[เอเลี่ยนเกยตื้น] สเปซทรัคเกอร์ รูดี้คุง - ตอนที่ 1 เอเลียนหลงทาง
ตอนที่1 เอเลี่ยนหลงทาง
ในห้องสีขาว ที่สร้างจากวัตถุอนินทรีย์
กลางห้องแคบๆนั้น มีเด็กชายคนหนึ่งหลับใหลอยู่
บนเตียงขนาดใหญ่ที่เด็กชายนอนอยู่นั้นถูกคลุมด้วยฝาครอบโปล่งใส และมีสายไฟหลายเส้นเชื่อมต่อกับผนังจากด้านล่าง
ภายในฝาครอบ อุณหภูมิจะคงที่อยู่ที่ 31.6 องศา ซึ่งทำให้ร่างกายเข้าสู่สภาวะจำศีล หยุดการเจริญเติบโตและป้องกันการเสื่อมสภาพด้วยความเย็น(ไคลโอสลีป)
เด็กชายที่อยู่ในฝาครอบโปร่งใสนั้นกำลังหลับลึกราวกับคนตาย โดยที่การเติบโตของเขาหยุดชะงัก ใบหน้าของเขายังคงดูเด็กอยู่ แต่เขาก็มีรูปลักษณ์ที่หล่อเหลา ผิวของเขาขาวราวกับหิมะ และร่างกายที่บางเฉียบของเขาเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อไร้ไขมันโดยไม่มีไขมันส่วนเกิน เส้นผมสีเงินและเปล่งประกายเจิดจ้าราวกับเส้นไหมยาวไปจนถึงคอ รูปร่างหน้าตาของเขามีความงามทางศิลปะที่ไม่น้อยไปกว่าชายงามในภาพวาด
เด็กชายที่กำลังหลับอยู่นั้นได้ผ่านการบำบัดด้วยวิทยาการต่อต้านความชราโดยการดัดแปลงทางกายภาพ และอายุขัยของเขาได้ถูกขยายออกไปเกือบ 500 ปี เด็กชายคนนี้มีอายุ 81 ปีแล้ว แต่เนื่องจากอายุขัยที่ยืนยาวและอยู่ในภาวะหลับด้วยความเย็นจัด รูปร่างหน้าตาและจิตใจของเขาจึงมีอายุแค่ประมาณ 15 ปีเท่านั้น ( *TL note ดูเหมือนว่าตัวเอกจะใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการนอน ลุกขึ้นมาแค่ตอนรับงานกับส่งงาน)
เขามีชื่อว่า รูดี้ และเขาเป็นลูกเรือเพียงคนเดียวบนยานอวกาศ [ไนกี้]
ทันใดนั้น เสียงอิเล็กทรอนิกส์ดังขึ้นจากเตียงไคลโอสลีป หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง ห้านาทีต่อมา ฝาครอบโปร่งใสที่คลุมเตียงอยู่ก็มีเสียงการปล่อยแรงดันและแยกออกเป็นสองส่วนเก็บเข้าไปอยู่ใต้เตียง ผิวหนังของรูดี้สัมผัสกับอากาศภายนอกและเปลี่ยนเป็นสีที่มีชีวิตชีวามากขึ้น หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นมา
ดวงตาทั้งสองข้างของเขามีสีที่ต่างกัน โดยตาขวาเป็นสีฟ้า และตาซ้ายเป็นสีเขียว อย่างไรก็ตาม ตาข้างซ้ายไม่ใช่ของจริง แต่เป็นตาเทียม
ดวงตาที่ไม่สมมาตรสร้างบรรยากาศลึกลับและเน้นใบหน้าที่สวยงามของเขาให้โดดเด่นยิ่งขึ้น
[“อรุณสวัสดิ์ มาสเตอร์”] มีเสียงเรียกรูดี้จากลำโพงที่ติดตั้งอยู่ในห้อง
“…อา ฮาล อรุณสวัสดิ์ “
ขณะที่เขาลุกขึ้นนั่งและยืดตัว เขาก็ตอบด้วยเสียงแหลมๆของเด็กชายที่มีเสียงสูงเล็กน้อย
เสียงนั้นเป็นของ HAL-200X ซึ่งเป็น AI หลักที่ควบคุมระบบนำทางของยานอวกาศและระบบช่วยชีวิตของลูกเรือ HAL-200X เป็นคู่หูของ Rudy นับตั้งแต่เขาซื้อเรือลำนี้เมื่อ 50 ปีที่แล้ว
“เรามาถึงที่หมายแล้วเหรอ?” รูดี้ถามฮาล และในขณะที่เขาวางเท้าเปล่าบนพื้นสีขาว เขาก็ชักมันกลับขึ้นมาอีกครั้งเนื่องจากความเย็นของพื้น
[“เปล่าครับ, เรายังไปไม่ถึง” ]ฮาลตอบผ่านลำโพง
เมื่อได้ยินแบบนั้น รูดี้ที่กำลังจะเดินก็ก็หยุดชะงัก
“หืม?” เขามองขึ้นไปตามเสียงของ ฮาล บนเพดาน อย่างงุนงง
[“ผมเจอปัญหาที่ไม่สามารถแก้ไขเองได้ แต่มันไม่ใช่เหตุฉุกเฉิน ดังนั้นผมจะอธิบายให้คุณฟังเมื่อคุณไปถึงสะพานเรือหลัก” ] ฮาล ตอบ
“เข้าใจละ แต่ก่อนหน้านั้น ขอถามอะไรหน่อย ปัญหาที่ว่ามันกำลังจะเกิดขึ้นหรือว่ามันสายไปแล้ว?” รูดี้ถาม
ฮาล เงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่จะตอบว่า [“ทั้งสองแบบ”]
“ไม่น่าถามเลย…” รูดี้ส่ายหัวกับคำตอบของ ฮาล จากนั้นเขาก็เปลี่ยนเป็นชุดบอดี้สูทที่แนบเข้ากับร่างกายของเขาอย่างสมบูรณ์และมุ่งหน้าไปที่สะพานเรือหลัก
รูดี้จมอยู่ในความคิดระหว่างที่ฟังคำอธิบายของ ฮาล บนที่นั่งนักบินในสะพานเรือหลัก ขณะค่อยๆ คนแก้วกาแฟอุ่นๆ ในมืออย่างช้าๆ
แม้ว่าฮาลจะรายงานเสร็จแล้ว รูดี้ก็ยังนิ่งอยู่ครู่หนึ่งราวกับว่าเขาหลับไป แต่แล้วเขาก็ถอนหายใจลึกๆและลืมตาขึ้นมา
“พูดตรงๆก็คือ เพราะว่าประตูวาร์ปทำงานผิดปกติ เราเลยไปไม่ถึงระบบดาวที่เราตั้งค่าไว้ แต่กลับโผล่เข้าไปในระบบดาวที่ไม่รู้จักแทน?” รูดี้ถามอย่างไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง
[“ใช่ครับ มาสเตอร์”] ฮาลตอบด้วยน้ำเสียงไร้อารมณ์
รูดี้ถอนหายใจอีกครั้งและคำนึงถึงงานที่เขาได้รับมาในฐานะผู้ขนส่งอวกาศ รูดี้ และยานอวกาศของเขา ไนกี้ ได้รับการว่าจ้างให้จัดส่งสิ่งของและอุปกรณ์ที่จำเป็น ไปยังดาวเคราะห์ที่ผ่านการปับปรุงพื้นผิว (เทอราฟอร์มมิ่ง)
งานที่เขาได้รับจากสำนักงานควบคุมการอพยพนั้นไม่ได้ยากเป็นพิเศษ แม้ว่าระบบดาวเป้าหมายจะตั้งอยู่ไกลจากศูนย์กลางของของเครือข่ายการค้าระหว่าดวงดาว แต่ก็ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับโจรสลัดในบริเวณใกล้เคียงกับปลายทางการจัดส่ง
อย่างไรก็ตาม ระยะทางจากระบบดาวที่รับงานไปยังระบบดาวที่จะส่งมอบจะเป็นเดินทางประมาณสามปี ดังนั้น รูดี้ จึงเลือกเส้นทางระหว่างดวงดาวที่ปลอดภัยและอาศัย ฮาล ควบคุมการนำทางในขณะที่เขาหลับอยู่ในไคลโอสลีป
ตามคำอธิบายของ ฮาล ปัญหาเกิดขึ้นหกเดือนหลังจากที่รูดี้เข้านอน ขณะที่ ไนกี้ กำลังจั๊มป์ผ่านประตูวาร์ป ประตูก็ระเบิดทันที โชคดีที่ ไนกิ้ ไม่ได้รับความเสียหายใดๆ เนื่องจากเข้าสู่มิติวาร์ปไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการระเบิด ไนกี้ จึงกระโดดไปยังระบบดาวที่ไม่รู้จักซึ่งไม่อยู่ในพิกัดที่ตั้งไว้
“ทำไมประตูวาร์ปถึงระเบิดได้ละเนี่ย? ระบบจัดการของจักรวรรดิมันห่วยแตกขนาดนั้นเลยเหรอ?”
[“แม้สาเหตุจะไม่แน่ชัด แต่อย่างไรก็ตาม ผมไม่คิดว่าการบริหารจัดการของจักรวรรดิจะแย่ขนาดนั้น จากข่าวล่าสุด มีแนวโน้มของว่ามันเป็นการโจมตีของผู้ก่อการร้าย ซึ่งมีความน่าจะเป็น สูงถึง 95%”]
“อย่างนี้นี่เอง… ถึงจะไม่ได้กังวลเกี่ยวกับโจรสลัด แต่ฉันไม่ได้คิดว่าจะมีผู้ก่อการร้ายออกมาเลยสักนิด… แล้วสัญญาณขอความช่วยเหลือล่ะ?”
[“ส่งไปแล้วครับ แต่ไม่มีการตอบกลับไดๆ”]
“แล้วมีโอกาสที่เราจะกลับไปได้หรือเปล่า?……ถามไป….ก็ไม่มีประโยชน์อะไรสินะ?”
[“โอกาสมันตำมาก แต่คุณอยากรู้หรือเปล่า?”]
“เดี๋ยวจะร้องให้เพราะความซวยเปล่าๆ เพราะงั้นอย่าดีกว่า”
[“ก่อนอื่นเลย ผมคิดว่าคุณโชคดีที่ยังไม่ตาย หากคุณต้องการทราบอัตราความสำเร็จในการกลับไป ก็โปรดถามได้”]
“ปรกติแค่นั้นก็เรียกว่าซวยแล้ว แล้วนายก็เก็บไอ้ตัวเลขพวกนั้นไว้ดูเองเหอะ”
[“น่าเสียดายที่ ในฐานะที่ผมเป็น AI ผมไม่มีความวามารถด้านอารมณ์ ดังนั้นผมจะบันทึกมันไว้เป็นข้อมูล”]
รูดี้ได้แต่หัวเราะและยักไหล่กับคำตอบที่ไร้อารมณ์ของฮาล
“…แต่ก็นะ ฉันไม่เคยคิดเคยฝันเลยว่าตัวเองจะกลายเป็น ลูกเรือเร่ร่อนบน *Flying Dutchman ในยุคนี้ ถึงแม้ว่าฉันจะพยายามรีบกลับไปให้เร็วที่สุด ภารกิจมันก็จะล้มเหลวไปแล้ว ฉันไม่มีทางจ่ายเงินชดเชยค่าเสียหายได้ด้วย ขืนเป็นแบบนั้น ยานลำนี้ก็จะโดนยึดแล้วฉันก็จะโดนส่งไปบังคับใช้แรงงานบนดาวที่ยังไม่พัฒนาตลอดชาติแหงๆ”
[“ไม่ต้องห่วงไป. ก่อนอื่นเลยคือ คุณไม่สามารถกลับไปได้ ดังนั้นคุณไม่จำเป็นต้องใส่ใจเกี่ยวกับเรื่องนั้น”]
รูดี้ทำหน้าบูดบึ้งกับคำตอบของฮาล
“ถึงอย่างน้อยก็โล่งใจไปเปราะนึง… แต่เร่ร่อนต่อไปแบบนี้ไม่มีประโยชน์อะไร… ก่อนอื่นเลย อย่างน้อยเราต้องตัดสินใจเลือกจุดหมายปลายทางที่เราจะพอไปหาเสบียงมาเติมได้”
[“ในกรรีนั้นผมมีข้อเสนอย่างหนึ่ง โปรดดูสิ่งนี้”]
“หืม?”
บนหน้าจอโฮโลแกรมปรากฏขึ้นต่อหน้า รูดี้ แสดงตำแหน่งปัจจุบันของ ไนกี้ ในแผนที่ดาวของระบบดาวที่ไม่รู้จัก
[“ผมได้สร้างแผนที่ของระบบดวงดาวรอบๆตำแหน่งปัจจุบันของ ไนกี้ ในขณะที่มาสเตอร์กำลังหลับ”]
“งานไวจังนะนายเนี่ย”
[“ขอบคุณที่ชม.”]
รูดี้ตั้งใจจะประชด แต่จริงๆแล้วเขาก็รู้สึกขอบคุณอยู่ลึกๆเลยยักไหล่ไปด้วย เมื่อมองที่หน้าจอ เขาเห็นว่ามี ดาวเคราะห์ สิบดวงในระบบดาวซึ่งมี ดาวฤกษ์ เป็นศูนย์กลาง
“มันดูเหมือนระบบสุริยะของเราเลยแฮะ…”
[“ใช่แล้วครับ มาสเตอร์. นอกจากนั้น ดาวเคราะห์ดวงที่สี่ เป็นดาวเคราะห์คล้ายโลกที่มีอากาศหายใจได้ ขณะนี้เราอยู่ในระบบดาวที่คล้ายกับระบบสุริยะของเรา”]
ระบบสุริยะ หมายถึง ระบบดาวที่มีดวงอาทิตย์อยู่ตรงกลาง และมีดาวเคราะห์คล้ายโลกโคจรอยู่รอบๆ
“…ห๊ะ?”
ในขณะที่รูดี้จ้องมองดาวเคราะห์ดวงที่สี่บนหน้าจอด้วยดวงตาเบิกกว้าง ฮาลก็ฉายภาพขยายของดาวเคราะห์ดวงเดียวกันบนหน้าจออื่น
ดาวเคราะห์บนหน้าจอเป็นดาวเคราะห์สีน้ำเงินที่มีดาวบริวารขนาดกลางอยู่ด้วย
“เป็นไปได้ไหมที่มนุษย์จะอาศัยอยู่ที่นั่นโดยไม่ต้องปรับปรุงพื้นผิวของดาว?”
[“แน่นอนครับ. ดังนั้นผมจึงขอเสนอให้เราตรวจสอบดาวเคราะห์ดวงนี้ก่อน”]
รูดี้เริ่มสงบลงเมื่อได้ยินคำตอบของฮาล และพยักหน้าช้าๆ หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง
“ฉันแทบไม่อยากจะเชื่อเลย แต่มันก็ยังดีกว่าไม่มีอะไรเลยละนะ งั้นช่วยเคลื่อนยานไปใกล้ๆกับดาวเคราะห์ดวงนั้นที”
[“ครับ มาสเตอร์.”]
ตอบสนองต่อคำสั่งของรูดี้ ยานไนกี้ก็เริ่มเคลื่อนตัว
ในขณะรูดี้เองก็ได้แต่จ้องมองไปที่ดาวเคราะห์สีน้ำเงินที่ส่องแสงอยู่บนหน้าจออยู่พักใหญ่