โลกแห่งนี้ที่มีเพียงฉัน - ตอนที่ 13 คำสาป
บทที่ 13 คำสาป
[ตัวเอก]
ชายชราจ้องมาที่ฉันโดยไม่กะพริบตา จู่ๆ ดวงตาของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีแดง ก่อนที่จะเปลี่ยนกลับเป็นสีดำเหมือนเดิมอย่างรวดเร็ว ไม่รู้ว่าฉันมองผิดไปเองรึเปล่า? บางทีอาจเพราะเหนื่อยเกินไปก็ได้ การมองเห็น การได้ยินเลยแปลกๆ คงอย่างงั้น มั้งนะ
“คำสาป เป็นคำสาปที่ทรงพลัง”
ชายชราชุดคลุมเทาพูดคำพูดเดิมซํ้าๆ คำสาปงั้นเหรอ? คำสาปอะไร? บนโลกใบนี้มีสิ่งเหนือธรรมชาติแบบนั้นด้วย? ไม่สิ ไม่ใช่ว่าฉันเคยเจอสิ่งเหนือธรรมชาติมาแล้ว? ฉันควรจะรู้ตัวนะว่าโลกแห่งนี้มีเรื่องแปลกๆ เรื่องเหนือธรรมชาติ เหนือสามัญสำนึก
“คำสาปเหรอครับ? ที่ไหนกัน?”
แทนที่จะถามคำถามตัวเองแล้วไม่ได้คำตอบ ฉันถามชายชราน่าจะดีกว่า พวกเรื่องเหนือธรรมชาตินี่ ฉันไม่ค่อยรู้อะไรเกี่ยวกับมัน บางที หากถามชายแก่ที่ดูแปลกๆ คนนี้ ตัวฉันอาจจะได้ข้อมูลบางอย่างที่สำคัญมาก็ได้ สมมุติว่าเป็นอย่างงั้น มันจะดีสุดๆ
“ใช่แล้ว มันคือคำสาป และอยู่บนตัวของเธอ!”
การพูดของชายชราต่างจากเดิม การพูดของเขาทำให้ฉันรู้สึกขนลุกเล็กน้อย แต่อะไรคือบนตัวฉันมีคำสาป? ฉันไม่เคยไปยุ่งเกี่ยวกับคำสาป หรือเรื่องเหนือธรรมชาติ อะไรพวกนั้นเลยนะ ไม่เคยสักนิด ปกติก็หาเงินจนไม่มีเวลาทำอะไรอยู่แล้ว จะไปยุ่งเกี่ยวกับคำสาปได้อย่างไร? มันแปลก แปลกมาก
“ทำไมบนตัวของผมถึงมีคำสาป? แล้วมันคือคำสาปอะไรครับ?”
“ฉันไม่รู้ มันคือคำสาปที่ทรงพลัง สาเหตุที่อยู่บนตัวเธอ น่าจะเป็นเพราะเธอไปทำให้ใครบางคนไม่พอใจ”
ใครบางคนไม่พอใจ? ฉันไม่เคยไปทำร้ายใคร ไม่เคยสร้างความแค้นกับทุกคน ไม่ เดี๋ยว ถ้าเป็นเมื่อก่อน บางทีฉันอาจจะเคยก็ได้ ทว่าใครกันล่ะ? จำไม่ได้แล้วแฮะว่าเป็นศัตรูกับคนไหนบ้าง? ฉันไปมีเรื่องกับคนที่ใช้คำสาปทรงพลังได้งั้นเหรอ?
“พอจะมีวิธีรู้คนใช้คำสาปใส่ผมมั้ยครับ?”
ก็ไม่ได้เชื่อทั้งหมดหรอกนะ ทว่าฟังไว้ก่อนดีกว่า ยังดีกว่าไม่ฟังแล้วมาเสียใจทีหลัง ฉันไม่อยากผิดพลาดแบบนั้น ต้องระมัดระวังให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้
“มันมีอยู่ แต่คำสาปบนร่างเธอทรงพลังเกินไป เกรงว่าต่อให้ใช้คนที่เชี่ยวชาญคำสาปมากที่สุดในโลก ก็ไม่สามารถหาคนใช้คำสาปใส่เธอได้”
“ขนานนั้นเลย?”
ไม่ใช่ชายชราพูดเกินจริงไป? เขามาหลอกขายของอะไรฉันใช่ไหมนะ? ก่อนที่จะตัดสิน รอดูต่อไปก็แล้วกัน เดี๋ยวคงรู้ว่าอีกฝ่ายพูดจริง หรือพูดเพื่อหลอกขายของ
“บางทีเธออาจจะไม่เชื่อ ทว่านั่นไม่เป็นไร สุดท้ายแล้วเธอจะเชื่อฉัน เปลี่ยนเรื่องคุยกันดีกว่า ฉันขอถามเธอ ระหว่างตายกับสูญเสียสิ่งสำคัญไป เธอจะเลือกอะไร?”
ชายแก่ในชุดคลุมสีเทาแปลกๆ มีรอยยิ้มที่ประหลาด ไม่อยากอยู่ใกล้สักนิด อยากออกจากเขาตอนนี้ น่าเสียดาย เหมือนขาจะไม่ขยับแม้แต่น้อย ร่างกาย มันไม่ขยับเลย ถึงขยับได้ ก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวฉัน
“ผมกลัวความตาย แต่ให้สูญเสียสิ่งสำคัญไปทั้งหมด ผมขอตายดีกว่า ชีวิตที่มันไม่มีอะไรเลยน่ะ มันก็แค่ชีวิตที่ว่างเปล่า”
นอกจากคนสำคัญแล้ว สิ่งสำคัญที่ฉันไม่ต้องการให้สูญเสียไปก็คือฉันที่เป็นตัวของฉัน เมื่อสูญเสียความเป็นตัวเองไป ฉันก็ไม่ถือว่าเป็นฉันอีกแล้ว เป็นใครคนอื่น ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นใครกันแน่
“น่าสนใจ ตอบได้ดี คำถามต่อไป ถ้าในชีวิตยังมีสิ่งสำคัญอยู่ จะยอมสูญสิ่งที่สำคัญน้อยกว่า หรือตาย”
ทำไมคำถามมันแปลกขึ้นเรื่อยๆนะ เริ่มรู้สึกกลัวนิดๆ แฮะ ชายชราคนนี้คงจะไม่ได้ทำเรื่องไม่ดีกับฉันใช่ไหม? ใจเย็นเข้าไว้ สงบ สงบนิ่ง ในสถานการณ์แบบนี้ ฉันต้องใจเย็นไว้ เพราะนั่นคือสิ่งเดียวที่สามารถทำได้
“หากยังมีสิ่งสำคัญอยู่ ผมจะเลือกสูญเสียสิ่งที่สำคัญน้อยกว่า เพราะผมจะไม่ยอมตายเด็ดขาด”
จู่ๆ ชายแก่ก็หัวเราะเสียงดังลั่น รอยยิ้มกว้างยิ่งกว่าก่อน ดวงตาทั้งสองข้างจ้องมองมาที่ฉัน ทำเอารู้สึกเหมือนโดนมองเข้าไปภายในจิตใจส่วนลึก คล้ายอีกฝ่ายกำลังทำความเข้าใจฉันทั้งหมด รู้สึกไม่สบายใจ รู้สึกอึดอัด รู้สึกแย่ รู้สึกไม่ดี หายใจไม่ค่อยออกเลย บ้าจริง
“ไม่ทำให้ฉันผิดหวัง ต่อไป คำถามสุดท้าย ฉันจะรู้ได้อย่างไรว่าคำพูดของเธอเป็นความจริง?”
บรรยากาศ ทำไมมันถึงเปลี่ยนไปกะทันหัน? กำลังจะเกิดเรื่องอันตรายกับฉันงั้นเหรอ? ควรทำยังไงดี? ยังไงดีนะ?
“ไม่ต้องกลัว ฉันไม่ทำอะไรเธอหรอกนะ ฉันไม่ชอบฆ่าคนให้ตายในทันที รับนี่ไป”
ฉันไม่กล้าปฏิเสธ ยื่นมือไปรับสิ่งหนึ่งจากชายชรา มันคือสร้อย เป็นสร้อยอะไรสักอย่าง ดูเหมือนสิ่งของธรรมดา แต่ความรู้สึกของฉัน มันบอกว่าสิ่งนี้ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน ที่สำคัญ สร้อยของชายแก่สามารถฆ่าฉันตายได้
ชีวิตดีขึ้นไม่นานก็ตกอยู่ในสถานการณ์ตัดสินความเป็นความตายซะแล้ว ชีวิตฉัน น่าตื่นเต้นมากไปแล้วนะ ขออยู่เงียบๆ ค่อยๆ พัฒนาเติบโตขึ้นไม่ได้รึไง? เฮ้ออ~ อยากร้องไห้จัง ก็ทำได้แค่บ่น ชีวิตไม่มีสิ่งใดง่าย
“แย่จริงๆ ถึงเวลาที่ฉันต้องไป พ่อหนุ่ม เธอเก็บสิ่งนั้นไว้ดีๆล่ะ อย่าลืมรักษาชีวิตตัวเองด้วยนะ อย่าให้ดับลงเด็ดขาด ถ้าเธอรอด โลกทั้งใบก็เป็นของเธอแล้ว”
เพียงกะพริบตาหนึ่งครั้ง ฉันก็ไม่เห็นชายชราอีกแล้ว ยังรอดชีวิตอยู่ ยังไม่ตาย ทว่าชีวิตต่อจากนี้ ไม่รู้จะเป็นไงบ้าง บางทีอาจตาย ไม่ก็รอด คำพูดสุดท้ายของชายชรา ไม่เข้าใจสักนิด ถ้ารอด โลกทั้งใบก็เป็นฉัน? รอด? รอดจากอะไร? แล้วทำไมโลกทั้งใบถึงกลายเป็นของฉัน? ช่างยากเข้าใจ
ดึกแล้ว กลับบ้านดีกว่า กังวลไปก็คงไม่เกิดประโยชน์เท่าไหร่ ปล่อยให้เป็นตามสิ่งที่ควรจะเป็น อะไรจะเกิดก็เกิดเถอะ ตัวฉันจะเผชิญทุกอย่างเอง ไม่สนแล้ว
เดี๋ยวนะ ตรงหน้านั่น กำลังเดินมาทางฉัน ผู้หญิงงั้นเหรอ? ทำไมมาเดินแถวนี้กลางคืนคนเดียว? มันอันตรายนะ ต่อให้มีเสาไฟอยู่ก็เถอะ ยังอันตรายอยู่ดี ฉันไม่มีทางเลือกเลยต้องใช้ทางนี้
“น้องชาย นายเห็นชายแก่ๆ แถวนี้บ้างมั้ย? ฉันกำลังตามหาเขาอยู่”
ชายชรา? อย่าบอกนะว่าเป็นเขา? สาเหตุที่หนีไปเพราะผู้หญิงตรงหน้าฉัน? เข้าใจแล้ว เธอคงไม่ธรรมดา ไม่งั้นคงไม่กล้าเดินในที่อย่างงี้
ฉันควรตอบยังไง บอกว่าเจอ หรือโกหกไปดี ตอบตามจริงแล้วฉันจะได้อะไร ตอบแบบโกหก จะโดนจับได้หรือเปล่า? มีความเป็นไปได้มากเกินไป คาดเดาสิ่งที่จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยแฮะ อาา เจอเรื่องแล้วเจอเรื่องอีก โธ่ ชีวิตฉัน
“เห็นครับ แต่เขาไปไหนก็ไม่รู้”
เลือกตอบตามจริงดีกว่า ฉันกับชายชราไม่ได้เป็นอะไรกัน ตรงกันข้าม อีกฝ่ายมีเจตนาไม่ดีกับฉันชัดๆ จะโกหกไปเพื่ออะไร?
“ขอบคุณมากน้องชาย มาทางนี้จริงๆ สิะ”
หญิงสาวลึกลับพูดขอบคุณฉัน ก่อนที่เธอจะเดินจากไป เช่นเดียวกับชายแก่ แค่ฉันกะพริบตาครั้งเดียว ก็ไม่เห็นเธอแล้ว พวกนี้เป็นใครกันแน่เนี่ย?
เมื่อครู่ไม่ได้สนใจ พอมาลองนึกดูแล้ว ผู้หญิงคนนั้นก็สวยเหมือนกันนะ ทว่าต่อให้เป็นแบบนั้น ก็สู้ความน่ารักของอีกร่างกายไม่ได้หรอก