เส้นทางแห่งโชคชะตา - ตอนที่ 10: ความผิดพลาดที่ไม่ได้ตั้งใจ
เล่ม 1 ตอนที่ 10: ความผิดพลาดที่ไม่ได้ตั้งใจ
มู่หรงเสี่ยวเทียนหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง จนลืมตัวด้วยความภูมิใจ ขณะที่กำลังมีความสุขอยู่นั้น จู่ ๆ ความเสียใจก็ผุดขึ้นมา มอนสเตอร์หัวม้าที่มุ่งหน้ามาหาเขา จากนั้นมันก็เตะเข้าไปที่กลางหลังของเขาอย่างจัง โชคดีที่ความรุนแรงของมันไม่สามารถฆ่ามู่หรงได้ แต่ว่าเลือดของเขาก็ลดเหลือเพียงนิดเดียว และเมื่อโดนสกิลของมันก็ทำให้เขาเป็นอัมพาตนอนรอความตายอยู่ที่นั้น เขาทำได้เพียงรออย่างมีความหวัง และภาวนาว่ามอนสเตอร์หัวม้าจะยังไม่ปรากฏตัวออกมาโจมตีเขาซ้ำไปอีกรอบ
ตอนนี้เขาขยับตัวก็ไม่ได้ ดื่มยาเพิ่มเลือดก็ไม่ได้ ทำได้เพียงแค่เจ็บปวดกับบาดแผลนั้น สุดท้ายเขาก็ได้แต่มองดูพวกมันมุ่งหน้าเข้ามาและกระทืบเขาให้ตายไปอย่างทรมาน
เมื่อเกิดใหม่ มู่หรงเสี่ยวเทียนก็เดินออกมาจากจุดเกิด ณ หมู่บ้านโนวิซอย่างหดหู่ เขามองลงไปที่เท้าเปลือยเปล่า จากนั้นก็เปิดกระเป๋ามิติออกมา ก่อนจะพบแค่จอบขุดแร่ในเหมืองและดาบไม้ที่พอจะตวัดไปมาเท่านั้น
รองเท้า เสื้อผ้า ขาดกระจุยกระจาย ส่วนยาเพิ่มเลือดที่วู่เฟิงมอบเอาไว้ก็ดันหายไปก่อนที่เขาจะได้ดื่มมันเสียอีก เขาใช้เหรียญทองแดงจ่ายไปกับการซื้อเสื้อผ้าจนหมด
“บ้าเอ้ย ไม่น่าเชื่อเลยจริง ๆ ว่ามอนสเตอร์หัวม้าจะทำกับเราแบบนี้ได้ ! ” มู่หรงเสี่ยวเทียนตำหนิตัวเองอย่างบ้าคลั่ง จากนั้นเขาก็วิ่งออกจากหมู่บ้านโนวิซไปอย่างรวดเร็ว
หนึ่งครั้ง สองครั้ง สามครั้ง… จนแปดครั้งผ่านไป มู่หรงเสี่ยวเทียนวิ่งไป ๆ มา ๆ ระหว่างจุดเกิดในหมู่บ้านโนวิซกับชายป่าที่มอนสเตอร์หัวม้าปรากฏตัวอยู่ เขากลับมายืนอยู่ที่เดิมโดยที่ตอนนี้เขาสวมใส่แค่กางเกงในชิ้นเล็ก ๆ ตัวเดียว แม้แต่ดาบไม้ก็หายไปด้วย เลเวลกลับมาเหลือ 0 อีกครั้งมีเพียงจอบขุดเหมืองห่วย ๆ เท่านั้นที่ยังอยู่ในมือของเขา
“พระเจ้า ! ถ้าแน่จริงก็เอากางเกงในของฉันไปด้วยเลยสิวะ ! ” มู่หรงเสี่ยวเทียนเงยหน้าขึ้นไปบนฟ้าและตะโกนออกมาอย่างเกรี้ยวโกรธ
“เขากลายเป็นบ้าไปแล้วหรือนั่น ? ”
“นี่เขาน่าจะเสียสติไปแล้ว”
“ยี้…น่ารังเกียจ”
“พวกนายดูสิ มันยอดเยี่ยมไปเลย”
“ว๊ายยย พี่ชายคนนี้เท่จังเลย…”
ผู้เล่นมากมายเริ่มที่จะแสดงความคิดเห็นออกมา
มู่หรงเสี่ยวเทียนไม่ได้สนใจคนเหล่านั้น เพราะเขากำลังนึกถึงทักษะในการจัดการกับมอนสเตอร์ของวู่เฟิงและนักฆ่ารวมถึงคนอื่น ๆ อยู่ เขากำลังนึกถึงสาเหตุที่ทำให้เขาตาย และต้องกลับไปเกิดใหม่ครั้งแล้วครั้งเล่า เขาต้องเดินออกจากหมู่บ้านโนวิซไปในป่าอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาวเช่นนี้ทุก ๆ ครั้ง
“ปัง ! ” มู่หรงเสี่ยวเทียนวิ่งชนกำแพงอย่างไม่ได้ตั้งใจ
“พระเจ้า แม้แต่สิ่งนี้ก็ยังไม่เห็นใจฉันหรือเนี่ย ! ” มู่หรงเสี่ยวเทียนโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เขาหยิบจอบขุดเหมืองออกมาถือเอาไว้และทุบไปที่กำแพงเมืองด้วยความหงุดหงิด
“พี่ชาย นายกำลังทำอะไรอยู่ ? ” น้ำเสียงที่ดูมีชีวิตชีวาดังขึ้นมาจากทางด้านหลังของเขา
“ฉันกำลังขุดหาเงินอยู่” มู่หรงเสี่ยวเทียนพูดแบบส่ง ๆ โดยไม่ใส่ใจที่จะหันกลับไปมอง
“จริงหรือ ? ” น้ำเสียงนั้นฟังดูร่าเริงเป็นอย่างมาก
“เชื่อไม่เชื่อก็แล้วแต่” มู่หรงเสี่ยวเทียนพูดออกมาอย่างรำคาญใจ เขาทำหน้าบูดบึ้งและพยายามระบายความเบื่อหน่ายอย่างบ้าคลั่งด้วยการทุบกำแพงอย่างรุนแรง
หลังจากนั้นไม่นาน หัวใจที่หดหู่ของเขาก็สงบลงเล็กน้อย แต่เขาก็ต้องตกใจเมื่อเงยหน้าขึ้นมาพบว่ามีผู้คนมากมายรายล้อมเขาอยู่ ผู้เล่นหลายร้อยคนใช้พลั่วขุดเหมืองทุบใส่กำแพงนั้นอย่างบ้าคลั่งและตอนนี้มันก็ได้รับความเสียหายอย่างหนัก เสียงการขุดที่ดังสนั่นยังคงก้องกังวาลต่อไปเรื่อย ๆ และผู้เล่นจำนวนมากก็มารวมตัวกันเพื่อขุดมัน
มู่หรงเสี่ยวเทียนงุนงง เขาเอื้อมมือไปตบไหล่ของผู้เล่นที่กำลังทุบกำแพงอย่างดุเดือด ก่อนจะถามว่า “น้องกวยหลง ทำอะไรกันอยู่ ? ”
“ก็ขุดหาเงินไง” กวยหลงเงยหน้าขึ้นมามองมู่หรงเสี่ยวเทียนด้วยสายตาแปลก ๆ ก่อนจะขุดต่อไป
มู่หรงเสี่ยวเทียนตกตะลึงและกลับมามีสติอีกครั้ง เขามองขึ้นไปยังถนนและตรอกที่กำลังทรุดโทรม จากนั้นเหงื่อเม็ดใหญ่ก็ไหลออกมาบนหน้าผากของเขา
“แย่แล้ว นี่มันตลกร้ายชัด ๆ ” มู่หรงเสี่ยวเทียนตะโกนออกมาอย่างลับ ๆ เขาไม่กล้าที่จะยืนอยู่ที่นี่อีกต่อไป เขารีบวิ่งออกไปและหายจากหมู่บ้านในทันที
ในสำนักงานของผู้ใหญ่บ้านของหมู่บ้านโนวิซ 110 ผู้นำที่เป็น NPC ชื่อ บรี กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้แบบสบายใจ
“ผู้ใหญ่บ้าน ! ” จอร์จที่เป็นยามเฝ้าหมู่บ้านโนวิซรีบวิ่งเข้าไปในห้องทำงานของผู้ใหญ่บ้านและตะโกนเสียงดังออกมา
“เกิดอะไรขึ้นจอร์จ” ผู้ใหญ่บ้านขมวดคิ้วเล็กน้อย “นายกำลังตกใจอะไรมา ? ฉันบอกกี่ครั้งแล้วว่าถ้าจะเข้ามาต้องเคาะประตูก่อน”
“ขออภัยครับท่าน ผมลืมตลอด เวลาที่มีเรื่องรีบร้อนแบบนี้” จอร์จเกาศีรษะด้วยมือของเขาไปมา ใบหน้าที่อวบอิ่มกำลังดูเขินอายเล็กน้อย
“มาคุยกันก่อน มีอะไรก็ว่ามา” ผู้ใหญ่บ้านถามอย่างเชื่องช้า
“โอ้ว ได้ครับท่าน เรื่องนี้ประหลาดมาก ! ” จากนั้นจอร์จก็ตบหน้าผากของตัวเองและพูดอย่างเร่งรีบว่า “ผู้ใหญ่บ้าน มีบางอย่างกำลังเกิดขึ้น ผู้เล่นหลายร้อยคนกำลังพยายามทำลายหมู่บ้านของพวกเรา”
“อะไรนะ ? ” ผู้ใหญ่บ้านลุกขึ้นมาจากเก้าอี้ด้วยความตกใจ
“เร็วเข้า รีบไปเมืองฟินิกซ์ให้เร็วที่สุด นำกำลังทหาร 500 นายมาที่นี่ ! ”
“ครับท่าน ผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้” จอร์จพยักหน้า เขาวิ่งออกจากสำนักงานอย่างรวดเร็ว และวิ่งไปยังประตูมิติของหมู่บ้านโนวิซ 110
ผู้ใหญ่บ้านต้องการนำกำลังพลไปปกป้องหมู่บ้าน แต่ว่าตอนนี้ระบบยังไม่เปิดให้ใช้งานประตูมิติ มีเพียงแค่ทหารยาม 4 คนที่กำลังรักษาการณ์อยู่ในหมู่บ้านโนวิซ เขาจึงจำเป็นต้องเปิดมันโดยพลการ
เดิมทีจากการตั้งค่าของเกมเดสตินี่ หมู่บ้านโนวิซเป็นเพียงสถานที่เกิดของผู้เล่น มันควรจะเป็นสถานที่ที่ผู้เล่นควรจะวุ่นกับการเก็บเลเวลเพื่อให้ไปถึงเลเวล 10 โดยเร็วที่สุดเพื่อที่จะสามารถเดินทางไปยังเมืองต่าง ๆ ได้ แต่มันเป็นเพราะการกระทำอย่างไม่ได้ตั้งใจของมู่หรงเสี่ยวเทียน จนทำให้เกิดความโกลาหลครั้งใหญ่ภายในเมืองนี้ขึ้นมา
สิ่งที่ทุกคนรู้ก็คือประตูมิติของหมู่บ้านโนวิซจะเปิดอัตโนมัติก็ต่อเมื่อมีผู้เล่นตั้งแต่ 1 คนขึ้นไปเข้าสู่เลเวลที่ 10 ไปแล้ว หากว่าเปิดมันโดยพลการอาจจะส่งผลให้เกมเดสตินี่มีการบิดเบือนไปจากที่ตั้งค่าเอาไว้
มันอาจจะทำให้ตัวแปรใหม่ ๆ ในเกมเดสตินี่นั้นเริ่มต้นขึ้น
ผลกระทบที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะมีผลต่อผู้เล่นอย่างไร? มันจะส่งผลดีหรือร้ายก็ไม่มีใครรู้ ? มันจะสว่างสดใสหรือมืดมน ? มันจะเพิ่มความหวังหรือว่าทำลายอนาคตกันแน่?
ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับผู้เล่นก็ตาม แต่มันยังมีบางอย่างที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ นั้นก็คือเดสตินี่ก็คือเกมแห่งโชคชะตานั่นเอง
To be continued…