เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 78 คนที่แอบอ้างเป็นตัวจริง
บทที่78 คนที่แอบอ้างเป็นตัวจริง
ชั้นบนสุดของบริษัทเอ็มไอกรุ้ป
จี้จิ่งเชินมองดูนาฬิกาเป็นครั้งที่สาม
ตามเวลาตอนนี้เวินเที๋ยนเที๋ยนน่าจะมาถึงนานแล้วนะ
แต่ทำไมตอนนี้แล้วเธอถึงยังไม่มา?
หรือว่าจะหนีไปไหนเสียแล้ว?
เธอกล้าขนาดนั้นเลยเหรอ?
เขายืนขึ้นทันที และเดินออกไปทางด้านนอก
“วันนี้มีคนมาหาผมหรือเปล่า? ”
เลขาที่นั่งอยู่หน้าประตูห้อง เมื่อได้ยินคำพูดของจี้จิ่งเชินก็ตกใจยืนขึ้น
“ประธานจี้ มีคำสั่งอะไรหรือเปล่าคะ? ”
จี้จิ่งเชินหงุดหงิดขึ้น “ถามว่าวันนี้มีคนมาหาผมหรือเปล่า? ”
เลขาตรวจสอบตารางการนัดหมายของวันนี้ จากนั้นตอบว่า
“ไม่มีนะคะประธานจี้”
จี้จิ่งเชินขมวดคิ้วขึ้น หันหลังกลับเข้าไปห้องทำงาน และหยิบโทรศัพท์โทรหาพ่อบ้าน
“เธออยู่ไหน? พาเธอไปส่งที่ไหน?”
พ่อบ้านถูกจี้จิ่งเชินถามด้วยคำถามที่แปลกประหลาด
“คุณชาย คุณชายหมายถึงคุณหนูเจี่ยงใช่ไหมครับ? ”
“ถ้าไม่ใช่เอแล้วจะเป็นใครล่ะ? ฉันบอกว่าให้ไปรับเธอตอนสี่โมงเย็นมาส่งที่นี่เหรอ?” จี้จิ่งเชินโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ: “ตอนนี้ห้าโมงเย็นแล้ว เธออยู่ไหน? ”
พ่อบ้านนิ่งอึ้งไป และรีบตอบไปว่า: “ก่อนหน้านี้หนึ่งชั่วโมง ผมไปส่งคุณหนูเจี่ยงที่บริษัทแล้วนะครับ ผมเห็นกับตาว่าเธอเดินเข้าบริษัทไปแล้ว”
“เธอมาแล้วงั้นเหรอ? ”
จี้จิ่งเชินหรี่ตาลง
“ให้ตายสิ! ยังคิดจะหนีเหรอ?”
“คุณชายครับ คุณหนูเธอ……”
พ่อบ้านยังไม่ทันพูดจบ จี้จิ่งเชินก็ตัดสายไปก่อน และเดินออกไปด้านนอกอย่างรวดเร็ว
เลขาเห็นเขาออกมาจากห้อง และรีบเดินไปด้วยความใจร้อน
หลังจากที่จี้จิ่งเชินเดินไปนั้น เธอคิดแล้วคิดอีก หรือว่าจะเป็นเจี่ยงเนี่ยนเหยาที่ฝ่ายต้อนรับแจ้งมาเมื่อสักครู่นี้
ถึงแม้ว่าฝ่ายต้อนรับจะบอกว่าเป็นการแอบอ้าง เดือนนี้คนที่แอบอ้างเยอะมาก แต่เธอก็ไม่วางใจอยู่ดี
“ประธานจี้ เมื่อสักครู่นี้ฝ่ายต้อนรับแจ้งว่า……”
แต่ฝีเท้าของจี้จิ่งเชินนั้นไม่หยุดเลย ไม่ได้สนใจว่าเธอจะพูดอะไร เขาวิ่งเข้าลิฟต์ไปด้วยความเร่งรีบ
เขาเดินออกมาจากลิฟต์ พร้อมทั้งยกโทรศัพท์ต่อสายอีกด้วย
“ตรวจสอบกล้องวงจรปิดทั้งใน และนอกบริษัท! ให้คนออกตามหา! ต่อให้พลิกฟ้าพลิกแผ่นดินก็ต้องตามหาตัวเธอให้เจอ!”
จี้จิ่งเชินมุ่งหน้าไปทางด้านนอก และเดินออกไป
เมื่อวางสาย เขามองดูรอบ ๆ ด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึม
“ผู้หญิงคนนี้จริง ๆ เลย! อย่าให้เจอตัวนะ ไม่อย่างนั้นล่ะก็……”
เขาหันหลังกลับมา ทันใดนั้นเห็นคนคนหนึ่งนั่งอยู่บนโซฟาที่บริเวณรับแขก
จี้จิ่งเชินนิ่งอึ้งไป ปากที่กำลังดุเธออยู่นั้นก็หยุดทันที
เวินเที๋ยนเที๋ยนที่กำลังก้มหน้านั่งอ่านหนังสืออยู่ที่บริเวณรับแขก ดูคล้ายว่าเธอไม่ถูกรบกวนจากโลกภายนอก
“คุณจี้”
พนักงานรักษาความปลอดภัยวิ่งมาอย่างเร่งรีบ “ตรวจสอบกล้องวงจรปิดเรียบร้อยแล้วครับ ท่านจะไปดูด้วยตัวเองไหมครับ? ”
จี้จิ่งเชินยกมือขึ้น ความโกรธเมื่อสักครู่นี้ก็ค่อย ๆ จางหายไป
“ไม่ต้องดูแล้ว”
พนักงานรักษาความปลอดภัยถามขึ้นด้วยความสงสัยว่า: “แล้วยังจะต้องตามหาตัวไหมครับ?”
“ไม่ต้อง”
เขาหันหลังกลับเดินเข้ามาในบริษัทอีกครั้ง และมุ่งหน้าไปยังบริเวณรับแขก
เวินเที๋ยนเที๋ยนรอมานานแค่ไหนแล้วก็ไม่รู้ เธอเดินไปถามพนักงานต้อนรับหลายต่อหลายครั้ง แต่พวกเขาตอบกลับมาว่าจี้จิ่งเชินงานยุ่ง ให้เธอรอต่อไป
เธอไม่กล้ากลับไป เพราะกลัวว่าเขาจะโกรธ และทำโทษเธอด้วยวิธีบ้า ๆ อีก ทำได้แค่นั่งรออยู่ตรงนี้ต่อไป
ขณะที่เธอกำลังอ่านหนังสืออยู่นั้น รองเท้าหนังก็ปรากฏอยู่ตรงหน้าของเธอทันใด
เวินเที๋ยนเที๋ยนวางหนังสือลงพร้อมทั้งเงยหน้าขึ้น ไม่รู้ว่าจี้จิ่งเชินมายืนอยู่ตรงหน้าตั้งแต่เมื่อไหร่แล้ว
“ทำไมเธอถึงมานั่งอยู่ตรงนี้ ทำไมถึงไม่ขึ้นไปข้างบน? ”
เขารอมาหนึ่งชั่วโมงเต็มแล้ว แต่ผู้หญิงคนนี้กลับมานั่งอ่านหนังสืออย่างสบายอกสบายใจอยู่ตรงจุดรับแขกแบบนี้นะเหรอ?
เวินเที๋ยนเที๋ยนหันไปมองพนักงานต้อนรับ
“ฉันรอให้คุณอนุญาต พวกเขาบอกฉันว่าไม่ได้นัดไว้ขึ้นไปไม่ได้”
จี้จิ่งเชินขมวดคิ้วขึ้นด้วยความโกรธราวกับจะฆ่าคนได้
“ผมไม่ได้รับรายงาน”
แค่คิดก็รู้แล้วว่าพนักงานต้อนรับไม่ได้แจ้ง
ให้ตายเถอะ!
ดูเหมือนว่าคนพวกนี้จะซวยละ!
เขาหันไปมองพนักงานต้อนรับด้วยสีหน้าที่โหดเหี้ยม
แต่ไม่นานเขาก็หันไปพูดกับเวินเที๋ยนเที๋ยนด้วยความไม่พอใจว่า: “เข้าไปไม่ได้แล้วทำไมไม่โทรหาผม? โทรศัพท์ที่ซื้อให้เอาไว้ทำอะไร?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพูดด้วยไม่มีความผิดใดใด: “โทรศัพท์แบตหมด”
จี้จิ่งเชินพูดด้วยความโกรธว่า: “โง่! ตามมา!”
เขาเดินถอยหลังสองก้าว และหันหลังกลับไปอีกครั้งพร้อมทั้งจูงมือเวินเที๋ยนเที๋ยนไปด้วย ไม่สนใจว่าเธอจะยินยอมหรือไม่ เขาก็จูงมือเธอเข้าไปในลิฟต์
พนักงานต้อนรับสองคนเมื่อเห็นกิริยาของจี้จิ่งเชินก็ตกใจเป็นอย่างมาก
ต่อมาเห็นเขาไปที่บริเวณรับแขก แถมยังจูงมือผู้หญิงที่แอบอ้างเป็นเจี่ยงคนนั้นไปอีก ยิ่งทำให้ตกใจจนหน้าซีด
“เธอ……เธอเป็นภรรยาของท่านประธานจริง ๆ เหรอ? ”
พนักงานอีกคนหนึ่งเอามือปาดเหงื่อที่หน้าผาก เอามือไปผลักเพื่อนที่อยู่ข้าง ๆ
“เมื่อกี้นี้ฉันบอกแล้วว่าใช่คนนี้ แต่แกไม่เชื่อฉัน แถมยังพูดอะไรนะ ผู้หญิงของท่านประธานไม่ใช่แต่งตัวแบบนี้ ตอนนี้ซวยแล้วไงล่ะ……”
“ฉัน ฉันจะไปรู้ได้ยังไงกันล่ะว่าหน้าตาภรรยาของท่านประธานจะเป็นยังไง? ”
“แล้วตอนนี้เป็นไงล่ะ? ”
ขณะที่ทั้งสองกำลังพูดคุยกัน ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์ตั้งโต๊ะก็ดังขึ้น
ทันทีที่รับสาย ผู้จัดการก็เอ่ยปากพูดขึ้นมาว่า: “พรุ่งนี้เธอสองคนไม่ต้องมาทำงานแล้วนะ เก็บของให้เรียบร้อยแล้วกลับไปซะ”
“ผู้จัดการคะ พวกเรา……”
“ขนาดภรรยาของท่านประธานพวกเธอยังไม่รู้จัก แล้วพวกเธอจะทำงานต้อนรับได้ยังไงกัน? ”
พูดจบสายก็ถูกตัดไป
ทั้งสองนั่งลงบนเก้าอี้ด้วยสีหน้าที่ท้อแท้ใจ
จี้จิ่งเชินจูงเวินเที๋ยนเที๋ยนมาถึงชั้นบนสุด
สีหน้าของเขาไม่ค่อยดีนักและดึงมือเวินเที๋ยนเที๋ยนอย่างหยาบคาย
มือของชายหนุ่มกว้างมาก แต่ยังอบอุ่น สามารถกำมือเธอไว้ทั้งมือ
เธอรู้สึกอึดอัดขึ้นมาทันใด
“คุณจี้ ปล่อยมือฉันได้แล้ว”
จี้จิ่งเชินไม่สนใจคำพูดของเธอ ดึงมือเธอออกมาจากลิฟต์
เลขาวิ่งเข้ามาด้วยความกระวนกระวายใจ
“ท่านประธานจี้ เมื่อสักครู่นี้พนักงานต้อนรับแจ้งว่า……”
สายตาของจี้จิ่งเชินเย็นยะเยือก เขาพูดขึ้นเสียงดังว่า
“พนักงานต้อนรับบอกว่ามีคนมาหาผม ทำไมคุณถึงไม่แจ้งผม? ”
เลขามองเวินเที๋ยนเที๋ยนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ จี้จิ่งเชิน และคาดเดาเหตุการณ์ได้ทันที
“คิดไม่ถึงว่าคนที่แอบอ้างครั้งนี้จะเป็นตัวจริง……”
ซวยแล้ว……
“ประธานจี้ ดิฉัน……”
“เอาเถอะ คุณไปได้แล้ว”
จี้จิ่งเชินพูดตัดบท
สีหน้าของเลขาซีดเซียว
“ท่านประธานหมายความว่า……”
จี้จิ่งเชินต่อสายหาผู้ช่วยจง: “จงหลี พรุ่งนี้หาเลขาคนใหม่มาให้ผมด้วย ผมไม่ต้องการพนักงานที่ไม่แยกแยะแบบนี้”
เลขาได้ยินเข้าก็ตกใจจนตัวสั่น รีบเข้าไปจับแขนเสื้อของจี้จิ่งเชินไว้
“ประธานจี้ ให้โอกาสดิฉันอีกครั้งนะคะ”
จี้จิ่งเชินขมวดคิ้วด้วยความรำคาญ หันสายตาไปมองแขนเสื้อที่เธอจับไว้
“ปล่อย คุณทำเสื้อผมยับ”
“ประธานจี้ ดิฉันผิดไปแล้ว ดิฉันออกจากงานนี้ไม่ได้”
จี้จิ่งเชินไม่สนใจไยดี เอามือเธอออก
“คนที่ทำผิดก็จะพูดแบบนี้ทุกครั้ง”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเห็นเลขาร้องห่มร้องไห้น้ำมูกน้ำตาไหล ก็เข้าไปจับแขนขอร้องเขาเอาไว้ทันที
“ช่างเถอะคุณ”