โชคชะตาที่ล่วงหล่น - ตอนที่ 20 นายคิดว่านายเป็นใครกัน
ลูกพี่ลูกน้องของไป๋หล่านไม่ได้สนใจเรื่องหน้าตาของผู้ชายคนนั้น แค่มีลักษณะตรงตามที่ต้องการก็เพียงพอแล้ว
แต่เมื่อเธอเห็นหน้าลู่หยวนเธอก็ถึงกับตะลึง
นั่นมัน…เด็กหนุ่มคนนั้น!!
ลูกพี่ลูกน้องของไป๋หล่านแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองว่าเป็นเขาจริงๆ เธอตกใจเป็นอย่างมาก!
“ลู่หยวนพี่สาวฉันมาแล้ว ทำไมนายยังนั่งนิ่งอยู่แบบนี้ล่ะ? ทำไมไม่รีบทักทายเธอ” ไป๋หล่านเริ่มอารมณ์เสียเมื่อเห็นว่าลู่หยวน ไม่ได้ยืนขึ้นเพื่อทักทายลูกพี่ลูกน้องของเธอ
โดยปกติแล้วเธอมักจะชอบพูดกับลู่หยวนด้วยน้ำเสียงที่แหลมสูง ดังนั้นในตอนนี้เธอจึงดูไม่สุภาพ
“ไม่เป็นไรหรอก เรานั่งกันเถอะ”
จู่ๆญาติของไป๋หล่านก็ดึงให้เธอนั่งลง ราวกับจะสื่อว่าอย่าแสดงท่าทางไม่สุภาพ
ไป๋หล่านรู้สึกสงสัยว่าทำไมญาติของเธอจึงต้องรั้งตัวเธอเอาไว้ เพราะว่าญาติของเธอนั้นก็เป็นคนประเภทเดียวกับเธอที่ชอบดูถูกคนอื่น
ใช่แล้วแค่ญาติของเธอต้องการที่จะใช้ประโยชน์จากเขาเท่านั้น จึงแกล้งทำเป็นดีกับเขา
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ไป๋หล่านก็รู้สึกโล่งใจ
“งั้นฉันจะแนะนำให้รู้จักกันก่อน”
ไป๋หลานชี้ไปที่ลู่หยวนและหันกลับมาพูดกับญาติของเธอ “เขาชื่อว่าลู่หยวนเรียนอยู่คณะบริหารในมหาลัยเดียวกับฉัน เขาเป็นคนนิสัยดีและซื่อสัตย์ แบบที่พี่ชอบเลยล่ะ”
หลังจากที่พูดจบไป๋หล่านก็หรี่ตามองไปที่ญาติของเธอและหัวเราะในใจ
หลังจากนั้นไป๋หล่านก็พูดหลอกลู่หยวนไปเรื่อยๆ แต่จริงๆแล้วเธอรู้อยู่แก่ใจว่าญาติของเธอไม่ได้เป็นอย่างที่เธอพูด เธอชอบผู้ชายที่หล่อและรวย ในตอนที่กำลังพูดโกหกลู่หยวนนั้นไป๋หล่านก็ดูมีความสุขมาก เธอคิดว่าลู่หยวนนั้นเป็นคนโง่จริงๆ เธอไม่กลัวเลยสักนิดว่าเขาจะไม่เชื่อที่เธอพูด
“ลู่หยวน สาวสวยคนนี้เป็นลูกพี่ลูกน้องของฉันเอง เธอทำงาน… ” ไป๋หล่านแนะนำลูกพี่ลูกน้องของเธอ
“ฉันพอจะรู้แล้วล่ะ ว่าเธอทำงานอะไร” ลู่หยวนพูดด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย
“นายคิดว่านายเป็นใครกัน ถึงได้แสดงท่าทางเหมือรู้ดีว่าพี่สาวฉันทำงานอะไร ถ้านายเดาถูกละก็ฉันจะยอมเห่าเหมือนหมาสองครั้งเลย!” ไป๋หล่านพูดอย่างเยาะเย้ย เธอไม่พอใจอย่างมากที่ถูกลู่หยวนขัดจังหวะ เธอเชื่อว่าเขาจะต้องตอบไม่ถูกอย่างแน่นอน
ลู่หยวนไม่สนใจที่ไป๋หล่านพูดและมองไปยังลูกพี่ลูกน้องของไป๋หล่าน “ถ้าฉันจำไม่ผิด…เธอน่าจะทำงานในธนาคาร”
คำตอบของเขาทำให้ดวงตาของไป๋หล่านเบิกกว้าง
ทำไมเขาถึงเดาถูก?!
“นาย… นายรู้ได้ยังไง?!” ไป๋หล่านประหลาดใจมากที่ลู่หยวนรู้ว่าญาติของเธอนั้นทำงานอะไร
“ฮ่าฮ่า ความลับ” ลู่หยวนจิบกาแฟต่ออย่างไม่สนใจ
“นายคิดว่านายเป็นใคร ถึงแสดงท่าทางแบบนี้กับฉัน!” ไป๋หล่านเริ่มไม่พอใจกับท่าทางของลู่หยวน
ในความคิดของไป๋หล่านลู่หยวนเป็นเพียงแค่เด็กบ้านนอกที่ต้องรับฟังคำสั่งจากเธอก็เท่านั้น
ลู่หยวนทำให้เธอประหลาดใจ แน่นอนว่าไป๋หล่านรู้สึกรำคาญกับท่าทางของเขามาก ราวกับว่าอำนาจของเธอถูกท้าทาย
“หล่านหล่านเธอต้องเห่าเหมือนหมาสองครั้งตามที่พูดนะ เพราะว่าเขาตอบถูกแล้ว” ลูกพี่ลูกน้องของไป๋หล่านพูดพร้อมกับหัวเราะ
อะไรนะ?
ไป๋หล่านผงะไปชั่วขณะในใจของเธอสงสัยว่าทำไมพี่สาวของเธอต้องช่วยลู่หยวนด้วย?
ถึงแม้ว่าจะเขามาที่นี่ในฐานะผู้ชายที่เธอแนะนำให้เป็นแฟนของพี่สาว แต่ก็แค่ปลอมๆเท่านั้น ทำไมถึงต้องเข้าข้างเขาขนาดนี้ด้วย
หรือเธอจะคิดว่าเขาเป็นแฟนของเธอจริงๆงั้นเหรอ?
“นี่…..” จู่ๆไป๋หล่านก็ชะงักและพูดอะไรไม่ออก
เธอแค่พูดไปอย่างนั้น ไม่คิดว่าลู่หยวนจะเดาถูกขึ้นมาจริงๆ
“ช่างมันเถอะ แค่ขำๆ ไม่จำเป็นต้องทำจริงหรอก”
ลู่หยวนทำเหมือนว่าไม่สนใจสิ่งที่เธอเคยพูด
“หึ!”
แม้ว่าลู่หยวนจะพูดอย่างนั้น แต่ไป๋หล่านก็ไม่ได้รู้สึกซาบซึ้งเลยแม้แต่น้อย
เธอรู้สึกเสียหน้ามาก ในใจของเธอกำลังคิดว่ามันช่างเป็นเรื่องที่น่าอัปยศเสียจริง
“เอาล่ะ เราสั่งอะไรมากินกันดีกว่า”
ลูกพี่ลูกน้องของไป๋หล่านกล่าว
พนักงานนำเมนูมา ไป๋หล่านสั่งข้าวอบกุ้งชีส ลูกพี่ลูกน้องของไป๋หล่านสั่งข้าวผัดเบคอนฝรั่งเศส ส่วนลู่หยวนสั่งสปาเก็ตตี้หมูพริกไทยดำ
ในร้านคนเยอะมาก รออยู่สักพักอาหารก็ยังไม่มาเสิร์ฟ
ไป๋หล่านไม่สามารถทนรอได้อีกต่อไป
“เฮ้ ลู่หยวนนายมัวนั่งโง่ๆอยู่ตรงนี้ทำไม? ทำไมไม่ไปเร่งพนักงานให้เอาอาหารมาเสิร์ฟสักที!” ไป๋หล่านตะโกน
ก่อนหน้านี้ลู่หยวนทำให้เธอรู้สึกเสียหน้า เธอจึงใส่อารมณ์กับลู่หยวนเพื่อระบายมันออกมา
“ไม่ต้อง เดี๋ยวฉันไปเอง” ญาติของไป๋หล่านดูตกใจเล็กน้อยและรีบลุกขึ้นยืน
“พี่สาว พี่นั่งลงเถอะ ไม่ต้องไป!”
ไป๋หล่านรีบดึงพี่สาวของเธอให้นั่งและชี้ไปที่ลู่หยวน “ให้เขาไปนั่นแหละ! เรานั่งรอกันอยู่ตรงนี้”
หลังจากนั้นไป๋หล่านก็พูดเสียงดัง “ยังไม่รีบไปอีก!”
ลู่หยวนเคยชินกับอารมณ์ของประธานคนนี้แล้วและเขาก็ต้องการที่จะเข้าห้องน้ำด้วย จึงไม่ได้พูดอะไร เขาลุกขึ้นเดินไปที่เคาน์เตอร์เพื่อสอบถามถึงอาหารที่สั่ง และเดินไปเข้าห้องน้ำ
เมื่อลู่หยวนเดินออกมาจากห้องน้ำก็พบกับพี่สาวของไป๋หล่านยืนรออยู่
“คุณลู่ฉันขอโทษแทนน้องสาวของฉันจริงๆ ที่เธอทำกิริยาไม่สุภาพกับคุณ”
พี่สาวของไป๋หล่านดูเหมือนจะรออยู่ที่หน้าห้องน้ำสักพักแล้ว เธอก้มหัวขอโทษหลายครั้ง
“ฮ่าฮ่าไม่เป็นไรหรอก ไป๋หล่านเป็นประธานชมรม ฉันเป็นแค่สมาชิกในชมรมเท่านั้น” ลู่หยวนยิ้มและนึกในใจว่ามันช่างเป็นเรื่องบังเอิญจริงๆ “บังเอิญจริงๆเลย ฉันไม่คาดคิดมาก่อนว่าคุณจะเป็นพี่สาวของไป๋หล่าน”
พี่สาวของไป๋หล่านก็คือพนักงานต้อนรับที่ล็อบบี้ของธนาคารฮั่วรุ่ยที่ลู่หยวนเคยเจอในวันแรกที่ตระกูลของเขายกเลิกคำสั่งควบคุม
เจิ้งเยว่คิดไม่ถึงเลยว่าเด็กผู้ชายที่น้องสาวของเธอจะแนะนำให้คือเด็กชายที่เคยเป็นที่พูดถึงอย่างมากในธนาคารตอนนั้น
หลังจากเหตุการณ์ในวันนั้น ทุกคนต่างพากันถามผู้จัดการจางเจ๋อว่าเด็กชายคนนั้นเป็นใครกัน แต่จ่างเจ๋อก็ไม่ได้เปิดเผยข้อมูลใดๆเลย
แม้ว่าจางเจ๋อจะไม่บอกว่าเขาเป็นใคร แต่หลายคนต่างก็พูดกันว่าเขาเป็นลูกชายของคนที่รวยที่สุด และบางคนก็บอกว่าเขาเป็นลูกชายของผู้นำระดับสูง
ไม่ว่าทุกคนจะพูดถึงเขาอย่างไร แต่เด็กหนุ่มคนนี้ก็รวยล้นฟ้าเหนือจินตนาการ นี่คือสิ่งที่ทุกคนรับรู้
ทุกครั้งที่มีคนพูดถึงเด็กหนุ่มคนนี้ เจิ้งเยว่ก็รู้สึกเสียใจทุกครั้ง
เจิ้งเยว่หาโอกาศที่จะจับรุ่นที่สองที่ร่ำรวยมาตลอด แต่เธอก็ได้ทำลายโอกาศนั้นทิ้งไปตั้งแต่วันนั้นแล้ว
เฮ้ออ…ถ้าวันนั้นเธอต้อนรับเขาอย่างดี บางทีเธออาจะได้เป็นเพื่อนกับรุ่นที่สองที่ร่ำรวยอันดับต้นๆคนนี้แล้วก็ได้!
เจิ้งเยว่เอาแต่โทษตัวเองทุกครั้งที่มีคนพูดถึงเรื่องนี้
ในขณะเดียวกันเธอก็รู้สึกกลัว เพราะทัศนคติที่ไม่ดีของเธอในวันนั้นมันอาจจะทำให้เธอถูกไล่ออกได้
อย่างไรก็ตามจากเหตุการณ์ในภายหลังดูเหมือนว่ารุ่นที่สองที่ร่ำรวยอันดับต้นๆคนนี้ ไม่ได้พูดอะไรกับผู้จัดการระดับสูงถึงเรื่องที่เธอทำ หลังจากผ่านไปประมาณหนึ่งสัปดาห์เจิ้งเยว่พบว่าไม่มีอะไรผิดปกติเธอจึงรู้สึกโล่งใจ
อย่างไรก็ตามตั้งแต่นั้นมาดูเหมือนว่าเจิ้งเยว่จะรู้สึกละอายใจและเธอก็ยังคงคิดถึงเรื่องนี้อยู่เสมอ ครั้งหนึ่งเคยมีรุ่นที่สองที่ร่ำรวยสุดๆอยู่ตรงหน้าเธอ แต่เธอกลับไม่ได้ทะนุถนอมเขาเลย…..
ดังนั้นแม้ว่าพ่อแม่ของเธอจะแนะนำให้เธอรู้จักกับลูกชายของเพื่อนอีกสองสามครั้ง แต่เจิ้งเยว่ก็ยิ่งดูหมิ่นคนเหล่านั้นมากขึ้นเพราะฝังใจกับเหตุการณ์นี้
หลังจากนั้นพี่สาวของเธอก็ได้แต่งงานกับรุ่นที่สองที่ร่ำรวยอันดับต้นๆ เธอจะยอมปล่อยให้ตัวเองขึ้นคานอยู่อย่างนี้่ได้ยังไง?
ดังนั้นเจิ้งเยว่จึงโทรหาไป๋หล่านเพื่อขอให้เธอช่วย
เจิ้งเยว่ไม่ยอมให้เป็นแบบนี้ต่อไป น้อยมากที่เธอจะมีโอกาสได้เจอกับรุ่นที่สองที่ร่ำรวยอันดับต้นๆ เจิ้งเยว่จึงตั้งใจว่าจะต้องหาแฟนให้ได้ หลังจากนั้นไม่นานเธอก็ได้เจอกับเป่าห่าว ซึ่งผู้ชายคนนี้ค่อนข้างโอเค
ฐานะครอบครัวของเป่าห่าวนั้นค่อนข้างร่ำรวยและเขาก็แสดงท่าท่างเหมือนว่าชอบเธอด้วย แต่เขาก็ไม่แสดงท่าทีจริงจังกับเธอสักที เจิ้งเยว่จึงกังวลว่าจะพลาดโอกาสนี้ไป เลยขอให้ไป๋หล่านช่วยหาผู้ชายที่ดูน่าสงสารมาเป็นแฟนปลอมๆของเธอ เพื่อกระตุ้นให้เป่าห่าวนั้นมาสนใจเธอ
เจิ้งเยว่ไม่มีความคิดที่สนใจเด็กหนุ่มที่ไป๋หล่านพามาเลยสักนิด
ในความคิดของเธอเขาเป็นเพียงแค่หมากในเกมส์ของเธอเท่านั้น ซึ่งจะถูกโยนทิ้งเมื่อเกมส์นี้จบแล้ว
แต่ใครจะคาดคิด
เด็กหนุ่มที่ไป๋หล่านพามานั้นกลายเป็นเด็กหนุ่มรุ่นที่สองที่ร่ำรวยสุดๆคนนั้น ที่เคยทำให้เธอต้องเจ็บใจและจมปลักอยู่ในความฝันมาตั้งนาน
และในที่สุดเจิ้งเยว่ก็เข้าใจว่าในสายตาไป๋หล่านนั้นเด็กหนุ่มคนนี้เป็นเพียงแค่ยาจกคนนึงเท่านั้น แม้ว่าไป๋หล่านจะรู้จักกับเขามาเป็นเวลานานแต่ก็เหมือนว่าไม่รู้เลยว่าเขานั้นเป็นคนที่ร่ำรวยมากๆ ไป๋หล่านกำลังเข้าใจผิดคิดว่าลู่หยวนนั้นเป็นเพียงแค่คนยากจน
ดูเหมือนว่าลูกพี่ลูกน้องของเธอจะทำผิดพลาดอย่างมหันต์เช่นเดียวกับที่เธอเคยทำ
“ใช่ค่ะ ฉันชื่อว่าเจิ้งเยว่เป็นลูกพี่ลูกน้องของไป๋หล่าน ครั้งนี้ฉันได้ขอร้องให้ไป๋หล่านนั้นช่วยหาแฟนให้กับฉัน” เจิ้งเยว่ตอบสุภาพ
“คุณก็มีคุณสมบัติค่อนข้างดีนี่ คุณทำงานในธนาคารแล้วก็ยังขับรถฟอร์ดอีกด้วย ฉันได้ยินมาว่าคุณค่อนข้างมีมาตรฐานสูง เลยทำให้เป็นโสดมาโดยตลอด แล้วทำไมถึงให้ประธานช่วยหาแฟนให้ล่ะ?”
ลู่หยวนพอจะได้ยินเรื่องของลูกพี่ลูกน้องไป๋หล่านมาบ้างแล้ว แต่ก็ไม่คิดว่าจะเป็นผู้หญิงที่เคยเจอในกันที่ธนาคารเมื่อนานมาแล้ว
หลังจากทำความเข้าใจตอนนี้ลู่หยวนก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกสงสัย
เท่าที่ได้ยินมาและบวกกับที่เขาเคยเจอกับเจิ้งเยว่เมื่อนานมาแล้วทำให้เขาพอจะรู้ว่าเธอนั้นไม่ได้ชอบคนยากจนอย่างที่ไป๋หล่านบอก แล้วทำไมไป๋หล่านถึงจะแนะนำเขาให้รู้จักกับลูกพี่ลูกน้องของเธอคนนี้?
“ไป๋หล่านเธอไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของฉัน ในสายตาเธอแล้วฉันเป็นคนแบบไหนคุณก็น่าจะพอเดาได้” ลู่หยวนยิ้มเล็กน้อยและจ้องไปที่เจิ้งเยว่ “ในสายตาของไป๋หล่านเธอคิดว่าฉันเป็นเพียงแค่คนที่ยากจนมากๆคนนึงก็เท่านั้น แต่ที่สงสัยคือทำไมเธอถึงได้แนะนำฉันให้รู้จักกับคุณ”
“แล้วทำไมคุณถึงต้องการที่จะหาผู้ชายธรรมดาๆมาเป็นแฟนของคุณกันล่ะ?”
()