ก๊า ก๊า กาาา
“ พวกแกได้อ่านรายงานของหน่วยสำรวจหรือยัง? ”
พระอาทิตย์ค่อยๆขึ้นสู่ขอบฟ้า และภายในปราสาทจอมมาร ณ ห้องขนาดเล็กที่ด้านหน้าถูกติดป้ายเอาไว้ว่า [ ฝ่ายเสนาธิการ ] และด้านในห้องก็มีเหล่าทหารของกองทัพจอมมารทั้งชายหญิง จำนวน 4 คนที่สวมชุดเครื่องแบบสีขาว เป็นการบ่งบอกว่าพวกเขาอยู่ในระดับสูงขนาดไหน ทว่าทุกคนในตอนนี้ก็ไม่ได้จะทำงานแบบที่ปกติได้ทำกัน เนื่องจากพวกเขากำลังนั่งล้อมกันเป็นวงกลมแล้วถือเอกสารบางอย่างเอาไว้ในมือ
“ อ่า อ่านแล้วล่ะ สรุปที่ขาดการติดต่อไปนี้ ไม่ใช่เพราะศัตรูบุกสินะ? ”
“ ก็คงงั้นแหล่ะ ดูจากเอกสารของฝ่ายตรวจสอบ ก็เห็นบอกว่าเหตุการณ์พบผงยาบางอย่างนิ ใช่มะ? ”
“ อืมมม ตามที่รายงานเขียนมา ทหารยศต่ำสุดเสพยาบางอย่างจนคลั่งแล้วเข้าทำร้ายคนอื่นๆ แต่…ยาที่ไอทหารนั้นมันเสพ ทำไมเราถึงไม่มีข้อมูลเลย ผงสีขาวที่แค่เสพก็ทำให้ทหารระดับล่างสามารถฆ่าทหารระดับสูงกว่าตนเองได้ โดยไม่สนจำนวนกับความสามารถแบบนั้น ”
ทั้ง 4 คนนั้นกำลังประชุมกันอยู่ ถึงเหตุการณ์เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน เหตุการณ์ที่จู่ๆทหารเฝ้าชายแดนก็ขาดการติดต่อไปแล้วไม่ได้รายงานเข้ามาภายในเวลาที่กำหนด ทำให้มีการส่งคนไปตรวจสอบและทำรายงานส่งกลับมาแบบนี้ ซึ่งทั้ง 4 พอได้อ่านก็ต้องตกอยู่ในสภาพสับสนจนต้องประชุมกันแบบนี้
“ งั้นสรุปเลยดีไหมว่า ทั้งหมดเป็นเพราะยา ? ”
“ อ่า… ก็คงสรุปเป็นอย่างอื่นไม่ได้ล่ะนะ ”
2 ใน 4 นั้นเห็นไปในทางเดียวกันแล้วว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพราะฤทธิ์ยาแน่ๆ ทว่า อีก 2 คนนั้นกลับก้มหน้าอ่านเอกสารต่ออีกรอบ ทั้งคู่ต่างคิดแล้วคิดอีก แถมยังพยายามทำความเข้าใจกับรายงานนั้น แต่สุดท้ายทั้งคู่ก็ยอมแพ้แล้วเงยหน้าขึ้นมา
“ เห้อออ สุดท้ายก็ต้องยอมรับล่ะนะว่าเป็นผลลัพธ์จากการใช้ยา แต่ว่ายานั้นให้ผลลัพธ์ที่ทำให้คนที่อ่อนที่สุดฆ่าคนที่เก่งที่สุดได้ ทางเราได้ส่งตัวผงนั้นไปให้ฝ่ายวิจัยหรือยัง? ”
“ ส่งไปแล้วล่ะ แบบด่วนด้วยนะ เห็นว่าพยายามจะทำกระบวนการย้อนกลับเพื่อศึกษาแล้วหาทางผลิตแต่ดันไม่สำเร็จจนล้มเลิกกันไปแล้วล่ะ ”
“ น่าเสียดาย แต่ก็ถ้าฝ่ายวิจัยยังทำไม่ได้เราก็คงส่งไปหน่วยอื่นไม่ได้ล่ะนะ ดังนั้นชั้นเห็นด้วยว่านี้เป็นเคสจากการใช้ยา ”
“ 3 ใน 4 ยังไงผมก็ต้องเห็นตามล่ะนะ ”
“ ถ้างั้นไม่มีอะไรแล้วก็… ”
ปึ้ง
ในที่สุดเสนาธิการทั้ง 4 ก็ตกลงเห็นด้วยกับความคิดที่ว่าทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะการใช้ยา นั้นทำให้พวกเขาต่างพากันปั้มตราประทับลงบนกระดาษรายงานอย่างพร้อมเพรียงแล้วนำมันใส่ซองก่อนจะกลับไปนั่งทำงานที่โต๊ะของตัวเองตามเดิม
……
…
“ ตาม GPS ก็อีกไม่กี่ร้อยเมตรนี้หน่า ทำไมยังไม่เห็นหว่า? หรือเพราะต้นไม้บัง? คงต้นไม้ละมั้ง… ”
แต่ระหว่างที่เหล่าเสนาธิการของกองทัพของจอมมารกำลังประชุมแล้วได้ข้อสรุปอยู่นั้น ก็เป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่ตัวต้นเหตุจริงๆของเหตุการณ์ยานั้น กำลังนำพาความชิบหายมาสู่กองทัพจอมมารอีกระลอกหนึ่ง มาร์เขากำลังเดินผ่านป่าไม้โดยอาศัย แผนที่ที่แสดงอยู่ในหน้ากากของตนเองเป็นตัวนำทาง
“ อ๊ะ? มากถูกเวลาดีแหะเราเนี่ย… ”
ณ ค่ายทหารซึ่งอยู่ห่างจากปราสาทจอมมารไปได้ราวๆ 230 กิโลเมตร ที่นี้แม้จะบอกว่าเป็นค่ายทหาร แต่มันก็ปราการขนาดย่อมๆที่จุทหารได้ราวๆ 1 ถึง 2 กองร้อย โดยปัจจุบันก็เป็นเวลาเช้ามืดแล้วทหารของกองทัพจอมมารก็กำลังพลัดเปลี่ยนเวรกัน ผ่านการสับเปลี่ยนระหว่างกะเช้าและกลางคืน ทว่าด้วยการที่เป็นช่วงเวลาของการเข้าพักของคนที่เหนื่อยมาทั้งคืน และเป็นเวลาของการออกไปทำงานของคนพึ่งตื่น ทำให้ทั้งภายในและนอกของปราการนั้นค่อนข้างจะวุ่นวายจากการเดินไปมาของทหาร
“ ขออนุญาตนะครับ… ก็ว่าไปนั้น? ”
ซึ่งมาร์เองก็ได้ใช้ช่วงเวลาที่วุ่นวายนี้ ในการเข้าไปยังสถานที่แห่งหนึ่งที่เต็มไปด้วยผู้คนผ่านการเดินเข้าไปดื้อๆเลย ทว่าด้วยความวุ่นวายประกอบกับสกิล ปกปิดตัวตนในตอนนี้ ทำให้ไม่มีใครคิดจะสนใจมาร์เลยสักนิด เขาที่เข้ามาได้แล้วก็มุ่งหน้าไปยังสถานที่แห่งหนึ่งที่เขาเล็งไว้
แอดดด…. ฟู่ ฟู่
“ เอาเนื้อมาเพิ่มเร็ว!! แล้วพวกเอ็งน่ะย่างอะไรชักช้า!! ”
“ ตรงนี้มันหมดแล้ว ไปเอาจากคลังมาอีก เชฟ!! ผมขออนุญาตเบิกของเพิ่มนะครับ ”
“ เห้ย!! นี้มันซอสหรือน้ำท่อวะไอเวร? ข้าจำไม่ได้ว่าสอนให้พ่อครัวทำแบบนี้ แสดงว่าแก แกเป็นอะไรบอกข้ามา!! ”
“ แซนวิชโง่ครับ ผ ผ ผม เป็นแค่แซนวิชโง่ๆครับเชฟ!! ”
“ ฝ่ายซุปเว้ย!! ขึ้นไปเติมผักหรือยัง! ”
“ เชี้ยยยย!! ไปเดี๋ยวนี้แหล่ะ!! ”
ความวุ่นวายนี้เป็นตัวแสดงให้เห็นว่าที่นี้คือห้องครัวและทุกคนที่อยู่ในนั้นก็ล้วนแล้วแต่เป็นพ่อครัวที่กำลังวุ่นวายกับการเตรียมอาหารสำหรับทหารทุกคนอยู่เพราะช่วงกินข้าวของทหารมีแค่ 2 หนคือ เช้า กับ ค่ำ ดังนั้นพวกพ่อครัวจึงจะพลาดไม่ได้ไม่งั้นทหารจะไม่มีแรงเข้าเวร หรือเข้านอนกัน ความกดดันจึงแสดงออกมาให้ได้เห็นในรูปแบบของการตะโกน ตะคอกกันอย่างไม่แคร์หูคนรอกินที่นั่งอยู่ด้านนอก
[ เมนูดูธรรมดาดีแหะ เนื้อย่าง ขนมปัง ซุป ง่ายๆสมกับความคิดกินเพื่ออยู่จริงๆ ]
โดยทหารของกองทัพจอมมาร หรือกองทัพใดๆ มักจะไม่ได้กินหรู ยิ่งเป็นทหารรอบนอกของที่จะกินก็เลยเป็นการทำรวมๆกันในแต่ละวันและไม่มีสิทธิให้ได้เลือก อย่างวันนี้ตามที่มาร์เห็น มื้ออาหารก็เป็นซุปผักกับเนื้อที่ล่ามาได้มาต้มย่างราดซอสแล้วแจกจ่ายคู่กับขนมปังแข็งๆ อาหารพื้นๆที่ไม่แย่และไม่ดี จัดอยู่ในหมวด “ก็พอกินให้อยู่รอดได้”
[ งืม งืม แต่ไม่ว่าจะยังไง มื้อนี้ก็คงเป็นมื้อที่น่าจดจำล่ะนะ อ่า…ไม่ใช่ในฐานะมื้ออร่อย แต่จะเป็นมื้อแรกที่เราได้ลองใช้ของที่เอ็กซิอุตส่าห์เก็บรวบรวมตลอดทั้งปีมาส่ง ]
แต่สำหรับวันนี้มันจะเป็นมื้อที่เลวร้ายในแบบที่ไม่มีใครในนี้จะคาดได้ และไม่มีใครข้างนอกจากมาร์กับเมดของเขาที่จะรู้ได้ถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น สิ่งที่แม้แต่ในโลกก่อนของมาร์เองยังไม่สามารถจะควบคุมได้ ไม่ใช่เพราะไม่รู้ว่ามี แต่เป็นเพราะไม่สามารถตรวจจับแล้วควบคุมได้ต่างหาก แถมการจะได้มันมาก็ยากแสนจะยาก
[ เอ้า เร็วๆ เข้าคุณพ่อครัว รีบๆปรุงเร้วว เดี๋ยวทหารจะไม่ได้กินนะ ]
“ โอ้!! ซุปเสร็จแล้ว!! ”
มาร์ยืนรออยู่ด้านล่างข้างๆหม้อที่กำลังต้มอาหารอยู่ มาร์รอให้พ่อครัวเดินลงจากบันไดซึ่งก็ไม่นานหลังจากที่พ่อครัวเอาของในตระกร้าเทลงไป เขาก็เดินลงมาผ่านมาร์ไปโดยไม่สนใจอะไร
[ อื้ม อื้ม ได้เวลาใส่เครื่องปรุงลับแล้วล่ะ ]
แก็ง
ส่วนทางด้านมาร์พอเห็นว่ามีโอกาสเขาก็เดินขึ้นไปยังด้านบน ก่อนจะหยิบเอาหลอดแก้วออกมา ในนั้นมีของเหลวใสที่ดูไม่ต่างอะไรจากน้ำ ทว่าที่ก้นหลอด หากสังเกตุดีๆมันมีผงอะไรบางอย่างอยู่ด้วย
ป็อก
[ เท่านี้จะพอไหมเนี้ย? ถึงผงมันจะกระจายไป เอ่อ…ทั่วแล้วก็เถอะ แต่ อืม ใส่เพิ่มดีกว่า ยิ่งเยอะยิ่งอร่อยล่ะมั้ง? ]
แก็ง แก็ง แก็ง ปร็อก กรุก กรุก กรุก
[ เรียบร้อย ปะ ไปที่ถัดไปดีกว่า ]
เขาเปิดมันออก ก่อนจะเทสิ่งนั้นลงไป ซึ่งทันทีที่มันลงไปแล้วก็ไม่ได้แสดงปฏิกิริยาอะไรเป็นพิเศษ อย่างไรก็ตามเหมือนมาร์จะรู้สึกไม่พอ เขาก็เลยหยิบออกมาอีก 3 หลอด แล้วก็เทมันลงไป ซึ่งพอเขาจัดการตรงนี้เสร็จแล้ว เจ้าตัวก็เดินลงจากบันไดก่อนจะออกจากค่ายไปโดยไม่ได้สนใจว่าผลลัพธ์จะได้ดั่งใจหรือไม่
ตึก ตึก ตึก กริ๊ก
“ ที่นี้เดี๋ยวรอให้หน่วยข่าวกรองตามมาเคลียร์ก็แล้วกัน แต่…ก็แอบเสียดายอยู่นะเนี้ยที่ใช้ไปตั้ง 4 หลอด กว่าจะได้มาต้องรอเตาปฏิกรณ์ทดลองทำงานตั้งปีนึงเลยน้าาา เห้อออ ”
อย่างไรก็ตามในตอนที่จะออกมานั้น มาร์ก็ได้เอาตลับสีเขียวแบบเดิมมาโยนทิ้งไว้ในพุ่มไม้ด้านนอก ทว่าพอโยนตลับนั้นไปแล้วมาร์ก็ไม่ได้จะเดินต่อแต่อย่างใด เขาหันกลับไปมองยังปราการที่จากมา พร้อมกับหยิบเอาหลอดแก้วใสทั้ง 4 ออกมาดู บนนั้นมีสติ๊กเกอร์ติดเอาไว้ เป็นชื่อของมัน [ Polonium-210 ] โลหะหนักที่หาได้ยากไม่ว่าจะในโลกไหนก็ตาม มาร์ยิิ้มในระหว่างที่ดูมัน พร้อมกับพูดออกมาด้วยเสียงที่เย็นชาว่า
“ ไอเจ้านี้น่ะนะ ขนาดที่โลกเก่า แค่ 1 กรัม ยังฆ่าได้ตั้งเป็นสิบล้านคนแล้วแบบนี้ใส่ไปในหม้อ 4 กรัม จะเป็นยังไงกันน้า? ถ้าที่โลกเก่าตอนสปายโดนเข้าไป แต่ละคนตอนตายก็ใช้เวลาไม่กี่วันหรือไม่กี่สัปดาห์เอง การตายที่แสนจะเจ็บปวดโดยที่ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น อ้วกออกมาจนหมดท้อง น้ำหนักลดลงแบบควบคุมไม่ได้ เม็ดเลือดขาวไม่สามารถผลิตได้ ท้องเสียอย่างหนัก และก็อีกมากมายสุดแล้วแต่จะเกิดขึ้นได้ ส่วนถ้าจะตรวจหาสารพิษยังไงก็ไม่เจอ หึ…สมกับเป็นของที่ KGB รับรองจริงๆ ”
……..
MANGA DISCUSSION