การเผชิญหน้ากับหนุ่มของเบียคุยะและกลุ่มของเขากำลังจะเกิดขึ้นจริง
ผมบอกเมย์โกะว่าผมมีมาตรการรับมือเตรียมไว้แล้ว
มาตรการนั้นคือ…
「หืม?ย้าย? เราจะทิ้งที่นี่ไปงั้นเหรอ? 」
ทุกคนประหลาดใจกับสิ่งที่ผมบอกในขณะที่เรากำลังทานข้าวเย็นกัน
「มันเป็นวิธีที่ดี แต่มันไม่ทันการแล้ว」
แผนของผมคือการวิ่งหนี…ถ้าคุณอยากให้มันดูเท่ห์ขึ้น มันคือการหายตัวไป
「โฮคาเงะ อย่าหนีเลย เราสู้กับพวกเขาเถอะนะ ถ้าโฮคาเงะสร้างอาวุธล่ะก็ เราไม่แพ้พวกนั้นแน่! นอกจากนี้ พวกลูกน้องที่ทำตามคำสั่งของพวกเบียคุยะ พวกนั้นทำไปเพราะไม่มีทางเลือก ใช่ไหมล่ะ? ถ้าอย่างนั้นเราดึงพวกนั้นมาเป็นพวกได้ไหม? 」
อาริสะสะอื้น
ดูเหมือนว่ามานะจะเห็นด้วยกับแผนการ
ส่วนสาวๆคนอื่นเหมือนจะไม่เป็นเช่นนั้น
「การต่อสู้กับพวกนั้นหมายถึงเราต้องฆ่าพวกนั้น เธอเข้าใจไหม? 」
ผมพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
「ฆ่า? นายพูดเกินจริงไปรึเปล่า? 」
「มันไม่ใช่การพูดเกินจริง ฉันไม่ใช่มืออาชีพในการต่อสู้ ฉันไม่สามารถใช้เล่ห์เหลี่ยมเช่นตีคนด้วยสันดาบเหมือนในละครย้อนยุค หากเรากำลังต่อสู้กับพวกนั้น มันจะฆ่าหรือถูกฆ่า เธอจะไม่สามารถปล่อยศัตรูของเธอโดยไม่ต้องฆ่าพวกเขา」
「เอ่อ นายพูดถูก」
「ถึงแม้จะไม่มีกฎหมายในที่นี่ แต่เราก็ยังเป็นคนญี่ปุ่น ค่านิยมของเรายังคงอยู่ เราไม่สามารถฆ่าคนได้ง่ายๆ ดังนั้นเราจึงไม่ได้ต้องการต่อสู้กับพวกเขา แม้ว่าเราจะสู้กับพวกเขา เราก็แพ้ และถ้าเราแพ้ พวกเธอจะลงด้วยการถูกพวกนั้นข่มขืน」
ผมศึกษามาเยอะมากเพื่อฝึกทักษะการเอาตัวรอดของผม
บางอย่างไม่ใช่แค่ทักษะการเอาชีวิตรอดธรรมดาๆ แต่เป็นสิ่งที่ทหารยังใช้ได้ด้วย
ตัวอย่างเช่น ศิลปะการตรวจจับข้อมูลของเหยื่อจากวัชพืชและกิ่งไม้ที่หัก
นี่เป็นการอ้างอิงถึงเทคโนโลยีขั้นสูงที่ใช้โดยกองกำลังพิเศษของสหรัฐฯ
ด้วยความรู้ดังกล่าว คุณสามารถต่อสู้กับคนจำนวนน้อยได้
หากเราเต็มใจที่จะเลือกความเป็นหรือความตายของคู่ต่อสู้ เราก็มีโอกาสสูงที่จะชนะ
ผมมียุทธวิธีและเครื่องมือที่ทหารใช้งานจริงๆ
แต่ความจริงแตกต่างจากในเกม ไม่มีใครสามารถฆ่ามนุษย์อย่างไร้เยื่อใย
ในกรณีที่เราไม่สามารถลงมือฆ่าได้ เราก็จะเสียเปรียบสุดๆ
ดังนั้นเราจึงเลือกที่จะวิ่งหนี
「โชคดีที่ไม่มีสัตว์ที่เหมาะสมเป็นอาหารในบริเวณนี้ ดังนั้นแม้ว่าเบียคุยะและกลุ่มของเขาจะเข้ามาบุกรุกสถานที่นี่ พวกเขาก็จะอยู่ได้ไม่นาน」
ผมไม่ได้ยินเสียงคัดค้านอีกต่อไป
สาวๆทั้งหมดเห็นด้วยกับผม ดังนั้นการสนทนาเกี่ยวกับการหลบหนีจึงดำเนินต่อไป
「สิ่งสำคัญคืออย่าให้พวกเขารู้ว่าเราหนีไปที่ไหน ไม่มีประโยชน์หากพวกเขาค้นพบที่ที่เราหนีไป」
「ช้าน!ชั้น!ฉัน!」
อาริสะยกมือขึ้น
「มีบางอย่างที่สำคัญกว่านั้นใช่ไหม? 」
「นายหมายถึงอะไร? 」
「ที่หลบภัย?! เราจะไปที่ไหน? ไม่ใช่ถ้ำของเมย์โกะใช่ไหม 」
「นั่นไม่ใช่ปัญหา ฉันพบที่ซ่อนที่สมบูรณ์แบบแล้ว」
「จริงๆเหรอ?! ทำแบบนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่? ไม่พลาดอะไรใช่ไหมโฮคาเงะ? 」
อาริสะหัวเราะ เผยให้เห็นฟันของเธอ
「ตามที่คาดเลยโฮคาเงะคุง」
「นายกำลังทำให้เราตกหลุมรักนายนะ นายพบมันเมื่อไหร่? 」
เอริและมานะรู้สึกประทับใจ
「ฉันพบมันตอนที่ฉันกับมานะอยู่ด้วยกัน」
「ฮะ นายหมายถึง? 」
มานะหน้าแดงทันที
เธอจดจำช่วงเวลาที่เธอhandjobให้ผมในขณะที่ผมแก้ผ้าอยู่
handjob ไม่ใช่ส่วนสำคัญในตอนนี้
「เป็นอย่างที่คาดเดาเดา มันคือทะเล」
「 ทะเล?! หมายถึงเราจะสร้างฐานที่ทะเล?! ราวกับพระราชวังของราชามังกร! 」
「ใช่ เรากำลังจะสร้างวังของราชามังกร…ไม่ใช่โว้ย! 」
ผมโต้กลับมุกของอาริสะ
ถ้าย้อนกลับไปในตอนนั้น ผมจะตอบด้วยใบหน้าที่ตรงไปตรงมา
แต่พอเห็นอาริสายิ้มอย่างมีความสุข ผมก็ดีใจที่โต้กลับแบบนั้น
「เธอรู้หรือไม่เกี่ยวกับการกัดเซาะของชายฝั่ง(marine erosion)? 」
「ทหารเรืออะไร? ความจงรักภักดี? 」
อาริสะเอียงคอสงสัย
「เธอใช้คำผิดนะ ฉันคิดว่ามันเกี่ยวกับทะเลหรืออะไรสักอย่าง」
มานะกล่าว
ฮินาโกะตอบสนองเมื่อได้ยินคำนั้น
เธอมองไปที่เมย์โกะด้วยใบหน้าที่ถามว่ากรณีนี้ใช่หรือไม่
เมย์โกะเอียงศีรษะเหมือนจะบอกว่า “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน”
「 ถูกต้อง การกัดเซาะของทะเลกินถ้ำในทะเล เพื่อให้เข้าใจง่าย เธอเคยเจอรูถ้ำบนชายทะเลหรือหน้าผาใช่ไหม นั่นคือการกัดเซาะของทะเล」
「 「 「 「 อุ๊ย! 」 」 」 」
ผมอธิบายเพื่อให้สาวๆ นอกเหนือจากคารินและฮินาโกะเข้าใจ
คารินดูเหมือนจะรู้แล้ว และฮินาโกะเพิ่งเข้าใจในได้ไม่นาน
เธอไม่ได้พูดอะไร แต่ดวงตาของเธอเป็นประกายราวกับว่ามันพูดว่า “ถูกต้อง!”
「ตอนที่ฉันกับมานะไปที่ทะเล ฉันพบถ้ำที่เกิดจากการกัดเซาะของทะเล เนื่องจากฉันกำลังเก็บสาหร่าย ฉันจึงคิดว่าจะลองดู และที่นั่นกว้างกว่าที่นี่มาก」
ถ้ำที่ผมพบมีสภาพแวดล้อมที่ดี
สามารถเข้าถึงได้ง่ายจากชายฝั่งและที่ตั้งของถ้ำสูงกว่าระดับน้ำมาก
หมายความว่าเราไม่ต้องกังวลว่าพื้นจะเปียกเมื่อน้ำขึ้น
นอกจากนี้ ทางเข้าถ้ำยังหันหน้าออกสู่ทะเล ทำให้หายาก
ไม่มีที่ไหนดีไปกว่านี้แล้วในการหลบซ่อน
「พรุ่งนี้ฉันจะบอกทางไปถ้ำ เรามีทรัพยากรเพียงพอในถ้ำนี้แล้ว ดังนั้นเราจะเก็บเสบียงสำหรับถ้ำอื่น เบียคุยะและกลุ่มของเขาอันตราย ดังนั้นเราจึงต้องเตรียมพร้อมกับมันมากกว่าการภัยธรรมชาติซะอีก」
「 ฉันมีคำถาม! 」
อริสะยกมือขึ้น
「มาตั้งชื่อกันเถอะ」
「 ชื่อ? ชื่ออะไร? 」
「ถ้ำทะเลกัดเซาะและถ้ำแห่งนี้ มันคงยากที่จะเรียกมันโดยไม่มีชื่อ」
「ก็จริงนะ การเรียกมันว่า ‘ถ้ำ’ ทำให้ยากต่อการแยกแยะจากที่นี่หรือถ้ำของเมย์โกะ นอกจากนี้ เราจะเพิ่มถ้ำการกัดเซาะของทะเลเข้าไปในถ้ำที่เรากำลังพูดถึง」
ผมเห็นด้วยที่เราควรตั้งชื่อพวกเขา
อย่างไรก็ตาม.
「ถ้าอย่างนั้น ถ้ำนี้ก็เป็นบ้านที่มีความสุข! 」
ผมไม่เห็นด้วยกับความรู้สึกในการตั้งชื่อของอาริสะ
「พวกเราย้ายออกไปเพราะว่าพวกเราไม่มีความสุขแต่พวกเราเรียกบ้านนี้ว่ามีความสุข? 」
คารินพูดพร้อมกับหัวเราะ
ได้ยินอย่างนั้นเราก็หัวเราะ
「ถ้าอย่างนั้นเราจะเรียกที่นี่ว่าอะไร? 」
ดูเหมือนอาริสะจะไม่พอใจที่เราหัวเราะเยาะเธอ เธอจึงทำหน้าบึ้ง
「คำถามที่ยากมากเลยนะ」
ทันใดนั้นเราทุกคนก็มีปัญหา
อาริสะแสดงท่าทีมีชัยในตัวเองเมื่อเห็นว่า
「แล้วก็แฮปปี้เฮาส์」
「ไม่ ทุกอย่างยกเว้นชื่อนั้น」
ผมส่ายหัว
บ้านแสนสุขควรจะแตกต่างกัน
「แล้วอันนี้ล่ะ? 」
มานะยกมือขึ้น
「ทำไมเราไม่ใช้นามสกุลของพวกที่ตื่นขึ้นในถ้ำนั้นล่ะ ตัวอย่างเช่น ที่นี่คือถ้ำชิโนมิยะ และสถานที่ที่เมย์โกะและฮินาโกะตื่นขึ้นมาคือถ้ำอาซากุระ จะได้ไม่เกิดความสับสนใช่ไหม 」
「 「 「โอ้ เธอพูดถูก 」 」 」
ทุกคนเห็นด้วย
「แล้วถ้ำการกัดเซาะทางทะเลล่ะ? ไม่มีใครตื่นขึ้นที่นั่นใช่ไหม 」
「แล้วการเรียกถ้ำการกัดเซาะทางทะเลว่า ‘ฐานลับ’ ล่ะ? ฉันหมายถึงการสร้างฐานที่อยู่อาศัยในถ้ำที่ถูกกัดเซาะทะเลฟังดูเหมือนเป็นฐานลับ มันดูดีนะ」
มานะกล่าว ผมตัวสั่น
การเรียกมันว่าฐานลับนั้นไม่ยุติธรรม
ไม่มีใครต้านทานได้เมื่อได้ยินเช่นนั้น
「นั่นแหละ! ฉันยอมรับชื่อฐานลับ! 」
ผมตะโกนออกไปโดยไม่คิดอะไร
สาวๆ แปลกใจเพราะจู่ๆผมก็แปลกใจ
「ดีนะ แต่นี่มันต้องเป็นบ้านแสนสุข」
「ฐานลับ! 」
ผมเสนอชื่อของถ้ำ
ถ้ำชิโนมิยะ ถ้ำอาซากุระ และฐานลับของเรา
—————-
ติดตามผู้แปลได้ที่ แปลด้วยพลังใบ
MANGA DISCUSSION