เส้นทางแห่งโชคชะตา - ตอนที่ 23: ที่ซ่อนของผู้แปรพักตร์
เล่มที่ 1 ตอนที่ 23: ที่ซ่อนของผู้แปรพักตร์
เมื่อเห็นว่าหมาป่าโลหิตไล่ตามมาเป็นฝูง มู่หรงเสี่ยวเทียนก็ต้องรีบวิ่งอย่างสุดกำลัง แต่ด้วยความเร็วของหมาป่าโลหิตเหล่านั้นมันรวดเร็วจนน่ากลัว ขณะที่ราชาหมาป่าโลหิตตัวสูงใหญ่ก็ใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ มานาของเขาก็เหลือน้อยลงไปทุกทีแล้วเช่นกัน และเขาก็ยังอยู่ห่างไปอีกหลายไมล์กว่าจะออกจากภูเขานี้ได้ ดังนั้นไม่ต้องถามถึงหมู่บ้านโนวิซเลยว่ามันจะไกลสักแค่ไหน
มู่หรงเสี่ยวเทียนไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากวิ่งหนีอย่างสิ้นหวัง และในขณะนั้นเขาก็พยายามใช้สกิลเทเลพอร์ตที่มีโอกาสเพียงแค่ 1 เปอร์เซนต์เท่านั้น
ล้มเหลวในการใช้เทเลพอร์ต…
ล้มเหลวในการใช้เทเลพอร์ต….
ล้มเหลวในการใช้เทเลพอร์ต…..
เมื่อเห็นว่าเขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าไล่จี้ตามตูดของมู่หรงเสี่ยวเทียนเข้ามาเรื่อย ๆ เขาก็อดไม่ได้ที่จะไหว้วอนต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่หยุด “ผีอากง ผีอาม่า ผีเจ้าที่ รู้อย่างงี้ผมไม่เอาลูกปัดนั่นจะดีกว่า แค่เอาลูกของราชาหมาป่าโลหิตกลายพันธุ์มาก็คุ้มค่ามากพอแล้ว ! ”
ในช่วงวินาทีวิกฤตแบบนี้เขาทำได้แค่บ่นกับตัวเอง แต่แล้วบรรยากาศทั้งหมดก็เปลี่ยนทันที การใช้เทเลพอร์ตของเขาเป็นผลสำเร็จขึ้นมา ดูเหมือนว่าตอนนี้เวลาจะหยุดนิ่งไป และดูเหมือนว่าทุกอย่างในโลกจะหยุดเคลื่อนไหวไปในพริบตา ภาพต้นไม้ใบหญ้าที่อยู่ห่างออกไป 2 ไมล์ปรากฏชัดเจนขึ้นมาในหัวของมู่หรงเสี่ยวเทียน โดยไม่ลังเลใด ๆ เขาเลือกเป้าหมายเป็นหลังของกวางตัวผู้เขางามตัวหนึ่งที่หันหน้าไปทางหมู่บ้านโนวิซ 110 และแน่นอนว่ามันอยู่ห่างจากตำแหน่งของเขามากที่สุดอีกด้วย เมื่อตอนที่เขาเดินเล่นไปทั่วในป่าที่พวกสัตว์กินพืชอาศัยอยู่ เขาก็ได้พบกับกวางเขาใหญ่ตัวนี้เข้าโดยบังเอิญ และมันเองก็เป็นสายพันธุ์ที่มีความเร็วมากที่สุดอีกด้วย ดูเหมือนว่าจะใช้เวลานานแต่อันที่จริงมันเป็นเพียงเวลาแค่ชั่วขณะ พูดง่าย ๆ ก็คือตั้งแต่ตอนที่มู่หรงเสี่ยวเทียนใช้สกิลเทเลพอร์ตจนไปถึงการขี่หลังกวางนั้นเกิดขึ้นภายในอึดใจเดียวเท่านั้น !
เขาโผล่ไปที่หลังของกวางเขาใหญ่ตัวนั้นก่อนที่จะเอื้อมมือไปคว้าจับคอของมันและปล่อยให้เจ้ากวางตัวนั้นวิ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ดูเหมือนว่าความกลัวของมันที่มีต่อราชาหมาป่าโลหิตนั้นจะมีมากกว่าการที่จู่ ๆ เขาก็ปรากฏตัวขึ้นมาและคว้าคอของมันเอาไว้
มันไม่ตกใจกับการปรากฏตัวอย่างกะทันหันของมู่หรงเสี่ยวเทียนและยังคงวิ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
ด้วยเหตุนี้ ทั้งมู่หรงเสี่ยวเทียน เจ้ากวางเขางาม และกองทัพหมาป่าโลหิตนับพันที่ไล่ตามหลังเขามาในระยะทางประมาณ 1 ไมล์ ก็กำลังมุ่งหน้าไปยังหมู่บ้านโนวิซ 110
ยิ่งใกล้เมืองโนวิซ 110 มากขึ้นเท่าไหร่ ผู้เล่นมากมายก็เริ่มปรากฏตัวมากขึ้นเท่านั้น มู่หรงเสี่ยวเทียนที่ขี่หลังกวางที่กำลังวิ่งหนีสุดชีวิต ก็ตะโกนเสียงดังออกมาในเวลาเดียวกันว่า “หนีเร็ว ! ! ฝูงหมาป่ากำลังมาแล้ว ! ” แต่ทว่าผู้เล่นจำนวนมากมายก็ถูกฝูงหมาป่าโลหิตที่ราวกับเป็นกระแสน้ำสีแดงขนาดใหญ่กลืนกินไปก่อนที่พวกเขาจะทันได้ตั้งตัวเสียอีก
เมื่อเห็นทางเข้าประตูเมืองโนวิซ 110 อยู่ราง ๆ อารมณ์แห่งความภาคภูมิใจของมู่หรงเสี่ยวเทียนก็พรั่งพรูออกมาเล็กน้อย สิ่งที่เขาทำวันนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่เลวเลย เขาได้ทั้งลูกปัดและลูกราชาหมาป่าโลหิตกลายพันธุ์มา ทว่าคงจะมีผู้คนมากมายที่ต้องตายเพราะฝูงหมาป่า และแน่นอนว่าเขาอาจจะต้องถูกด่าบนเว็บไซต์หลักเหมือนทุกทีอย่างแน่นอน แต่ขณะที่มู่หรงเสี่ยวเทียนกำลังภาคภูมิใจอยู่นั้น เจ้ากวางเขางามก็ดันเปลี่ยนเส้นทางอย่างไม่คาดคิด มันมุ่งหน้าเข้าไปทางป่าด้านซ้ายของเมืองโนวิซแทบจะทันที
“เข้าไปในหมู่บ้านสิวะ ! พาฉันเข้าไปในหมู่บ้าน ! ” มู่หรงเสี่ยวเทียนดึงหัวกวางตัวนั้นอย่างสุดกำลัง แต่ทว่ามันก็ไม่ช่วยอะไรเลยแม้แต่น้อย เจ้ากวางตัวนั้นปฏิเสธที่จะไปในทิศทางที่เขาสั่งอย่างสิ้นเชิง และขณะที่กำลังตระหนักถึงความเป็นจริงอยู่นั้น ฝูงหมาป่าโลหิตมากมายที่กำลังไล่ตามเขาอยู่ พวกมันก็เปลี่ยนทิศทางและไล่ตามมู่หรงเสี่ยวเทียนอย่างไม่ลดละ ตอนนี้เขาไม่มีทางเลือกอื่นเลยนอกจากยอมแพ้ “พระเจ้า ! ”
เขาไม่รู้เลยว่าตอนนี้เขาใช้เวลาในการหนีฝูงหมาป่าโลหิตนี้มานานแค่ไหน แต่สิ่งที่เขารับรู้ได้ก็คือตอนนี้ร่างกายของเขาแทบจะแหลกสลายแล้ว ก้นของเขาหนักราวกับว่าเป็นเด็กแปดเดือน ที่พยายามลุกขึ้นยืนทีไรก็ล้มทุกที และท้องฟ้าตอนนี้ก็มืดลงราวกับว่าถูกหมึกสาดกระเซ็นใส่ ถ้าไม่ใช่เพราะเสียงฝีเท้าของหมาป่าโลหิตจำนวนมากมายที่ไล่ตามหลังมา เขาก็คงจะกระโดดออกจากหลังกวางตัวนั้นไปนานแล้ว มู่หรงเสี่ยวเทียนอดไม่ได้ที่จะรู้สึกหงุดหงิดกับเสียงเห่าที่ดังมาทางด้านหลัง จากนั้นมันก็เริ่มดังขึ้นมาเรื่อย ๆ ลูกหมาป่าโลหิตกลายพันธุ์ที่เขายัดเอาไว้ในแหวนแห่งความโกลาหล ตอนนี้ไม่รู้ว่าจะยังมีชีวิตรอดอยู่รึไม่ เขาอยากที่จะนำมันออกมา แต่ทว่าเจ้ากวางเขางามตัวนี้ก็มีพละกำลังมากมายเหลือเกิน มันวิ่งไปกระโดดไป จนไม่สามารถนำอะไรออกมาดูได้ในขณะนี้
“ยินดีด้วย ผู้เล่นชื่อโจร คุณได้พบกับแผนที่ใหม่ ‘ที่ซ่อนของทอรัสผู้แปรพักตร์’ ได้รับรางวัลเป็นค่าชื่อเสียง 2,000 หน่วย แผนที่นั้นจะเปิดให้ผู้เล่นในไม่ช้า” ขณะนี้มู่หรงเสี่ยวเทียนกำลังขมวดคิ้วบ่นพึมพำออกมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า จากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงของระบบที่คุ้นเคยแจ้งเตือนขึ้นมา
ก่อนที่มู่หรงเสี่ยวเทียนจะได้สติกลับคืนมา ทันใดนั้นเอง ลูกไฟสีแดงก็ลอยมาหามาจากระยะไกล เห็นเป็นลูกไฟตัดผ่านท้องฟ้าในยามค่ำคืน มันพุ่งเข้ามากลางหลังของกวางตัวนั้นอย่างจัง โชคยังดีที่มู่หรงเสี่ยวเทียนสังเกตเห็นมันทันเวลา เมื่อเห็นว่าตกอยู่ในสถานการณ์คับขัน เขาก็รีบกระโดดลงจากหลังกวางตัวนั้น ไม่งั้นชีวิตเขาก็คงจะต้องจบลงแบบเจ้ากวาง
“ใครกันที่กล้าดีบุกเข้ามาในดินแดนของข้า ทอรัสผู้นี้ ! ” ด้านหลังของลูกไฟนั้น ร่างอันมืดมิดลอยอยู่เหนือพื้นดิน
“ช้าก่อน อย่าพึ่งยิงข้า ! ” เมื่อได้ยินคำพูดของทอรัสแบบ เขาก็นึกถึงวิธีการพูดของเฉิงเป่ยซี (คำพูดสมัยโบราณ) ขึ้นมา มู่หรงเสี่ยวเทียนก็ฟื้นสติขึ้นมาและรีบเปลี่ยนคำพูดพร้อมกับบอกไปว่า “นี่ท่าน อย่าเพิ่งทำเช่นนั้น ผมไม่ได้ตั้งใจเข้ามาทีนี่ ผมบังเอิญวิ่งผ่านมาที่นี่เพราะกำลังถูกไล่ล่า”
“เจ้าเป็นผู้เล่นใช่หรือไม่ ? ” จอมเวทย์วัยกลางคนนามว่าทอรัสมีใบหน้าที่มืดมน เขาสวมชุดคลุมสีดำเดินเข้ามาหามู่หรงเสี่ยวเทียน
“โอ้ว พี่ชาย ท่านช่างดูน่าเกรงขามยิ่งนัก” มู่หรงเสี่ยวเทียนพูดออกมาอย่างประจบสอพลอ แต่ทว่าภายในใจกำลังแอบร้องไห้อยู่ ให้ตายสิ หนีเสือมาปะจระเข้จริง ๆ
เมื่อแสงจันทร์เริ่มสว่างชัดเจนขึ้นมา มู่หรงเสี่ยวเทียนก็ตรวจสอบสถานการณ์รอบ ๆ อย่างถี่ถ้วน
ดูจากรูปลักษณ์ภายนอก ชายคนนี้ดูเยือกเย็นและสุขุมตั้งแต่หัวจรดเท้า ข้างหน้าของเขานั้นมีกระท่อมเก่า ๆ ตั้งอยู่ไม่ไกลเท่าไหร่ มีสระน้ำขนาดใหญ่อยู่ตรงหน้าบ้าน แถมมีหน้าผาอยู่ข้างหลังอีก สถานที่นี้มันคล้ายกับที่ตั้งของนิกายเจไดชัด ๆ
“ผู้ใดไล่ล่าเจ้ามา ? ” ใบหน้าที่เคร่งขรึมดูดีขึ้นเล็กน้อย และคำพูดของเขาก็ผ่อนคลายมากขึ้น
“พวกมันไม่ใช่มนุษย์ แต่มันเป็นมอนเตอร์หมาป่าโลหิตระดับ 3” มู่หรงเสี่ยวเทียนตอบกลับไป เมื่อได้ยินแบบนั้นท่าทางของทอรัสก็เปลี่ยนไป และแอบภูมิใจอยู่เล็กน้อย “ดูเหมือนว่าพวกมันจะชะตาขาดเสียแล้ว ! ”
เสียงเห่าหอนในยามค่ำคืนที่เงียบสงบนั้นชัดเจนเป็นอย่างมาก และเสียงเห่าหอนของหมาป่าโลหิตเหล่านั้นก็เริ่มจะใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ แล้ว ทอรัสฟังเสียงของพวกมันอย่างตั้งใจ แต่ใบหน้าของเขาแสดงความไม่พอใจออกมาเป็นอย่างมาก “แค่หมาป่าโลหิตไม่กี่ร้อยตัว ทอรัสผู้นี้ไม่ได้สนใจมันมากนัก”
“ไม่ใช่ไม่กี่ร้อย” มู่หรงเสี่ยวเทียนลังเล “พวกมันมีนับพันตัว”
ใบหน้าของทอรัสเปลี่ยนไปเป็นความตกใจ แต่ถึงแบบนั้นเขาก็กลับมาสงบได้อย่างรวดเร็ว “หึ หมาป่าโลหิตนับพันงั้นรึ ? ทอรัสผู้นี้จะจัดการกับมันเอง”
“ท่านช่างยอดเยี่ยมจริง ๆ ! ” มู่หรงเสี่ยวเทียนพูดยกยอทอรัสอีกครั้ง
“ฮึ่ม ! ” ทอรัสเงยหน้าขึ้นมาอย่างภาคภูมิใจ
เมื่อได้ยินเสียงเห่าหอนอันดุเดือดและโหยหวนของหมาป่าโลหิตดังใกล้เข้ามามากขึ้นเรื่อย ๆ ร่างของหมาป่าเหล่านั้นก็ปรากฏขึ้นมาในสายตาของมู่หรงเสี่ยวเทียน เขารู้สึกอยากจะถอดหมวกออกเพื่อออฟไลน์ตอนนี้ซะเหลือเกิน
ทันใดนั้นเองมือของมู่หรงเสี่ยวเทียนก็แตะไปที่จมูกของเขา เขาจ้องมองไปที่ทอรัสและพูดอย่างขมขื่นว่า “ข้าลืมบอกท่านบางอย่างไป มันยังมีราชาหมาป่าโลหิตตามมาอีกด้วย แล้วก็…” มู่หรงเสี่ยวเทียนกลืนน้ำลายลงไปอึกใหญ่ “มันคือราชาหมาป่าโลหิตกลายพันธุ์ ! ”
To be continued…