ตอนที่ 22 ต้องการแลก
ทันใดนั้นแม่มดสาวก็กล่าวขึ้นด้วยเสียงดังฟังชัดว่า
“ฉันมีข้อแลกเปลี่ยนมานําเสนอ!” แม่มดสาวรู้สึกว่าได้เวลาแล้วที่ตนเองจะเสนอตัวจึงกล่าวเช่นนั้นออกไป
“ข้อแลกเปลี่ยนอะไร?” ผู้หนึ่งหนึ่งคนกับตุ๊กตากล่าวขึ้นพร้อมกันด้วยความสงสัย
แม่มดกล่าวในทันทีว่า
” เมื่อครู่ฉันได้ยินบทสนทนาของพวกคุณทั้งหมดแล้ว” จากนั้นฮันเป่าเม่ยได้ทบทวนสิ่งที่เธอได้ยินว่า
“คุณชื่อเซี่ยงอัน อายุยี่สิบแปดปีและติดเชื้อโควิคสายพันธุ์ที่หายาก ซึ่งยังไม่มียารักษาและคุณจะตายในไม่ช้า ดังนั้นจึงต้องการฆ่าตัวตายเพื่อยุติความเจ็บปวดและนําเงินที่เหลือมอบให้พ่อแม่ไว้ใช้ยามแก่ชรา”
“แล้วถ้าฉันสามารถยืดอายุของคุณได้สามเดือนล่ะ?”
” คุณพูดอะไรนะ?” เซียงอันกล่าวพร้อมกับเดินกลับขึ้นมาจากกันสาดด้วยท่าทางตื่นเต้น
เมื่อเห็นว่าหญิงสาวปืนกลับเข้ามาจากบริเวณกันสาดที่อันตราย ในที่สุดหยุนหัวก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งใจและยกมืออันอ่อนนุ่มขึ้นมาจับที่บริเวณหน้าอกของตนเอง
“เรื่องแบบนี้ต้องมีค่าธรรมเนียม!” แม่มดยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
“คุณต้องการเท่าไหร่?” หญิงสาวเอ่ยถามทันที
” หนึ่งในสิบของทรัพย์สินที่คุณมี และเรื่องนี้จะต้องเป็นความลับระหว่างเรา..คุณต้องการที่จะเสี่ยงหรือเปล่า?”
“ต้องการ!” หญิงสาวตอบโดยไม่มีอาการลังเลใด ๆ
แท้ที่จริงแล้วทรัพย์สินก็เป็นเพียงของนอกกาย ดังนั้นหากเราสามารถนําทรัพย์สินเพียงหนึ่งในสิบของตนเองซึ่งเป็นสิ่งที่ ไร้ค่าเมื่อเราเสียชีวิตไปแล้วแลกกับสุขภาพที่ดีกลับคืนมาได้ ก็นถือว่าเป็นสิ่งที่คุ้มค่ามากและแม้จะเป็นเวลาเพียงไม่นานนักก็ตาม
” แต่…ฉันต้องเตือนก่อนว่า หนึ่งในสิบของทรัพย์สินคุณสามารถแลกกับสุขภาพที่ดีได้เพียงสามเดือนเท่านั้น และ เมื่อถึงเวลานั้นหากทางการแพทย์ยังไม่สามารถคิดค้นยารักษาได้…คุณจะต้องตายด้วยโรคนี้อยู่ดี”
“ฉันรู้…ฉันยอมแลก” เซียงอันกล่าวอย่างหนักแน่น
“โอเค! อย่างนั้นฉันจะเริ่มเลย…”
เมื่อกล่าวจบเป่ามือก็หยิบขวดหมึกสีแดงออกมาจากกระเป๋าเป้ของเธอและเปิดออกแล้วใช้นิ้วจุ่มลงไป จากนั้นเธอจึงนั่งยองยองลงบนพื้นเพื่อเริ่มวาดภาพ
ในช่วงเวลาเพียงสั้น ๆ รูปแบบที่ซับซ้อนและลี้ลับก็ปรากฏขึ้นที่บริเวณพื้นท่ามกลางความตื่นเต้นของหนุ่มสาวตรงหน้า ชั่วอึดใจพวกเขาก็ได้ยินแม่มดสาวกล่าวกับเซียงอันว่า
”เอาเลือดของคุณมาให้ฉันสักหยด!”
เซียงอันไม่ลังเลใจแม้แต่น้อยที่จะยื่นมือออกไปข้างหน้า ทําให้พบว่าข้อมือที่เรียวยาวของเธอนั้นเต็มไปด้วยเส้นเลือดสีเขียวปูดโปนและรูซึ่งเกิดจากการถูกเข็มทิ่มแทงอยู่หลายจุด
ฮันเป่าเม่ยปิดฝาขวด…จากนั้นจึงเก็บใส่กระเป๋าเป้และหยิบเข็มเงินออกมาจิ้มลงไปอย่างแผ่วเบาที่ปลายนิ้วชี้อันซีดขาวของเซียงอัน และหยดเลือดนั้นลงไปยังพื้นซึ่งตนเองเขียนรูปแบบเอาไว้
เมื่อปล่อยมือของผู้หญิงคนนั้นแล้ว ฮันเป่าเม่ยก็ยกนิ้วชี้ ขึ้นพร้อมกับร่ายเวทย์มนต์อย่างจริงจังและใช้ฝ่ามือนั้น กดลงตรงกลางรูปแบบบนพื้นพร้อมกับกล่าวว่า
“โอม…ในนามของแม่มด…ข้าต้องการเรียกวิญญาณที่ดีมาที่นี่ ณ บัดนี้!”
ทันใดนั้นตัวอักษรบนพื้นก็ระเบิดด้วยเสียงอันดังเครื่องพร้อมกับมีลําแสงสีดําและสีแดงปรากฏขึ้น
และในเวลาเดียวกันนั้นสถานเลี้ยงเด็กกําพร้า ซึ่งอยู่ห่างจากโรงพยาบาลไปครึ่งเมืองนั้นชื่อฮานกับผู้คนที่ทํางานในสมาคมกําลังทําพิธีขับไล่วิญญาณของเด็กที่เสียชีวิตในนั้นอยู่
ขณะนี้ผีเด็กที่มีอายุประมาณเจ็ดขวบกําลังยืนประจันหน้ากับนักบวชทั้งสามคนตรงหน้าด้วยแววตาที่ดุดัน
“ไอ้เด็กผี! ยอมให้จับซะดี ๆ “ ฮือฮานใช้ดาบไม้ชี้ไปที่ผีเด็กตรงนั้นพร้อมกับกล่าวว่า
“ถ้ายังดื้ออยู่อีกข้าจะทําให้เจ้าไม่ได้ไปผุดไปเกิดอีกเลย”
“ไอ้นักบวชลวงโลก! รีบกลับไปซะ!” ผีเด็กที่ชื่อเซียงจื่อร้องตะโกนอย่างหงุดหงิด
” พี่ใหญ่! เราพูดจาเล้าโลมมันมานานแล้วเสียเวลาเปล่า ๆ เรามาจัดการขั้นเด็ดขาดกับพวกมันจะดีกว่า” นักบวชที่มีอาวุโสน้อยกว่ากระซิบอย่างแผ่วเบา
นักบวชซื้อฮานคิ้วขมวดอย่างเคร่งเครียดและในที่สุดก็กล่าวออกมาว่า:
“เอาล่ะ! เรามาเริ่มกันเลย”
จากนั้นนักบวชทั้งสามคนก็รวมพลังเป็นหนึ่งและพุ่งพลังจิตวิญญาณตรงไปยังเจ้าเด็กผีตนนั้น ขณะที่ดวงวิญญาณดวงนั้น จ้องเขม่งตรงไปที่นักบวชเหล่านั้นด้วยเช่นกัน
และในจังหวะที่เขากําลังจะใช้พลังทั้งหมดของตนเองต่อต้านพลังจิตของบรรดานักบวชทันใดนั้นมันก็ มีพลังงานที่แปลกประหลาดพุ่งเข้ามาปกคลุมเขา ส่งผลให้ดวงวิญญาณของผีเด็กคนนั้นก็หายไปในพริบตา
“เกิดอะไรขึ้น?”
“เด็กผีหายไปไหนแล้ว?”
ทั้งสามคนหันหน้ามองกันเองด้วยสายตาที่ว่างเปล่า ท่ามกลางความสับสนของผู้คนที่กําลังสังเกตการณ์อยู่รอบข้าง
ผีเด็กถูกนําตัวเข้าสู่ห้วงอากาศอันมืดมิดโดยพลัง มหาศาลของแม่มดสาว และขณะที่ผีน้อยกําลังอยู่ในอารมณ์ที่สับสนเสียงของผู้หญิงลึกลับก็ดังขึ้น
“ด้วยความสิ้นหวังของคนที่กําลังจะตาย คุณแน่ใจหรือเปล่าว่าต้องการที่จะแลกความแข็งแกร่งนี้เป็นเวลาสามเดือน?”
“ต้องการ…ฉันต้องการ” เซียงอันกล่าวอย่างร้อนรน
“ได้! อย่างนั้นจะเริ่มพิธีเลย!” แม่มดสาวกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ในขณะที่ได้ยินคํากล่าวเหล่านั้น วิญญาณของเด็กน้อย สัมผัสได้ว่าพลังทางจิตวิญญาณของตนเองมลายหาย ไปจนหมดสิ้น มันจึงทําให้เขาเกิดอาการตื่นตระหนกแต่มีสัญ ชาตญาณบางอย่างกําลังบอกว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้นเพียงชั่วคราว และเขาจะไม่ตกอยู่ในอันตราย
ตอนนี้ทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ฮันเป่าเม่ยปัดฝุ่นด้วยการปรบมือและกล่าวกับเซียงอันอีกว่า…
” พิธีการเสร็จสมบูรณ์แล้วจ่ายเงินได้!”
ขณะนี้เซียงอันยังคงอยู่ในอาการมึนงง และดูเหมือนว่ามี พลังบางอย่างกําลังแผ่ซ่านอยู่ในร่างกายของตนเอง ซึ่งมันทําให้เกิดความแข็งแกร่งขึ้นมาอย่างฉับพลัน ทําให้รู้สึกราวกับว่าอาการบาดเจ็บภายในที่เกิดขึ้นจากการรับยาฆ่าเชื้อ โควิดมาเป็นเวลานานกําลังได้รับการซ่อมแซมอย่างช้า ๆ จน ส่งผลให้ความเจ็บปวดขอร่างกายบรรเทาลงอย่างเห็นได้ชัด
“ฉัน..ฉัน..!”
ร่างกายของฉันจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมตอนที่ยังไม่ป่วยอีกได้จริงหรอ?
แต่ในเวลานี้เสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์มือถือของฮันเป่าเมยก็ดังขึ้น
เมื่อเห็นชื่อปรากฏขึ้นบนหน้าจอโทรศัพท์เป่าเม่ยก็เบิกตากว้างและรีบรับโทรศัพท์ทันที
“ตอนนี้สองทุ่มแล้วนะเปาเม่ย! ทําไมยังไม่กลับ?” บ้านมารดาของเด็กสาวกล่าวด้วยความกังวลใจ
” กําลังกลับค่ะแม่ใกล้จะถึงแล้วค่ะ!”
หลังจากวางสายโทรศัพท์แล้ว แม่มดสาวก็มากล่าวอย่างรีบร้อนว่า
“ว่าไง! จ่ายมาสิ! ฉันจะได้รีบกลับบ้าน!
เซียงอันยังคงมีอาการสับสนและงุนงงแต่นับว่าโชคดีที่ก่อนหน้านี้เธอเคยนาทรัพย์สินของตนเองไปประเมินราคาสุทธิเอาไว้แล้ว
“ฉันใช้เงินสดไปกับการรักษาตัวหมดแล้ว และตอนนี้เหลือ เงินเพียงหนึ่งแสนในบัญชีธนาคาร แต่ฉันยังมีบ้านริมทะเลอีกหนึ่งหลังซึ่งมีราคาประเมินอยู่ที่สามล้านเหรียญ.ฉัน จะขายบ้านเพื่อนําเงินมาให้คุณ”
“ถ้าอย่างนั้น…โอนเงินมาให้ฉันหนึ่งแสนก่อน และส่วนที่เหลือค่อยโอนมาทีหลัง”
MANGA DISCUSSION