เอาลูกสาวมาเป็นภรรยาไม่ได้นะ! - ตอนที่ 0.2
โฮชิซากิ ไอระ เธอเป็นลูกสาวของปู่ผม — โฮชิซากิ อาเคชิ
เราไม่ได้เกี่ยวข้องทางสายเลือดกันหรอก
ตอนอยู่ ม.ต้น ผมเคยเห็นไอระบ่อยๆ
ตอนนั้นเธอยังเป็นเด็ก ฉันคิดว่าเธอยังไม่ได้เรียนประถมด้วยซ้ำ
เธอเหมือนตุ๊กตา…ตุ๊กตาแลนซ์ นั่นผมบลอนด์หรอ ไม่สิผมแบบสโนวไวท์มากกว่า เอ๊ะ ผมดำหรอ
ถ้าเธอไม่ขยับผมก็คงคิดว่าเธอเป็นตุ๊กตาที่ทำขึ้นอย่างประณีตไปแล้ว เป็นความงามที่สร้างสรรค์โดยฝีมือของพระเจ้าที่เกินความเข้าใจของมนุษย์ ผมไม่ได้โม้นะ
ซึ่งทำให้ผมในตอนแรกกลัว กลัวมาหากแตะแล้วจะแตกแบบแก้วมั้ย
แน่นอนว่าเธอไม่ใช่ตุ๊กตา แต่เป็นคน
ความน่ารักของเธอค่อนข้างต่างจากตุ๊กตา โดยเฉพาะรอยยิ้ม
เมื่อเวลาผ่านไปเราจึงสนิทกันมากขึ้น
“ซาคุง!”
วันนั้นที่ผมไปหาปู่ ไอระก็เข้ามากอดรอบเอวผมแล้วก็ใช้มือเล็กๆของเธอจับชายเสื้อของผม
ซาคุงคือชื่อเล่นของผม ส่วนชื่อจริงของผมคือมิโทริ ซากุระโตะ
ชื่อ‘ซากุระโตะ’เรียกยากพอควร แม้แต่ผมที่ผูกพันกับชื่อนี้มานอนยังลิ้นพันตอนอ่านชื่อตัวเองเลย คนใกล้ตัวจึงมักเรียกผมด้วยชื่อเล่นมากกว่า
“ซาคุงๆ!~~”
การเรียกซ้ำๆแบบนี้ หากเป็นการร้องเพลงก็เป็นเสียงที่ไพเราะมาก ไอระชอบชื่อเล่นของผมมากซึ่งผมก็ไม่ได้ติดใจอะไร เสียงเธอชัดเจนและน่าฟังราวกับเธอเป็นกล่องดนตรี ซึ่งผมอยากจะฟังเสียงนี้ตลอดไป
แต่ช่วยหยุดกระพือชายเสื้อผมทีจะได้มั้ย
“มาเยี่ยมหรอ ลูกโอ๊ค”
ในทางกลับกัน ปู่ของผมจะเรียกผมแบบนี้
“ปู่ครับ… ช่วยหยุดเรียกผมด้วยชื่อนั้นได้มั้ยครับ”
“ซากุระโตะมันดูเก๋ไปสำหรับเด็กอย่างนาย ลูกโอ๊คนั่นแหละดีแล้ว”
‘ซากุระโตะ’บางทีก็อ่านว่า‘ซากุระบิโตะ’ได้ด้วย ซึ่งมันหมายถึงคนที่ชอบดอกซากุระ และเป็นศัพท์ญี่ปุ่นที่ใช้กันมาตั้งแต่สมัยเฮอันแล้ว (TL note : สมัยเฮอันคือช่วงระหว่างปี 794 ถึงปี 1185 คำว่าเฮอันหมายความว่าความสงบสุข)
และผมเกิดช่วงปลายเดือนมีนาคม ซึ่งเป็นฤดูกาลชมดอกซากุระ
ชื่อนี้มันคงทำให้คุณบ่นแน่ๆว่าที่คุณเลือกชื่อนี้มาต้องเป็นเรื่องตลกแน่ๆ แม้แต่จะใช้เป็นนามสกุลก็ตาม แต่พ่อแม่ผมไม่เข้าใจ ชื่อผมเลยเป็นแบบนี้
“เอาน่าซากุระโตะ ลูกโอ๊คก็มีความหมายดีไม่แพ้ซากุระนะ สุภาษิตอังกฤษกล่าวไว้ว่า ‘ต้นโอ๊คที่ยิ่งใหญ่ย่อมเกิดมาจากลูกโอ๊ค’”
นี่คุณปู่เป็นคนบ้าสุภาษิตรึไง ปู่ผมเป็นทั้งนักผจญภัยและยังมาเล่าเรื่องราวการผจญภัยของเขาที่ศูนย์เด็กเล็กอีก ไม่ต้องสงสัยเลยที่เขาต้องการเล่าเรื่องแบบนี้ให้ผมฟัง
“ฉันชอบต้นโอ๊คที่เติบโตในอนาคตมากกว่าความสวยงามที่ไม่จีรังของดอกซากุระ”
“สำหรับผม มันเหมือนถูกเรียกว่าหัวโล้นนะ”
“ลูกโอ๊คน่าจะมีเสน่ห์มากกว่าหัวโล้น”
“ถ้าอย่างนั้น เมื่อผมโตแล้ว ก็เลิกเรียกผมว่าลูกโอ๊คด้วยนะ”
“มันยากนะ ถ้านายไม่แก่กว่าฉัน นายก็อายุน้อยกว่าฉันอยู่ ตราบเท่าที่ฉันยังไม่ตาย นายก็ยังเป็นเด็กในสายตาฉันอยู่ดี”
คุณปู่ไม่พูดอะไรต่อแล้วเบนสายตาจากผมไปหาไอระ
ขณะที่เรากำลังคุยกัน ดูเหมือนเธอจะง่วนอยู่กับการหันหน้าที่ไร้เดียงสามาที่ผมและปู่ของเธอ ดวงตากลมโตที่ขยับไปมานั้นชวนให้นึกถึงลูกแมวที่เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“แม้แต่แขกที่ไม่ได้รับเชิญก็ต้องการการต้อนสักเล็กน้อย วันนี้เราไปทำบาร์บีคิวในสวนกันหน่อย อาหารกลางวันโอเคไหม เจ้าหญิง”
“โอ้!”
คุณปู่ ผมคิดว่าคุณปู่แค่ต้องการบาร์บีคิวเท่านั้นแหละ ถ้าเป็นไปได้ผมก็อยากไปร่วมวงด้วยนะ
“แต่ว่าคุณพ่อคะ”
ไอระพองแก้มในขณะที่ทั้งสามคนกำลังออกไปที่สวน
“อย่าเรียกหนูว่าเจ้าหญิงได้มั้ย”
คุณปู่ของผมหัวเราะอย่างเต็มที่และลูบศีรษะของไออระ ซึ่งแน่นอนว่าเธอเป็นเจ้าหญิงของเขา
“อย่าลูบหัวได้มั้ยพ่อ เจ็นะ!”
บางทีนี่อาจเป็นชะตากรรมของนักผจญภัยก็ได้ ปู่ของผมที่มีมือที่หยาบกร้านของเขาดูเหมือนจะไม่สนใจและหัวเราะอีกครั้ง
ปู่ของผมมีคำพูดและการกระทำที่แสดงความเกลียดชังมากมายเช่นนี้ แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างผมไม่สามารถเกลียดเขาได้ ผมไม่รู้เหตุผลในตอนนั้น แต่ตอนนี้ผมเข้าใจอย่างคลุมเครือแล้วว่าเป็นเพราะผมสัมผัสได้ถึงความรักที่นั่น
คุณปู่
ทำไมคุณปู่ต้องจากผมไปด้วย