เทพศึกมังกรหวนคืน - ตอนที่ 233 หลิวหลินสำนึกตัว
“คุณลุงขา ทำไมเราต้องทิ้งพี่สาวไว้ตรงนั้นหรอคะ”
เสี่ยวหยูไม่เข้าใจ จึงเงยหน้าถาม
“เพราะว่า พี่สาวคนนั้น หยิ่งผยองเกินไป ครั้งนี้ ลุงจะขัดเกลาความหยิ่งผยองของเธอ ถ้าไม่สามารถขัดเกลาได้ ค่อยว่ากันอีกที”
ฉินเฟิงจูงมือน้อยๆป้อมๆของเธอ เดินจากไป
เวลานี้เอง เหลือไว้แค่หลิวหลินกับหวางเถ่
“นี่ลุง ลุงพูดแบบนี้ มั่นใจเกินไปหน่อยมั้ง ถึงแม้ฉันจะพึ่งถูกลุงโจมตี แต่เมื่อกี้ฉันไม่ได้ตั้งใจต่างหาก”
หลิวหลินมองดูหวางเถ่ที่สวมชุดคนใช้แรงงาน แถมยังเดินขากะเพก
เธอไม่รู้สึกจริงจังอะไรเลยจริงๆ
ถึงแม้เมื่อครู่ลุงวัยกลางคนผู้นี้จะตามมาได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าเธอจะให้ความสำคัญ อย่างมากก็แค่ไม่ทันได้ระวังตัวเท่านั้นแหละ ต้องรู้ว่า เธอเป็นตำรวจสาวเบอร์หนึ่งแห่งเจียงเฉิงเชียวนะ
ได้ที่หนึ่งของการแข่งขันศิลปะป้องกันตัว
ต่อกรแค่ลุงวัยกลางคนคนเดียว ไม่คณามือหรอก
“เป็นแค่เด็กผู้หญิงคนหนึ่ง”
หวางเถ่ส่ายหัวไปมา เด็กผู้หญิงแบบนี้ ไม่ควรค่าให้เขาสอนหรอก จากนั้นเขาจึงหันหลังเดินจากไป
“คุณจะไปไหนไม่ได้นะ”
เมื่อเห็นหวางเถ่จะเดินจากไป หลิวหลินก็เริ่มรู้สึกไม่พอใจ ทำไมต้องทำท่า ดูถูกเธอแบบนั้นด้วย ต้องรู้ว่าเธอมีทักษะรอบด้าน ฝึกมีดและปืนจริงจนคล่องแคล่ว
เธอจึงรู้สึกไม่พอใจในทันที
เตรียมจะพุ่งตัวเขาไป เพื่อจัดการกับหวางเถ่ พิสูจน์ให้ฉินเฟิงได้เห็น
ว่าตัวเองก็แข็งแกร่งเหมือนกัน
“กลับมานะ”
เงื้อมือออกไป
หลิวหลินเตรียมจะจับคอเสื้อของหวางเถ่ แต่วินาทีต่อมากลับพบว่าหวางเถ่ขยับตัวเบาๆ จากนั้นเธอก็คว้าความว่างเปล่า สีหน้าเปลี่ยนไปในทันที เธอจะใช้แข้งเพื่อขัดขา
แต่ก็ พลาดเหมือนกัน
มองแวบแรก หวางเถ่ไม่ได้ขยับตัวเท่าไร แต่ว่าทั้งสองกระบวนท่าของเธอกลับพลาด
“ฉันไม่เชื่อ”
หลิวหลินไม่อยากจะเชื่อ ทั้งสองกระบวนท่าของเธอจะพลาด วินาทีต่อมา เธอขยับอีกครั้ง พุ่งไปข้างหน้า ใช้วิชามวยแบบทหาร ต่อยออกไปทันที
นี่เป็นวิชาที่ต้องเรียนในโรงเรียน
และเป็นวิชาที่เธอทำได้ดีที่สุด ตอนนั้นใช้วิชามวยแบบทหาร สู้กับคนนับสิบ
ไม่มีใครเป็นคู่ต่อสู้ของเธอ
เธอไม่เชื่อว่า ครั้งนี้จะไม่สามารถเอาชนะลุงอายุวัยกลางคนแบบนี้ได้
แต่แล้ว หลังจากที่เธอปล่อยกระบวนท่าออกไป หลิวหลินถึงพบว่า หวางเถ่เขย่งเท้า ซ้ายที ขวาที ต่อยไม่โดนเลยแม้แต่น้อย
ทั้งกระบวนท่า หลิวหลินแทบจะไม่สามารถแตะโดนชายเสื้อของหวางเถ่ได้เลย
“ไก่อ่อน ไม่รู้ว่าใต้เท้าทำไมถึงให้ฉันมาสอนเธอ”
หวางเถ่ที่อยู่ข้างหน้า ไม่แม้แต่จะเอียงศีรษะเลยแม้แต่น้อย เขาทำเพียงแค่ส่ายหัวไปมา แล้วก้าวไปข้างหน้า
“ฉัน!”
คำพูดนี้ทำให้หลิวหลินหน้าแดงก่ำด้วยความอับอาย คราวนี้เธอรู้แล้วว่าลุงวัยกลางคนคนนี้เก่งกาจขนาดไหน ทันใดนั้นเธอก็ไม่กล้าดูถูกอีกแล้ว เธอก้มโค้งคำนับ“ขอโทษค่ะ ที่ฉันดูถูกท่าน”
เธอถึงกับใช้คำว่า‘ท่าน’
คำพูดที่เธอพูดก่อนหน้านี้ เหมือนกับฝ่ามือ ตบบนหน้าของเธออย่างจัง
คิดว่านี่คือคนพิการจริงๆ
แต่ใครจะไปคิดกันล่ะว่า จะเก่งกาจขนาดนี้ เธอได้ใช้ความสามารถทั้งหมดที่มี แต่ว่าเธอไม่สามารถแตะต้องแม้แต่ชายเสื้อของลุงวัยกลางคนคนนี้ได้เลย
แต่ทว่า เพื่อการใฝ่วิชาแล้ว เธอไม่สนใจเรื่องศักดิ์ศรีอะไรทั้งนั้น
“คนหนุ่มสาวนี่ดีจริงๆ”
หวางเถ่ส่ายหัวไปมา“ใต้เท้าให้ทำการประเมินเธอ ฉันก็มีประเมินให้เธอเหมือนกัน วิ่งรอบคฤหาสน์หลังนี้ วิ่งไปเรื่อยๆ จนถึงเช้าวันที่สอง เวลาแปดโมง ภายในสิบหกชั่วโมง ห้ามหยุด ถ้าทำได้ เธอก็จะคู่ควรให้ฉันฝึกสอน”
“ไม่อย่างนั้น ก็จะเหมือนที่ใต้เท้าบอก เธอไม่คู่ควรให้ฉันฝึกสอน ไสหัวไปได้เลย”
พูดจบประโยคนี้ หวางเถ่ก็เดินจากไป
“ค่ะ”
หลิวหลินรีบทำความเคารพแบบทหารทันที แล้วเริ่มวิ่ง เธอเต็มไปด้วยความตั้งใจ แต่การวิ่งในเวลาสิบหกชั่วโมง มันเกินขีดจำกัดของมนุษย์ไปแล้ว
เธอจะสามารถยืนหยัดได้หรือไม่
ไม่
ต้องยืนหยัดให้ได้
นี่เป็นบทลงโทษของความเย่อหยิ่งของเธอก่อนหน้านี้ ที่หนึ่งภายในโรงเรียนอะไรกัน เอาแต่ยึดมั่นในความรุ่งโรจน์ของตัวเองในอดีต แต่ตอนนี้เธอพึ่งรู้ว่า สิ่งเหล่านี้เมื่ออยู่ต่อหน้าของฉินเฟิง มันดูอ่อนแอมากแค่ไหน
ใช้ความสามารถที่มีทั้งหมด ยังไม่แม้แต่จะสามารถแตะชายเสื้อของฉินเฟิงได้ด้วยซ้ำ
อาจจะเป็นเพราะ ตัวเองผิดไปแล้วจริงๆ
หลิวหลินเริ่มวิ่ง แค่สิบหกชั่วโมงเองไม่ใช่หรอ เธอจะต้องยืนหยัดให้ได้ จะต้องยืนหยัดให้มั่น เพื่อไม่พึ่งพาพ่อของตัวเองอีกต่อไป เธอจะต้องทำให้ความถูกต้องของตัวเองเป็นจริงให้ได้
ฉินเฟิงบอกกับเธอว่า อันที่จริงหลักการพวกนี้ ทำให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้น ถึงจะสามารถทำให้เป็นจริงได้มากขึ้น
“ท่านนายพลครับ”
ในเวลานี้เอง หวางเถ่เดินขากะเพกๆมาหยุดข้างหน้าของฉินเฟิง ฉินเฟิงส่งเสี่ยวหยูที่อยู่ในมือของเขาส่งคืนให้หวางเถ่ เพื่อให้หวางเถ่อุ้มลูกของตัวเองไป เขาบีบแก้มของหนูน้อยไปมา
สำหรับคนเป็นพ่อแล้ว ลูกของตัวเอง ใช้บีบแก้มเล่น
ขาวๆ ลื่นๆ นุ่มๆ บีบแล้วมีความสุขมาก
“เสร็จแล้วหรอ?”
ฉินเฟิงเอ่ยถาม
“ไม่ครับ ผมให้เธอวิ่งสิบหกชั่วโมง วิ่งเสร็จ ถ้ายังไม่ตาย ผมถึงจะรับเธอไว้”
“สิบหกชั่วโมง?เมื่อก่อนคุณคงไม่ได้เก่งขนาดนั้นหรอกมั้ง”
“ทำให้หมดหนทางถึงจะสามารถประสบความสำเร็จได้ เนื่องจากเป็นคนที่คุณให้ผมรับไว้เป็นลูกศิษย์ จะรับไว้ง่ายๆได้ยังไง อีกทั้ง ท่านนายพล เห็นถึงความสามารถของหลิวหลิน เตรียมจะให้เธอขึ้นรับตำแหน่งแทนไอ้โจวไม่ใช่หรอครับ?”
หวางเถ่ลังลไปครู่หนึ่ง แต่ยังคงถามออกไป
ไอ้โจว ชื่อเดิมคือโจวซูยุ่น ฟังๆไปแล้วเหมือนตัวละครครูคนหนึ่ง แต่นี่กลับเป็นหนึ่งในสิบของนายพลแห่งอีสเตอร์แลนด์ ผู้อำนวยการกรมพระธรรมนูญ
ถึงแม้จะสู้นายพลคนอื่นๆไม่ได้ แต่กลับเป็นลูกน้องที่ฉินเฟิงให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก
เพราะเขาดูแลเรื่องกฎหมาย สมญานามของเขาก็คือยมบาลโจว ผู้เที่ยงธรรมไม่เกรงกลัวอำนาจใดๆทั้งสิ้น
กองกำลังทหารของอีสเตอร์แลนด์ มีสามแสนกว่านาย ที่เขาสามารถอยู่ในเงื้อมมือของฉินเฟิง ภายในระยะเวลาสั้นๆได้ ก็เป็นเพราะโจวซูยุ่นผู้นี้ เที่ยงธรรมไม่เกรงกลัวอำนาจใดๆ ปกครองกองทัพด้วยกฎหมาย
เป็นคนที่ฉินเฟิงไว้ใจ
“อืม”
ฉินเฟิงพยักหน้า แววตาของเขามีประกายของชายคนหนึ่งที่ใบหน้าขาวผ่อง สง่างาม แต่รูปร่างกลับแข็งแกร่ง ชายผู้แข็งแกร่งที่อยู่ในอีสเตอร์แลนด์
“อันที่จริง พวกเขาทั้งสองคนมีจุดหนึ่งที่เหมือนกัน?ก็คือชอบฝัน”
ฉินเฟิงหัวเราะ
ในระยะเวลาสั้นๆ ฉินเฟิงพบว่า โจวซูยุ่นกับหลิวหลินมีจุดที่คล้ายคลึงกัน ยืนหยัดเพื่อความถูกต้อง และความยุติธรรม และเลือดร้อนเหมือนกันทั้งคู่
โจววูยุ่นพบกับเขา เผยให้เห็นถึงความทะเยอทะยานของเขา
เพียงแต่ สิ่งนี้ทำให้โจวซูยุ่นกลายเป็นเหมือนหนึ่งในของกำนัลรางวัลให้กับศัตรู ในขณะที่กำลังทำภารกิจอยู่นอกสถานที่ เขาถูกใครบางคนของนครหลวงฆ่าตาย
ซึ่งมันทำให้ ฉินเฟิงรู้สึกโกรธมาก!
ทหารสามแสนนาย ออกตัวอย่างเต็มกำลัง นายพลเก้านาย แต่ละนาย มีกองทัพใหญ่สี่พันนาย กองทัพหงส์แดง กองทัพเต่าดำ กองทัพมังกรฟ้า กองทัพพยัคฆ์ขาว
ฉินเฟิงเป็นคนนำทัพ ไปยังนครหลวง
ใช้ความจริงของการนองเลือด บอกกับคนทั่วหล้า ว่าคนของเทพสงครามแห่งอีสเตอร์แลนด์ ใครก็แตะต้องไม่ได้!
ไม่อย่างงั้น นี่ก็คือจุดจบ
ทว่า แค้นได้สะสางไปแล้ว แต่โจวซูยุ่นยังคงจากไปอยู่ดี ตำแหน่งผู้อำนวยการกรมพระธรรมนูญ ยังคงว่างเปล่า
“หลิวหลินเอ้ย หลิวหลิน จะเป็นมังกรหรือหงส์ หรือหนูท่อ ก็ต้องดูการเปลี่ยนแปลงของตัวเธอเองแล้วล่ะ โอกาสมีแค่ครั้งเดียว ถ้าหากเธอไม่รักษา อนาคตข้างหน้า เธอจะต้องมีที่ของตัวเอง”
ฉินเฟิงมองไปข้างนอก หลิวหลินที่กำลังวิ่งอยู่ แล้วพูดพึมพำ
วิ่งติดต่อกันสิบหกชั่วโมง มันเกินขีดจำกัดของมนุษย์ไปแล้ว
นี่เป็นสิ่งที่เธอต้องแลก
จะให้สุดยอดนักฆ่าบนประกาศมืด รับลูกศิษย์ ไม่ใช่คนทุกคนจะได้รับเกียรตินี้