โชคชะตาที่ล่วงหล่น - ตอนที่ 23 นายช่วยฉันไว้ทำไม
ในตอนนี้หลังจากที่ลู่หยวนเดินออกมาจากร้าน Haagen-Dazs เขาก็ได้เดินตามโจวหยุนไป
เธอเดินไปยังทะเลสาบที่มีชื่อว่าจิ้งหูวที่อยู่หลังมหาลัย ซึ่งเป็นสถานที่ที่เงียบสงบ รอบข้างเต็มไปด้วยต้นไม้ล้อมรอบ บรรยากาศโดยรวมมีลมพัดโชยมาเป็นช่วงๆ ซึ่งเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจที่ดีเลยทีเดียว
เดินไปได้มาไกลมากโจวหยุนก็หยุดนั่งลง โดยหันหน้าไปทางทะเลสาบจิ้งหูว จากนั้นเธอก็หยิบไอศกรีมวานิลลาที่เพิ่งซื้อมาอย่างระมัดระวัง และค่อยๆ ตักมันเข้าปากหนึ่งคำช้าๆ
ลู่หยวนนั่งอยู่ห่างจากเธอไม่ไกลนัก เมื่อเห็นว่าโจวหยุนเป็นแบบนี้ เขาก็อดไม่ได้ที่ส่ายหัวและถอนหายใจ ผู้หญิงคนนี้แม้ว่าจะเกิดมาฐานะยากจน แต่เธอก็ไม่ได้มีความประหยัดมัธยัสถ์เลยแม้แต่น้อย
สำหรับเธอแล้วเงิน 100 หยวนนั้นน่าจะเป็นเงินจำนวนมากสำหรับเธอ
แต่เธอกลับใช้มันเพื่อซื้อไอศกรีมกระปุกเล็กๆ
โจวหยุนตักไอศกรีมคำเล็กๆ ได้สองคำ จากนั้นก็วางลงบนพื้นหญ้าข้างๆ เธออย่างช้าๆ
จากนั้นเขาก็เห็นแขนของเธอไขว้กันจับไหล่ก้มศีรษะลง ผมของเธอกระจัดกระจายราวกับม่านลูกปัดและหลังจากนั้นไม่นานลู่หยวนก็เห็นไหล่ของเธอสั่นเล็กน้อย
เขาผงะเมื่อเห็นเช่นนั้น เหมือนว่าตอนนี้เธอกำลังร้องไห้
ลู่หยวนรู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นโจวหยุนนั่งกอดเข่าอยู่ตรงนั้น แม้ว่าเขาจะอยู่ไกลจากเธอพอสมควรแต่เขาก็มองเห็นได้ชัด
จู่ๆ เธอก็ลุกขึ้นยืนและเดินไปสองก้าวและคุกเข่าลงกับพื้นวางมือทาบไว้กับพื้นหญ้า ก้มหน้าลงไปบนพื้นหญ้าและก็เงยขึ้นมา ทำแบบนั้นสามครั้ง
ลู่หยวนเริ่มสงสัย…ใช่แล้ว! ต้องมีบางอย่างผิดปกติกับประสาทของเธอแน่ๆ ไม่อย่างนั้นทำไมตอนที่สามคนนั้นรังแกเธอ เธอกลับไม่พูดหรือโต้เถียงอะไรออกมาเลย
ยิ่งไปกว่านั้นคนปกติจะไม่ซื้อของแพงๆ แบบนี้ ถ้าหากว่าพวกเธอนั้นยากจน
สิ่งต่างๆ เกี่ยวกับตัวเธอนั้นแปลกมาก
เขาคิดอะไรไม่ออกนอกจากสงสัยว่าเธอนั้นเป็นโรคประสาทหรือเปล่า?
ลู่หยวนถอนหายใจลูกใหญ่นึกเสียดาย เฮ้อ…สาวสวยคนนี้กลับกลายเป็นคนบ้าไปซะได้
ลืมมันไปเถอะ
ลู่หยวนลุกขึ้นยืนและกำลังจะเดินจากไป
ทันใดนั้นโจวหยุนก็ลุกขึ้นจากพื้นและเดินตรงไปที่ทะเลสาบจิ้งหูว
ตอนแรกลู่หยวนคิดว่าผู้หญิงคนนี้มีปัญหาทางจิตทำให้พฤติกรรมของเธอนั้นแตกต่างจากคนทั่วไป เขาจึงไม่ได้ใส่ใจมากนัก แต่เมื่อเห็นว่าโจวหยุนเดินต่อไปเรื่อยๆ และลึกขึ้นเรื่อยๆ เดินไปจนเกือบกลางทะเลสาบจิ้งหูว ในเวลานี้น้ำลึกขึ้นมาถึงปากจนเกือบจะถึงปลายจมูกของเธอ และไม่มีท่าทีว่าเธอจะหยุดเดิน!
ทันใดนั้นลู่หยวนก็คิดอะไรได้ขึ้นมา หรือว่าผู้หญิงคนนี้กำลังจะฆ่าตัวตาย?!
ที่นี่เงียบมากและเธอก็คงไม่ได้เดินไปหาใครในทะเลสาบ
ก่อนที่จะปล่อยให้เธอเดินไปลึกกว่านี้ ลู่หยวนก็ตัดสินใจกระโดดลงไปในทะเลสาบและว่ายไปดึงตัวเธอไว้จากด้านหลัง
“ปล่อยฉัน! ปล่อยฉันไป! ” โจวหยุนไม่ให้ความร่วมมือและผลักลู่หยวนออกไปให้ไกลมากที่สุดเท่าที่จะทำได้และเธอก็มุ่งมั่นที่จะเดินต่อไปกลางทะเลสาบ
ลู่หยวนไม่สนใจสิ่งที่เธอทำไม่ว่าเธอจะผลักหรือข่วนเขา เขาก็ยืนยันที่จะลากผู้หญิงคนนี้กลับไปที่ฝั่ง
“นายช่วยฉันไว้ทำไม ทำไมไม่ปล่อยให้ฉันตาย! “
แม้ว่าโจวหยุนจะได้รับการช่วยเหลือ แต่โจวหยุนก็โมโหมากเธอจ้องไปที่ลู่หยวนด้วยสายตาที่รำคาญ และดูเหมือนในดวงตาจะมีความบ่นปนโกรธอยู่ในนั้น
ลู่หยวนตกตะลึง โจวหยุนเป็นผู้หญิงที่สวยมากแม้ว่าตอนนี้เธอจะกำลังโกรธอยู่ก็ตาม
ตอนนี้ผมของโจวหยุนเปียกและยังมีหยดน้ำตาหยดลงบนใบหน้าสีขาวของเธออย่างช้าๆ ใบหน้าเศร้าที่เปื้อนน้ำตานี้ช่างดูอ่อนโยนน่าทะนุถนอมเสียจริง
ดวงตาคู่นั้นของโจวหยุนที่จ้องมาที่ลู่หยวนด้วยความรำคาญ แต่เธอไม่ได้ดูดุร้ายเลยสักนิด แต่ให้ความรู้สึกเหมือนดั่งความงามที่ดื้อรั้น
แต่ทันทีที่ลู่หยวนได้ยินคำพูดของเธออารมณ์ของเขาก็ระเบิด
“นั่นสิทำไมฉันต้องช่วยเธอ ทำไมไม่ปล่อยให้เธอตายไป! ” ลู่หยวนก็รู้สึกโกรธเช่นกัน แต่ไม่ใช่ที่ถูกโจวหยุนตะคอกใส่ แต่โกรธการกระทำของโจวหยุนที่คิดสั้น “เธอก็มีพ่อมีแม่เหมือนกัน เคยคิดบ้างไหมว่าถ้าพวกเขารู้ว่าเธอคิดจะฆ่าตัวตาย พวกเขาจะรู้สึกยังไง จะเสียใจแค่ไหน”
ลู่หยวนยังพูดต่ออีกว่า
“พ่อแม่ของเธอยอมทำงานหนักเพื่อเลี้ยงดูเธอ ส่งเธอเรียนแต่เธอกลับมาคิดฆ่าตัวตายก่อนที่จะทดแทนบุญคุณพวกเขา ดูสิ่งที่เธอทำสิ! ” ตอนนี้ลู่หยวนรู้สึกโกรธมาก “นอกจากนี้เธอยังใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือยอีก เธอซื้อ Haagen-Dazs ที่มีราคาแพงเพื่อสนองความต้องการของตัวเอง เธอเคยคิดบ้างไหมว่าครอบครัวของเธอจะทำงานเหนื่อยแค่ไหนเพื่อเอาเงินนี้มาให้เธอ แต่เธอกลับเอามันไปใช้ไร้สาระ”
ลู่หยวนถอนหายใจและระบายสิ่งที่เขาคิดในใจออกมา
เดิมทีลู่หยวนคิดว่าโจวหยุนจะรู้สึกรำคาญและโกรธมากที่เขาพูดจาโผงผางเช่นนี้ มันอาจทำให้เธอนั้นทนฟังไม่ได้จนต้องตะโกนกลับ
แต่ว่ามันไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิด
ในขณะที่โจวหยุนยืนฟังอยู่นั้น จู่ๆ ดวงตาของเธอก็แดงขึ้นและน้ำตาก็ไหลออกมาในทันที ราวกับน้ำท่วมที่ล้นตลิ่ง
“นายไม่ได้รับอนุญาตให้พูดถึงพ่อแม่ของฉัน และนายก็ไม่มีไม่มีสิทธิ์ที่จะพูดถึงพวกเขา”
โจวหยุนเงียบและยกมือทั้งสองข้างมาปิดหน้าและก้มลง ไหล่ของเธอเริ่มสั่นและมีเสียงสะอื้นออกมาเบาๆ
“เกิดอะไรขึ้นแค่ฉันกิน Haagen-Dazs ฉันแค่เพิ่งกิน Haagen-Dazs ครั้งแรกและครั้งเดียว” โจวหยุนพูดพร้อมกับสะอื้น “ก่อนที่ฉันจะตายฉันแค่อยากกิน Haagen-Dazs สักครั้งในชีวิต ฮึ่กๆ! ” โจวหยุนสะอื้น “ทำไมทุกคนถึงกล่าวโทษฉัน คนพวกนั้นก็ด้วย ทุกคนหาว่าฉันไร้สาระ รุมว่าฉันว่าฉันเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ แล้วนายก็ยังบอกว่าฉันโลภเพื่อความสุขของตัวเอง แต่จริงๆ แล้วฉันไม่ได้เป็นแบบนั้น ฉันกินอาหารที่ราคาถูกที่สุดในโรงอาหารทุกวัน บางครั้งฉันก็หุงข้าวมาและกินกับซีอิ๊ว ฉันกลัวว่าทุกคนที่เห็นจะหัวเราะเยาะฉัน ฉันเลยแอบเอาซีอิ๊วมาไว้ตรงพุ่มไม้นี้และกินมันที่นี่! “
หลังจากนั้นโจวหยุนก็เอื้อมมือไปในพุ่มไม้ข้างๆ เธอและหยิบขวดซีอิ๊วที่กินเหลือไว้ประมาณครึ่งขวดออกมา
“ฉันไม่ใช่คนแบบที่นายพูดถึง ฉันไม่เคยซื้อเสื้อผ้าที่ดูดี ไม่เคยใช้เครื่องสำอาง ไม่มีตุ๊กตาขนยาว ไม่มีกระเป๋าสวยๆ ของที่เด็กผู้หญิงชอบฉันไม่ก็ไม่เคยซื้อมัน ถึงแม้ว่าฉันเองก็อยากได้ ไม่เคยใช้จ่ายกับของพวกนี้ ฉันไม่เคยกินของดีหรือแม้แต่ขนม….”
“แต่ฉันก็เป็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ฉันก็ชอบของพวกนี้เหมือนกัน ฉันแค่คิดว่าฉันกำลังจะตาย ฉันเพิ่งเคยกินฮาเก้นดาสเพียงครั้งแรกและครั้งเดียวตั้งแต่เกิดมา ฉันอยากลองชิมมันสักครั้ง เพื่อที่ฉันจะได้ไม่เสียใจเมื่อฉันตาย มันก็แค่นั้น ทำไมนายถึงต้องด่าว่าฉันขนาดนี้……” ในที่สุดโจวหยุนก็ไม่สามารถเก็บมันไว้ได้อีกต่อไปและน้ำตาก็ไหลออกมาด้วยความเศร้าโศก
เดิมทีเธอผอมและอ่อนแอมาก แต่ในขณะนี้เธอเริ่มร้องไห้ราวกับเศษกระดาษบางๆ ในสายลมดูเหมือนว่าเธอจะปลิวไปได้ทุกเมื่อและถูกพัดออกไปจากโลกนี้
ลู่หยวนตะลึงกับสิ่งที่เธอพูด เขาเข้าใจเธอผิดทั้งหมด
ผู้หญิงคนนี้ช่างน่าสงสารเหลือเกิน
ใช่แล้ว เธอแค่ต้องการทำตามใจสักครั้ง แค่ได้ลองชิมของที่เธออยากกินมาตลอดชีวิต ก่อนที่จะเธอนั้นจะตาย
ทั้งๆ ที่นักเรียนที่ร่ำรวยเหล่านั้นสามารถกินของพวกนี้ได้ตลอดเวลา แต่เธอเพิ่งได้มากินในโอกาสนี้
ลู่หยวนนึกถึงตอนที่เธออยู่ที่หน้าร้าน Haagen-Dazs ทั้งๆ ที่ผู้หญิงคนนี้คิดที่จะฆ่าตัวตายอยู่แล้ว ในใจเธอนั้นคงรู้สึกสิ้นหวังอย่างมากแต่ก็ยังต้องทนกับความอัปยศอดสู ที่ถูกทั้งสามคนนั้นดูถูกต่อหน้าคนมากมาย
เธอต้องอดทนกับการถูกกระทำต่างๆ เพื่อที่จะเข้าไปซื้อไอศกรีมถ้วยนี้
สำหรับเธอแล้วมันต้องเจ็บปวดมากแน่ๆ
ลู่หยวนอดไม่ได้ที่จะตำหนิตัวเอง ที่ฟังความข้างเดียวแล้วยังไปกล่าวหาเธอแบบนั้นอีกทั้งๆ ที่เธอต้องเจอกับเรื่องร้ายๆ มากมายพอแล้ว
เขามองไปที่ไอศกรีมถ้วยนั้นที่วางอยู่บนพื้นหญ้ามันเหลือเยอะมาก
เธอไม่ได้อยากที่จะซื้อมันจริงๆ แค่อยากจะลิ้มรสฮาเก้นดาสสักครั้งก่อนที่จะจากโลกนี้ไป
เมื่อเห็นอย่างนั้นหัวใจของลู่หยวนก็รู้สึกผิดขึ้นมาอย่างไม่มีทางให้อภัยตัวเองได้
“ฉัน…ฉันโทษ”
ลู่หยวนหยิบทิชชู่ออกมาแล้วยื่นให้โจวหยุน “แต่ทำไมเธอถึงคิดฆ่าตัวตาย พ่อแม่ของเธอจะเสียใจแค่ไหนรู้ไหม? “
“ฉันไม่เคยมีพ่อตั้งแต่ยังเด็ก ฉันมีเพียงแม่เท่านั้น” โจวหยุนตอบเบาๆ
ตอนนี้อารมณ์ของเธอคงที่ขึ้นเล็กน้อย เพราะอาจจะเห็นว่าลู่หยวนนั้นแตกต่างจากคนอื่น และเขาก็ไม่ดูถูกเธอเหมือนที่คนอื่นๆ ทำ
คำตอบของโจวหยุนทำให้ลู่หยวนรู้สึกเศร้าใจยิ่งกว่าเดิม เธอโตมาโดยที่ไม่มีพ่อเลี้ยงดู?
“แต่เธอก็ควรคิดถึงความรู้สึกของแม่ด้วย” ลู่หยวนพูดอีกครั้ง
“ฉันรู้ว่าถ้าฉันตายแล้วแม่ของฉันจะต้องเสียใจแต่….. “
จู่ๆ โจวหยุนก็ร้องไห้ขึ้นมาอีกครั้ง
“แต่ฉันไม่สามารถช่วยอะไรได้ แต่หากฉันตายปัญหานี้ก็อาจจะจบลง เพราะถ้าฉันไม่ตายไม่ของฉันก็เหมือนตายทั้งเป็น ฉันทำได้แค่กราบแม่ก่อนที่จะเดินลงไปในทะเลสาบเท่านั้น ฉันเป็นลูกที่อกตัญญูที่ไม่สามารถเลี้ยงดูแม่ได้ฉันขอโทษ….”
ในขณะที่เธอพูดความสิ้นหวังในชีวิตของเธอออกมา ใบหน้าของโจวหยุนก็ยิ่งเศร้าหมองมากยิ่งขึ้นพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาไม่หยุด
ลู่หยวนจำได้ว่าก่อนที่จะเดินลงไปในทะเลสาบจิ้งหูว โจวหยุนคุกเข่าลงบนพื้นและเคาะหัวเธอสองสามครั้งในทิศทางเดียว ในตอนนั้นเขาคิดเพียงว่าหญิงสาวเป็นโรคประสาทที่ทำตัวแปลกๆ โดยที่เขาไม่คาดคิด ใครจะรู้ว่าเธอจะขอขมาแม่ก่อนที่จะฆ่าตัวตาย
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ลู่หยวนก็ยิ่งตำหนิตัวเอง
“ปัญหามีไว้แก้ไข ไม่ได้มีไว้หนีมัน ไม่มีอะไรบนโลกนี้ที่ไม่สามารถแก้ไขได้” ลู่หยวนพูดกับโจวหยุนอย่างเห็นใจและสงสาร “ตอนนี้เธอกำลังเจอกับปัญหาอะไร ช่วยบอกฉันทีบางทีฉันอาจจะช่วยเธอได้”
ตอนนี้ท่าทีของลู่หยวนจริงจังมาก
เขามุ่งมั่นที่จะช่วยผู้หญิงคนนี้มากกว่าตอนที่หาทางช่วยฉินจิ่วเอ๋อร์
ลู่หยวนช่วยฉินจิ่วเอ๋อร์ด้วยศีลธรรมเท่านั้น
แต่ตอนนี้ที่ลู่หยวนต้องการช่วยโจวหยุนเพราะว่าเขานั้นเป็นห่วงเธอจากใจ
นอกจากนี้ยังมีความผิดที่อธิบายไม่ได้
เท่าที่ฟังมาโจวหยุนคนนี้เป็นผู้หญิงที่ดีมาก เธอพึ่งพาตัวเองได้และเข้มแข็ง แต่ก่อนหน้านี้เขาเข้าใจผิดเธอไปมาก และเธอก็เกือบจะจากไปแล้ว
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ลู่หยวนก็ยังคงรู้สึกกลัว หากว่าในตอนนั้นเขาเดินจากไป ผู้หญิงคนนี้อาจจะฆ่าตัวตายสำเร็จไปแล้วจริงๆ!
“ขอบคุณนะ….แต่นายช่วยฉันไม่ได้หรอก”
ในที่สุดโจวหยุนก็เงยหน้าขึ้นมองผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าเธอ
ผู้ชายคนนี้เติบโตมาอย่างดีและดวงตาของเขาก็มีความจริงใจที่แตกต่างจากคนอื่นๆ
สำหรับโจวหยุนผู้คุ้นเคยกับสายตาเย็นชา การจ้องมองของลู่หยวนทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นมาก
แต่เมื่อมองไปที่เสื้อผ้าของลู่หยวนโจวหยุนก็เข้าใจว่าลู่หยวนคล้ายกับตัวเขาเองซึ่งเป็นเพียงเด็กยากจนธรรมดาๆ
แต่ความยากลำบากที่เธอกำลังพบเจอนั้นยิ่งใหญ่เกินไป แม้ว่าเธอจะบอกเขาไปก็ไม่มีประโยชน์
ยิ่งไปกว่านั้นหากเด็กชายคนนี้มาช่วยเธอด้วยความตั้งใจ ก็อาจก่อให้เกิดอันตรายกับเขาด้วยเช่นกัน
“เชื่อใจฉัน แล้วบอกปัญหาของเธอมาสิ” ลู่หยวนยิ้มและจ้องไปที่ดวงตาของโจวหยุนและพูดอีกครั้ง
ลู่หยวนพอเดาความคิดของโจวหยุนออกว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ ซึ่งลู่หยวนสามารถเข้าใจได้ ผู้หญิงคนนี้คงไม่คาดคิดว่าเธอกำลังได้พบกับผู้ชายที่สามารถทำอะไรได้หลายอย่างมากกว่าที่เธอคิด!!