แต่งงานกับขุนนางกอบลินที่ลือกันว่าน่าเกลียด แต่เธอกลับน่าเอ็นดูสุดๆ ~ความพยายามของนายน้อยเพื่อเอาชนะใจคุณหนูกอบลิน - ตอนที่ 10.1 งานสังสรรค์สถาบัน (1)
- Home
- แต่งงานกับขุนนางกอบลินที่ลือกันว่าน่าเกลียด แต่เธอกลับน่าเอ็นดูสุดๆ ~ความพยายามของนายน้อยเพื่อเอาชนะใจคุณหนูกอบลิน
- ตอนที่ 10.1 งานสังสรรค์สถาบัน (1)
“ขอโทษที่ให้รอค่ะ”
วันนี้เป็นวันที่จัดงานสังสรรค์
ผมกำลังเฝ้ารออยู่ที่ทางเข้าคฤหาสน์เซเว่นสเวิร์ธเมื่อตอนที่แอนนาปรากฎตัวและเอ่ยคำเหล่านั้น
แอนนาสวมชุดสีไลแลคอ่อนสำหรับวันนี้
นั่นคือสีตาของผม
บริเวณตะเข็บและแขนเสื้อถูกเย็บด้วยลวดลายสีดำ
นั่นคือสีผมของผม
อัญมณีที่ประดับก็มีสีม่วงและสีดำผสมปนเปกัน
พอมาคิดว่ามีผู้หญิงที่ยอมตกลงแต่งตัวตามสีของผมแล้ว…
ยิ่งไปกว่านั้น ผู้หญิงคนนั้นยังเป็นคนที่น่ารัก อ่อนโยน ใจดี และถ่อมตัวแล้ว — เธอช่างเป็นผู้หญิงในอุดมคติเสียจริง
เป็นความสุขที่จินตนาการไม่ออกสำหรับผมในชาติก่อนเลย
ความสุข หรือสิ่งอื่นกำลังเติมเต็มและแผ่ซ่านอยู่ภายในอก จนผมรู้ถึงว่าดวงตาของตนเริ่มร้อนผ่าวขึ้นมาทันตา
“ขอบคุณนะ แอนนา การที่ได้มาพบกับคุณถือเป็นความสุขที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของผมแล้วล่ะ”
มันช่างเป็นสิ่งที่โชคดีที่สุดในสิบหกปีของเราบนโลกใบนี้ และตัวเราอีกแปดสิบปีในโลกใบก่อนเลย
ความคิดพรั่งพรูออกมาไม่หยุดจากปากของผม
“เอ๊ะ-เอ๋?”
ผมเริ่มตื่นเต้นเกินเหตุอีกครั้งในขณะที่ดึงแอนนามาไว้ในอ้อมแขน จนเธอซ่อนอาการตื่นตกใจไว้ไม่อยู่ในขณะที่ผมกำลังโอบกอดเธอ
ในช่วงเวลาที่ร้อนแรงนั้น ผมได้ค่อยๆประทับรอยจูบลงบนแก้มเธออย่างอ่อนโยน จนเธอหน้าพลันเปลี่ยนเป็นสีแดงราวกับกำลังถูกเผาอย่างไรอย่างนั้น ก่อนที่เธอจะก้มหน้างุดลง
“พอได้แล้ว ไอ้เจ้าบ้าาาาาาาา!!!!”
ท่านดยุคตะคอกอย่างเกรี้ยวกราดในขณะที่ดึงคอผมและผลักผมออกให้ห่างจากแอนนา
เขาบังคับให้ผมยอมพออีกแล้ว
“แอนนา ขอโทษที่ทำให้ตกใจนะ ผมก็แค่ตื่นเต้นไปหน่อยตอนที่เห็นคุณสวมชุดนั้น ร่างกายผมมันก็ขยับไปเอง”
แอนนาพัดใบหน้าที่สีแดงสดนั้นในขณะที่ผมได้กล่าวขอโทษต่อการกระทำที่เสียมารยาท
“…แหม ก็จริงที่คนเราจะกล่าวชื่นชมเวลาผู้หญิงแต่งตัว แต่ว่า…ผมจะพูดว่ายังไงดี…ผมไม่รู้จะพูดอะไรเลย เพราะยังไงคุณก็สวยที่สุดแล้ว”
ผมต้องกล่าวชื่นชมเธอ
นั่นเป็นมารยาทอันเหมาะสมในฐานะสุภาพบุรุษ
อย่างไรก็ตามหัวใจของผมอิ่มเอิบจนผมนึกคำชื่นชมชีวิตนี้ของผมไม่ออกเลย
“ขอบคุณมากค่ะ… ท่านจิโน่เอง… ก็ดูดีเหมือนกัน”
แอนนากล่าวชมในการแต่งกายของผมในขณะที่แอบมองมาที่ผมอย่างเขินอายด้วยใบหน้าสีแดง
อ๊า เธอสวยชะมัด
แอนนาได้มอบชุดสูทให้ผมสำหรับวันนี้
ถึงจะเรียกว่าสูท แต่ก็แตกต่างจากชุดสูทธุรกิจในโลกใบก่อนของผม
โค้ทมีความยาวถึงเข่า มีกระดุมห้าเม็ดติดอยู่บริเวณกลางอก
เสื้อสีดำถูกปักและเรียงรายด้วยด้ายสีเงินและสีเขียวมรกต สีของตัวแอนนา
ไทค์ก็ทำมาจากมาซาริฮะ เป็นผ้าไหมระดับสูงสีเขียวสว่าง ปักด้วยลวดลายสีเงิน
และเพิ่มเติมด้วยอัญมณีเม็ดโตที่ตกแต่งชุดสูทในหลายๆจุด
เสื้อผ้า ฝีมืองานหัตถกรรม อัญมณี ทุกๆอย่างล้วนเป็นของระดับสูง
มันคงจะต้องราคาสูงจนน่ากลัวแน่ๆ — ผมรู้เรื่องนั้นดีเพราะผมเป็นนักธุรกิจ
◆◆◆◆◆
“คุณหนูอนาสตาเซียแห่งตระกูลดยุคเซเว่นสเวิร์ธ กับท่านจิโนเรียสแห่งตระกูลแวร์แวรี่ เชิญเข้ามาด้านในครับ”
เมื่อชายผู้ยืนอยู่หน้าประตูประกาศขานชื่อของพวกเรา ผมจึงพาแอนนาเข้าไปด้านในสถานที่ชุมนุม
ทุกสายตาหันมาจับจ้องยังพวกเราอย่างพร้อมเพรียง
ยิ่งมียศฐาบรรดาศักดิ์ที่สูง ยิ่งเข้าหลังคนอื่นๆ
เพราะว่าเหล่าราชวงศ์ไม่ได้มาเข้าร่วมในวันนี้ ตระกูลของดยุคจึงถือเป็นศักดิ์ที่สูงที่สุดในที่แห่งนี้ และแอนนาเองก็เป็นบุตรสาวของดยุค ดังนั้นคู่ของพวกเราจึงเป็นคู่ที่เข้ามาทีหลังสุด
ในจังหวะที่พวกเราได้เข้ามายังสถานที่ชุมนุม ผมกำลังนำทางแอนนานั้นเอง ผู้อำนวยการสถาบันได้ขึ้นมากล่าวสุนทรพจน์เพื่อเป็นสัญญาณเริ่มงานเลี้ยงสังสรรค์นี้ และผู้คนก็เริ่มสนทนากันหลังจากที่ชนแก้วแล้ว
แหม ถึงผมจะบอกว่าชนแก้ว แต่มันก็แค่น้ำผลไม้เพราะพวกเรายังอยู่ในอาณาเขตของสถานศึกษา
ผู้คนเริ่มเข้ามาตั้งวงล้อมรอบพวกเรา อาจจะเพราะสงสัยว่าลูกเขยของตระกูลเซเว่นสเวิร์ธเป็นคนอย่างไร
มันมีกฎอยู่ว่าขุนนางที่ศักดิ์ต่ำกว่าจะไม่สามารถเข้ามารบกวนระหว่างที่ขุนนางศักดิ์สูงกว่ากำลังสนทนากันอยู่ได้ ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม
ดังนั้น มันจึงเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ที่พวกเราจำเป็นต้องเป็นฝ่ายเริ่มพูดก่อน ด้วยความที่เป็นถึงดยุค
ทุกคนดูจะสนใจพูดคุยเรื่องของโลชั่นตามคาด
อย่างไรก็ตาม ผมก็บอกพวกเขาว่าพวกเราจำเป็นต้องไปทักทายทุกคนก่อน พวกเขาจึงยอมถอยโดยที่ยังไม่ทันได้คุยเรื่องที่พวกเขาต้องการจะพูดเสร็จดี
หลังจากประมาณหนึ่งชั่วโมงที่พวกเราทักทายทุกคนที่มาเข้าร่วมงานแล้ว พวกคนที่ทำเหมือนกับกำลังรอพวกเราให้ทักทายเสร็จสิ้นก็ได้เข้ามารวมตัวพูดคุยรอบๆพวกเราอีกครั้ง
สำหรับเรื่องโลชั่น ผมจะตอบกลับไปเสมอว่า “ทำไมไม่ลองไปถามคุณหญิงเซเว่นสเวิร์ธแทนที่จะเป็นผมดูล่ะครับ?” ตามที่วางแผนไว้
ในเมื่อท่านเป็นคนที่รับหน้าที่เรื่องการขาย
งั้นก็คงจะสมเหตุสมผล
ผมรู้สึกขอโทษที่ต้องให้ท่านแม่มาเป็นโล่กำบังให้ผม
คำถามที่เริ่มบานปลายและต้องการคำตอบเริ่มเป็นปัญหาเกินไป แอนนากับผมจึงตัดสินใจหนีไปเต้นรำ
เป็นครั้งแรกที่แอนนากับผมได้เต้นรำด้วยกันในที่สาธารณะ
ผมมีความสุขกับการพักผ่อนเป็นชั่วครู่นี้ในตอนที่พวกเรานั้นกระซิบกระซาบกันในระหว่างเต้นรำ
พวกเราได้เต้นรำไปสามเพลงติดต่อกัน จากนั้นพวกเราจึงไปหยิบเครื่องดื่มเพื่อให้สดชื่นก่อนจะพากันเดินไปยังมุมของห้องสังสรรค์
==================
*หากแปลผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้
*สามารถติ/คอมเมนต์ความเห็นกันได้ที่ด้านล่าง
แปลไทยโดย: MountainIbex