โชคชะตาที่ล่วงหล่น - ตอนที่ 17 การพบกันอีกครั้งที่โรงอาหาร
หลังจากกลับจากมิชลินจางเซี่ยก็กลับไปที่หอพัก ส่วนลู่หยวนหลังจากแยกกับจางเซี่ย เขาก็ไปหาที่นั่งเงียบๆคนเดียวในป่าหลังมหาลัย
นี่เป็นครั้งแรกที่ลู่หยวนเจอเหตุการณ์แบบนี้ ก่อนหน้านี้ที่ร้านอาหารเขาสังเกตว่าหลี่เมิ่งเหยาจ้องมองมาที่เขาตลอดเวลา มันทำให้เขารู้สึกสับสน เขาสังเกตุเห็นอารมณ์มากมายภายในดวงตาของเธอ
และตอนนี้หลี่เมิ่งเหยาก็เพิ่งกลับถึงหอพัก
เธอรู้สึกหดหู่ใจมากกับเหตุการณ์ในวันนี้
อย่างไรก็ตามคนที่รู้สึกหดหู่ที่สุดในวันนี้อาจไม่ใช่เธอ แต่เป็นตู้เหลียง
เดิมที่แผนของตู้เหลียงหากสำเร็จหลังจากที่ซื้อรถแล้วขับไปรับหลี่เมิ่งเหยาที่มหาลัย พาเธอไปกินมิชลิน หลังจากนั้นเขาก็จะพาหลี่เมิ่งเหยาไปเปิดบ้านในบรรยากาศที่หรูหราและโรแมนติก หลังจากนั้น…..
ใครจะคิดว่าแผนจะล่มไม่เป็นท่าเช่นนี้
หลี่เมิ่งเหยาได้กินอาหารของร้านมิชลินก็จริง แต่เธอกลับดูไม่ได้มีความสุขเลยแม้แต่น้อย
หลังจากกลับจากมิชลินแผนที่ตู้เหลียงวางไว้ว่าจะพาหลี่เมิ่งเหยาไปเปิดบ้านต่อ ก็ต้องล้มเลิกไปเพราะดูท่าทางแล้วเธอคงจะไม่ยอมไปกับเขาโดยดีแน่นอน ตู้เหลียงจึงทำได้เพียงแค่ไปส่งเธอกลับหอพักเท่านั้น
เมื่อหลี่เมิ่งเหยากลับมาที่หอพักสิ่งแรกที่เธอทำก็คือไปหาจางเซี่ย
หลี่เมิ่งเหยาและจางเซี่ยไม่ได้อยู่ในหอพักเดียวกัน จางเซี่ยอยู่หอพักถัดไปจากหอพักของหลี่เมิ่งเหยา
ตอนแรกพวกเธอทั้งสองคนสนิทกันมาก แต่หลังจากเกิดเรื่องในห้องเรียนวันนั้นที่ทั้งสองมีปัญหากันเรื่องลู่หยวน ตั้งแต่วันนั้นหลี่เมิ่งเหยาและจางเซี่ยก็ไม่ได้คุยกันอีกเลย
ในเวลานี้จางเซี่ยกลับมาที่หอพัก “ทุกคนวันนี้ฉันมีอาหารมื้อเย็นมาให้พวกเธอด้วย!” สิ่งที่จางเซี่ยถืออยู่ในมือคืออาหารที่บรรจุจากมิชลิน
ลู่หยวนสั่งอาหารมามากเกินไป ทำให้เขาและเธอกินกันไม่หมด อาหารหลายจานยังไม่ได้กินเลยด้วยซ้ำ จางเซี่ยรู้สึกว่าน่าเสียดายหากปล่อยทิ้งไว้แบบนั้น
อาหารทุกจานในร้านมิชลินที่มีไว้ให้สำหรับลูกค้า VIP นั้นราคามากกว่า 200 หยวนต่อจาน
เธอเลยขอให้พนักงานห่อกลับบ้านให้ด้วย
“ว้าว! อาหารจากมิชลิน จางเซี่ยฉันรักเธอที่สุดเลยยย!”
เพื่อนร่วมห้องของเธอเปรียบดังหมาป่าที่หิวโหย เมื่อเห็นว่าเป็นอาหารของร้านมิชลินพวกเธอก็รีบกระโจนเข้ามาในทันที
“จางเซี่ย” หลี่เมิ่งเหยาตะโกนเข้ามาขณะยืนอยู่ที่ประตูด้วยใบหน้าทะเล้น
“หลี่เมิ่งเหยาเมื่อกี้ฉันเห็นว่าเธอโพสต์รูปว่าอยู่ที่ร้านมิชลินด้วย พวกเธอทั้งสองคนไปกินข้าวมาด้วยกันเหรอ?” เพื่อนคนหนึ่งของจางเซี่ยถาม
ใบหน้าของหลี่เมิ่งเหยาแดงขึ้นกระทันหันและหัวใจของเธอก็กระวนกระวายขึ้นมาทันที
เธอกังวลมากว่าจางเซี่ยจะพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในร้านอาหารเมื่อตอนบ่าย หากจางเซี่ยเล่าให้คนอื่นฟังเธอจะต้องอับอายมากอย่างแน่นอน
โชคดีที่จางเซี่ยไม่ใช่คนแบบนั้นเธอแค่พยักหน้าและเดินผ่านไป
“เธอมาหาฉันมีธุระอะไรหรือเปล่า?” แม้ว่าจางเซี่ยและหลี่เมิ่งเหยาจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันมาก่อน แต่ตอนนี้ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองคนนั้นฝืดเคืองมาก ดังนั้นน้ำเสียงของจางเซี่ยจึงค่อนข้างแข็งเล็กน้อย
“เธอช่วยออกมาข้างนอกแป๊บนึงสิ ฉันมีเรื่องบางอย่างอยากจะถามเธอสักหน่อยน่ะ”
หลี่เมิ่งเหยาพูดด้วยเสียงเบา
“ทำไมต้องไปข้างนอก? ถามตรงนี้เลยก็ได้นะ” จางเซี่ยพูด
“โอ้ อย่าทำอย่างนี้สิ ออกไปข้างนอกกับฉันแค่แป๊บเดียวเอง น้าาาาเพื่อนรัก!” หลี่เมิ่งเหยาบีบรอยยิ้มอย่างสุดฤทธิ์และเขย่าแขนของจางเซี่ย ต้องบอกว่าหลี่เมิ่งเหยามีพรสวรรค์ในด้านนี้จริงๆ ทะเลาะกับจางเซี่ยมาก่อนและตอนนี้ก็เป็นกลายเป็นเพื่อนรักในทันทีเพียงแค่ใส่หน้ายิ้ม
ด้วยวิธีนี้ทำให้จางเซี่ยยอมออกไปคุยกับหลี่เมิ่งเหยา
“จางเซี่ยวันนี้เธอกับลู่หยวนไปที่มิชลิน ใครเป็นคนจ่ายค่าอาหารเหรอ?” หลี่เมิ่งเหยาพูดด้วยรอยยิ้ม
“ลู่หยวน”
จางเซี่ยพูดพลางคิดในใจว่าเธอเดาถูก และเธอก็รู้ว่าหลี่เมิ่งเหยามาที่นี่ก็เพื่อถามเรื่องนี้
“อา..จู่ๆทำไมลู่หยวนถึงมีเงินมากขนาดนั้นล่ะ?” หลังจากที่ หลี่เมิ่งเหยาพูดจบเธอก็มุ่งความสนใจไปที่จางเซี่ยราวกับว่าเขากลัวว่าจะพลาดทุกคำที่จางเซี่ยพูด
“ทำไมเธอถึงอยากรู้เรื่องนี้?” จางเซี่ยยิ้มเยาะนี่หลี่เมิ่งเหยาคิดถึงเรื่องนี้อยู่จริงๆ
“ฉันถามด้วยความเป็นห่วง ยังไงลู่หยวนกับฉันก็เคยเป็นแฟนกันมาก่อน ถึงแม้ว่าเราจะเลิกกันแต่ฉันก็ยังคงห่วงเขา” หลี่เมิ่งเหยาตอบ
จางเซี่ยถึงกับหัวเราะออกมาเบาๆ เธอช่างกล้าพูดว่าเป็นห่วง
ก่อนหน้านี้เธอยังทำไม่ดีกับลู่หยวนอยู่เลย ทั้งเรื่องในห้องเรียนที่เธอทำให้ลู่หยวนอับอาย ไหนจะเรื่องที่เธอดูถูกลู่หยวนที่มิชลินอีก
“จางเซี่ยเพื่อนรัก บอกฉันหน่อยว่าทำไมจู่ๆลู่หยวนถึงได้มีเงินพาเธอไปกินร้านสุดหรูอย่างนั้นได้ล่ะ?” หลี่เมิ่งเหยาถามพร้อมกับกุมมือจางเซี่ยขึ้นมา
จางเซี่ยยังคงเป็นคนอ่อนโยนและเธอเคยเป็นเพื่อนกับหลี่เมิ่งเหยามาก่อน ในตอนนี้เมื่อเห็นหลี่เมิ่งเหยาทำท่าทางแบบนี้ เธอจึงใจอ่อน
“ถ้าฉันบอกเธอแล้วอย่าไปบอกคนอื่นล่ะ ลู่หยวนได้รับรางวัลมาน่ะ!” จางเซี่ยพูดเบาๆ
“เขาถูกลอตเตอรี่เหรอ เงินรางวัลทั้งหมดเท่าไหร่?” หลี่เมิ่งเหยารอคำตอบอย่างกระตือรือร้น
บอกตามตรงว่านี่คล้ายกับที่เธอเคยเดาไว้ตอนที่อยู่ในมิชลิน จางเซี่ยเดาว่าลู่หยวนจะต้องถูกรางวัลอย่างแน่นอน
ถ้าไม่อย่างนั้นลู่หยวนจะไปเอาเงินมาจากไหนกัน?
“หนึ่งแสนหยวน”
จางเซี่ยพูด “ฉันหวังว่าเธอคงจะไม่ไปรบกวนเขานะ มันไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับลู่หยวนเลยที่จะมีเงินจำนวนนี้ ครอบครัวเขายากจนและเขามักจะใส่เสื้อผ้าเก่าๆ เงินนี้สามารถช่วยให้ชีวิตเขาดีขึ้นมาได้”
“อย่าห่วงไปเลยจางเซี่ยฉันจะไม่รบกวนเขา” หลี่เมิ่งพูดพร้อมรอยยิ้ม “ฉันแค่เป็นห่วงเขาเพราะยังไงฉันก็เคยเป็นแฟนเขามาก่อน”
เธอก็แค่พูดไปอย่างนั้น
หลังจากกลับบ้านหัวใจของหลี่เมิ่งเหยาก็เต้นแรงด้วยความตื่นเต้น เงินตั้ง 100,000 และก็เป็นเงินสด
แม้ว่าเขาจะใช้ไปแล้ว 20,000 ที่มิชลินวันนี้ แต่เขาก็ยังมีเงินอยู่ในมืออีกตั้ง 80,000 หยวน
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้หลี่เมิ่งเหยาก็แอบเสียดาย ถ้าเธอรู้ว่าลู่หยวนจะถูกรางวัล เธอจะไม่รีบเลิกกับเขา!
หลี่เมิ่งเหยารู้ดีว่าถ้าเธอยังเป็นแฟนกับลู่หยวน เขาจะยอมใช้เงินถึง 90 % ของเงิน 80,000 นั้นกับเธอ
ท้ายที่สุดหลี่เมิ่งเหยาก็รู้ดีว่าลู่หยวนดีกับเขามาก
สิ่งที่จางเซี่ยพูดในห้องเรียนก่อนหน้านี้ เรื่องที่ลู่หยวนพาเธอไปโรงพยาบาลกลางดึกถอดเสื้อผ้าและสวมมันให้เธอ แน่นอนว่าหลี่เมิ่งเหยาจำสิ่งเหล่านี้ได้ชัดเจน
เนื่องจากลู่หยวนสามารถใช้จ่ายเงิน 20,000 หยวนเพื่อพาจางเซี่ยไปกินมิชลิน เขาจะต้องยอมใช้เงิน 80,000 หยวนที่เหลือนั้นเพื่อเธออย่างแน่นอน
เพราะสุดท้ายเธอก็คือผู้หญิงที่เขาเคยรักมากทีสุด!
บางทีตอนนี้เขาก็อาจจะยังรักเธออยู่มาก
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้หลี่เมิ่งเหยาก็ยิ้มกว้างอีกครั้งแววตาของเธอเป็นประกายทันที
วันรุ่งขึ้นค่อนข้างว่างมีคาบเรียนแค่วิชาเดียว
ลู่หยวนกินข้าวอยู่ที่โรงอาหารท่ามกลางฝูงชนที่ปั่นป่วน
ในขณะที่เขากำลังตักข้าวเข้าปากนั้น ก็ได้ยินใครบางคนเรียกชื่อเขาจากด้านหลัง
“ลู่หยวน!”
ลู่หยวนหันกลับไปหาเจ้าของเสียง และพบว่าเป็นหลี่เมิ่งเหยาที่ยืนเรียกเขาอยู่ในฝูงชน
เขารู้สึกแปลกใจที่วันนี้เธออยู่คนเดียว
เพราะตั้งแต่ที่เธอทิ้งลู่หยวนไป เธอกับตู้เหลียงอยู่ด้วยกันแทบจะตลอดเวลาอย่างกับแซนวิช
ตอนนี้หลี่เมิ่งเหยาอยู่คนเดียวซึ่งทำให้ลู่หยวนประหลาดใจมาก
หลี่เมิ่งเหยาเดินผ่านฝูงชนและเข้ามายืนอยู่ที่หน้าโต๊ะของเขา
“โอ้ บังเอิญจังเลยที่เรามากินข้าวพร้อมกัน!” หลี่เมิ่งเหยาพูดอย่างยิ้มแย้ม
“มีอะไรเหรอ?” ลู่หยวนถามอย่างระมัดระวังด้วยความสงสัยว่าหลี่เมิ่งเหยาต้องการจะทำอะไร
นับตั้งแต่เลิกกันหลี่เมิ่งเหยาก็ทำเหมือนว่าเขาเป็นศัตรูมาโดยตลอด แต่วันนี้มีความผิดปกติต่างจากตอนแรก
“เกิดอะไรขึ้น ทำไมต้องมีอะไรด้วยล่ะ ฉันก็แค่เข้ามาทักทายในฐานะคนคุ้นเคย” หลี่เมิ่งเหยาทำหน้ามุ่ยอย่างไม่พอใจ
“อ๋อโอเค ฉันไปก่อนนะพอดีมีเรียนน่ะ”
ลู่หยวนเดินออกไป ทั้งที่ยังกินอาหารไม่หมด
ใบหน้าของหลี่เมิ่งเหยาเปลี่ยนไปทันทีและเธอก็กระทืบเท้าของเธอ “หยุดเดี๋ยวนี้นะ!”
เดิมทีเธอคิดว่าหากเธอเข้าหาลู่หยวนอย่างกระตือรือร้นทำตัวออดอ้อนและพูดจาอ่อนหวาน ลู่หยวนจะฟังเธอทันทีเหมือนกับแมว ..
เธอคิดว่าเธอรู้จักลู่หยวนเป็นอย่างดี ลู่หยวนต้องยอมเธอทุกอย่างแน่นอน
เธอไม่ได้คิดเลยว่าเขาจะเดินจากไปแบบนี้
“ลู่หยวน!”
หลี่เมิ่งเหยาตะโกนขึ้นด้วยเดซิเบลสูงปรี๊ด!
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันนี้ สร้างความตกใจให้กับนักเรียนที่เดินไปมาอย่างมาก และในเวลานี้เป็นช่วงพักกลางวันด้วย ทำให้มีนักเรียนมากกว่าปกติ
ทุกคนมองไปที่หลี่เมิ่งเหยาอย่างอยากรู้อยากเห็น
“ลู่หยวนนายมันโหดร้าย! นายยังมีความเป็นคนอยู่หรือเปล่า? ก่อนหน้านี้เป็นฉันเองที่ไม่เคยจะสนใจฐานะของนายเลย ไม่ว่าจะรวยหรือจน ในตอนนั้นมีคนมากมายไล่ตามจีบฉัน แต่ฉันก็ยังเลือกนาย!!! และก็เป็นนายที่บังคับฉันให้ฉันออกไปนอนโรงแรมข้างนอกมหาลัยกับนาย พอฉันท้องนายก็บังคับให้ฉันไปทำแท้ง แต่ถึงขนาดนั้นฉันก็ไม่เคยคิดจะตำหนินายเลยแม้แต่น้อย แต่สุดท้ายนายก็ยังทิ้งฉันไปอย่างไม่ใยดีราวกับผ้าขี้ริ้ว!”
หลี่เมิ่งเหยาทำตัวราวกับนางเองละครทีวีที่ถูกทำร้าย เธอแสร้งทำเป็นเสียสติและพุ่งเข้าไปหาลู่หยวนแล้วกอดขาน้ำตาไหลพราก