[เอเลี่ยนเกยตื้น] สเปซทรัคเกอร์ รูดี้คุง - ตอนที่ 5 ก๊อบบลินที่น้ำพุหิน
ตอนที่5 ก๊อบบลินที่น้ำพุหิน
“ยานอวกาศ?”
เมื่อตื่นขึ้นมารูดี้ก็ต้องขมวดคิ้วเมื่อได้ฟังรายงานของ ฮาล ในห้องทานอาหารแคบๆของยานลงจอด ในขณะที่กินมื้อเช้าไปด้วย. เขากินอาหารแท่งที่มีสารอาหารสมดุล ผสมลูกเกดและโยเกิร์ตที่เขาชอบ
[ใช่ครับ มาสเตอร์ นี่คือข้อมูลที่ว่า]
ฮาลส่งภาพยานอวกาศที่ได้มาจากโดรนสำรวจขึ้นไปที่จอ บนผนังของยานลงจอด ยานลำนั้นมีความยาวกว่า 700 เมตร ถูกปรกคลุมไปด้วยเฟิร์น และมีรูโหว่หลายแห่งตามผนังโลหะของตัวยาน สื่อให้เห็นว่ามันโดนทิ้งมานานแล้ว
“ถึงรูปร่างมันจะเก่าแต่ดูจากขนาดของมันแล้ว ยานลำนี้น่าจะเป็นยานรบชั้น ครูเซอร์ (ยานลาดตระเวน)” รูดี้กล่าว
[จากข้อมูลที่เรามี มันเป็นยานลาดตระเวนของ กาแลคติค เอมไพร์ เมื่อประมาณ1,200ปีที่แล้วครับ] ฮาล ตอบ
ยานลำนี้อาจจะเป็นเบาะแสสำคัญในการตรวจสอบดาวดวงนี้ก็เป็นได้ มันคุ้มค่าที่จะลองสำรวจดู, รูดี้ กอดอกครุ่นคิดแล้วตัดสินใจว่าจะมุ่งหน้าไปที่ยานลึกลับลำนั้น
“มันยังมีสัญญาณชีพหลงเหลืออยู่ในยานลำนั้นบ้างไหม?”
[ขณะนี้มีเพียงหนึ่งสัญญาณที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ในตัวยานแต่จะเป็นสิ่งมีชีวิตทรงปัญญาหรอไม่นั้น เรายังไม่สามารถระบุได้]
“ถ้าแบบนั้นมันก็อันตรายเกินไปที่จะเอายานลงจอดที่ไร้อาวุธเข้าไปใกล้. นี่เราจะสามารถรักษาการเชื่อมต่อของระบบสื่อสารตอนไปถึงที่นั่นได้ไหม?”
[การสนทนาผ่านระบบไร้สายยังเป็นไปได้. แต่ทว่าเนื่องจากเรายังไม่ได้ปล่อยดาวเทียมสื่อสาร การสื่อสารจะใช้ไม่ได้ถ้าคุณห่างออกไปจากยานลงจอดเกินกว่า10กิโลเมตร] ฮาล อธิบาย
ในตอนนี้ ยานลงจอดของเขาอยู่ห่างออกมาจากยานลึกลับลำนั้น9กิโลเมตร
“ถ้างั้นมันก็ใช้ได้ละนะ เข้าใจล่ะ เดี๋ยวฉันจะลองไปที่นั่นดู ระหว่างนี้นายก็ช่วยตรวจดูด้วยว่าตัวยานมันยังใช้งานได้ตามปรกติหรือเปล่า” .
[ครับ มาสเตอร์ โปรดระวังตัวด้วย]
หลังคุยกับ ฮาล จบ รูดี้ ก็เปิดประตูยานลงจอด แล้วก้าวขาลงไปเหยียบพื้นเป็นครั้งแรก บนพื้นนั้นถูกปรกคลุมไปด้วนหญ้านุ่มๆและมอส ไม่เหมือนกับพรม สายลมอันสดชื่นพัดผ่านมากระทบที่ใบหน้าทำให้เขารู้สึกดีมาก
“เอาล่ะ…” รูดี้สูดหายใจลึกๆเพื่อเพลิดเพลิน
ไปกับกลิ่นอายของต้นฤดูใบไม้ผลิให้เต็มปอดของเขา
หลังจากปรับอารมณ์ใหม่, รูดี้ก็มองไปที่นาฬิกาคาดนิ้วที่ทำจากแพลทตินั่มที่นิ้วนางข้างซ้ายของเขา. มันสะท้องแสงแดดและแสดงให้เห็นถึงเวลา 7โมงเช้า ตามเวลาท้องถิ่น
ก่อนออกเดินทางรูดี้ก็ได้เปลี่ยนตาซ้ายของเขาเป็นโหมดตรวจจับความร้อน ดูเหมือนว่าจะไม่มีศัตรูตัวโตๆที่จะโจมตีมนุษอยู่แถวนี้
เขาปิดโหมดตรวจจับความร้อน แล้วแสดงแผนที่ขึ้นมาแทนแล้วตั้งค่าให้ยานร้างลำนั้นเป็นจุดหมาย
“ไปกันเลย” รูดี้กล่าว
เปิดใช้ทักษะการเอาตัวรอดที่ติดตั้งเอาไว้ รูดี้เดินผ่านไปทางทิตตะวันตกของป่าได้อย่างราบลื่น
1ชั่วโมงหลังจากเดินอยู่ในป่าเขาก็มาได้ถึงครึ่งทางของจุดหมายที่ตั้งไว้ เมื่อเขาเจอแหล่งน้ำซึมออกมาจากแนวหิน
ปรกติแล้วเขาไม่ควรที่จะดื่มน้ำที่ยังไม่ผ่านการบำบัด แต่ว่าเขาเดินมานานพอสมควรแล้วก็กำลังกระหายน้ำอยู่ด้วย
เขาวักน้ำขึ้นมาดัวยมือเปล่าแล้วใช้ตาเทียมข้างซ้ายส่องดูว่ามันปนเปื้อนหรือไม่
“ไม่มีสารพิษหรือปรสิต… โอ๋? มันมีมานาปนอยู่ในน้ำด้วยแฮะ”
รูดี้ตัดสินว่าน้ำตรงนี้ปลอดภัยที่จะดื่มเพราะมันไม่มีสารพิษหรือเชื้อโรคปนเปื้อน ส่วนเรื่อง มานา เนี่ย ถ้ามันอันตรายป่านนี้เขาคนตายไปแล้ว
คราวนี้เขาวักน้ำขึ้นมาอีกทีแล้วดื่มมัน. ความเย็นสดชื่นของน้ำตามธรรมชาติทำให้มันรู้สึกว่าอร่อยมาแม้ว่ามันจะเป็นแค่น้ำก็ตาม
ระหว่างที่เขากำลังนั่งพักก็ได้ยินเสียงพุ่มไม้สั่นไหวมาจากด้านหลัง
เขาหันไปดูอย่างรวดเร็วด้วยโหมดจับความร้อนของตาซ้าย เขาพบว่ามีสิ่งมีชีวิตขนาดตัวเท่าเด็กซุ่มซ่อน อยูในพุ่มไม้ เมือมองไปรอบๆก็พบว่ามีตัวแบบเดียวกันกำลังล้อมเขาอยู่
สี่..ห้า..หก…..เจ็ด พวกมันปิดล้อมเขาไว้อย่างสมบูรณ์. ตัดสินจากขนาดตัวของพวกมันน่าจะเป็นก็อบลินที่เขาเห็นในข้อมูลสำรวจก่อนลงจอด ท่าทางแบบนั้นมันไม่ได้มาอย่างเป็นมิตรแหงๆ
รูดี้ลุกขึ้นยืน แล้วเคาะด้ามดาบที่เอวของเขาเป็นจังหวะแล้วก็เริ่มโยกตัว
….มันจะเข้ามาแล้ว!
สัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงจากด้านหลังเขารวบรวมแรงส่งแล้วหมุนตัวในขณะที่ชักดาบออกมาฟันกวาดในแนวนอนใส่เจ้าตัวที่เข้ามาโจมตี
การโจมตีของรู้ดี้ได้ตัดขอมือของก็อบลินตัวหนึ่งทำให้กระบองในมือของมันตกพื้นแล้วเริ่มกรีดร้อง
มันพยายามที่จะหยุดเลือดด้วยการกดปากแผลบริเวณที่ข้อมือของมันโดนตัดออกไป แต่ทว่ากระแสเลือดจากรอยตัดก็ไม่หยุดไหล และมันทำให้เลือดสาดกระจายไปทั่วบริเวณ
รูดี้ปิดฉากมันด้วยการฟันสะภายแล่ง เจ้าก๊อบลินก็ล้มพับลงเลือดไหลนองพื้น
“พวกมันดูเหมือเผ่าก๊อบลินจริงๆด้วย”
รูดี้ขมวดคิ้วไปพลางมองดูก๊อบลินบนพื้นชักกระตุกอย่างคุมไมได้
การขนสงในอวกาศจริงๆแล้วเป็นงานที่อันตรายมาก รูดีเองก็เคยสู้กับสลัดอวกาศที่เข้ามาโจมตีเขาอยู่หลายครั้ง ด้วยประสบการณ์เหล่านั้นทำให้เขาสงบใจได้ในระหว่างการฆ่า มันไม่ใช่ว่าเขาจะสนุกไปกับการฆ่า เขาเพียงคิดแค่ว่า ถ้าหากใครสักคนพยายามฆ่าเขา ไม่ว่าจะเป็นก๊อบลินหรือมนุษย์ก็ตาม มันก็เป็นเรื่องปรกติที่เขาต้องฆ่าพวกมัน
เข้าสัมผัสได้ถึงตัวตนจากข้างหลังอีกครั้งจึงหันไปดู คราวนี้ ก๊อบลินติดอาวุธ2ตัวเข้ามาโจมตีพร้อมกัน
ก๊อบลินทางขวาฟาดกระบองใส่เขา เขาจึงรับมันด้วยดาบสั้น ใบดาบเซนามิคเสริมแกร่งนั้นคมมากและเมื่อมันตัดกระบองขาดสองท่อน ก๊อบลิน ตัวนั้นก็ตกใจได้แต่กระพริบตาปริบๆ
แต่ถึงอย่างนั้นรูดี้ก็ไม่สามรถตอบรับกับเจ้าตัวทางซ้ายที่โจมตีด้วยดาบขึ้นสนิมได้ทัน เขาจึงยกแขนออกมาด้านหน้าตามสัญชาตญาณ
“บ้าเอ้ย!!” แม้เขาจะคิดแบบนั้นแต่มันก็สายไปแล้ว การสแดงออกของรู้ดี้นั้นเป็นความผิดพลาดจากการขาดประสบการณ์
เจ้าก๊อบลินที่โจมตีโดนเขาหัวเราะออกมาแต่ทันไดนั้นมันก็สังเกตเห็นบางอย่างที่ไม่ได้เป็นไปตามที่มันคิดแล้วเอียงคอด้วยความงุนงง
เพราะถึงแม้ว่ารูดี้จะโดยฟัน แต่เขาก็ไม่ได้บาดเจ็บแต่อย่างได เขาไม่แม้แต่จะสะเทือนเลยด้วยซ้ำ หรือพูดอีกอย่างคือ การโจมตีของมันไร้ผล เมื่อมันเข้าใจถึงจุดนี้ มันก็ยิ่งบิดใบหน้าที่ทุเรศอยู่แล้วของมัน
“ชุดพวกนี้มันเจ๋งสุดๆไปเลยนี่นา” รูดี้ชมขุดที่สร้างโดย ฮาล อยู่ในใจ แล้วเขาก็สลับกลับไปโจมตีสวนคืน
คว้าไหล่ของก๊อบลินที่กำลังงุนงง เขาเสียบใบดาบเข้าไปที่หัวใจของมัน เจ้าก๊อบลินมองไปที่ดาบที่ปักหน้าอกมันอยู่ สำลักเลือดและชักกระตุก
เขาดึงดาบออกมาจากตัวของมันอย่างรวดเร็ว แล้วสะบัดมันด้วยความเร็วสูง ตัดหัวของเจ้าตัวที่อยู่ทางขวา
แล้วเขาก็กระโดถอยหลังออกไปทันทีเพ่อสร้างระยะห่างจากเจ้า2ตัวนั้น
เจ้าตัวที่โดนตัดหัวยังมีสีหน้าตกตะลึงก่อนที่หัวมันจะตกลงพื้นในขณะเดียวกันเลือดก็พุ่งออกมาจากคอที่ขาดราวกับน้ำพุ
ยังเหลือก๊อบลินอยู่อีก4ตัว ในขณะที่พวกของมันถูกจัดการ พวกมันก็กรีดร้องสาปแช่งใส่เขา
เขาพยายามทำให้ตัวเองใจเย็นลง และสะบัดเลือดออกจากใบดาบ แล้วควงมันในมือขวาเล็กน้อยก่อนทำท่ากระดิกมือเรียกพวกมันด้วยมือซ้าย
ถูกยั่วด้วยท่าทางของเขา ก๊อบลิน3ตัวนอกจากตัวที่อยู่รั้งท้าย พุ่งเข้าหาเขาด้วยความโกรธ
ในขณะที่พวกมันเข้ามาในระยะ2เมตรจากตัวเขา สมองอิเลคทรอนิคส์ของเขาก้เข้าสู่โหมดประมวลผลด้วยความเร็วสูง
ทำให้ดูเหมือนว่าพวกก๊อบลินที่พุ่งเข้ามา เคลื่อนไหวอย่างเอื่อยเฉื่อย ทำให้เขาได้เปรียบจากการที่มันเคลื่อนไหวช้าลง
เพื่ออธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้คือ เขาบังคับให้สมองอิเลคทรอนิคส์ของเขาเข้าสูสถานะ เร่งสมาธิสูงสุด ที่เขาเรีบกว่า (โซน) ทำให้มันเพิ่มความเร็วให้กับทัศนะวิสัยและความเคลื่อนไหวของเขาได้ถึง30เท่า ของความเร็วปรกติ
แต่ถึงอย่างนั้น มันก็มีข้อจำกัดที่เขาต้องการเวลาในการสะสมพลังงานถึง30นาที เพื่อจะใช้งานมันอีกครั้งและมันยังใช้ได้ต่อเนื่องเพียงแค่5วินาที หลังจากนั้นมันก็จะกลับเข้าสู่โหมดความเร็วปรกติ
ในโลกที่ช้าลงเขาเคลื่อนตัวผ่านไปในข่องว่างระหว่างกอบลิน2ตัว สะบัดดาบทั้งซ้ายและขวา ตัดหัวมันทั้งคู่ แล้วเสียบดาบของเขาเข้าไปในคอของตัวที่3แล้วหมุนตัวไปข้างหลังของมัน
เมือผลของ (โซน) จบลงแล้ว โลกกลับสู่ความเร็วปรกติ เขาก็ทำความสะอาดใบดาบแล้วเก็บเข้าฝัก จากด้านหลังของ พวก ก๊อบลิน ทั้ง3ตัว
พวกมันหันกลับมามองหลังจากได้ยินเสียงนั้น แต่ในขณะนั้นเองเลือดก็พุ่งออกมาจากคอที่ขาดของพวกมัน
พวกมันล้มลงไปกองกับพื้นแล้วตายไปโดยที่ไม่สามารถทำความเข้าใจได้ว่าเกิดอะไรขึ้น
ก๊อบบลินตัวสุดท้ายตื่นตระหนกและพยายามที่จะหนีหลังจากได้เห็นพรรคพวกของถูกฆ่าจนหมด
รูดี้คิดว่ามันคงจะน่ารำคาญถ้าปล่อยให้มันเรียกพวกมาเพิ่ม เขาจึงหยิบธนูขึ้นมาง้างปิดตาขวาแล้วเปิดโหมด ซูม ของตาซ้ายเทียมแล้วเล็งเป้าไปที่ก๊อบลิน
เขาปล่อยลูกศรตามหลังของมันไป มันลอยเป็นวิถีโค้งเล็กน้อยก่อนที่จะเจาะทะลุหัวนองก๊อบลินตัวนั้น
หลังจากเก็บธนูของเขาแล้ว รูดี้ก็ตรวจสอบของที่ก๊อบลินพกติดตัวมาจากศพของพวกมัน
“มีแค่ ดาบขึ้นสนิม กับไม้กระบอง แถมพวกมันยังใส่แค่ผ้าเตี่ยวอีกต่างหาก อีแบบนี้ได้เข็งตายตอนหน้าหนาวแหงๆ..”
รูดี้ยักไหล่ให้กับศพของพวกมัน ก่อนจะเดินกลับเข้าไปในป่าอีกครั้ง
*(TL note จะพยายามเอามาลงให้ได้ในเรท 2วัน/ตอน มีอะไรก็ไปถามได้ในดิสคอร์ดนี้ https://discord.gg/ZzuWeHeh )