนเด็กไร้เดียงสาพลันหรี่เล็กลงมาราวกับจ้องตามหาเหยื่อ ส่องประกายแสงแห่งอมนุษย์อย่างน่าประหลาด
MANGA DISCUSSION