เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 596 ทัศนคติชี้ชัดความสูงส่ง

ตอนที่ 596 ทัศนคติชี้ชัดความสูงส่ง

ผู้คุมการแข่งขันทั้งสองมองส่งเฉินชางจากไป ปากยังยิ้มพลางเอ่ยว่า “ลาก่อน!”

นี่ทำให้พยาบาลประจำห้องผ่าตัดกับผู้ช่วยสีหน้างุนงงไปหมด…

แบบนี้ก็ได้เหรอ ผู้คุมการแข่งขันทักทายนักศึกษาเองเลยเหรอ นี่จะ…ผิดปกติเกินไปแล้วมั้ง

หลังเฉินชางจากไป ทั้งสองพากันถอนหายใจ

“ผมว่าถ้าอิงจากความสามารถในวันนี้มาโดยตลอด ไอ้หนุ่มนี่จะต้องได้คะแนนยอดเยี่ยมในการแข่งขันระดับประเทศแน่ ไม่แน่อาจจะเข้ารอบสิบคนสุดท้ายก็ได้” ผู้คุมการแข่งขันหลักพูดอย่างมั่นอกมั่นใจ

ผู้คุมการแข่งขันรองพยักหน้าเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง “อืม คุณเป็นผู้คุมการแข่งขันหลัก คุณพูดอะไรก็ถูกหมด!”

ผู้คุมการแข่งขันหลัก:…

ทุกคน:…

……

หลังจากเฉินชางออกมา ก็กลับไปที่บริเวณรอทดสอบ หนิงเฮ่าเซินเห็นเขาแล้วจึงลุกขึ้นมาหาเอง “สอบเสร็จแล้ว เร็วขนาดนี้เลยเหรอ”

เฉินชางยิ้มให้ “ครับ ผมทำเร็วอยู่แล้ว”

หนิงเฮ่าเซินได้ยินเข้าก็ผงะไปทันที จากนั้นจึงเอ่ยด้วยความอิจฉายิ่งว่า “ความเร็วเป็นพรสวรรค์ เมื่อกี้ผมเพิ่งดูคลิปผ่าตัดรอบแรกของคุณ คุณเก่งมากจริงๆ โดยเฉพาะความเร็วในการเย็บแผล คุณอยู่อันดับ…แรกๆ ในบรรดาคนที่ผมเคยเห็น”

เขาอยากเอาใจ แต่คิดอยู่นานก็ฝืนใจไม่ได้ รวบรัดพูดตัวเลขคร่าวๆ ออกมา

เฮ้อ…ทำไมเอาใจถึงยากขนาดนี้นะ

หนิงเฮ่าเซินยิ้มเก้อเขิน

เฉินชางได้ยินแล้วเหงื่อตก จึงยิ้มให้อย่างประดักประเดิด

หนิงเฮ่าเซินยิ้มพลางพูดว่า “พักซักหน่อยเถอะ อีกเดี๋ยวคะแนนก็ออกแล้ว ผมมีไอเดียหลายอย่างเกี่ยวกับการผ่าตัดรอบแรกของคุณ คิดว่าจำเป็นต้องติดต่อแลกเปลี่ยนกับคุณเสียหน่อย”

เฉินชางพบว่าหนิงเฮ่าเซินคนนี้เป็นเนิร์ดอย่างแท้จริง ไม่ว่าพรสวรรค์จะเป็นอย่างไร ที่เขาไขว่คว้าด้านการงานอย่างพากเพียรจริงจังแบบนี้ก็ควรค่าแก่การยอมรับ

ทั้งสองถกกันตามไปกับคลิปการแข่งขันรอบแรกของเฉินชาง ต้องพูดว่าหนิงเฮ่าเซินเสนอความคิดเห็นเชิงสร้างสรรค์มากมาย ถึงกับชี้ข้อบกพร่องของเฉินชางออกมามากมาย

เฉินชางรับไว้อย่างใจกว้าง พูดตามตรง เขารู้สึกว่าถ้าสิ่งที่ทั้งสองคนแข่งกันคือการผ่าตัดไหนก็ตามที่ไม่ใช่การผ่าตัดรักษาเอออร์ตาส่วนขึ้นฉีกขาด ผลที่ออกมายังก็ยังไม่แน่นอน…

แต่ว่า…หมอหนิงคนนี้ดันดวงน่าเป็นห่วงจริงๆ นะ

พอคิดถึงตรงนี้ จู่ๆ เฉินชางก็เอ็นดูหนิงเฮ่าเซินขึ้นมา ทันใดนั้นเขาจึงเอ่ยถามอย่างกระวนกระวาย “หมอหนิง ถ้าคุณถูกคัดออกแล้ว…จะไม่แฮปปี้รึเปล่า”

หลังหนิงเฮ่าเซินได้ยินเข้าก็ตาเป็นประกายขึ้นโดยพลัน “ไม่แฮปปี้เหรอ ไม่มีทางหรอกครับ คนที่ทำให้ผมถูกคัดออกได้ต้องทำได้ดีกว่าผมในบางด้านอยู่แล้ว ดังนั้นผมเลยเห็นคุณค่าของโอกาสเรียนรู้แต่ละครั้งมาก สำหรับผมแล้วนี่เป็นเรื่องดีครับ”

“ผมไม่ได้แค่ไม่มีทางไม่แฮปปี้ กลับจะดีใจด้วยซ้ำ สาเหตุที่ผมเข้าร่วมการแข่งขันนี้ทุกปีก็เพราะอยากพบข้อบกพร่องของตัวเองครับ!

“ความจริงแล้วเป้าหมายของการแข่งขันทักษะศัลยกรรมหัวใจไม่ได้อยู่ที่ทำให้คุณได้รับเกียรติยศดีงามขนาดไหน เจตนาเดิมของการแข่งขันก็เพื่อสร้างเวทีให้คนร่วมวงการได้แข่งขันทักษะกันแบบนี้ มีแต่เปรียบเทียบกันถึงพบข้อบกพร่องได้ ถึงพัฒนาได้อย่างแท้จริง!”

“ดังนั้นพวกเรามีฐานะเป็นผู้เข้าแข่งขัน จะเลือกเอาเกียรติยศเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดไม่ได้ แต่ต้องเข้าใจความหมายข้างในของมันอย่างแท้จริง จากนั้นจึงเพิ่มพูนศักยภาพ ขัดเกลาเทคนิคการผ่าตัดของตัวเองโดยไม่หยุดนิ่ง นี่ถึงเป็นกุญแจสำคัญ คุณก็ด้วยนะหมอเฉิน จะสลับลำดับความสำคัญไม่ได้เด็ดขาด!”

“พวกเราเป็นหมอไม่ใช่นักกีฬา เวทีของพวกเราคือห้องผ่าตัดไม่ใช่ลานประลอง เช่นเดียวกัน เป้าหมายของพวกเราไม่ใช่ถ้วยรางวัล แต่คือการรักษาโรคช่วยคน”

“ไม่ว่าผมจะถูกคัดออกในรอบไหน ที่จริงสำหรับผมแล้วก็ไม่ต่างกัน ผู้แข็งแกร่งที่แท้จริงไร้ศัตรูครับ!”

“เพราะฉะนั้น สำหรับผมแล้ว การแข่งขันนี้เป็นแค่โอกาสได้ค้นพบข้อบกพร่องของตัวเองครั้งหนึ่ง”

หนิงเฮ่าเซินพูดออกมาอย่างเรียบเฉย แต่กลับดังกังวานอยู่ในหูของเฉินชาง!

จริงด้วย! เวทีของพวกเราคือห้องผ่าตัด เป้าหมายของพวกเราก็ไม่ใช่รางวัลชนะเลิศ แต่เป็นเพื่อรักษาโรคช่วยคน เป้าหมายของการแข่งขันอยู่ที่การค้นพบข้อบกพร่องของตัวเอง ไม่ได้อยู่ที่โชคดีได้เข้ารอบ

ขณะนี้ไม่รู้ทำไม สายตาที่เฉินชางมองหนิงเฮ่าเซินถึงมีความเคารพเพิ่มขึ้นมาอยู่บ้าง

“เป็นตัวอย่างที่ดีครับหมอหนิง! คุณจะต้องกลายเป็นคุณหมอที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแน่!” เฉินชางพูดอย่างจริงใจ

ไม่ว่าอย่างไร หนิงเฮ่าเซินก็มีจิตใจยืนหยัดแน่วแน่ ไม่ย่อท้อต่อความยากลำบาก เด็ดเดี่ยวไม่หวั่นไหวจริงๆ พอคิดถึงตรงนี้ เฉินชางก็ยิ่งตั้งใจผูกมิตรกับหนิงเฮ่าเซินขึ้นมาก คนเราอยู่บนโลก จะผูกมิตรกับใครย่อมต้องระมัดระวัง ถ้ามีคนที่มักจะตักเตือนคุณอยู่สักสองสามคน สำหรับคุณแล้วถือเป็นเรื่องดีเรื่องหนึ่ง

ไม่นานนักคะแนนก็ประกาศแล้ว หนิงเฮ่าเซินเปิดใบคะแนนแล้วยิ้ม “ปีนี้เฉลี่ยแล้วผมคะแนนสูงกว่าปีก่อนสามคะแนน ปีนี้ 95 คะแนน ผ่าตัดรอบแรกผมได้ 95 รอบที่สองผมก็ยัง 95 อยู่”

เฉินชางก็ไม่ได้ปิดบัง เปิดใบคะแนนของตัวเองแล้วพูดว่า “98 คะแนน รอบแรกผมได้ 90 คะแนน รอบที่สองได้ 98 คะแนน ถือว่าเด่นเป็นบางสาขา จะว่าไปผมก็เอาเปรียบคุณ มาเจอหมอหนิงตอนได้แนวที่ตัวเองถนัดพอดี พูดขึ้นมาก็ชนะแบบไม่ค่อยแฟร์นะ”

หนิงเฮ่าเซินไม่หวั่นไหวเลยสักนิด ตรงข้าม…กลับดีใจเสียอีก!? เขายิ้มให้ “98 คะแนนเหรอ ดูท่าปีนี้โชคผมจะดีเสมอต้นเสมอปลายเลย! พูดตามตรง ต่อให้เป็นกัวอวิ๋นเฟยก็ไม่เคยเจอคู่แข่งที่ได้ 98 คะแนน จะว่าไป ผมเท่ากับได้เข้าร่วมการประลองระดับประเทศแล้วครั้งหนึ่ง แชมป์ปีที่แล้วได้ 99 คะแนน แค่คิดก็รู้ว่าในบรรดาคนรุ่นใหม่ หมอเฉินมีฝีมือชั้นแนวหน้าในด้านการผ่าตัดรักษาเอออร์ตาส่วนขึ้นแล้ว!”

“ผมตั้งตารอคลิปผ่าตัดของหมอเฉินมาก นี่อาจเป็นผลเก็บเกี่ยวชิ้นใหญ่ที่สุดของผมในคราวนี้”

หนิงเฮ่าเซินยิ้มจริงใจ สำหรับเขาแล้วนี่เป็นเรื่องดี ได้พบคนแกร่งจึงแข็งแกร่ง ได้เพิ่มพูนขีดจำกัดให้ตัวเองอย่างไม่มีที่สิ้นสุด นี่ถึงเป็นจิตใจที่ผู้แข็งแกร่งคนหนึ่งพึงมี

เฉินชางพยักหน้ายิ้ม “พรุ่งนี้ค่ำไปกินหม้อไปนี่ครับ พาภรรยากับลูกคุณมาด้วยกันสิ ผมนัดหมอชุย ชุยหยวนอู่มาด้วย”

หลังจากหนิงเฮ่าเซินได้ยินชื่อชุยหยวนอู่ก็ยิ้ม “ดูท่าพรุ่งนี้จะมีคนเลี้ยงแล้ว”

เฉินชางหัวเราะร่าขึ้นทันที ดูท่าคนใจกว้างอย่างหมอชุยจะดังในวงนี้เสียแล้ว!

หนิงเฮ่าเซินเอ่ย “หมอชุยนิสัยดี ร่ำรวยแล้วก็เข้าถึงง่าย ตอนแผนกศัลยกรรมหัวใจของพวกเรารวมตัวกันทุกปี เขาจะพาพวกเราไปกินของดีๆ จากนั้นก็แย่งจ่ายก่อนตลอด”

เฉินชางยิ้ม คนเราร้อยพ่อพันแม่ไม่เหมือนกันจริงๆ!

ชุยหยวนอู่มีวิธีอยู่รอดของตัวเอง เขาไม่ขาดเงินจึงใช้เงินผูกมัดใจคน ส่วนหนิงเฮ่าเซินไม่กลัวความล้มเหลว สำหรับเขาแล้วความล้มเหลวแต่ละครั้งต่างเป็นขั้นบันไดให้ตัวเองพัฒนา

เฉินชางยิ้ม “หมอหนิงคุณก็นิสัยดีนะครับ!”

หนิงเฮ่าเซินยิ้ม “ตอนนี้ผมกำลังนึกถึงเรื่องหนึ่ง พรุ่งนี้อย่าเรียกแฟนคุณมาจะดีกว่าครับ”

เฉินชางอึ้งไป “ทำไมเหรอ”

หนิงเฮ่าเซินยิ้มพลางพูด “เพราะต่อไปคุณยังจะทำให้คู่แข่งตกรอบอีกสามคน ผมว่าน่าจะมีงานรวมตัวคนร่วมอาชีพย่อมๆ อีกครั้งหนึ่ง!”

เฉินชางได้ยินก็หัวเราะฮ่าๆ ขึ้นมา