เด็กอัจฉริยะ แม่ลึกลับ - ตอนที่ 317 ความเป็นชาย
เกาไห่ดึงเล่อจยาเข้าไปในห้อง ปิดประตู พูดเสียงเบา“คุณไม่คิดว่าเกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ขึ้นกับซูหย่า ปฏิกิริยาของเพื่อนสนิทผู้ชายคนนั้นของเธอ แปลกเกินไปหรือเปล่า?”
เล่อจยาขมวดคิ้ว “ปี๋ไคเหรอ? เขาไม่ได้บอกว่าจะไปต่างประเทศในวันที่สองเหรอ?”
“แล้วยังไงต่อ?”
“แล้ว……”
“แล้วนานขนาดนี้ เขาได้โทรมาถามคุณเรื่องสถานการณ์ของซูหย่าหรือเปล่า?”
เล่อจยาส่ายหน้า หลังจากที่เกาไห่เตือนเธอ เธอรู้สึกว่ามีปัญหาจริงๆ ปี๋ไคกับซูหย่ารู้จักกันนานกว่าเธอ ความรู้สึกของทั้งสองคน ซูหย่าเคยบอกว่า ครั้งหนึ่งเธอเคยถามปี๋ไค ถ้าหากต้องเลือกใครสักคน ระหว่างเธอกับคนรัก เขาจะเลือกใคร? ปี๋ไคเลือกแบบไม่คิดเลยว่าเป็นซูหย่า
ภายใต้ความรู้สึกแบบนั้น ซูหย่าเกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ ปฏิกิริยาของเขานิ่งมากจริงๆ
แม้ว่าความรู้สึกของผู้ชายจะมีความยับยั้งมากกว่า แต่ ไม่แยแสเลย มันเป็นไปไม่ได้
“แต่ว่า นี่จะหมายความว่าซูหย่ายังไม่ตายได้ยังไง?”
เกาไห่ตอบ“สัญชาตญาณ! ”พูดไป ก็กอดเล่อจยาไว้ แล้วพูดต่อว่า “สัญชาตญาณบอกผมว่าปี๋ไครู้เรื่องบางอย่างเกี่ยวกับซูหย่าอย่างแน่นอน”
“ถ้าอย่างนั้นฉันโทรถามเขา?”พูดไปก็หยิบมือถือขึ้นมา
เกาไห่จับมือเธอไว้ “คุณภรรยา คุณอย่าเพิ่งรีบร้อน คุณฟังผมพูดก่อน ต่อให้ซูหย่าไม่เป็นไรจริงๆ คุณทำได้เพียงแค่รู้ คุณจะเคลื่อนไหวอะไรไม่ได้ ไม่อย่างนั้น คุณอาจจะทำร้ายเธอได้”
เล่อจยายิ่งฟังยิ่งสับสน ขมวดคิ้วตลอดเวลา “ฉันไม่เข้าใจ”
เกาไห่คิดๆแล้ว ก็เล่าเรื่องที่เขารู้ให้เล่อจยาฟัง เรื่องพวกนี้ เย่หลินเคยได้ยินหนิงเส่าเฉินพูดถึง แล้วมาบอกเขา
“คุณหมายถึงมีคนต้องการทำร้ายเซียวอู๋ ซูหย่าทำแบบนี้ เพียงแค่แกล้งตาย เป้าหมายคือทำเพื่อช่วยเซียวอู๋?”
เกาไห่พยักหน้า “จะพูดแบบนั้นก็ได้ คุณคิดดูอีกที วันนั้นซูหย่าบอกกับคุณว่า ถ้าหากชาตินี้ยังมีวาสนาต่อกัน หวังว่าจะได้เป็นครอบครัวเดียวกัน คุณไม่คิดว่าคำพูดของเธอมีความนัยเหรอ? ชาตินี้? ทำไมก่อนที่เธอจะเกิดเรื่อง ก็พูดเรื่องชาตินี้กับคุณ?”
เล่อจยาพยักหน้า ลุกขึ้นนั่ง มองเกาไห่ “การวิเคราะห์ของคุณเหมือนจะไม่ผิด แต่ว่า คนที่อยู่ในรถ แล้วก็ภาพจากกล้องวงจรปิดนั่น จะอธิบายยังไง?”
เกาไห่ลุกขึ้น เทน้ำให้เธอแก้วหนึ่ง “มีเงินก็สามารถใช้ผีให้โม่แป้งได้”
เมื่อฟังการวิเคราะห์ของเกาไห่ ใจที่สิ้นหวังของเล่อจยา ก็มีความหวังขึ้นมาอีกครั้ง เธอเม้มปาก “แล้ว แล้วฉันควรทำอะไร? ให้ฉันรอแบบนี้คงไม่ได้หรือเปล่า? ฉัน……”
เกาไห่กุมมือเธอไว้ “คุณภรรยา ถ้าหากนี่เป็นแผนที่ซูหย่าวางไว้จริงๆ ถ้าหากเธอไม่เป็นอะไร ถ้าอย่างนั้น รอเซียวอู๋กลับมาเป็นปกติ เธอก็คงกลับมาเอง ในระหว่างนี้ไม่ว่าพวกเราจะทำเรื่องอะไร อาจกลายเป็นการทำร้ายเธอก็ได้”
เล่อจยาพยักหน้า “โอเค ฉันไม่ทำอะไร ขอแค่เธอยังอยู่ดีก็พอ”
อีกด้านหนึ่ง
“คุณลุง มีเรื่องอะไรเหรอคะ?” มีคนมาเคาะประตูแต่เช้า ซูหย่าเปิดประตู ก็เห็นชายชรานำชายวัยกลางคนคนหนึ่งยืนอยู่ที่ประตูบ้าน
“สาวน้อย นี่เป็นแพทย์แผนจีนที่บ้านเกิดของฉัน
ซูหย่าหันกลับไปมองในบ้าน คิดๆแล้ว เธอพยักหน้า “ขอบคุณค่ะคุณลุง ถ้าอย่างนั้น พวกคุณเข้ามานั่งก่อน ฉันไปพาเขาออกมา”
เซียวอู๋ปฏิบัติต่อคนแปลกหน้าเหมือนการรับรู้ของเด็ก การจัดการของเขานั้นสุดโต่ง ถ้าไม่เงียบตัวหดกลม ก็ลงมือโดยตรง
“เสี่ยวหวู่ นายดูสิ ผู้ชายคนข้างนอกนั่น เป็นหมอ นายให้เขาดูอาการสิ ดึกหน่อย ฉันจะซื้อของอร่อยให้นาย ดีไหม?”ซูหย่าเกลี้ยกล่อมเซียวอู๋เหมือนกล่อมเด็ก
เซียวอู๋ขมวดคิ้ว ส่ายหัวตลอดเวลา
“ฉันนั่งข้างนาย ไม่มีปัญหาแน่นอน”ซูหย่ายังคงเกลี้ยกล่อม
แต่ชายกลับส่ายหัวตลอดเวลา
คิดๆแล้ว ซูหย่าก็ถอนหายใจ พูดล่อข้างหูเขา“ถ้า ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวกลางคืนให้กอดฉันนอน?”
หลายวันมานี้ พอตกดึก ชายคนนี้จะชอบขยับมาใกล้เธอ แม้ว่า เธอจะชอบอ้อมกอดของเขา แต่ เธอกลัวการที่ได้รับแล้วเสียไปมากกว่า เธอไม่ต้องการสร้างนิสัยให้ตัวเอง หากวันหนึ่ง เขาได้สติกลับมา กลับไปเป็นคนดำมืดคนนั้น คนที่เจ็บปวดก็คือเธอเอง
ครั้งนี้ก็เพื่อให้เขาได้หาหมอ เธอจึงหมดหนทาง
ชายที่ส่ายหัวอยู่เมื่อกี้รีบลุกขึ้นทันที พยักหน้า ท่าทางดีใจ
ซูหย่ามองเขา ขมวดคิ้ว ถ้าไม่ใช่เพราะสายตาของเขาใสเหมือนเด็ก เธอคงสงสัย ว่าชายคนนี้กำลังแกล้งทำเป็นโง่อยู่หรือเปล่า? ไม่ว่ายังไง คิดๆแล้ว การกระทำของเขาก่อนหน้านี้ เธอคิดว่าคงไม่มีทาง
แพทย์แผนจีนสัมผัส มอง สำรวจ ดูร่างกายของเซียวอู๋แล้ว ก็เอ่ยขึ้นว่า “คนบ้าคลั่ง นอนน้อยไม่กิน ปัญญาที่ก่อเอง นับถือตัวเอง สถบด่า พักผ่อนน้อย อาการนี้ต้องใช้ยาขับเสมหะให้ฟื้นตัว ยาขับและสลายเลือดคั่ง ยาระงับประสาท ร่วมกับการรักษาทางจิต ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้”
เขาพูดอย่างมีคารมคมคาย และซูหย่าก็พอจะฟังเข้าใจ เขาหมายถึงการทานยา และคอยให้คำปรึกษาทางด้านจิตใจ อาจจะกลับมาเป็นปกติ
“หมอคะ คุณหมายถึงว่า แฟนของฉันสามารถกลับไปเป็นเหมือนเดิม?”ซูหย่ารู้สึกว่าเสียงของตัวเองสั่นเล็กน้อย
แพทย์แผนจีนมองซูหย่า ส่ายหน้า “สามารถกลับไปเป็นเหมือนเดิมหรือเปล่า ฉันสรุปไม่ได้ ลองสั่งยาไปกินดูก่อน” คำพูดของเขาดูขอไปทีอย่างเห็นได้ชัด
ซูหย่ารู้สึกท้อแท้ในทันที เธอพยักหน้า รับใบสั่งยาที่แพทย์แผนจีนกำหนด และขอบคุณเขา
แพทย์แผนจีนอาจจะรู้สึกเกรงใจ ที่ดูอาการได้ไม่ชัดเจน จึงจากไปโดยไม่รับค่าตรวจเลยด้วยซ้ำ
ทำให้ซูหย่าสูญเสียความมั่นใจในที่สุด
ถึงแม้ ชีวิตสงบสุขแบบนี้ ไม่ได้มีอะไรไม่ดี แต่ เธอคิดว่า คนที่มีความสามารถอย่างเซียวอู๋ ถ้าหากว่าชาตินี้มีชีวิตแบบนี้ น่าเสียดายเกินไป ขนาดพ่อของเธอยังบอกว่าเขาเป็นแม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่
ดังนั้น เธอจึงยังต้องการให้เขากลับไปเป็นปกติ
ในตอนกลางคืน หลังจากที่ซูหย่ากล่อมเสี่ยวอี้เข้านอน เธอก็นอนลง ทันใดนั้น ก็มีมือใหญ่พาดมาที่เอวของเธอ
ซูหย่าตัวกระตุก เธอหันไป มองเซียวอู๋ผ่านแสงไฟริบหรี่ ในสายตาของเขามีความคาดหวังอย่างเห็นได้ชัด
คิดๆแล้ว เธอลุกขึ้นนั่ง นำเสี่ยวอี้เข้าไปนอนข้างใน ตัวเองไปนอนตรงกลาง
กอดเซียวอู๋ “โอเค เด็กดี นอนได้แล้ว”
เซียวอู๋พยักหน้า หลับตา
เพียงแต่ ซูหย่ารู้สึกได้ชัดเจน อุณหภูมิบนมือของเขาค่อยๆสูงขึ้น อดที่จะกลืนน้ำลายไม่ได้ พูดขึ้น “เสี่ยวหวู่ นาย……ไม่เป็นไรใช่ไหม?”
ชายนิ่งไป ไม่พูดอะไร ทันใดนั้น เขาพลิกตัว คล่อมตัวซูหย่าไว้ หอบหายใจแรง