[เอเลี่ยนเกยตื้น] สเปซทรัคเกอร์ รูดี้คุง - ตอนที่ 17 ทางเลือกของชีวิต
ตอนที่17 ทางเลือกของชีวิต
“รูดี้ ยังปลอดภัยดีไหม?”
“ก็เจ็บอยู่หรอก แต่ปลอดภัยดี เดส”
รูดี้ตอบนาโอมิขณะที่พยายามลุกขึ้นยืน
ห่างออกไป เจ้าเดม่อนดิ้นพล่านอย่างทรมานอยู่บนพื้น
ผิวหนังของมันลุกไหม้ปล่อยควันสีขาวออกมาและส่งเสียงเหมือนเนื้อย่างบนกระทะเหล็ก
ถ้าไม่ได้เป็นเพราะหัวของมันกำลังอยู่ระหว่างการฟื้นฟู ผิวหนังของมันคงจะฟื้นสภาพกลับมาทันทีด้วยความสามารถในการฟื้นตัวอันเหนือมนุษย์ของมัน แต่ทว่ามันจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับส่วนหัวก่อน แล้วปล่อยส่วนอื่นๆไว้ทีหลัง
จำได้ว่านาโอมิเคยบอกไว้ว่ามันใช้ขนหนาๆของมันในการป้องกันตัว… ถ้าอย่างนั้นตอนนี้ฉันน่าจะจัดการมันได้ใช่ไหม?
รูดี้จ้องมองไปที่เจ้าเดม่อนที่กำลังพยายามจะยืนขึ้นมา เขาหายใจลึกเพื่อที่จะทำให้ตัวเองสงบลง
ตั้งท่าเตรียมพร้อมด้วยดาบสั้นในมือ เข้าเริ่มการเร่งความเร็วด้วยสมองอิเล็คทรอนิคส์ แล้วเข้าสู่ [โซน]
ในโลกที่เวลาช้าลงมีเพียงแค่รูดี้เท่านั้นที่ยังเครื่อนไหว
พุ่งเข้าหาเดม่อนที่ไม่สามารถขยับได้ เขาชักดาบสั้นออกมาฟันมันอย่างรวดเร็วด้วยการเคลื่อนไหวราวกับวิชาชักดาบเร็ว(อิ-ไอ)ในจังหวะที่เคลื่อนตัวผ่านไปด้านหลังของมัน แล้วเก็บดาบเข้าฝัก
เมื่อการทำงานของ [โซน] จบลง ร่างของเจ้าเดม่อนก็หยุดชะงัก
ส่วนลำตัวของมันเลื่อนไถลแยกออกจากกันเป็นสองส่วน ครึ่งบนของมันหล่นลงมากองกับพื้น โดยที่ครึ่งล่างยังคงยืนอยู่
“จบแล้ว เดส”
“…………..”
ในระหว่างที่รูดี้พูดออกมาด้วยน้ำเสียงสบายๆของเขา สมองของ นาโอิมิ พยายามอย่างหนักที่จะทำความเข้าใจกับสถานการณ์ตรงหน้า
เมื้อตระกี้นี้มันอะไรน่ะ? มันเร็วมากจนฉันมองไม่เห็นอะไรเลย..
อยู่ๆ รูดี้ ก็หายตัวไป แล้วไปโผล่อยู่ขางหลังของมัน ถึงไม่อยากจะเชื่อก็ตามแต่ดูเหมือนว่าเขาจะฟันมันขาดในชั่วพริบตานั้น
แต่ว่าศัตรูคราวนี้คือ เดม่อน การโจมตีทางกายภาพไม่น่าจะได้ผลนี่นา….แล้วยังดาบเล่มนั้นอีก มันต้องไม่ใช้ดาบธรรมดาแน่ๆ…
“รูดี้ นี่คุณ..เป็นใครกันแน่..”
“ถึงจะเห็นแบบนี้ แต่ผม แข็งแกร่ง เดส”
รูดี้ยักไหล่ล้อเล่น ทำให้ความตื่นกลัวเล็กน้อยของนาโอมิที่มีต่อเขาปลิวหายไป
ก็จริงนะ ไม่ว่าเขาจะแข็งแกร่งแค่ไหน แต่ รูดี้ ก็คือ รูดี้ อยู่ดี เด็กผู้ชายที่แก่กว่าฉัน ผู้มาจากจักรวาลอันไกลโพน พูดด้วยภาษาตลกๆ แล้วก็ทำอาหารเก่ง
“อา…นั่นมันเหลือเชื่อไปเลยนะ”
นาโอมิตอบเขาด้วยรอยยิ้ม รูดี้จึงยิ้มตอบพร้อมขยิบตาให้
“แล้วเราจะเอายังไงต่อล่ะ?”
“ผมหิวแล้วเดส เรากลับไปที่ฐานก่อนดีกว่า เดส”
รูดี้ไม่ได้แค่เหนื่อยจากการต่อสู้อันดุเดือดแต่เขายังหิวจัดจนนึกว่าจะตายเอาให้ได้
“สำหรับคนที่ตัวเล็กแค่นั้น คุณนี่กินเยอะเอาเรื่องเลยนะ”
“ก็เพราะเป็นร่างกายในช่วงนี้แหละ เดส”
รูดี้ยิ้มกริ่มให้กับความแปลกใจของนาโอมิ
“อยู่ในวัยกำลังโตเหรอ?”
“ผมมีอายุขัยถึง500ปีนะเออ กะอีแค่10ปีมันไม่ใช่อะไรมากมายเลยกับ ช่วงวัยกำลังโต เทวดาของค่าส่าประสิทธิ์…เทวดา?..นางฟ้า? ไม่ใช่สิ…มุมของค่าสัมประสิทธิ์มันสูงเกินไปน่ะ เดส “
“มุมของค่าสัมประสิทธิ์?”
นาโอมิเอียงหัวงุนงงไปกับแนวคิดที่ไม่ไม่รู้จัก
รูดี้เริ่มเดินไปที่ท่อระบายอากาศ ตั้งใจว่าจะออกไปจากห้องเก็บของ
“เดี๋ยวสิ แล้วจะเอายังไงกับเจ้านั่นล่ะ?”
นาโอมิเรียกเขาไว้พลางชี้ไปที่ร่างของเจ้าเดม่อนที่กองอยู่บนพื้น
“เดียวให้โดรนมาขนไปฝังทีหลัง เดส”
“ถึงแม้ว่ามันจะเกรียมไปบ้างแต่วัสดุจากมันขายได้ราคาดีมากเลยนะ”
“ไอ้ของแบบนั้นมันขายได้ด้วยเหรอ เดส?”
รูดี้เลิกคิ้วเมื่อได้ยินว่ามันเอาไปขายได้
“มันคือวัสดุจากเดม่อนที่รู้จักกันแค่จากในจารึกโบราญนะ มันสามารถให้ราคามหาศาลเลย แถมคุณยังสามารถจ้างให้ใครสักคนทำอุปกรจากวัสดุของมันมาใช้เองได้ด้วย”
รูดี้แสร้งทำเป็นคิดเกี่ยวกับข้อเสนอของนาโอมิและแอบติดต่อกับ ฮาล ผ่าน สมองอิเลคทรอนิกส์ ของเขา
“นายคิดว่าไง?”
[อุปกรที่ใช้อยู่ในตอนนี้คุณภาพสูงกว่าครับ]
“ถ้างั้นเราก็ไม่ต้องการมันสินะ”
[ผมจะให้โดรนเก็บตัวอย่างเซลของมันมาทีหลัง แต่นอกจากนั้นเราก็ไมต้องการอะไรเป็นพิเศษครับ]
หลังจากจบการติดต่อกับฮาล รูดี้ ก็หันไปหา นาโอมิ
“ผมไม่ต้องการมัน เพราะงั้นผมยกให้นาโอมิทั้งหมดเลย เดส”
“แต่คุณเป็นคนปราบมันนะ”
“เอาจริงๆแล้ว ผมไม่มีช่องทางที่จะติดต่อกับใครเพื่อขายมัน แล้วก็ไม่อย่างดึงดูดความสนใจด้วย เดส”
พูดแล้วรูดี้ก็กอดอกทำแก้มป่อง
“ก็นะ…ถ้าเอาวัสดุของมันไปขาย ก็คงกลายเป็นคนดังไปในทันทีเลยแหละ”
“ดุณจะดูเหมือทำเป็นหลีกเลี่ยงความสนใจแต่ดันทำเรื่องที่ดึงดูดสายตาอย่างไงอย่างงั้นเลย เดส”
นาโอมิยิ้มไปพลางคิดถึงสิ่งที่รูดี้พูดอยู่สักพัก
“เหะเหะ….ก็จริงของคุณนะ ถ้าคุณไม่ต้องการมัน…ฮ๊ะ!?!”
ระหว่างที่นาโอมิกำลังพูดอยู่เธอก็รุ้สึกถึงแรงกระแทกจากด้านหลัง
งุนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น เธอมองไปที่รูดีซึ่งกำลังตกใจขณะมองไปที่ท้องของเธอ เธฮจึงก้มมองลงไป
ด้วยสาเหตุบางอย่าง กรงเล็บโผล่ออกมาจากท้องของเธอ
“….อุ๊ก!”
กรงเล็บนั้นฉีกทะลุท้องของนาโอมิออกมา ทำให้เธอล้มลงไปกองบนพื้น และกระอักเลือดออกมา ข้างๆเธอ มีครึ่งบนของเจ้าเดม่อนที่พวกเขาคิดว่าตายไปแล้วอยู่
มันดึงกรงเล็บชุ่มเลือดออกมาจากร่างของเธอ แม้ว่ามันจะกำลังอยู่ในระหว่าการฟื้นฟูแต่เจ้าเดม่อนก็อ้าปากกว้างพร้อมที่จะเขมือบนาโอมิ
นานนับปีที่มันได้ดูดซับมานาในอากาศจากภายในรังไหมมันเร่งมานาทั้งหมดที่มันมีไปที่พลังในการฟื้นฟูร่างกาย ผลลัพธ์ที่ได้คือแม้ว่ามันจะตายไปแล้วแต่ก็ฟื้นกลับขึ้นมาได้อีกครั้ง
และด้วยสัญชาติญาณ มันรู้ว่าถ้ามันดูดกลืนมานาจำนวนมากที่นาโอมิมีเข้าไป มันก็จะสามารถงอกท่อนล่างของมันออกมาได้อีกครั้ง
“นาโอมิ!!”
เจ้าเดม่อนพยายามที่กลืนกินหัวของนาโอมิก้วยปากที่กำลังงอกขึ้นมาใหม่ของมัน แต่ทว่าก่อนที่มันจะทำแบบนั้น ลูกเตะของรูดี้ก็กระแทกเข้าที่ปากของมัน
เจ้าเดม่อนที่โดนเตะด้วย ดร็อปคิก ก็ฝังเขี้ยวของมันลงไปที่ขาขวาของรูดี้ แต่ทว่าสนับแข้งและรองเท้าของเขาป้องกันไม่ให้มันทะลุเข้าไปได้
นำลายกรดของมันเริ้มที่จะละลายสนับแข้งของเขา ก่อให้เกิดควันสีขาวและเสียงของวัตถุที่โดนกัดกร่อนโดยกรด
อั๊ก ขาฉันกำลังไหม้!! ความเจ็บปวดพุ่งผ่านออกมาทางใบหน้าของเขา
แม้จะเจ็บแต่รูดี้ก็ไม่สนใจเข้ายกขาขึ้นมาแล้วกระทืบหัวของมันลงไปที่พื้น
ซ้ำแล้วซ้ำเล่าเขากระทืบหัวของมันจนกระทังขาเขาหลุดออกมาจากปากของมัน
เข้าชักดาบสั้นออกมาถือทั้ง2มือและเริ่มแทงย้ำๆไปที่ลำตัวของมันอย่างบ้าคลั่งจนกระทั้งมันหยุดหายใจ
“ฮ่า..ฮ่า…เจ็บเป็นบ้า..”
เข้าหอบหายใจอย่างหนัก พยายามที่จะทรงตัว ขาขวาของเขาโดนกรดเผา ทั้งสนับแข้งและกางเกงส่วนนั้นก็ละลาบหายไป เผยให้เห็นแผลพุพอง
อดทนต่อความเจ็บปวดเขาตรวจดูอาการของนาโอมิ เธอยังมีชีวิตอยู่ แต่แผลที่ท้องนั้นสาหัส ดูแล้วถ้าไม่ได้รับการรักษาเธอคงจะตายจากการเสียเลือดในไม่ช้า เขาจึงตัดสินใจ
“ฮาล มาช่วยขนนาโอมิเร็ว”
[ครับ มาสเตอร์ แต่ทว่า ถ้าปล่อยไห้เธอตายไปแบบนี้มันจะสะดวกกว่าในการปกปิดตัวตนของมาสเตอร์ไม่ใช่เหรอครับ?]
รูดี้ลังเลเล็กน้อยกับคำถามของฮาล แต่เขาก็ส่ายหัวแล้วทิ้งความคิดนั้นไป
“ไม่ เราช่วยจะให้เธอรอดชีวิตต่อไป…. เธอเป็นเพื่อนของฉัน”
[ครับ มาสเตอร์ ผมจะส่งรถลากเข้าไป กรุณารออยู่ตรงนั้น]
“ไม่ ฉันจะแบกเธอกลับไปที่ ค็อกพิต แบบนั้นมันจะเร็วกว่า”
[มาสเตอร์ อาการบาดเจ็บของคุณค่อนข้างรุนแรงนะครับ]
“แค่นี้ไม่ตายหรอกน่า”
รูดี้เริ่มแบกนาโอมิขึ้นบนบ่า
“คุ…เอาเรื่องอยู่เหมือนกันนะ เดส”
เมื่อนำหนักตัวของนาโอมิกดลงบนขาที่บาดเจ็บของเขา ทำให้เขาหน้ามุ่ยจากความเจ็บปวด
แม้กระนั้นเขาก็ตั้งใจที่จะช่วยชีวิตเธอให้ได้ และเริ่มออกเดิน