โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ【之全能大師 】 - ตอนที่ 171
Provider : Muntra
โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ Ep.171 – ร่วมมือแบบได้ผลประโยชน์ทั้งสองฝ่าย
ผู้หญิงผงะตกใจ พอได้สติเร่งกล่าว “ฉันชื่อว่าซ่างเซี่ยน”
ฉินเฟิงพยักหน้า หยิบปืนพลังงานขึ้นมา และโยนให้อีกฝ่ายโดยตรง
“คุณรับผิดชอบเก็บกวาดการขนส่งวัตถุดิบ เป็นหัวหน้าคอยสั่งการพวกเขา”
ซ่างเซี่ยนตกใจเล็กน้อยที่ตนได้รับตำแหน่งนี้ แต่เธอก็พยักหน้าตกลง “เข้าใจแล้ว”
เธอกุมปืนพลังงานอย่างชำนิชำนาญ สีหน้าการแสดงออกดูเปลี่ยนไปเป็นหนักแน่นมั่นคง
ฉินเฟิงพอเห็นก็พยักหน้าด้วยความพอใจ
ในสายตาของคนอื่นๆซ่างเซี่ยนดูผอมแห้งมาก แต่การที่ฉินเฟิงเกิดสนใจเธอเป็นพิเศษ ไม่ใช่เพราะเขามีเมตตา
แต่การที่ฉินเฟิงเลือกอีกฝ่าย มันมีเหตุผลในตัวมันเอง
หนึ่ง เป็นเพราะซ่างเซี่ยนได้รับการช่วยเหลือจากฉินเฟิง เลยเป็นธรรมดาที่เธอจะติดหนี้บุญคุณเขา และเกิดความรู้สึกอยากจะตอบแทน
ซึ่งคนประเภทนี้ จะมอบความภักดีที่สูงยิ่งกว่าคนทั่วๆไป และยังตั้งอกตั้งใจทำงานให้แก่ฉินเฟิงได้เป็นอย่างดี
สอง ซ่างเซี่ยนแม้ไม่ใช่ผู้ใช้พลัง แต่ทั้งกายและใจของเธอมิได้อ่อนแออย่างแน่นอน ดูจากอาการที่ดีขึ้นก็พอจะรู้แล้ว
ข้อสุดท้ายที่ฉินเฟิงเลือกเธอ เพราะในตอนแรกเขาเข้าไปช่วยเหลือเธอในห้องใต้ดินของร้านค้า นั่นหมายความว่ามันอาจเป็นร้านของซ่างเซี่ยนเอง หรือกล่าวอีกนัยนึงก็คือ เธอพอมีทักษะด้านการบริหารจัดการมาก่อน
ดังนั้น แม้ตอนนี้สภาพของซ่างเซี่ยนจะดูน่าสังเวชแค่ไหน แต่เธอคือคนที่มีความสามารถอย่างไม่ต้องสงสัย อย่างน้อยก็น่าจะคุมงานที่คล้ายคลึงกับอาชีพเก่าของตนเองได้
คนธรรมดาก้าวขึ้นไปบนรถบัส ใครที่ขับรถได้ก็รับหน้าที่ขับไป ส่วนอีกกลุ่มหนึ่ง เป็นผู้ใช้พลังจากสถานชุมชนเฟิงหลีที่นำทีมโดยวังเฉิน มีจำนวนไม่มาก แค่ 10 คนเท่านั้น แต่หากทีมที่ว่ารับหน้าที่ช่วยเหลือผู้รอดชีวิต แค่นี้นับว่าเพียงพอ
หลังจากผู้ใช้พลังขึ้นรสบัส ฉินเฟิงก็ขึ้นขี่ม้าศึก นำไป๋หลีและผู้คนที่อยู่กันเต็มรถ มุ่งหน้าสู่พื้นที่ทางตอนเหนือของเมืองหาน
เมื่อวานนี้ฉินเฟิงเพิ่งทำการสังหารหมู่ และโรยผงขับไล่ลงตามทาง อันตรายจากแมลงจึงลดต่ำลง กล่าวได้ว่าหากเกิดการต่อสู้กันขึ้นที่นี่ ก็มั่นใจได้เลยว่าปลอดภัย
ภายในเมืองหานที่ถูกยึดครองโดยศัตรู หลังจากผ่านไปเพียงหนึ่งคืน พวกแมลงสัตว์ร้ายก็เริ่มกระจายตัวออกมายังวงแหวนรอบนอกของเมืองอีกครั้ง
ฉินเฟิงยืนหยัดอยู่บนถนนกว้าง เฝ้ารอการต่อสู้ที่กำลังจะมาถึง
ไม่นาน ในแนวสายตา เริ่มเกิดฝุ่นฟุ้งตลบ คล้ายบางสิ่งบางอย่างกำลังวิ่งจากในระยะไกล
ไม่เพียงถนนสายหลัก แต่ตรอกซอกซอยรอบๆที่เชื่อมต่อมายังถนนสายนี้ ก็อยู่ในความดูแลของโจวฮ่าวและคนอื่นๆ
เบื้องหลังพวกเขา เป็นแมลงสัตว์ร้ายอย่างน้อยก็30 – 40 ตัว และยังคงทยอยกันมาอย่างต่อเนื่อง
พวกแมลงวิ่งไล่ตามกันมา คล้ายต้องการจะฉีกทึ้งอาหารสดๆเบื้องหน้า กัดกินเป็นชิ้นๆ
เพื่อหลอกล่อให้ง่ายยิ่งขึ้น โจวฮ่าวและคนอื่นๆจึงพกเนื้อสดๆติดตัวไปด้วย แต่มันไม่ใช่เนื้อมนุษย์ หากแต่เป็นเนื้อหนูยักษ์กินพืชที่ถูกล่าในวันนี้นอกเมืองหาน
กลิ่นเลือดดึงดูดพวกแมลงให้ไล่ตามมา โดยที่พวกมันไม่รู้เลย ว่าจากนี้ไปต้องเผชิญ คือกับดักแห่งความตาย!
โจวฮ่าวและคนอื่นๆวิ่งมาหยุดข้างกายฉินเฟิง ปัจจุบันรอบตัวพวกเขา รายล้อมไปด้วยแมลงมากมาย
ฉินเฟิงปลดปล่อยอบิลิตี้ของตนอย่างไม่ลังเล
“พรมโลกันต์!”
เปลวเพลิงลุกโชนขึ้นบนพื้นดิน กวาดโถมออกไปทั่วบริเวณ
สัตว์ร้ายที่ไล่ตามมาพยายามดิ้นรนกระโจนฝ่าทะเลเพลิงเข้าหาฉินเฟิง หมายมั่นจะสังหารฆาตกรที่เป็นตัวต้นเหตุของเรื่องนี้
“ทักษะลับกลืนดารา!”
“ปลดปล่อยแรงผลัก!”
กลืนดาราของฉินเฟิงก่อสนามพลังลม กระแทกแมลงสัตว์ร้ายทั้งหมดให้ถอยกลับสู่เปลวเพลิง
นอกจากนี้ พวกมันบางส่วนที่คิดแหวกพรมโลกันต์เข้ามา ยังถูกหยุดไว้โดยโจวฮ่าวและคนอื่นๆ โดยเฉพาะปืนกลมือของลู่เหมิงที่ทรงพลังเป็นอย่างยิ่ง
แมลงนับร้อยทยอยถูกสังหารลงอย่างรวดเร็ว บางตัวเปลี่ยนใจคิดหนี แต่ก็ถูกดักสังหารลงโดยวังเฉิน , ไป๋หลี และผู้ใช้พลังคนอื่นๆ
“พวกที่อยู่แนวหลัง ออกมาเก็บกวาดได้”
ฉินฟิงสั่งสั้นๆผ่านอุปกรณ์สื่อสาร
“รับทราบมิสเตอร์ฉิน” ซ่างเซี่ยนตอบรับอย่างรวดเร็ว ขับรถตรงมาข้างหน้าเพื่อเก็บกวาดถนน
“ส่วนพวกนาย ฝากไปช่วยเหลือผู้รอดชีวิตด้วย” ฉินเฟิงสั่งอีกทาง
ผู้ใช้พลังจากสถานชุมชนเฟิงหลีที่นำโดยวังเฉิน มองมาทางฉินเฟิงด้วยความเคารพเทิดทูน
ความแข็งแกร่งของฉินเฟิง ทำให้พวกเขาทอดถอนหายใจด้วยยำเกรง เลือดลมอดไม่ได้ที่จะเดือดพล่าน
หากติดตามผู้นำสถานชุมชนคนนี้ต่อไป อนาคตของพวกเขาจะรุ่งโรจน์เพียงใด ก็ลองคิดเอา
ถึงแม้ภารกิจนี้ ฉินเฟิงจะมอบเงินอุดหนุนให้พวกเขาเพียง 100,000 เหรียญก็ตาม
แต่พวกเขาก็ยังได้รับแต้มสงครามจากการช่วยชีวิตผู้คน และจากการล่าปลา(สัตว์ร้าย)ที่เข้ามากินเบ็ด แค่แต้มพวกนี้ก็เพียงพอแล้วที่จะมองข้ามเรื่องเงินไป ถ้าจะให้กล่าวอธิบาย คงคล้ายๆว่า ‘การติดตามฉินเฟิง หากฉินเฟิงได้กินเนื้อ อย่างน้อยพวกเขาก็ได้กินซุป!’
และยังเป็นซุปที่สามารถกินมันได้อย่างเต็มปากเต็มคำ!
พวกเขายังรู้สึกถึงกระทั่งว่า ต่อให้เป็นผู้ใช้พลังเลเวล E ก็คงไม่สามารถทำเช่นนี้ได้
แผนการล่อแมลงสัตว์ร้ายดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง พอพวกมันติดกับก็สังหาร ผ่านไปครึ่งชั่วโมง บนถนนสายหลัก ภายในบ้าน และตรอกซอกซอยรอบๆถูกเก็บกวาดจนเกลี้ยง
หากคาดคำนวณด้วยอัตราเร็วนี้ คาดว่าน่าจะสักอีก 3 – 4 วัน ทางตอนเหนือของเมืองหานน่าจะถูกเก็บกวาดจนสะอาดอย่างสิ้นเชิง!
…
ตลอดทั้งวันได้ผ่านพ้นไป
ปรากฏว่ากลุ่มคนที่นำโดยฉินเฟิงสามารถกวาดล้างถนนได้มากกว่า 85 สาย หรืออย่างน้อย 5 ย่านพักอาศัย
และที่กล่าวมามิใช่เขตอย่างวงแหวนรอบนอกของเมืองหานอีกต่อไป แต่มันคือเขตทางตอนเหนือที่อยู่ลึกเข้าไป มีแมลงชุกชุมอยู่หนาแน่น
ผลงานของฉินเฟิง เทียบเท่าได้เลยกับความพยายามร่วมมือกันกวาดล้างของผู้ใช้พลังกว่า 300 – 400 คน!
ตกกลางคืน ภารกิจก็หยุดลง หลังจากตัดสินใจก็ได้ข้อสรุปว่า
“วันนี้พวกเราจะไม่กลับไปยังสถานชุมชนชั่วคราว แต่จะหาโรงแรมใกล้ๆ และพักกันที่นั่น ถึงพื้นที่แถบนี้จะเคลียร์เรียบร้อยแล้ว แต่ก็ต้องมีเวรยามเฝ้าระวัง ห้ามละเลย!”
ได้หลับพักผ่อนในเมืองหาน แม้จะถูกยึดครองโดยศัตรูมานับ 10 วันแล้วก็ตาม แต่มันก็ยังมีสภาพดีกว่าในที่พักของสถานชุมชนชั่วคราว!
“โอ้สวรรค์ นี่มันเยี่ยมไปเลย เพราะฉันไม่อยากนอนบนเตียงแข็งๆ บ้าๆนั่นอีกต่อไปแล้ว!” ลู่เหมิงบ่นคำหนึ่ง
กระทั่งคนธรรมดาทั่วไปที่ฉินเฟิงเป็นคนจ้างมา ก็ยังเห็นด้วย
บอกได้ว่าภายในวันเดียว พวกเขาที่แต่เดิมมีอคติต่อฉินเฟิง กลับกลายเป็นเกิดความเชื่อมั่นในตัวฉินเฟิงเป็นอย่างสูง
ส่วนเรื่องที่ว่าเมืองหานตกอยู่ภายใต้เงื้อมมือศัตรู ไม่ช้าก็เร็วคงสามารถกู้คืนมาได้
ในกลุ่มของฉินเฟิง มีเพียงวังเฉินที่ถูกส่งให้กลับไปขายวัตถุดิบที่ได้มาจากสัตว์ร้าย เหลือเก็บพวกวัตถุดิบระดับทหารและนายพลแมลงไว้เพียงไม่กี่ชิ้นเท่านั้น เพราะวัตถุดิบเหล่านี้ จะถูกส่งกลับไปจัดเก็บในคลังสินค้าของสถานชุมชนเฟิงหลีในอนาคต!
…
10 วันได้ผ่านพ้นไป
ฉินเฟิงและคนอื่นๆไม่ได้ออกจากภายในเมืองหานเลย และเนื่องจากได้รับความร่วมมือจากผู้ใช้พลังที่เดินทางมาสมทบในภารกิจกอบกู้เมืองหานอย่างต่อเนื่อง ทำให้สงครามในเมืองหานเป็นไปอย่างราบรื่น
ทีมของฉินเฟิงสามารถยึดคืนพื้นที่ทางตอนเหนือเกือบทั้งหมดได้โดยลำพัง นอกจากนี้ยังยึดพื้นที่ทางตะวันออกได้ซะเป็นส่วนใหญ่ และพื้นที่ใจกลางเมืองซึ่งเป็นจุดที่มีแมลงหนาแน่นที่สุดได้อีกนิดหน่อย
เนื่องจากที่นี่เคยเป็นรังของแม่พันธุ์แมงมุมระดับราชันย์มาก่อน ดังนั้นมดเหล็กดำที่สาปกลิ่นของศัตรูจึงไม่อาศัยอยู่ที่นี่ ดังนั้นเมื่อไม่มีแมลงที่สามารถก่ออันตรายร้ายแรงใดๆ ฉินเฟิงและคนของเขาเลยกวาดล้างพื้นที่แถบนี้ได้อย่างง่ายดาย
ในทางตรงกันข้าม รังมดที่อยู่ทางฝั่งตะวันออก ได้กลายเป็นปัญหาใหญ่อย่างแท้จริง
ในวันนี้ แผนการกู้คืนเมืองหาน ก็เริ่มเข้าสู่ช่วงเวลานับถอยหลัง
วิซซซซ!
อุปกรณ์รักษาเสถียรภาพมิติเริ่มลอยขึ้น และปลดปล่อยรังสีแสงสีเงินออกมา
รอยแยกมิติถูกซ่อมแซมอย่างรวดเร็ว หลุมดำที่คล้ายกับปากใหญ่ยักษ์ที่ลอยล่องอยู่เหนือเมืองหานตลอดมา ในที่สุดก็หายไป!
ไม่ว่าจะเป็นชาวเมืองหาน หรือผู้ใช้พลังที่เข้าร่วมสงคราม ทั้งหมดต่างเผยถึงรอยยิ้มตื่นเต้น
เพราะนี่หมายความว่าการกู้คืนเมืองหานได้เข้าสู่ขั้นตอนสุดท้ายแล้ว
มีแค่เพียงผู้บัญชาการชิหลง ที่คิ้วยังขมวดมุ่นไม่คลาย
วันถัดมา ชิหลงประกาศว่าจะใช้อาวุธทำลายล้างที่ทรงพลัง ยิงเข้าใส่รังมดโดยตรง
นอกจากนี้ยังเอ่ยสารภาพ ว่าน่ากลัวว่าหลังจากนี้ไป พื้นที่ขนาดใหญ่ที่เคยเป็นรังมดในเมืองหาน ไม่น่าจะสามารถใช้งานได้อีกต่อไป!
ภายนอกอาณาเขตมด ที่สร้างรังจนขุดดินสูงเป็นเนินเขา ผงขับไล่สัตว์ร้ายถูกโรยล้อมเป็นวงล้อมขนาดใหญ่รอบรังของมัน ขณะเดียวกันก็มีคนกลุ่มหนึ่งกำลังสร้างกำแพงปราการโอบล้อมรอบๆอีกชั้นหนึ่ง
“เร็วเข้า เร่งมือเร็ว!”
ผู้ใช้พลังเร่งเร้า ขณะที่คนธรรมดาหลายพันคนช่วยกันแบกกระสอบทรายมากมาย ปิดล้อมเนินเขามดเหล็กดำ ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางกว่า 300 เมตร
ในบริเวณดังกล่าว ปัจจุบันเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมของพวกมด ในขณะที่สิ่งปลูกสร้างของมนุษย์ไม่มีหลงเหลืออยู่เลย ดังนั้นพวกเขาที่อยู่ภายนอกเลยตัดสินใจสร้างกำแพงปราการขึ้น
นอกจากนี้ยังมีผู้ใช้อบิลิตี้ดิน , เหล็ก และไม้ ร่วมมือการสร้างแนวป้องกันเสริมความแข็งแกร่งเข้าไปอีกชั้น