เส้นทางเศรษฐีของ(ว่าที่)เชฟเหรียญทอง - ตอนที่ 386 เจอกันที่เป่ยหู
ตอนที่ 386 เจอกันที่เป่ยหู
…………….
สำหรับเผยเทียนหู่ จริงๆ แล้วสิ่งที่เขาสนใจในเรื่องนี้ไม่ใช่ศักดิ์ศรี
แม้ว่ายี่สิบล้านจะไม่ใช่เงินจำนวนเล็กน้อย แต่สำหรับเจ้าพ่อท่านนี้ หวงฟาปล่อยให้เขารอเก้อมาสามวัน เขาทนไม่ไหวจริงๆ
“อู๋ชิ่ง นาย…ไม่ได้แจ้งเขาหรือเปล่า”
ได้ยินเช่นนี้ อู๋ชิ่งก็เผยสีหน้ากระอักกระอ่วน หลังจากพักอยู่ที่เป่ยหูสามวัน ไม่ได้มีเพียงแค่เผยเทียนหู่เท่านั้น แต่เขาเองก็ยังเบื่อหน่ายมากเหมือนกัน
“เสี่ย เป็นไปไม่ได้ครับ ในตู้เหมินมีคนมาเยี่ยมคุณเยอะแยะ เป็นไปได้ยังไงที่หวงฟาจะไม่รู้”
เผยเทียนหู่ได้ยินก็พยักหน้าช้าๆ ใช่แล้ว แม้ว่าสองวันที่ผ่านมาจะมีคนมาเยี่ยมน้อยลงเรื่อยๆ แต่ก็ยังมีคนที่รู้ว่าเป็นที่นี่
หวงฟาไม่รู้…มันเป็นไปไม่ได้!
เห็นได้ชัดว่าไอ้หมอนี่ไม่ได้ให้ความสำคัญกับเขาเลย!
“หึ หวงฟา ฉันคิดว่าฉันไว้หน้านายแล้ว แต่นายกลับไร้ยางอาย”
ขณะที่พูด เผยเทียนหู่ก็หยิบมือถือขึ้นมาและกดเบอร์โทรหาหวงฟา
พวกเขาไม่เคยติดต่อกันทางโทรศัพท์มาก่อน สาเหตุหลักเพราะสถานะในตอนนี้ของเผยเทียนหู่ เรื่องเหล่านี้สามารถให้ลูกน้องจัดการได้
อีกอย่างในมุมมองของเขา ในเมื่ออยากจัดการหวงฟา อีกฝ่ายคงไม่เหมาะที่จะคุยโทรศัพท์กับเขา
แต่ตอนนี้ดูเหมือนจะไม่เป็นแบบนั้นแล้ว เขาต้องทำให้ไอ้หมอนี่สยบเสียเอง!
“เสี่ยหวง เหอะๆ เสี่ยผู้หยิ่งผยอง”
เมื่อได้ยินเสียงของเผยเทียนหู่ หวงฟากลับไม่ตื่นตระหนกและยิ้มเพียงเล็กน้อย
“โอ้โห นี่เสี่ยหู่ไม่ใช่เหรอ ยากมากที่คุณจะโทรมาหาผม ช่วงนี้สบายดีใช่ไหมครับ”
“ดีสิ ฮ่าๆ ดีมากด้วย”
เสียงหัวเราะของเผยเทียนหู่เต็มไปด้วยความหน้าซื่อใจคดอย่างเห็นได้ชัด
“ขอบคุณเสี่ยหวงที่เป็นห่วง ฉันกำลังรับลมเย็นๆ อยู่ที่เป่ยหู!”
“เป่ยหู? เสี่ยหู่ คุณ…คุณอยู่ที่ตู้เหมินเหรอครับ เป็นไปได้ยังไง คุณมาเมื่อไร ทำไมไม่รู้เลย”
เมื่อเผยเทียนหู่ได้ยินก็โกรธและคิดในใจว่า ‘หวงฟาหนอหวงฟา นายแน่จริงๆ ที่แกล้งโง่ใส่ฉันเหรอ’
“อืม ถึงตู้เหมินหลายวันแล้ว เสี่ยหวงนายไม่รู้เหรอ”
“เอ่อ…ไม่รู้จริงๆ ครับ เสี่ยหู่ คุณจะอยู่กี่วันเหรอ” หวงฟายังคงแสร้งทำต่อไป
เผยเทียนหู่แสยะยิ้มเล็กน้อย “เสี่ยหวง ทำไมถึงทำแบบนี้ ฉันส่งคนไปแจ้งข่าวแต่นายไม่รู้งั้นเหรอ”
“เสี่ยหู่ คำพูดนี้…หวงฟาไม่ค่อยเข้าใจ”
“ไม่เข้าใจเหรอ”
เผยเทียนหู่โกรธจนกัดฟันกรอด ‘ไอ้สารเลว แกเร่ขายกิจการไปหมดแล้ว แต่ยังไม่เข้าใจอีกเหรอ’
“เหอะๆ เสี่ยหวง ฉันได้ยินมาว่านายขายกิจการทั้งหมดแล้วเหรอ”
“หืม เสี่ยหู่ คุณได้ยินเรื่องนี้มาจากใครครับ ขายไปหมดแล้วผมจะกินอะไรล่ะ ฮ่าๆๆ อย่าเชื่อข่าวลือสิ”
หวงฟาหัวเราะและพูดด้วยน้ำเสียงที่เป็นธรรมชาติมาก
“โอเคๆๆ ยังดีจริงๆ เสี่ยหวง เอาอย่างนี้ มาเจอกันที่เป่ยหูดีไหม”
ได้ยินเช่นนี้ หวงฟาก็ชะงัก ผ่านไปประมาณสามถึงสี่วินาที เขาก็เอ่ยขึ้น “ได้สิ งั้น…เจอกันคืนนี้เหรอ”
“แล้วเจอกัน!”
หลังจากวางสาย สีหน้าของเผยเทียนหู่ขึงขังอยู่ตลอดพร้อมทั้งกำหมัดแน่น เขาโมโหอย่างเห็นได้ชัด
“หวงฟา แกล้งโง่กับฉันใช่ไหม หึ วันนี้ฉันจะฆ่าแกที่เป่ยหู!”
ขณะที่พูด เผยเทียนหู่ก็เบิกตากว้าง แววตามีเจตนาฆ่าออกมา
…
ตึกจวี้เฟิง
หวงฟาลูบกาน้ำชาดินเผาสีม่วงในมือแล้วยิ้ม “เฮ้อ เหอะๆ คราวนี้ถือว่ากระตุกหนวดเสือเสียแล้ว!”
ซ่งจื่อเซวียนยังสงบนิ่งเช่นเคยและพูดด้วยรอยยิ้ม “เหอะๆ เสี่ยหวง คืนนี้ผมจะให้ของขวัญชิ้นใหญ่กับคุณ”
ซ่งจื่อเซวียนส่ายหัวช้าๆ “ไม่มีทาง นั่นเป็นของขวัญชิ้นใหญ่ของผม!”
พูดจบ ซ่งจื่อเซวียนก็เผยรอยยิ้มมีเลศนัย
ตอนกลางคืน
เผยเทียนหู่มาเป่ยหูเพื่อดื่มชาที่ริมทะเลสาบโดยเฉพาะ
ริมทะเลสาบของเป่ยหูมีทางเดินกว้างประมาณสามเมตรทอดยาวไปถึงใจกลางทะเลสาบ
ใจกลางทะเลสาบมีกระท่อมเล็กๆ ตั้งอยู่ ซึ่งมีโต๊ะ เก้าอี้ และหลังคาที่ทำจากหิน!
แม้ในวันที่ฝนตกก็ยังสบายใจที่ได้นั่งดื่มชาร้อนสักกาที่นี่
เผยเทียนหู่จิบชาแล้วมองดูทะเลสาบอันเงียบสงบก็อดไม่ได้ที่จะยิ้ม
“อู๋ชิ่ง เตรียมพร้อมหรือยัง”
“ครับ เสี่ยหู่ ลูกน้องของเราทั้งหมดอยู่ในกระท่อมริมทะเลสาบ ทันทีที่ได้รับสัญญาณ พวกเขาจะรีบพุ่งออกมา รับรองว่าไม่มีใครหนีรอดไปได้”
เผยเทียนหู่มองไปที่กระท่อมและพยักหน้าช้าๆ
กระท่อมตั้งอยู่ไม่ไกลจากทะเลสาบพอดี ถึงตอนนั้นมีคนออกมาก็สามารถวิ่งเข้ามาขวางทางตรงทะเลสาบได้อย่างรวดเร็ว
อย่างที่อู๋ชิ่งบอก ไม่มีใครหนีรอดไปได้!
นอกจากนี้อู๋ชิ่งเป็นคนฝึกฝนลูกน้องเหล่านี้ด้วยตัวเอง ร่างกายและทักษะการต่อสู้ของพวกเหนือคำบรรยาย
“เหอะๆ ดี ทำได้ดีมาก มา อู๋ชิ่ง นั่งดื่มชาเป็นเพื่อนฉันสักแก้ว!”
“มิกล้า เสี่ยดื่มดีกว่าครับ ผมจะไปเเตรียมตัว”
“ฮ่าๆๆ ไม่ต้องเกรงใจ อู๋ชิ่ง หลายปีที่ผ่านมาถ้าไม่มีนายอยู่ด้วย ฉันจะมั่นคงขนาดนี้ได้ยังไง”
ขณะที่พูด เผยเทียนหู่ก็รินชาหนึ่งแก้ว “มาๆๆ นั่งดื่มเป็นเพื่อนฉันหน่อย รอจัดการหวงฟาเสร็จแล้ว นายค่อยพาพวกลูกน้องไปเล่นสนุกกัน”
“คือว่า…เสี่ยหู่ พวกเรายังต้องทำงานครับ”
เมื่ออู๋ชิ่งได้ยินก็ยิ้มเจื่อน แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรอีกและนั่งดื่มชาเป็นเพื่อนเผยเทียนหู่
ทั้งสองคนดื่มชาไปไม่น้อย พวกเขาเริ่มดื่มชาตั้งแต่ประมาณหนึ่งทุ่มจนถึงสามทุ่ม
อู๋ชิ่งทนไม่ไหวอีกต่อไป เขารู้สึกเหมือนปอดของเขาเริ่มเต็มไปด้วยใบชา จึงรีบลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำ
เผยเทียนหู่โมโหมาก “หวงฟา นายแน่จริงๆ ถ้าวันนี้ฉันไม่ได้สอนบทเรียนให้นาย อย่ามาเรียกฉันว่าเสี่ยหู่เลย!”
แต่ถึงเขาจะพูดอย่างนั้น หวงฟาก็ยังไม่มา…
อีกด้านหนึ่ง อันที่จริงหวงฟาออกเดินทางนานแล้ว แต่เขากำลังรออยู่ที่ทางเข้าร้านสวนสวินเฟิงอยู่ตลอด
อย่างไรซ่งจื่อเซวียนก็ยังไม่เลิกงาน
แม้ว่าตอนนี้เขาไม่ต้องทำน้ำแกงห้าสายด้วยตัวเองแล้ว ตราบใดที่ไม่มีเรื่องสำคัญ เขาก็ไม่จำเป็นต้องเลิกงานก่อนเวลา
สำหรับซ่งจื่อเซวียน เผยเทียนหู่มาที่ตู้เหมิน…ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรอยู่แล้ว
ยิ่งไปกว่านั้น ตอนเย็นเขายังอยู่กับถังหย่าฉีได้นานขึ้นอีกหน่อย
จนกระทั่งเกือบจะห้าทุ่ม ซ่งจื่อเซวียนก็มองดูไต้ทงไปส่งถังหย่าฉี จากนั้นจึงเดินไปที่รถของหวงฟา
หวงฟากำลังพักผ่อนอย่างสบายใจอยู่ในรถ เมื่อครู่เขางีบหลับไปพักหนึ่ง ตอนนี้จึงสดใสร่าเริง
“นายท่านรอง!”
ซ่งจื่อเซวียนคลี่ยิ้ม “เสี่ยหวง คุณเตรียมพร้อมหรือยัง”
“อืม ลูกน้องในรถสองคันล่วงหน้าไปแถวเป่ยหูแล้ว เราไปกันเลยไหม”
ซ่งจื่อเซวียนพยักหน้า “ได้ รถสองคัน เราจะตามหลังไป!”
หลังจากนั้นรถทั้งสองคันก็ทยอยออกจากสวนสวินเฟิง
…
ณ เป่ยหู เผยเทียนหู่นั่งไม่ติดจริงๆ
เขานั่งดื่มชามาสี่ชั่วโมงแล้ว เปลี่ยนใบชาหลายครั้งจนสีหายไปหมดแล้ว
“อู๋ชิ่ง เตรียมรถ เราจะไปหาหวงฟา!”
“หืม เสี่ย คุณจะไปเองเหรอครับ”
“แล้วไงล่ะ ในเมื่อหวงฟาหยิ่งผยอง ฉันจะไปถึงที่แล้วให้เขาคืนเงินมา!”
แต่ทันทีที่เผยเทียนหู่พูดจบ ก็มีข้อความเข้ามาที่มือถือของอู๋ชิ่ง
เขาดูแล้วเอ่ย “เสี่ยครับ พวกเขามาแล้ว!”
เผยเทียนหู่ขมวดคิ้วเล็กน้อย “เอ๋ เหอะๆ ยังรู้จักมาอีกนะ ก็ดี งั้นก็คิดบัญชีเก่ากับใหม่พร้อมกันเลย!”
เผยเทียนหู่นั่งลงอีกครั้งและวางมาดมั่นคง
แต่ภายในใจของเขาหงุดหงิดไปนานแล้ว อย่างไรเขาก็รอมาสี่ชั่วโมงกว่าแล้ว จึงรู้สึกเหมือนถูกหลอก…
ในไม่ช้า รถสองคันก็ขับเข้าไปในเขตเป่ยหู
เนื่องจากไม่มีใครดูแลเขตนี้มานาน แทบจะเรียกได้ว่าสามารถเข้าออกได้อย่างอิสระ
สิ่งของส่วนใหญ่ที่ทิ้งไว้ข้างในไม่ได้มีค่า ทั้งเตียงและตู้พวกนี้ ไม่มีใครเต็มใจที่จะเอาไป
เมื่อลงจากรถ หวงฟาก็เห็นเผยเทียนหู่กำลังนั่งอย่างสบายใจอยู่ริมทะเลสาบจากระยะไกล
เขาจึงอดยิ้มไม่ได้ “เสี่ยหู่คนนี้ยังชอบวางมาดแบบนี้ แถมยังต้องวิ่งไปถึงใจกลางทะเลสาบอีก”
ซ่งจื่อเซวียนหัวเราะเบาๆ “รุ่ยจื่อ มีปัญหาหรือเปล่า”
“เหอะๆ ผมรู้จักฝีมือของเสือดำ เป็นทหารรับจ้างสากลมาหลายปี แต่ตอนที่เห็นกองกำลังพิเศษช่วงเริ่มแรกของเรา พวกเขาก็ไม่กล้าต่อสู้เลย”
เหลียงฮั่นพยักหน้า “มันก็จริง พวกแกเป็นกองกำลังที่เฉียบคม คนทั่วไปไม่กล้าต่อสู้หรอก ส่วนฉันก็เคยปะทะกับไอ้หมอนี่มาแล้ว”
“เป็นยังไง” ซ่งจื่อเซวียนถาม
“เหอะๆ วางใจเถอะนายท่านรอง เดี๋ยวจะแสดงให้ดู”
เมื่อซ่งจื่อเซวียนได้ยินก็ยิ้ม เขามีฟางรุ่ยอยู่ข้างๆ และตอนนี้ก็มีเหลียงฮั่นเพิ่มมาด้วย ทำให้เขามั่นใจมาก
อย่างไรทั้งคู่ไม่ใช่พวกอันธพาล และการต่อสู้ของพวกอันธพาลนั้นไม่ได้อยู่ในสายตาพวกเขาเลย
ในเวลานี้ การพูดคุยของพวกเขาอยู่ในสายตาของเผยเทียนหู่ แต่การปรึกษากันในตอนท้ายแสดงให้เห็นว่าพวกเขากลัวแล้ว
เผยเทียนหู่จึงยิ้ม “อู๋ชิ่ง นายเห็นไอ้หนุ่มคนนั้นไหม”
“ครับเสี่ยหู่ คนนั้นคือ…”
“เหอะๆ เขาน่าจะเป็นซ่งจื่อเซวียน คนรุ่นใหม่ในตู้เหมิน เขาเป็นคนแย่งของของฉันไป”
“หา แล้วยังกล้ามาที่นี่อีก นี่ไม่ใช่การรนหาที่ตายเหรอ!” อู๋ชิ่งกล่าว
“ฮ่าๆๆ เขาจะกล้ามาได้ยังไง หวงฟาคงบังคับให้เขามาที่นี่แล้วมอบหนวดพญามังกรให้ฉันเพื่อปกป้องตัวเองนั่นแหละ”
เผยเทียนหู่กระตุกยิ้ม รอยยิ้มของเขาเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ
อู๋ชิ่งตะคอกอย่างเย็นชา “เสี่ยจะปล่อยพวกมันไปไม่ได้นะครับ”
“แน่นอน!”
ขณะนี้พวกซ่งจื่อเซวียนก็เดินบนเส้นทางริมทะเลสาบและมุ่งมาหาเผยเทียนหู่
เดิมทีเผยเทียนหู่คิดจะยืนขึ้นอย่างสุภาพให้อีกฝ่ายในช่วงเวลาแบบนี้ แต่ในเมื่อให้เขารอสี่ชั่วโมง เขาจึงไม่คิดจะทำอีกต่อไป
เขานั่งอยู่ในท่าเดิม เงยหน้าขึ้นแล้วมองดูพวกเขาอย่างเย็นชา
เมื่อพวกเขาเดินเข้ามาใกล้กระท่อม หวงฟาเป็นคนแรกที่ประสานหมัดและพูดไปขณะที่เดิน “ไอ้หยา เสี่ยหู่ ฮ่าๆๆ ไม่ได้เจอกันนานนะ!”
เห็นหวงฟาเดินมาท่าทางสบายๆ อย่างกับสายลม เผยเทียนหู่ก็โกรธมาก
ยังเสแสร้งอยู่อีก หึ วันนี้ที่ฉันเรียกพวกนายมาคงให้กลับไปไม่ได้แล้ว!
เมื่อเห็นหวงฟาใกล้เข้ามา เผยเทียนหู่ก็ยิ้มเล็กน้อย “เสี่ยหวง เจอตัวคุณยากมากเลยนะ”
หวงฟาเข้าใจความหมายของคำว่า ‘คุณ’ จากปากของเผยเทียนหู่ ดูเหมือนว่าเด็กเฒ่าคนนี้จะรอไม่ไหวแล้ว
อันที่จริงหากทบทวนให้ดีก็ถูกต้องแล้ว ผู้ชายคนนี้รอเขามาสามวัน และวันนี้ก็รอเขาอีกหลายชั่วโมง
คนปกติ…หากไม่โกรธก็แปลกแล้ว
“เสี่ยหู่พูดเกินไป หวงฟาอย่างผมไม่มีอะไรทำ หาเจอได้ไม่ยาก!”
ขณะที่พูด หวงฟาก็นั่งบนม้านั่งหิน ขณะเดียวกันซ่งจื่อเซวียนก็นั่งลงข้างๆ
เผยเทียนหู่เหลือบมองซ่งจื่อเซวียนด้วยสายตาไม่พอใจ
ข้าก็อยู่ตรงนี้ หวงฟานั่งลงก็หยาบคายอยู่บ้าง แต่เด็กเมื่อวานซืนอย่างนายสมควรนั่งด้วยเหรอ
ทันใดนั้นโทรศัพท์ของหวงฟาก็ดังขึ้น เขาจึงรีบเดินไปรับสายด้านข้าง
เผยเทียนหู่ก็มองไปที่ซ่งจื่อเซวียน “นายคือซ่งจื่อเซวียนสินะ คนที่แย่งหนวดพญามังกรของฉันไป!”
…………………………………..
…………….