เทพสังหาร ยุทธการระห่ำ - บทที่ 491 กลายเป็นนักกินตัวยงไปแล้ว!
“เทียนเฉิน หลานมานี่หน่อย!”
เย่หย่วนซานเห็นเย่เทียนเฉินผู้เป็นหลานอยู่บริเวณจุดให้บริการอาหารจีน อีกทั้งชายชราข้างกายก็ถามขึ้นมาแล้วย่อมจำเป็นต้องแนะนำ ดังนั้นจึงเอ่ยปากเรียกเย่เทียนเฉินให้มาหา
เย่เทียนเฉินมองเย่หย่วนซานแวบหนึ่ง ไม่ได้สังเกตุเห็นชายชราที่อยู่ข้างกายเย่หย่วนซานคนนั้นเลย และไม่เห็นสาวงามอายุน้อยที่อยู่ข้างกายชายชราคนนั้นด้วย สนใจมองแต่เป็ดย่างหอมๆ พูดตอบไปตามใจว่า “จะเสร็จแล้วครับ เดี๋ยวจะไปแล้ว”
ซูเฟยเฟยมองเย่เทียนเฉินอย่างอับจนคำพูด เจ้าหมอนี่ ไม่รู้ว่าไม่มีสมองหรือไม่มีกฎเกณฑ์ ปู่ของตัวเองกำลังเรียกให้ไปหา เขายังพูดให้รอได้อีก สนใจแต่จ้องเป็ดย่างในมือพ่อครัวเท่านั้น ไม่ดูสักหน่อยว่าข้างกายของเย่หย่วนซานคือใคร แค่เห็นก็รู้ว่าจะต้องเป็นผู้อาวุโสจากตระกูลใหญ่แน่นอน คนใหญ่คนโตแบบนี้จะล่วงเกินได้รึไง? จะรอคุณรึไง?
“นายอย่าเพิ่งสนใจเป็ดเลย พวกเราไปกันก่อนเถอะ อย่าได้ล่วงเกินแขก” ซูเฟยเฟยกระซิบเตือนเย่เทียนเฉิน
“เธอไปทักทายก่อนเถอะเดี๋ยวฉันจะไปแล้ว” เย่เทียนเฉินหัวเราะพูดกับซูเฟยเฟย
“นายนี่มัน…
“ขอร้องล่ะๆ”
หากเทียบกับเรื่องอื่น ตอนนี้เย่เทียนเฉินคิดว่าเป็ดย่างของเขาสำคัญที่สุด ถึงกับดันซูเฟยเฟยออกไปโดยตรง ซูเฟยเฟยรู้สึกสิ้นไร้หนทางจนถึงขีดสุด ทำได้เพียงช่วยเย่เทียนเฉินรับมือไปก่อน อย่างไรเสียส่วนลึกในใจของเธอย่อมหวังดีกับเย่เทียนเฉิน
“ผู้อาวุโสเย่สวัสดีค่ะ ฉันชื่อซูเฟยเฟย เป็นหลานสาวของซูเทียนเหอ” ซูเฟยเฟยเดินมาเบื้องหน้าเย่หย่วนซาน แนะนำตนเองด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย
“ฮ่าๆ เป็นหลานของพี่ซูนี่เอง มิน่าล่ะถึงได้สวยขนาดนี้ ให้ผมแนะนำสักหน่อย ท่านนี้คือพี่ฟ่าน ฟ่านชิงอวี่ ส่วนนี่คือหลานสาวของพี่ฟ่าน ฟ่านรั่วเซวียน” เย่หย่วนซานได้ยินซูเฟยเฟยแนะนำตัวเองก็ชะงักไปครู่หนึ่งแล้วจึงพูดด้วยรอยยิ้ม
“สวัสดีค่ะคุณฟ่าน สวัสดีรั่วเซวียน!” ซูเฟยเฟยพูดด้วยรอยยิ้มเป็นมิตร
แต่ในตอนที่ซูเฟยเฟยยื่นมือออกไปจะทักทายฟ่านรั่วเซวียน เธอถึงได้มองฟ่านรั่วเซวียนอย่างเป็นทางการ อดไม่ได้ที่จะชะงักไป นี่ไม่ใช่ผู้หญิงที่เธอกับเย่เทียนเฉินเจอที่ประตูบ้านตระกูลเย่ตอนที่กำลังจะเข้าบ้านมา ที่ขับรถเฟอร์รารี่และสวมกี่เพ้าปักสายมังกรสีแดงคนนั้นเหรอ? เธอคือหลานของฟ่านชิงอวี่เหรอ?
“สวัสดี!” ฟ่านรั่วเซวียนยื่นมือไปจับมือซูเฟยเฟยแล้วพูดอย่างเรียบเฉย
“ระยะนี้พี่ซูปู่ของเธอสบายดีหรือเปล่า?” เย่หย่วนซานถามด้วยรอยยิ้ม
ตระกูลซู ตระกูลการค้าอันดับหนึ่งภายในประเทศ อำนาจในประเทศย่อมไม่ต้องพูดถึง แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก ซูเทียนเหอปู่ของซูเฟยเฟยก็เป็นคนที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งในประเทศ เรียกได้ว่าหากเป็นคนที่พอมีตำแหน่งอยู่บ้างจะต้องรู้จักซูเทียนเหอแน่นอน เย่หย่วนซานก็คิดไม่ถึงว่าเย่เทียนเฉินจะรู้จักกับหลานของซูเทียนเหอ ดูท่าทางความสัมพันธ์ยังไม่เลวอีกด้วย หลานคนนี้ดูผิวเผินไม่มีความฉลาดทางด้านความสัมพันธ์ แต่ทักษะในการเกี้ยวสาวดูเหมือนจะสูงส่งจริงๆ คบหาหญิงงามมากมายโดยไม่ทันรู้ตัว ยิ่งไปกว่านั้นสาวงามเหล่านี้ยังเป็นลูกหลานของตระกูลใหญ่หรือไม่ก็อำนาจใหญ่อีกด้วย หากเครือข่ายความสัมพันธ์นี้ถูกเปิดเผยออกไป ตระกูลเย่ต้องการรุ่งเรือง ไม่ใช่ว่าเป็นเรื่องง่ายหรอกหรือ?
“คุณปู่ยังสุขภาพแข็งแรงดีค่ะ ท่านพูดถึงผู้อาวุโสเย่อยู่บ่อยๆ กล่าวว่าเมื่อปีนั้นพวกคุณเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน” ซูเฟยเฟยยิ้มหวานแล้วกล่าวขึ้น
“ใช่แล้ว ไม่ทันไรก็ผ่านไปหลายสิบปี พวกเราแก่กันหมดแล้ว เฟยเฟยกับรั่วเซวียน พวกเธอสองคนยังสาว ควรพูดคุยกันให้มาก” เย่หย่วนซานพูดด้วยรอยยิ้ม
ฟ่านรั่วเซวียนมองไปยังซูเฟยเฟยแต่ไม่ได้พูดอะไร เมื่อครู่เธอได้ยินคำพูดของเย่หย่วนซานแล้ว และเห็นเย่เทียนเฉินที่อยู่ไม่ไกลแล้ว เพียงแต่ฟ่านรั่วเซวียนในตอนนี้ยังไม่เห็นเย่เทียนเฉินเต็มตา เห็นเพียงแผ่นหลังเท่านั้น เขากำลังพ่อครัวว่าจะทำเป็ดย่างอย่างไร หากเจอเย่เทียนเฉินซึ่งหน้าแล้วพบว่าเป็นชายที่เจอกันบริเวณประตูบ้านเดิมตระกูลเย่ จินตนาการได้เลยว่าฟ่านรั่วเซวียนจะมีท่าทีอย่างไร
กล่าวตามจริง การที่ฟ่านรั่วเซวียนตามปู่มาที่ตระกูลเย่และเข้าร่วมงานเลี้ยงฉลองวันเกิดอายุครบ 75 ปีของผู้อาวุโสเย่หย่วนซานในครั้งนี้เพราะต้องการมาดูเย่เทียนเฉินสักหน่อยว่าเป็นอย่างไรกันแน่ เดิมทีเธอที่เป็นสาวงามอายุน้อยย่อมมีแผนการของตัวเอง เธอไม่คิดอยากเข้าร่วมงานวันเกิดของผู้อาวุโสเหล่านี้มากนัก ในตอนที่ฟ่านรั่วเซวียนรู้ว่าฟ่านชิงอวี่ปู่ของตนจะมาเยือนตระกูลเย่ด้วยตัวเองก็คิดจะเอ่ยปากปฏิเสธ ไหนเลยจะรู้ว่าเธอยังไม่ทันได้ปฏิเสธก็ได้รับข่าวจากทางตระกูลเย่ กล่าวว่าเย่เทียนเฉินไม่ได้ตอบรับ ทั้งยังพูดว่าจะไม่แต่งงานกับผู้หญิงที่ไม่รู้จัก แล้วยังกล่าวว่าเธอเป็นหญิงอัปลักษณ์ นี่ทำให้ฟ่านรั่วเซวียนที่ถูกเลี้ยงดูประหนึ่งองค์หญิงกลางฝ่ามือมาตั้งแต่เด็กถูกโจมตีอย่างลึกล้ำ ดังนั้นเธอจึงมาเยือนตระกูลเย่โดยเฉพาะ อยากจะเห็นสักหน่อยว่าเย่เทียนเฉินจะหล่อขนาดไหนกันแน่? หึ!
แน่นอนว่าสัญชาตญาณของผู้หญิงเฉียบแหลมเป็นอย่างมาก ในขณะเดียวกันคนเราก็เป็นเช่นนี้เอง ในตอนที่ไม่มีใครแย่งชิงก็รู้สึกเป็นเพียงต้นหญ้า ในตอนที่มีคนอื่นแย่งชิงก็คิดว่าเป็นของล้ำค่า ผู้หญิงเป็นสัตว์ที่ขับเคลื่อนด้วยความรู้สึก ฟ่านรั่วเซวียนก่อนหน้านี้ที่ยังไม่เจอเย่เทียนเฉินยังรู้สึกไม่พอใจอยู่ในใจเพียงเพราะคนคนนี้กล่าวว่าตนอัปลักษณ์ ตอนนี้เมื่อได้เจอซูเฟยเฟยที่ดูเหมือนจะสนิทสนมกับเย่เทียนเฉิน เหมือนกับเป็นแฟนของเย่เทียนเฉิน ทำให้ฟ่านรั่วเซวียนเกิดความคิดต้องการแย่งชิง เธอต้องการให้เย่เทียนเฉินรู้สักหน่อยว่ากล้าทิ้งเธอจะต้องเสียใจไปชั่วชีวิต
ผู้หญิงก็มีนิสัยเช่นนี้เอง และใจแคบเช่นนี้ด้วย ความใจแคบของพวกเธอ บางทีก็ทำให้ผู้ชายหลงใหลและทำให้ผู้ชายปรารถนา รสชาติของผู้หญิงที่อ่อนนุ่มอ่อนโยนเช่นนั้นทำให้ผู้ชายหลงเสน่ห์ได้มากที่สุด
“ปู่คะ หนูขอตัวไปสักครู่ พวกคุณคุยกันไปก่อนนะคะ!” ฟ่านรั่วเซวียนพูดกับฟ่านชิงอวี่ผู้เป็นปู่ของตน
“อืม ระวังตัวด้วย” ฟ่านชิงอวี่พยักหน้าตอบ
ฟ่านรั่วเซวียนเดินออกไป เหลือเพียงเย่หย่วนซาน ฟ่านชิงอวี่และซูเฟยเฟยสามคน สองในนั้นเป็นผู้อาวุโสที่มีตำแหน่งใหญ่โต ส่วนซูเฟยเฟยก็เป็นลูกหลานของตระกูลการค้าอันดับหนึ่งในประเทศ ย่อมมีความรู้ความสามารถในหลายเรื่อง และมีความสามารถในการเข้าสังคม จึงผ่อนคลายความกระอักกระอ่วนได้ไม่ยาก เพียงไม่นานก็สามารถพูดคุยแย้มยิ้มกับเย่หย่วนซานและฟ่านชิงอวี่ได้ดี
“มันเป็นเรื่องเมื่อประมาณ 20 ปีก่อน ผมกับซูเทียนเหอปู่ของคุณเคยมีโชคชะตาร่วมกันคราวนี้ทำไมเขาไม่มาหรือครับ?” ฟ่านชิงอวี่เอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม
“อ้อ ช่วงนี้ปู่ของฉันปวดเข่าด้วยโรคชรา เดินค่อนข้างลำบาก ดังนั้นจึงไม่ได้มาค่ะ ท่านบอกว่าเมื่อถึงเวลาจะเชิญผู้อาวุโสเย่และคุณปู่ฟ่านไปทานข้าวด้วยกัน ขอให้รับคำเชิญด้วยนะคะ!” ซูเฟยเฟยตอบกลับอย่างตรงไปตรงมา
ฟ่านชิงอวี่พยักหน้า เย่หย่วนซานที่อยู่ด้านข้างมองไปยังซูเฟยเฟยวยความชื่นชม หญิงสาวคนนี้ฉลาดมาก พูดจามีหลักการ อีกอย่าง เมื่อกล่าวว่าซูเทียนเหอผู้เป็นปู่ของเธอไม่ได้มา คำพูดนี้ถูกกล่าวมาแล้วจะมากจะน้อยก็ทำให้เจ้าบ้านไม่พอใจ ไม่ว่าคุณจะใช้ เหตุผลอะไรก็ยังให้ความรู้สึกว่าคุณไม่ให้ความสำคัญกับที่นี่ เพียงแต่กลับถูกซูเฟยเฟยพูดจาแก้ไขได้อย่างง่ายดาย โดยเริ่มกล่าวก่อนว่าซูเทียนเหอผู้เป็นปู่ปวดเข่าด้วยโรคชรา นี่เป็นเหตุผลที่ดี ตามมาด้วยการกล่าวว่าซูเทียนเหอเคยพูดว่าหากมีโอกาสจะเชิญเย่หย่วนซานและฟ่านชิงอวี่ไปร่วมรับประทานอาหาร นี่เป็นเหตุผลที่ค่อนข้างอ่อนนุ่ม ทั้งยังกล่าวว่าขอให้เย่หย่วนซานและฟ่านชิงอวี่รับคำเชิญ นี่เป็นการให้เกียรติ ใช้ไม้แข็งขออภัยและใช้ไม้อ่อนในการให้เกียรติ ไม่ว่าใครได้ฟังล้วนไม่รู้สึกไม่สบายใจ
“เอาแบบนี้แล้วกัน บอกให้เขารักษาสุขภาพให้มากก็พอแล้ว” เย่หย่วนซานก็พูดขึ้นเพื่อสลายความกระอักกระอ่วน
ครั้งนี้ที่ฟ่านชิงอวี่มาร่วมงานวันเกิดของตนด้วยตัวเอง ทำให้เย่หย่วนซานรู้สึกเหนือคาด จะอย่างไรฟ่านชิงอวี่ก็โทรมาด้วยตัวเอง มีเจตนาต้องการให้หลานสาวของเขาฟ่านรั่วเซวียนแต่งให้กับเย่เทียนเฉิน เย่หย่วนซานย่อมรู้สึกดีใจ อำนาจของตระกูลฟ่านไม่น้อยเลยทีเดียว หากเย่เทียนเฉินแต่งกับฟ่านรั่วเซวียนย่อมเป็นการสร้างผลประโยชน์ให้แก่ตระกูลเย่มากมาย ไหนเลยจะรู้ว่าเจ้าเด็กนี่กลับปฏิเสธ ยิ่งไปกว่านั้นคำพูดของเขาก็มีเหตุผล เย่หย่วนซานก็เห็นด้วยจึงปฏิเสธการแต่งงานของตระกูลอื่น เดิมทีการทำเช่นนี้นับเป็นการทำลายความสัมพันธ์ กระทั่งอาจกลายเป็นศัตรูกันด้วยซ้ำ แต่ฟ่านชิงอวี่ถึงกับมาเยือนด้วยตัวเอง ทั้งยังพาฟ่านรั่วเซวียนผู้เป็นหลานสาวมาด้วย นี่ทำให้เย่หย่วนซานรู้สึกเหนือคาด ในขณะเดียวกันก็คิดว่าฟ่านชิงอวี่ใจกว้างจริงๆ
ในตอนที่เห็นฟ่านรั่วเซวียน เย่หย่วนซานอดไม่ได้ที่จะส่ายหัวอยู่ในใจ คิดว่าเย่เทียนเฉินหลานชายของตนกล่าวคำพูดเช่นนั้น ที่ว่าถ้าฟ่านรั่วเซวียนเป็นหญิงอัปลักษณ์จะทำอย่างไร? ถ้าฟ่านรั่วเซวียนเป็นหญิงอัปลักษณ์ เกรงว่าโลกใบนี้คงไม่มีผู้หญิงสวยแล้ว นี่เป็นความคิดในใจที่เย่หย่วนซานมีหลังได้พบฟ่านรั่วเซวียน
“ว้าว เนื้อชุ่มช่ำจริงๆ ลุงครับ ขาเป็ดย่างนี่ไม่เลวเลย ทำให้ผมอีกที่หนึ่งได้หรือเปล่า?”
ตอนนี้เอง เย่เทียนเฉินเดินมาเบื้องหน้าเย่หย่วนซานและฟ่านชิงอวี่ กัดขาเป็ดอย่างเอร็ดอร่อยก่อนจะกลืนลงไปพลางกล่าวขึ้น มุมปากเต็มไปด้วยน้ำมัน ทำให้คนหัวเราะไม่ออกร้องไห้ไม่ได้ งานเลี้ยงใหญ่เช่นนี้ งานใหญ่เช่นนี้ยังมีคนแบบนี้อยู่ด้วย แปลกกว่าจางหลานซะอีก
“นี่หลาน...ท่านนี้คือผู้อาวุโสฟ่าน ฟ่านชิงอวี่ ยังไม่รีบทักทายอีก?” เย่หย่วนซานพูดอย่างไม่สบอารมณ์
“อ้อ สวัสดีครับผู้อาวุโสฟ่าน”
ฟ่านชิงอวี่ชะงักอยู่กับที่ครู่หนึ่ง เย่เทียนเฉินนับว่ามีมารยาทอยู่บ้างจริงๆ เพียงแต่มารยาทเช่นนี้ไม่ค่อยครบครันเท่าไหร่ ยื่นมือขวาของเขามาที่ตนคิดจะจับมือทักทาย แต่บนมือขวาของเย่เทียนเฉินเต็มไปด้วยน้ำมัน จะให้ฟ่านชิงอวี่จับมือทักทายได้อย่างไร?
“ไปล้างมือก่อน” เย่หย่วนซานจ้องเย่เทียนเฉินแล้วพูดขึ้น
“หือ? อีกเดี๋ยวก็เสร็จแล้ว ผู้อาวุโสฟ่านอย่าตำหนิเลยนะครับ” เย่เทียนเฉินพูดก่อนจะหัวเราะ
ในขณะที่ซูเฟยเฟย เย่หย่วนซานและฟ่านชิงอวี่คิดว่าเย่เทียนเฉินเพียงเลินเล่อไปชั่วขณะและจะรีบไปล้างมืออยู่นั้นเอง เย่เทียนเฉินกลับทำพฤติกรรมที่ทำให้พวกเขาต้องเบิกตากว้าง พบว่าเย่เทียนเฉินนำมือขวาที่เต็มไปด้วยน้ำมันของตนไปวางไว้บนสูทแล้วออกแรงเช็ดสองสามครั้ง ทำให้สูทแบรนด์ดังเต็มไปด้วยน้ำมัน ในตอนนี้มือซ้ายของเขายังถือขาเป็ดย่างอยู่อีกขาหนึ่งไม่ยอมวาง คล้ายกับว่าเตรียมใช้มือขวาจับมือทักทายฟ่านชิงอวี่แล้วจะกินขาเป็ดย่างของเขาต่อไป ทำให้ผู้คนร้องไห้ไม่ออกหัวเราะไม่ได้จริงๆ!
“ฮ่าๆ น่าสนใจ น่าสนใจจริงๆ คุณเย่ หลานของคุณโดดเด่นไม่เหมือนใครจริงๆ!” ฟ่านชิงอวี่ได้สติกลับมา ยื่นมือออกไปเขย่ามือกับเย่เทียนเฉินก่อนจะพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม