เด็กอัจฉริยะ แม่ลึกลับ - ตอนที่ 460 แม่สามี
เย่หลินเห็นหนิงเสี่ยวซีอีกด้านหนึ่งของห้างสรรพสินค้า ก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองอย่างแปลกใจ
เมื่อเห็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งถือถุงใบใหญ่ใบเล็กออกมาจากร้านร้านหนึ่ง เธอเม้มปากแล้วยิ้ม แปลกใจและดีใจเล็กน้อย ลูกชายของเธอ มีคนที่ชอบแล้วเหรอ?
การปรากฏตัวครั้งนี้ทำให้เธอรู้สึกว่าตนเองคิดถูกจริงๆ
“ใครเหรอ?” เธอระงับความตื่นเต้นในใจ พูดได้ว่าเธอเป็นกังวลมาตลอด ว่าในอนาคต หนิงเสี่ยวซีเป็นคนที่ทะนงตัวแบบนี้ จะไม่สามารถหาผู้หญิงที่ถูกตาต้องใจเขาได้
หนิงเสี่ยวซีพูดว่า “เพื่อนร่วมชั้น”
เพื่อนร่วมชั้น? นี่คือลูกของตนเอง เย่หลินจะไม่เข้าใจเขาได้อย่างไร อุปนิสัยของหนิงเสี่ยวซีคล้ายกับหนิงเส่าเฉินอย่างมาก พูดให้น่าฟังหน่อย ก็คือเท่ พูดอย่างไม่น่าฟังก็คือเย็นชาแต่โรแมนติก
เธอกระแอมเบาๆ แต่เสียงดังเล็กน้อยในห้างที่โล่งกว้าง
เด็กสาวคนนั้นได้ยินก็หันไปมอง พอดีกับเย่หลินกำลังหอมแก้มหนิงเสี่ยวซีอยู่ เธอจึงพูดหยอกล้อว่า “ตอนเย็นไปทานข้าวด้วยกันสิ ฉันจะช่วยคุณอธิบาย”
หนิงเสี่ยวซีหันไปมองสีหน้าแม่ที่ยิ้มอย่างปลื้มใจ เขาสงสัยจริงๆเลย นี่คือแม่ของตนเองใช่ไหม? ใส่ใจลูกชายขนาดนี้เลยเหรอ?
ถุงในมือผู้หญิงคนนั้นตกลงบนพื้น ขอบตาเธอเต็มไปด้วยน้ำตาในชั่วพริบตา เดิมทีเขาชอบผู้หญิงที่เป็นผู้ใหญ่อย่างนี้นี่เอง
เธอแทบจะพุ่งเข้ามาหาหนิงเสี่ยวซี ยืนอยู่ตรงหน้าเขา เงยหน้ามองเขา น้ำตาไหล แต่ไม่ได้พูดอะไร
หนิงเสี่ยวซีลูบๆปลายจมูก “คุณ คุณมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?”
เด็กผู้หญิงคนนั้นไม่พูดจา หันกลับวิ่งไปทางด้านนั้น เก็บถุงบนพื้นขึ้นมา เอามาวางไว้ตรงหน้าหนิงเสี่ยวซี ปิดปากหันกลับเดินออกไป
เย่หลินขมวดคิ้ว ก้มไปหยิบถึงที่พื้น
“หนังสือสองเล่ม ซีดีหนึ่งแผ่น เสื้อเชิ้ตหนึ่งตัว กางเกงหนึ่งตัว แล้วก็กางเกงในสามตัว รองเท้าหนึ่งคู่ กางเกงในคือขนาดลูกชายของฉัน และรองเท้าก็คือขนาดของลูกชายฉัน……”
เย่หลินกำลังจะพูดอะไรอีก
หนิงเสี่ยวซีก็แย่งถุงจากในมือของเธอไป
“คุณต้องรับผิดชอบที่จะอธิบายนะ”
เย่หลินพยักหน้า “อธิบายได้ คุณก็ให้เธอมาทานข้าวเย็นด้วยกันสิ”
อายุ 38 ปี ต้องเป็นแม่สามีแล้ว ใจเย่หลินรับไม่ค่อยได้เล็กน้อย
“เสี่ยวซี พวกคุณอย่าเพิ่งมีลูกนะ ฉันยังรับไม่ได้ที่จะถูกเรียกว่าคุณย่า”
หนิงเสี่ยวซีหยุดฝีเท้า หางตากระตุก หันไปถลึงตาใส่แม่ตนเอง ท้ายที่สุดเขาก็ฉีกยิ้มอย่างเอ็นดู พูดอย่างยิ้มเยอะว่า : “จะให้ตาเฒ่าคนนั้นมารับคุณกลับไปทันทีเลย”
ตาเฒ่า? หนิงเส่าเฉินนะเหรอ?
เย่หลินยืนหัวเราะอยู่ข้างหลังเขา
มองภาพด้านหลังของลูกชาย เธอแค่รู้สึกว่าโชคชะตาปฏิบัติต่อเธอไม่เลวเลยจริงๆ
ตอนเย็น
“คุณผู้หญิง ฉันอยากจะแนะนำตัวเองหน่อย ฉันเป็นแม่ของหนิงเสี่ยวซี” เธอจงใจเน้นคำว่าแม่ จากนั้นก็พูดว่า : “สวัสดีค่ะแม่สามี” ผู้หญิงคนนั้นตกตะลึงก่อน จากนั้นก็มีสีหน้าดีใจ รีบลุกขึ้นยืน ถึงแม้น้ำชาจะเทราดตนเองก็ไม่สนใจ ก้มโค้งคำนับเย่หลินด้วยใบหน้าน่ารักไร้เดียงสา แล้วพูดอย่างตรงไปตรงมา
หนิงเสี่ยวซีพูดไม่ออก คนIQ190อย่างเขา จะชอบคนไอคิวต่ำแบบนี้ได้อย่างไร
เขานั่งลงข้างๆ หยิบทิชชูมาเช็ดน้ำให้เธอ “แม่สามีอะไร? ใครจะแต่งงานกับคุณ?” ต่อว่าอย่างนี้ แต่การกระทำอ่อนโยนมาก
เย่หลินเม้มปาก สำหรับความไร้เดียงสาของเด็กผู้หญิงคนนี้ สำหรับความอ่อนโยนของหนิงเสี่ยวซี ใบหน้าก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม “โอเคๆ
ระหว่างมื้ออาหาร
“คุณแม่……คุณน้า นี่เป็นอาหารพื้นเมืองแท้ๆขอที่นี่ คุณลองชิมดูนะคะ”
“คุณน้า อันนี้ต้องทานคู่กันกับอันนี้ถึงจะอร่อยค่ะ”
“เสี่ยวซี คุณทานเผ็ดขนาดนั้นไม่ได้ ครั้งที่แล้วคุณทานเสร็จ ก็ปวดหัว คุณลืมไปแล้วเหรอ”
เย่หลินมองรูปร่างหน้าตาของคนคนนี้แล้วก็นับว่าสวย แต่ที่รู้สึกสบายอย่างมาก ส่วนนิสัยก็ดูหัวดื้อเล็กน้อย แต่ก็ดูเป็นเด็กผู้หญิงที่จริงใจ เม้มปาก พูดตามตรงว่า ถึงแม้ว่าปัจจัยของเด็กผู้หญิงคนนี้ จะเทียบไม่ได้เลยกับหนิงเสี่ยวซี แต่เธอก็ยังรู้สึกว่าคนทั้งสองเหมาะสมกันดี
ตั้งแต่เด็กหนิงเสี่ยวซีสนิทสนมกับคนวัยเดียวกันน้อยมาก ยิ่งเด็กผู้หญิงยิ่งไม่ต้องพูดเลย ช่วงเวลาก่อนหน้านี้ เธอกับหนิงเส่าเฉินยังสงสัยว่าลูกชายคนนี้มีปัญหาเรื่องรสนิยมทางเพศหรือเปล่า แต่เมื่อเห็นเขาปฏิบัติต่อเด็กผู้หญิงคนนี้อย่างอ่อนโยนแบบนี้แล้ว ถึงแม้ปากจะร้าย แต่ความอ่อนโยนในสายตาของเขา เธอเคยเห็นมันในสายตาของหนิงเส่าเฉิน
จึงอดไม่ได้ที่จะโล่งอก
“คุณชื่อ…..”
“เวินเสี่ยวซี” เด็กผู้หญิงตอบกลับอย่างอ่อนโยน จากนั้น ก็กล่าวเสริมอีกว่า: “ซีที่มาจากคำว่าแตงกวาค่ะ”
เย่หลินอ้าปากค้าง เสี่ยวซี เสี่ยวซี? นี่ เป็นพรหมลิขิตจริงๆเหรอ…..เพียงแต่ซีที่มาจากคำว่าแตงกวา เย่หลินสูดลมหายใจเข้า มองหนิงเสี่ยวซี
“คุณน้า คุณเรียกฉันว่าเสี่ยวเวินก็ได้ค่ะ”
เย่หลินพยักหน้า
“เสี่ยวเวิน คุณ….เป็นคนที่นี่เหรอ?”
เวินเสี่ยวซีพยักหน้า “อื้ม พ่อฉันเป็นคนที่นี่ แม่ฉันเป็นคนเมืองC”
“อ้อ อย่างนั้นก็บังเอิญจัง แล้ว พ่อแม่ของคุณทำงานอะไรเหรอ?”
“แม่ คุณถามแบบนี้ทำไม?” หนิงเสี่ยวซีขมวดคิ้ว ไม่พอใจเล็กน้อย
เย่หลินมองค้อนเขาทีหนึ่ง เธอไม่ใช่แม่สามีที่เลือกปฏิบัติแบบนั้นแน่นอน เพียงแต่ กับเด็กผู้หญิงคนนี้ อย่างน้อยเธอก็อยากรู้พื้นเพครอบครัวให้ชัดเจน
เวินเสี่ยวซีลุกขึ้นยืนอีกครั้งอย่างรวดเร็ว “คุณน้า แม่ของฉันและพ่อของฉันทำงานทั้งคู่เลยค่ะ”
ทำงาน? เย่หลินพยักหน้า แต่เมื่อเวินเสี่ยวซีกล่าวประโยคนั้นออกมา เย่หลินก็ประทับใจกับเวินเสี่ยวซีคนนี้อย่างมาก
“พ่อเป็นผู้รักษาการแทนนายกเทศมนตรี แม่เป็นผู้บังคับบัญชาของสำนักงานตำรวจค่ะ”
ห๊ะ? นี่มันเกินความคาดหมายไว้จริงๆ
คนทั้งสองที่มีหน้าที่การงานระดับสูงแบบนี้ ทำไมถึงสอนเด็กผู้หญิงคนนี้ได้อย่าง”ใสซื่อ”แบบนี้นะ
อีกทั้ง เด็กผู้หญิงคนนี้พูดแค่ง่ายๆว่าทำงาน ไม่โอ้อวด ไม่เสแสร้ง
นี่จึงทำให้เย่หลินชื่นชมจริงๆ
“คุณชอบหนิงเสี่ยวเหรอ?”
“แม่!” หนิงเสี่ยวซีขมวดคิ้ว
ทางด้านเด็กผู้หญิงตอบกลับอย่างรวดเร็วว่า: “อื้ม ชอบมาก ตามเขามาสองปีแล้ว เขา…..ไม่เห็นด้วยมาโดยตลอด” เด็กผู้หญิงพูดประโยคนี้จบ ในสายตาก็หดหู่เล็กน้อย
จากนั้นเย่หลินยังไม่ทันเอ่ยปาก เวินเสี่ยวซีคนนี้ก็กล่าวเสริมอีกว่า: “แต่ฉันก็ไม่ยอมถอดใจหรอก อย่างน้อย ตอนนี้เขาก็ยอมพูดกับฉันแล้ว”
เย่หลินรู้สึกว่าเด็กผู้หญิงคนนี้ดูน่ารัก”ไร้เดียงสา” ลูกชายของเธอ ถ้าหากไม่ชอบ จะเช็ดน้ำให้เธอ จะพาเธอมาเจอแม่เหรอ?
เพียงแต่ เธอไม่ได้แสดงความลับของคนอื่นออกมา เรื่องความรักนี้ คนนอกจะเข้ามายุ่งก็ไม่ค่อยเหมาะสม
หลังจากพาเวินเสี่ยวซีกลับไปส่ง
เย่หลินจึงเอ่ยปากว่า “รู้จักกันได้อย่างไร?”