เรื่องราวของการซื้อเพื่อนร่วมชั้นอาทิตย์ละครั้ง Shuu ni Ichido Kurasumeito wo Kau Hanashi - ตอนที่ 9 ที่บอกว่าเซ็นไดซังหวานน่ะ โกหกชัด ๆ ตอนที่ 3
- Home
- เรื่องราวของการซื้อเพื่อนร่วมชั้นอาทิตย์ละครั้ง Shuu ni Ichido Kurasumeito wo Kau Hanashi
- ตอนที่ 9 ที่บอกว่าเซ็นไดซังหวานน่ะ โกหกชัด ๆ ตอนที่ 3
ที่บอกว่าเซ็นไดซังหวานน่ะ โกหกชัด ๆ ตอนที่ 3
เรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากนี้
เธอนั้นรู้อยู่แล้วและได้หยิบก้อนสีน้ำตาลเข้ามาใกล้ปากฉัน เหมือนกับเธอที่รักษาลำดับขั้นตอนดั่งที่เขียนเอาไว้ในคู่มือด้วยการเอาช็อคโกแลตมาสัมผัสริมฝีปากฉัน ฉันเองก็ต้องรักษาคำพูดตัวเองด้วยการกัดทรัฟเฟิลพร้อมกับนิ้วเธอ
「มิยากิ มันเจ็บนะ」
เธอร้องเสียงดังขึ้นออกมาราวกับเป็นบทตามภาพยนตร์ แต่ในเสียงร้องนั้นไม่ได้มีความรู้สึกเจ็บรวมอยู่ในเสียงนั้นด้วยเลย
มันแน่นอนอยู่แล้ว
เพราะว่าฉันไม่ได้กัดแรงขนาดนั้น
ฉันเพิ่มแรงลงบนนิ้วที่โดนเขี้ยวฉันกัดเพื่อค่อย ๆ ทำให้เป็นรอยทีละนิด
ในขณะที่เอาฟันกัดนิ้วเซ็นไดซังเอาไว้ ก็ใช้ลิ้นละลายช็อคโกแลต การทำแบบนี้มันทำให้ฉันรู้สึกเหมือนกับว่านิ้วของเธอทั้งหวานและอร่อย และในตอนที่รู้สึกว่าอยากจะกินทรัฟเฟิลเข้าไปทั้งก้อนจนออกแรงใช้เขี้ยวกัดให้แรงขึ้น ก็โดนเธอดันหน้าผากออก
「ก็บอกว่าเจ็บไง」
ครั้งนี้คำพูดของเธอไม่ได้โกหก เสียงที่พูดออกมาเต็มไปด้วยอารมณ์ แถมมือเองก็ออกแรงดันหน้าผากฉันด้วย
「ปล่อยเลยนะ」
เซ็นไดซังไม่มีสิทธิ์ออกคำสั่ง
เพราะงั้น จึงไม่จำเป็นต้องฟังที่เธอพูด
ฉันจงใจกัดแรงขึ้น
ในตอนที่รู้สึกเจ็บถึงระดับนึง เธอก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงออกคำสั่งอีกครั้งว่า 「ปล่อยได้แล้ว」ฉันจึงปล่อยนิ้วเธอไป ภายในปากหลงเหลือเพียงช็อคโกแลต ฉันค่อย ๆ ละลายมันช้า ๆ และกลืนลงไป
ถึงแม้จะไม่ใช่เพื่อนกัน แต่ช็อคโกแลตเพื่อนที่เธอทำมันอร่อยมาก แม้จะไม่ตรงจุดประสงค์ของช็อคโกแลตเพื่อนก็ตาม แต่แค่ฉันได้ประโยชน์ก็พอแล้ว เพราะไหน ๆ ก็ทำเสร็จแล้ว ไม่ว่าสุดท้ายแล้วจะเอาให้ใครมันก็ไม่ใช่เรื่องที่สำคัญอะไร
แต่ว่า เจ้าตัวที่เป็นคนทำนั้น ตอนนี้รอยยิ้มได้หายไปจากใบหน้าของเธอแล้ว
「หยิบทิชชู่ให้หน่อยสิ」
เซ็นไดซังพูดด้วยเสียงที่ต่ำกว่าปกติ
กล่องทิชชู่รูปจระเข้วางอยู่ในแนวเฉียงข้างหน้าฉัน ถ้าถามว่ามันอยู่ใกล้ใครมากกว่า ก็ต้องบอกว่าอยู่ใกล้ฉันมากกว่า
พอมองไปที่นิ้วเธอก็เห็นว่ามีช็อคโกแลตและผงโกโก้ติดอยู่
ของแค่นั้นไม่จำเป็นต้องใช้ทิชชู่เช็ดออกหรอก
ฉันเมินคำพูดของเธอและใช้ลิ้นเลียนิ้วของเธอแทน แม้เป็นการกระทำที่บ้าบอสุด ๆ แต่ฉันจะทำให้เซ็นไดซังที่ถูกทำให้สกปรกเพราะฉันกลับมาสะอาดเหมือนเดิมเอง
「มิยากิ」
ฉันทำเป็นไม่ได้ยินและเลียไปตรงรอยที่โดนกัด เมื่อเลียและดูดนิ้วของเธอไปราว ๆ 2 ข้อนิ้วแล้วดึงออกมา จากนั้นก็มีเสียงเบา ๆ ดัง ‘จุ้บ’ เซ็นไดซังก็สั่นด้วยความตกใจ
「นี่มันรู้สึกแย่นิดหน่อยแฮะ」
เธอพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ
แต่ว่า เซ็นไดซังต้องรู้สึกเหมือนกับที่ฉันเคยรู้สึกก่อนหน้าแน่นอน
แม้จะรู้สึกแย่ แต่ก็รู้สึกอย่างอื่นด้วย
รับรู้ได้ถึงความรู้สึกภายในน้ำเสียงราบเรียบนั้น ฉันใช้ลิ้นเลียไปที่นิ้วของเธอ แต่ว่าความหวานของช็อคโกแลตที่ติดมาด้วยก็หายไปอย่างรวดเร็ว
ผิวหนังของมนุษย์นั้นเท่าที่เคยลิ้มรสมาไม่มีอะไรที่ทำให้รู้สึกคล้ายกันเลย ไม่ได้ร้อนหรือเย็นอะไรเป็นพิเศษ นิ้วคนเนี่ยไม่ใช่ของที่อร่อยเลยสักนิด
ถึงอย่างนั้น นี่ก็เป็นช่วงเวลาที่สนุกที่สุดของวันนี้แล้ว
ฉันเลียนิ้วโป้งเธอต่อ
เลียเหมือนกับที่เลียนิ้วชี้ของเธอ ค่อย ๆ กินช็อคโกแลตที่ละลายติดนิ้วเธอออก จากนั้นเซ็นไดซังก็ถอนหายใจออกมาเบา ๆ
「มิยากิจะขี้เล่นเกินไปแล้วนะ」
เธอพูดพร้อมกับดันไหล่ฉันออก นิ้วของเธอเลยหลุดออกจากปากฉัน จากนั้นโยนจระเข้น้อยที่มีทิชชู่โตบนหลังให้เธอ
「ทำแบบนี้มันสนุกรึไง」
เซ็นได้ซังเช็ดนิ้วแล้วมองมาที่ฉัน
「แน่นอนสิ」
ฉันตอบพร้อมยิ้มอย่างพอใจ หลังจากเช็ดเสร็จ เธอก็คืนจระเข้น้อยที่โดนบีบมา
「นี่มันรสนิยมแบบไหนกันเนี่ย」
「ไม่ได้มีรสนิยมกินมนุษย์สักหน่อย」
「งั้นก็อย่ามากัดกันสิ」
เธอพูดแขวะและยกไซเดอร์ดื่ม
「เมื่อกี้น่ะมันเจ็บมากเลยนะ ไม่ใช่ว่าผิดสัญญาหรอกหรอ」
「ไม่ได้ใช้ความรุนแรงสักหน่อย แถมฉันก็โดนแบบนี้เหมือนกัน เรื่องแค่นี้ทนเอาหน่อยสิ」
「ฉันไม่ได้กัดแรงขนาดนั้นสักหน่อย นึกว่าจะโดนกัดนิ้วขาดแล้วซะอีก」
「ก็แค่ผลลัพธ์ของการกินช็อคโกแลตเท่านั้นแหละ」
「นี่ยังอยากกินอยู่อีกเหรอ?」
「แล้วอยากให้ทำยังไงล่ะ?」
「……ทำตามใจเธอเลย」
เธอพูดอย่างขอไปที
ฉันไม่ได้อยากเป็นเพื่อนกับเธอ
ความสัมพันธ์ของเรานั้นเชื่อมกันด้วยเงิน เพราะงั้นก็ให้มันเชื่อมกันด้วยแค่เงินก็พอ
เพราะงั้น ไม่ว่าเซ็นไดซังจะคิดยังไงก็เรื่องของเธอไม่เกี่ยวกับฉัน เพราะฉันมีสิทธิ์ที่จะทำอะไรกับเธอก็ได้
มันควรเป็นแบบนั้น
แต่ไม่รู้ว่าทำไม ทำไมคำพูดที่ออกจากปากถึงไม่ใช่สิ่งที่คิดเอาไว้
「กินมื้อเย็นมั้ย?」
「กินจ้า」
เซ็นไดซังตอบกลับมาทันที
กินสองคนดีกว่ากินคนเดียว
แม้ว่ารสชาติจะเหมือนเดิม แต่มันทำให้ฉันรู้สึกว่าได้เข้าใกล้กับคำว่ามื้ออาหารมากขึ้น
ฉันยืนขึ้นและตรงไปยังห้องครัว เซ็นไดซังเองก็ตามมาโดยที่ไม่ต้องบอกอะไร เปิดไฟ และให้เซ็นไดซังนั่งฝั่งห้องนั่งเล่นที่หันเข้ามาทางครัว
ฉันหยิบเฟรนซ์ฟรายส์จากตู้แช่แข็งออกมาแล้วยัดเข้าไปในไมโครเวฟ จากนั้นนำจานมา 2 ใบใส่แฮมเบิร์กที่เอาออกมาจากตู้เย็น พอเสียงดังจากไมโครเวฟดังขึ้นก็เอาแฮมเบิร์กสลับใส่เข้าไปแทน
และนั่นคือทั้งหมดที่ฉันทำ อาหารเย็นก็พร้อมทานในเวลาไม่นาน แต่ถึงอย่างนั้น เมื่อเทียบกับราเม็งถ้วยที่ใช้เวลาแค่ 3 นาทีแล้ว ก็ถือว่านานกว่าหน่อย
「เรียบร้อย」
พอวางจานแฮมเบิร์กและเฟรนซ์ฟรายส์ลงที่ด้านหน้าของเซ็นไดซัง เธอก็พูดขึ้นมาด้วยท่าทางดีใจ
「มีพอส่วนของ 2 คนด้วยล่ะ」
เธอพูดราวกับว่าฉันซื้อแฮมเบิร์กเตรียมไว้ให้เธอ
「เป็นส่วนของพ่อน่ะ」
เพราะวันนี้คือวันนั้นไงล่ะ
วันที่ฉันซื้อแฮมเบิร์กมาในส่วนของพ่อด้วย
มันก็เท่านั้น ไม่ได้ตั้งใจจะเตรียมไว้ให้เซ็นไดซังตั้งแต่แรก
「งั้นถ้าฉันกินไปแล้ว คุณพ่อจะทำยังไงล่ะ?」
เซ็นไดซังถามถึงแค่พ่อฉัน โดยไม่พูดถึงแม่
「ยังมีอย่างอื่นอยู่ไม่เป็นไรหรอก」
สิ่งที่พูดออกไปนั้นจริง ๆ แล้วไม่ใช่เลย
ในตู้เย็นนั้นแทบจะไม่มีอะไรเหลือแล้ว
แต่ว่า พ่อก็แทบจะไม่ได้กลับมากินที่บ้านอยู่แล้ว ต่อให้ในตู้จะมีหรือไม่มีก็ไม่ต่างกันหรอก
「เพราะงั้น กินได้เลย」
ฉันตอบไปแบบง่าย ๆ และนั่งลงข้างเซ็นไดซัง พูดอิทะดะคิมัสด้วยเสียงเบา ๆ และได้ยินเสียงซ้อนเบา ๆ ดังมาจากด้านข้าง แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะเข้ากันได้แล้ว เพราะงั้นจึงนั่งกินกันอย่างเงียบ ๆ
การที่ไม่มีเรื่อยคุยกัน มันก็ไม่ได้อึดอัดอะไรขนาดนั้น
อย่างน้อยก็สบายกว่าการฝืนหาเรื่องมาพูด จากนั้นฉันก็นั่งเคี้ยวแฮมเบิร์กที่นุ่มกว่านิ้วของเซ็นไดซัง
ระหว่างเรามีเพียงเสียงตะเกียบและช้อนส้อมเท่านั้น
เฟรนซ์ฟรายส์และแฮมเบิร์กค่อย ๆ ลดลง เซ็นไดซังที่จัดการอาหารส่วนใหญ่ที่อยู่บนจานก็พูดขึ้น
「ครั้งหน้าเดี๋ยวทำอาหารเย็นให้กินเอามั้ย?」
「จู่ ๆ ก็อะไรน่ะ?」
「ไม่เอาหรอ?」
ขนาดทรัฟเฟิลยังอร่อยขนาดนั้น เพราะงั้นอาหารที่เซ็นไดซังทำต้องอร่อยอยู่แล้ว แต่ว่า ไม่มีเหตุผลให้เธอต้องมาทำอาหารเย็นให้กินสักหน่อย ฉันไม่ได้ต้องการให้เธอทำในสิ่งที่ฉันไม่ได้สั่ง
ความสัมพันธ์ที่เราสร้างขึ้นมาด้วยกันนั้นมีเพียงแค่ ‘คำสั่ง’ ก็พอ
「ไม่ต้องทำให้ก็ได้」
「งั้นเหรอ」
เซ็นไดซังพูดขึ้นมาเรียบ ๆ จากนั้นก็เอาแฮมเบิร์กเข้าปาก
เพราะว่านั่งกินกันเงียบ ๆ แปปเดียวก็เลยกินเสร็จ
ไม่ต่างจากตอนที่นั่งกินราเม็งถ้วยช่วงก่อนฤดูหนาว
ไว้เดี๋ยวค่อยล้างจานทีหลัง พวกเราเลยเดินกลับเข้าห้อง
「มีอะไรที่อยากสั่งอยู่อีกมั้ย?」
「ไม่มีแล้ว」
「ถ้างั้นฉันกลับแล้วนะ」
เซ็นไดซังสวมเสื้อเบลสเซอร์และโค้ทเดินออกไปที่ประตูทางเข้า
「เดี๋ยวฉันไปส่ง」
เดินออกจากห้อง และเดินไปขึ้นลิฟต์
「ทรัฟเฟิลอร่อยมากเลย ขอบคุณนะ」
5-4 ตัวเลขค่อย ๆ ลดลง ฉันพูดความรู้สึกขอบคุณจากของที่ได้รับมา อย่างน้อยสามัญสำนึกฉันก็ยังมีอยู่ล่ะนะ
「ด้วยความยินดีจ้ะ」
ทันทีที่เธอพูด ลิฟต์ก็หยุดลง เดินไปจนถึงหน้าทางเข้า เซ็นไดซังก็โบกมือให้พร้อมบอกว่า 「ไว้เจอกันนะ」
「บ้ายบาย」
พอส่งเสียงทักเธอข้างหลัง เซ็นไดซังก็หันกลับมา จนถึงตอนนี้เธอที่ไม่เคยหันหลังกลับมาสักครั้ง ก็หันกลับมาพร้อมพูดขึ้นว่า 「บ้ายบาย」แล้วโบกมือให้อีกครั้ง