[เอเลี่ยนเกยตื้น] สเปซทรัคเกอร์ รูดี้คุง - ตอนที่ 14 เหตุผลที่แท้จริงของการใช้ภาษาแบบแปลกๆ
- Home
- [เอเลี่ยนเกยตื้น] สเปซทรัคเกอร์ รูดี้คุง
- ตอนที่ 14 เหตุผลที่แท้จริงของการใช้ภาษาแบบแปลกๆ
ตอนที่ 14 เหตุผลที่แท้จริงของการใช้ภาษาแบบแปลกๆ
รูดี้ปล่อยให้ฮาลจัดการกับการซ่อมแซมเครื่องกำเนิดไฟฟ้าไป ส่วนเขาและนาโอมิก็พากันออกสำรวจซากยาน
“เอาจริงๆแล้วมันไม่มีอะไรเหลืออยู่เลยนะ”
นาโอมิ หงุดหงิดหลังจากที่สำรวจไปแล้วหลายห้องแต่กลับไม่เจออะไรเลย
“ชิปแม้แต่ชิ้นเดียวก็ไม่มี เดส”
“พูดถึงเงินเหรอ?”
“ชิป ก็คือ ชิป เดส”
ชิปที่รูดี้พูดถึงคืออุปรกเก็บข้อมูล แต่นาโอมิกลับเข้าใจผิดว่ามันหมายถึงเงิน
ระหว่างที่พวกเขาสำรวจภายในตัวยานไปเรื่อยๆ ก็พบเข้ากับป้ายที่เขียนว่า ห้องพักกัปตัน
รูดี้เปิดประตูออกดูโดยที่ไม่ได้คาดหวังอะไรมาก สภาพในห้องก็ดูราวกับว่ามันยังอยู่ในช่วงที่ผู้คนเพิ่งจะสละยานออกไป มันยังมี ทั้งโต๊ะและ เฟอนิเจอร์ อื่นๆอยู่ข้างใน
“ที่นี่ดูเหมือนจะมีอะไรอยู่ด้วยนะ”
“ไปค้นดูกัน เดส”
พวกเขาเข้าไปข้างในและเริ่มสำรวจไปรอบๆห้อง
รูดี้ แยกชิ้นส่วนของแท่นควบคุมระบบเชื่อมต่อแล้วถอดเอาสื่อบันทึกข้อมูลออกมาส่งให้โดรนอ่าน
แต่ทว่าข้อมูลที่ผ่านมาแล้วกว่า1000ปีในนั้นเกือบทั้งหมดได้รับความเสียหาย และมีเพียงบันทึกของระบบบางส่วนเท่านั้นที่สามารถอ่านได้
มันอาจจะต้องใช้เวลานานในการกู้ข้อมูลแต่สำหรับเขามันเป็นเพียงแค่เบาะแสะเพียงอย่างเดียวที่เขามี เขาจึงเก็บมันเข้ากระเป๋าไป
“นี่ คุณคิดว่าเจ้าสิ่งนี้คืออะไรเหรอ?”
นาโอมิเรียกรูดึ้ เมื่อเขาหันไปดุก็พบว่าเธอนั้น กำลังถือ สมาร์ทโฟน อยู่ ในขณะที่เอียงหัวอย่างงุนงง
“…..โทรศัพท์มือถือ?”
รูดี้ไม่ได้ใช้ สมาร์ทโฟน เพื่อการสื่อสาร ถ่ายภาพ หรือบันทึกข้อมูล เพราะว่างานเหล่านั้นสามารถทำได้ด้วยสมอง อิเลคทรอนิคส์ของเขา แต่ทว่าเมือพันปีก่อน สมองอิเลทรอนิคส์ ยังไม่มีความก้าวหน้าถึงขนาดที่เป็นอยู่ในปัจุบัน ผู้คนเลยยังคงใช้ สมาร์ทโฟน เพื่องานเหล่านั้นอยู่
“อะไรละนั่น?”
“….สมุดบันทึกสารพัดประโยชน์ เดส”
รูดี้คิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะอธิบายเกี่ยวกับ สมาร์โฟน ในแบบสั้นๆ
“สมุดบันทึก?…..แล้วมันใช้งานยังไงเนื่ย ไม่เห็นจะเข้าใจเลย”
อารยะธรรมของดาวดวงนี้ยังไม่พัฒนาการผลิตกระดาษไปจนถึงขั้นที่การจดบันทึกเล็กๆน้อยๆ เป็นเรื่องปรกติได้ นาโอมิจึงไม่รู้จักถึงแนวคิดของการใช้งานสมุดบันทึก
“ส่งมาที เดส”
เท่าที่ดูสมาร์โฟนที่ นาโอมิถืออยู่นั้นน่าจะเป็นของกัปตัน
เขารับมันมาแล้วพลิดดูด้านข้างเพื่อหาช่องเสียบสายชาร์จ
“….รูปแบบช่องเสียบของมันเก่าเกินไป แบบนี้คงจะชาร์จมันไม่ได้แหละ”
เขาหน้ามุ่ยเหมือเห็นช่องเสียบที่ไม่เคยเจอมาก่อน แต่ถึงแม้จะชาร์จมันได้แต่สายไฟด้านในคงอยู่ในสภาพเละเทะไปแล้ว เพราะงั้นมันคงจะยังเอามาใช้งานไม่ได้ในทันที
“ผมจะแย่งเจ้านี่ไปละกัน เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน เดี่ยวผมให้อันอื่นที่ใช้ได้แทน เดส “
รูดี้จำได้ว่ามีสมาร์ทโฟนคุณภาพสูงรวมอยุ่ในสินค้าที่ยานไนกี้ขนมาด้วย และสัญญากับเธอว่าจะให้มันเป็นของขวัญ
“เมื่อตะกี้มันไม่ใช่ แย่งไป แต่เป็น ขอรับไป ตะหากล่ะ ฉันเองแค่ได้มาสำรวจที่นี่ก็ดีเกินพอแล้ว เพราะงั้นไม่ต้องแกรงใจแล้วก็เอาไปเถอะ”
นาโอมิพูดแบบนั้นไปพลางยิ้มให้ รูดี้จึงยิ้มตอบ
“ขอบคุณ เดส”
เมื่อพวกเขาออกจากห้องของกัปตัน ตามที่นาโอมิขอ พวกเขาจึงมุ่งหน้าไปที่ค็อกพิทของยาน
“ขอโทษที่ทำตามใจชอบนะ”
“อย่างไรซะเดี๋ยวก็ต้องไปอยู่ดี เพราะงั้นก็ไม่ว่าอะไร เดส”
ดุเหมือนว่านาโอมิจะรู้สึกเกรงใจ แต่รูดี้บอกว่าไม่เป็นไร
และหลังจากที่เดินต่อไปตามทางเดินสักพัก นาโอมิก็พูดขึ้นมา
“นี่ รูดี้”
“อะไรเหรอ?”
“ฉันสงสัยมาตั้งแต่ตอนที่เราพบกันเมื่อวานแล้ว ว่าทำไมคุณถึงใช้ถ้อยคำได้มั่วซั่ว แบบนั้นล่ะ?”
“…..มั่วซั่วเหรอ? เดส”
“นั่นแหละ มันฟังดูเหมือนเอาคำพูดห้วนๆมาผสมกับกับคำสุภาพ มั่วซั่วไปหมดเลย “
นาโอมิพูดไปพลางยักไหล่ของเธอไปด้วย
“อืม….อือ….?”
รูดีกอดอกแล้วครางออกมาเบาๆ พยายามคิดว่าจะตอบนาโอมิอย่างไรดี
“เอาเถอะ ถ้ามันเป็นปัญหาซะขนาดนั้นละก็ ไม่ต้องพยายามตอบก็ได้นะ”
“เปล่านะ มันก็ไม่ได้เป็นปัญหาอะไรหรอก มันก็แค่ซับซ้อนนิดหน่อย เดส”
“สถานการณ์มันซับซ้อนขนาดนั้นเลย?”
รูดี้โบกมือขาวเป็นการปฏิเสธ
“จะว่าไงดี…เอาจริงๆแล้วแล้ว ผมกะว่าจะซ่อนเรื่องที่เป็นมนุษย์ต่างดาวเอาไว้ เดส “
เมื่อได้ยินแบบนั้น นาโอมิก็ตาเบิกกว้าง
“แต่ตอนที่เจอกันครั้งแรก คุณก็แนะนำตัวว่าเป็นมนุษย์ต่างดาวไม่ใช่เรอะ!”
“ก็เพราะในป่านี้มันไม่มีใครอยู่ไงล่ะ เดส จะพูดอีกอย่างคือ ผมคิดว่านาโอมิหัวเดียวกระเทียมลีบ(บทจิ) ไงล่ะ เดส”
“อย่ามาเรียกฉันว่า บทจิ นะ! ถึงจะมาอยู่ในป่าคนเดียวแบบนี้ แต่ฉันก็มีคนรู้จักอยู่เหมือนกันนะ “
“ไม่ใช่ บทจิ? เอาเถอะ ปัญหาหลักเลยคือผมไม่อยากให้ใครรู้ว่าเป็นมนุษย์ต่างดาว เพราะงั้นช่วยเหยียบเอาไว้ด้วย เดส”
“ถึงจะพูดออกไปก็เถอะ มันคงไม่มีใครเชื่อหรอก แต่ฉันก็พอเข้าใจอยู่แหละ เพราะงั้นจะเงียบเรื่องที่รูดี้เป็นมนุษย์ต่างดาวเอาไว้ให้ละกัน”
“ฝากด้วยละกัน เดส”
รูดี้ถอนหายใจ โล่งอกที่ได้จัดการกับปัญหาที่เขาเองก็เกือยจะลืมไปแล้ว
“ถ้างั้นก็กลับเข้าเรื่องหลักเลย ทำไมการใช้ภาษาของคุณมันถึงได้มั่วซั่วแบบนั้นล่ะ”
“ผมติดตั้ง ภาษาที่ถูกตั้งค่าว่า เพิ่งเรียนรู้ภาษาใหม่จากสถานที่ๆห่างไกลจากบ้านเกิดของผม เดส”
“ไหงงั้นล่ะ?”
“เพื่อหลีกเลียงการถูกพบว่าผมเป็นมนุษย์ต่างดาว?..แม้ว่าผมจะไม่มีสามัญสำนึกของที่นี่ แต่พอทำแบบนั้นเลยทำให้มันดูเหมือนผมเดินทางมาจากต่างแดน เดส”
“อืม..เพราะงั้นเลยทำให้ใช้คำแบบมั่วซั่วอย่างนั้นเหรอ?”
“จะว่างั้นก็ได้ แต่จริงๆแล้วถ้าอยากจะแก้ก็แก้ได้อยู่ เดส”
“งั้นทำไมไม่แก้ล่ะ”
“…… เอาจริงๆแล้วผมเองก็รู้สึกว่าชอบการใช้คำมั่วๆแบบนี้ไงล่ะ เดส”
พอพูดแบบนั้นรูดีก็ยักไหล่
นาโอมิที่กลั้นขำไม่ได้ก็ระเบิดหัวเราะออกมาพลางกุมท้องของตัวเองไว้
“อาฮาๆๆๆๆ! อาฮะๆๆๆ”
“มันน่าสนุกขนาดนั้นเลยเหรอ เดส?”
“อา..สุดๆไปเลยล่ะ หรือจะพูดอีกอย่างก็คือ คุณจงใจพูดให้มันออกมาเป็นแบบนั้นเองสินะ”
นาโอมิพูดไปพลางซับน้ำตาส่วนรูดี้ก็พยักหน้ารับ
“จะว่าอย่างนั้นก็ได้ เดส”
นาโอมิหัวเราะอีกรอบ เพราะดูเหมือนเธอจะรู้สึกว่าการตอบรับของเขามันตลกดี
“การที่รูดี้มาที่ป่าแห่งนี้ ก็เพราะต้องการจะสำรวจพื้นที่แถวๆนี้เหรอ?”
รูดี้ส่ายหัวให้กับคำถามของนาโอมิ
“ไม่นะ มันเป็นแค่ความบังเอฺิญที่ผมมาเจอกับซากยานลำนี้ เดส”
“….อืม”
“แต่ว่าตอนที่กำลังลงมาที่ดาวดวงนี้จู่ๆก็โดน เจ้านั่น โจมตีเข้า เดส”
“เจ้านั่น ที่ว่านี่คือ?”
“มังกร..คุณเข้าใจคำแปลของมันหรือเปล่า”
นาโอมิพยักหน้าตอบคำถามของรูดี้
“มังกร สินะ…รู้จักอยู่นะ มันค่อนข้างหวงอาณาเขตมากเลยล่ะ พอมันเห็นอะไรแปลกๆ มันก็จะจูโจมใส่ทันทีเลย “
“มันใจร้ายสุดๆเลย เดส….แล้วตอนที่กำลังหนีมังกรอยู่ ก็บังเอิญมาเจอเข้ากับที่นี่ เดส”
“หนีเอาชีวิติรอดมาจากการโจมตีของมังกรได้เนี่ย มันก็มีหลายๆจุดที่ฉันอย่ากจะตบมุขอยู่หรอก แต่มาเราต่อกันจากเมื่อกี้ก่อนเถอะ “
“ตอนที่ออกมาจากซากยานก้เจอนาโอมิยืนอยู่ ผมตกใจมากเลยล่ะ เดส”
“ฉันเองก้ตกใจเหมือนกันนะ!”
“แต่ในเวลาเดียวกันก็นึกขึ้นมาได้ เดส”
“เรื่องอะไรเหรอ?”
รูดี้หยุดเดิน แล้วหันกลับมาจ้องหน้านอง นาโอมิ
นาโอมิสะดุ้ง เมื่อดวงตาสองสี บนใบหน้าอันหล่อเหลาของรูดีจ้องมาที่เธอ
“ดูเหมือนจะเจอผู้หญิงที่แสนสะดวกเข้าแล้วไง”
“ใช้คำให้มันดีหน่อยเฮ้ย!!”
คำที่รูดี้ใช้มันแย่เกินทน นาโอมิก็ อดไม่ได้ที่จะหลุด ตบมุข ออกมา
“….คำดีๆ? ไม่ได้หื่นกับนาโอมินะ เดส?”
“งั้นเรอะ! โทษทีที่เป็นหญิงแก่หน้าไหม้สุดขี้เหล่นะยะ”
แม้นาโอมิจะว่าตัวเองขี้เหล่ แต่เอาจริงๆแล้วถ้าไม่นับแผลไหม้บนหน้าของเธอ ก็จะจัดได้ว่าเธออยู่ในกลุ่มที่เรียกได้ว่างดงาม แต่ทว่า รูดี้ นั้นเป็นมนุษย์ทดลองที่สร้างขึ้นมาจาการผสมเทียมจึงไม่มีความต้องการทางเพศอยู่เลย
“นาโอมิ ขี้เหล่เหรอ? อายุก็ดูจะเด็กกว่าผม? ไม่ใช่สิ คุณยังเด็กมาก ดูเหมือนว่าผู้คนบนดาวดวงนี้จะมีค่านิยมในความงามที่ต่างจากผมนะ เดส”
เมือรูดี้ตอบกลับไปแบบนั้น นาโอมิก็หน้าแดงแล้วหันหน้าหนี
“…หน้าตาของฉันจะเป็นยังไงก็ช่างเถอะ ช่วยกลับเข้าเรื่องที่ด้างไว้สักที”
“จริงด้วยสิ ผมนั้นไม่รู้อะไรเกี่ยวกับดาวดวงนี้เลย เพราะอย่างนั้นผมจึงอยากที่จะจับตัว…..จับตัว? ไม่ใช่สิ …สรรหา ชาวพื้นเมืองมาไว้สักคน แล้ว ก็เจอกับ นาโอมิ ที่อยู่ตัวคนเดียวในที่ๆไร้ผู้คน นั้นมันเป็นเรื่องที่สะดวกเอามากๆเลย เดส”
“หรือว่านั่นคือเหตุผลที่คุณเชิญฉันไปกันข้าวด้วยกัน?”
“การล่อด้วยเหยื่อ มันเป็นพื้นฐานของนักล่า เดส”
“เป็นวิธีใช้คำที่โหดร้ายชะมัด”
นาโอมิแหงนมองขึ้นไปบนเพดานแล้วเอามือกุมหัว
*(TLnote: วิ่งเควสครรบทุกตัวละ ที่เหลือก็แค่ล่า ทาโกะดาจิ เร่ร่อน หาตังไปอีก7วัน )