เวลาผ่านไปอย่างดวงจันทร์ - ตอนที่ 44 รับมือกับคนหื่นกาม
ไม่ได้ ถ้าเธอลาออกตอนนี้ ความพยายามก่อนหน้านี้ของเธอจะไม่สูญเปล่าไปหรอกเหรอ?
เฉินหร่านเข้าบริษัทเหลยมาอย่างยากลำบาก เทียบเท่าได้กับเอาตัวชุบทอง เธอมีโอกาสได้ใกล้ชิดกับเหลยถิง ทวงคืนสามีของเธอกลับคืนมาแล้ว ถ้าเธอจากไปตอนนี้ หลังจากนั้นเธอคงหาคนที่ดีเท่าเหลยถิงแต่งงานด้วยไม่ได้ แถมยังใช้ชีวิตไม่ดีเท่าเฉินซู่อีก…
เธอไม่ยอมหรอก
"เธอทำอะไรน่ะ? คิดทำท่าเล่นใหญ่ขนาดนี้"
เฉินหร่านนั่งลงอีกครั้ง แกล้งหูทวนลมกับคำพูดเสียดสีของเพื่อนร่วมงาน เมื่อเธอทำงานเสร็จ ก็เที่ยงคืนแล้ว เฉินจินซานขับรถมาส่งอาหารว่างมื้อดึกให้ด้วยตัวเอง แล้วจึงค่อยมารับลูกสาวที่รักกลับบ้าน
หลี่หรงรออยู่ที่บ้าน พอเธอเห็นเฉินหร่านกลับมา ก็รีบปลอบโยนลูกสาวทันที
เฉินหร่านพอได้สัมผัสถึงความอบอุ่นของพ่อแม่แล้ว เธอก็ยิ่งไม่อยากไปทำงานที่บริษัทแสนเย็นชานั้นอีก
"พ่อคะ หนูไม่อยากไปทำงานแล้ว" เฉินหร่านน้ำตาคลอเบ้า "หนูไม่รู้ว่าทำไม หนูไม่ได้ทำให้ใครไม่พอใจสักหน่อย พวกเธอมองหนูไม่มิตร เพ่งเล็งมาที่หนูตลอด เมื่อก่อนมีแค่เหลยหย่าที่เพ่งเล็งหนู ตอนนี้ทั้งฝ่ายธุรการเพ่งเล็งหนูแทนแล้ว"
"ที่ไหนผู้หญิงเยอะที่นั่นก็เรื่องเยอะนั่นแหละ พวกเธอน่ะอิจฉาลูก" เฉินจินซานขมวดคิ้ว ถามด้วยความสงสัยขึ้น "แต่ทำไมเหลยหย่าถึงเพ่งเล็งลูกล่ะ?"
"หนูก็ไม่รู้ หนูก็ไม่ได้ทำอะไรให้เธอไม่พอใจเหมือนกัน" เฉินหร่านกอดหมอน ออกแรงทุบลงไปอย่างแรงสองครั้ง "ยัยแก่พวกนั้น พวกเธอรอดูฉันเถอะ แค่ฉันได้เป็นเลขาของพี่เขย ฉันก็จะเป็นหัวหน้าแผนกธุรการแล้ว ถึงตอนนั้นฉันจะดูว่าพวกเธอจะกล้าแกล้งฉันแบบนี้อีกไหม"
หลี่หรงพูดอย่างปวดใจ "ลูกสาวที่รักของฉันลำบากแย่แล้ว จินซาน คุณไปคุยกับเหลยถิงเลยนะ ตำแหน่งเลขาแค่นี้ เขาคงจะไม่ปฏิเสธหรอก ยังไงทั้งสองตระกูลก็เป็นทองแผ่นเดียวกันแล้วนะ"
"ใช่ค่ะ พ่อคะ ไม่ว่าพ่อจะใช้วิธีไหน หนูก็ทำไม่ได้หรอก พ่อไปคุยกับพี่เขยดี ๆ เถอะนะ" เฉินหร่านพิงแขนของเฉินจินซานพูดอย่างออดอ้อนขึ้น "ไม่งั้นพ่อจะให้หนูแต่งเข้าไปเร็ว ๆ จะได้หมดเรื่อง"
เฉินจินซานกลัวว่าลูกสาวของเขาจะมีความคิดเช่นนี้ เขาดูถูกเหลยถิง ไม่อยากมอบให้ลูกสาวตัวน้อยของเขาให้กับเหลยถิง เขาอยากให้ลูกสาวได้แต่งงานกับผู้ชายที่ดีกว่า แต่ตอนนี้หัวใจของลูกสาวเขากลับอยู่ที่เหลยถิง ฉันจะลงมือทำอะไรก็ดูไม่ค่อยเหมาะสมอีก
เขาครุ่นคิด…
"หร่านหร่าน ถ้าลูกอยากแสดงความสามารถ ก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ในบริษัทเหลยเลยนะ มีบริษัทใหญ่ ๆ ตั้งเยอะตั้งแยะ บริษัทเหลยก็ไม่ใช่แนวหน้าแล้ว เดี๋ยวพ่อจะหาบริษัทใหม่ให้ลูกใหม่เป็นไง?" เฉินจินซานพูดแนะนำ
เฉินหร่านยังคงติดอยู่ในวังวนลุ่มหลงเหลยถิง แน่นอนเธอไม่ทำตาม "ถ้าหนูไปตอนนี้ ที่หนูอดทนลำบากมามันก็เปล่าประโยชน์น่ะสิ หนูไม่ไป หนูจะเป็นเลขาของพี่เขย"
"ลูกฟังนะ เหลยถิงเป็นคนพิการ ถ้าพ่อให้หนูไปเข้าบริษัทเหอ จะดีกว่าไหม?" เฉินจินซานพูดแนะนำ "เหอมู่หลิน นายน้อยใหญ่ของบริษัทเหอ เป็นคนมีพรสวรรค์ สาว ๆ อย่างลูกไม่ชอบเหรอ… ผู้ชายที่หล่อ ๆ น่ะ?"
เหอมู่หลินเหรอ? ตอนอยู่ในมหาลัยเฉินหร่านโชคดีได้พบอยู่เขาครั้งหนึ่ง ตอนเขามากล่าวสุนทรพจน์ จะว่าไปแล้ว ตัวเองยังถือเป็นคงเป็นศิษย์เก่าร่วมสถาบันด้วย เพียงแค่เธอเด็กกว่าไม่กี่รุ่นเท่านั้น
เขาหล่อมาก แถมยิ้มแล้วมีเสน่ห์มากด้วย
หัวใจของเฉินหร่านสั่นคลอน "พ่อคะ ขอหนูคิดดูก่อนนะคะ"
"ได้เลยลูก ค่อย ๆ คิด ดึกมากแล้ว รีบไปนอนเถอะนะ" เฉินจินซานตบไหล่ลูกสาว
หลังจากที่เฉินหร่านขึ้นไปชั้นบนแล้ว
หลี่หรงยังคงเป็นกังวล ถามขึ้นว่า "จินซาน บริษัทเหอเป็นแหล่งอโคจรเลยนะ คุณเอาลูกสาวไปทิ้งไว้ที่นั่น ฉันไม่สบายใจหรอกนะ"
"แหล่งอโคจรนี่แหละ ฉันถึงจะสอดมือเข้าไปยุ่งได้ ถ้าเหมือนกับเจ้านายอย่างเหลยถิงละก็ ฉันเข้าไปยุ่งได้ยาก คุณคิดว่าชีวิตของหร่านหร่านของเราสุขสบายงั้นเหรอ?" เฉินจินซานเยาะเย้ย "ผู้หญิงอย่างเธอ จะไปเข้าใจอะไร ไปนอนเถอะ"
"แล้วคุณล่ะ?"
"เธอจะสนใจอะไรฉัน ไปนอนได้แล้วไป" พอเฉินจินซานพูดแบบนี้ หลี่หรงก็ไม่กล้าพูดอะไรต่อ
เธอพึมพำแล้วขึ้นไปชั้นบน "อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ว่าคุณจะทำอะไรนะ ไอ้เฒ่าหัวงู"
เฉินซู่ได้ยินข่าวเกี่ยวกับสิ่งที่เฉินหร่านเจอเมื่อไปทำงานที่แผนกธุรการแล้ว มันยอดเยี่ยมกว่าที่เธอคิดไว้มาก ทักษะสาวน้อยของเฉินหร่านใช้ไม่ได้ที่นั่น น่าเสียดายที่เธอไม่ได้คิดถึงจุดนี้
"เฉินซู่ วันนี้เธออารมณ์ดีจังนะ" คุณสวี๋เข้ามาชวนคุย มือถือลูกแอปเปิลอยู่ เธอเป็นราชินีแห่งการดูแลตัวเองในห้องทำงานนี้ ทุกวันจะกินผลไม้ไม่ก็โยเกิร์ต เธอบอกว่ากินแล้วจะทำให้ผิวสวย
"ก็ดีค่ะ" เฉินซู่ยิ้มน้อย ๆ ออกมา
คุณสวี๋เหลือบไปทางด้านหลัง พูดออกมาเบา ๆ "ผู้จัดการวังมาแล้ว"
เฉินซู่ตื่นตัวขึ้นในทันที ช่วงนี้เธอกำลังคิดว่า ต้องหาชุดป้องกันหมาป่ามาใส่ แต่ฮวาจือกลับให้ความคิดที่ดีกว่ากับเธอแทน
ทันทีที่วังโห้วเข้ามาใกล้ เธอก็เอาน้ำพริกทาลงบนด้านนอกของชุดทำงานสีดำของตัวเอง ทาไว้ตรงจุดอ่อนไหว อย่างบริเวณไหล่และสะโพก เพื่อป้องกันมือปลาหมึกของเขา
นี่เป็นความคิดของฮวาจือ ไม่มีกลิ่นออกมา แต่เมื่อสัมผัสโดนแล้ว ก็มั่นใจได้ว่าทั้งมือจะเต็มไปด้วยน้ำพริกอย่างแน่นอน
"เฉินซู่ งานที่ฉันให้เธอทำเดือนนี้ เธอต้องตั้งใจทำนะ" วังโห้วตบไหล่ของเฉินซู่
เฉินซู่ยิ้มหวาน "รับทราบค่ะ ผู้จัดการวัง"
ทันทีที่วังโห้วเดินผ่านไป รอยยิ้มของเฉินซู่ก็เปลี่ยนไปเป็นรอยยิ้มเย้ยหยัน ไอ้คนเลว กล้าเอาเปรียบผู้หญิงง่าย ๆ เดี๋ยวจะทำให้รู้ว่าผลที่ตามจะเป็นยังไง
แล้วก็เป็นอย่างที่คาด ไม่กี่นาทีต่อมา วังโห้วบอกว่าตัวเองแสบมือ พอทุกคนเข้ามารุมมองใกล้ ๆ ก็ดูไม่ออกว่าทำไมมือถึงเป็นเช่นนี้ แต่เขาก็ร้องออกมาว่ามือตัวเองแสบ
"ไม่งั้น ผู้จัดการคุณลองไปโรงพยาบาลเถอะ"
วังโห้วพูดอย่างโมโหว่า "นี่มันเป็นเวลาทำงานนะ จะไปโรงพยาบาลได้ยังไง"
ทุกคนต่างออกความคิดเห็นไปต่าง ๆ นานา เฉินซู่ฟังแล้วก็ไม่ได้พูดอะไร ยังไงสิ่งที่พวกเขาพูดก็ไม่ถูกอยู่แล้ว เธอเฝ้าดูวังโห้วแสดงท่าทีเจ็บปวดอย่างเงียบ ๆ เขาเจ็บปวดถึงกับเลิกงานตอนเที่ยง ไปโรงพยาบาลในที่สุด
เฉินซู่ได้ยินเพื่อนร่วมงานหญิงคุยกันในห้องน้ำ
"กรรมตามสนองแล้ว ให้เขาไม่มีปัญญาหาเรื่องใช้หมึกปลาหมึกนั้นเที่ยวลวนลามคนอื่น แสบมืออย่างประหลาดนั่น สมน้ำหน้าจริง ๆ"
"นั่นสิ ฉันเห็นว่ามือเขาก็ไม่ได้บวม ไม่ได้แดงนะ เธอคิดว่ามันแสบได้ยังไง? ต้องเป็นกรรมตามสนองแน่นอน"
เฉินซู่แอบหัวเราะคิกคัก ยกนิ้วโป้งให้ตัวเองในใจเงียบๆ ดูเหมือนว่าทุกคนก็หวานอมขมกลืน โกรธไอ้หมูอ้วนนั้นมานานแล้วเหมือนกัน
เฉินซู่เลิกงานกลับบ้านมา บอกผลลัพธ์กับพวกฮวาจืออย่างมีความสุข
ทั้งสามคนหัวเราะด้วยกัน โดยเฉพาะเฉินซู่ นานแล้วที่เธอไม่ได้รู้สึกมีความสุขขนาดนี้ "พวกเธอไม่รู้หรอกว่าเขากังวลขนาดไหน แค่ยกมือขึ้น ก็ตะโกนว่าแสบแล้ว เขาบ่นว่าแสบตลอดช่วงเช้าเลย ได้ยินว่าตอนที่กำลังไปโรงพยาบาลดันบอกว่าไม่แสบแล้ว เขาแค่ไปได้ครึ่งทางก็กลับมาแล้ว"
เสี่ยวอวี่หัวเราะเบา ๆ "ฮวาจือ ความคิดของเธอนี่มันแสบจริง ๆ"
"วันนั้นฉันก็ไม่ได้ตั้งใจคิดหรอก ฉันหั่นพริกบนเขียงในครัว ตอนที่ล้างก็ไม่ได้สนใจ แต่โดนมือแค่นิดเดียว ก็แสบไปนานเลยล่ะ แต่ถ้าใช้น้ำเย็นล้างแล้ว มันก็จะหายเร็วขึ้น"
เฉินซู่พูดขึ้น "แต่พวกเขาไม่รู้นี่ เขาก็แค่มองเท่านั้น ฉันสงสัยว่าทุกคนจะจงใจ คงอยากเห็นผู้จัดการลามกนั่นขายหน้าแหละ"
หลังจากที่ทั้งสามหัวเราะเสร็จ การทานอาหารเย็นก็ได้เริ่มขึ้น
เหลยถิงเห็นรอยยิ้มที่มุมปากของพวกเธอ "เกิดอะไรขึ้น ถึงได้ยิ้มมีความสุขขนาดนี้?"
เฉินซู่รู้สึกประหลาดใจ "คุณอยากรู้หรือเปล่าล่ะ?"
เหลยถิงรู้ตั้งนานแล้ว แผนลับ ๆ ที่เฉินซู่ทำ ไม่อาจรอดพ้นสายตาของเขาไปได้ แต่เขาแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องเพียงเท่านั้น
"เล่าให้ฉันฟัง"