เด็กอัจฉริยะ แม่ลึกลับ - ตอนที่ 297 ภรรยานอกใจ
“ยัยหนู ที่หน่วยของเสี่ยวอู๋มีภารกิจ จึงออกไปแต่เช้า มันไม่ยุติธรรมกับคุณเลย”
ซูหย่าตกตะลึง จากนั้นจึงโล่งอก เธอตกใจแทบตาย ยังคิดว่าเรื่องอะไร?เซียวอู๋ไปแล้วก็ดีนะสิ?ถ้าไม่ไป เธอยังกลัวว่าเขาจะพบเจออะไร
ก้มหน้าปกปิดความดีใจในแววตา แล้วเงยหน้ามองคุณย่า ยิ้มอย่างอ่อนโยน : “คุณย่า ไม่เป็นไร นั่นเป็นภาระหน้าที่ของเขา เป็นทหารครอบครัวใหญ่ต้องมาก่อนครอบครัวเล็ก เหตุผลนี้ ฉันเข้าใจได้”
ความอ่อนโยนและความปรารถนาดีของเธอ ทำให้ทุกคนในตระกูลเซียวโล่งใจ
“เสี่ยวอู๋ของเราแต่งงานกับคุณ ช่างโชคดีจริงๆเลย” คุณย่าพูดอย่างประทับใจ คุณปู่ก็พยักหน้า
พ่อเซียวแม่เซียวยิ้มไม่พูดอะไร
เมื่อนึกถึงคำพูดที่เซียวอู๋พูดในบันทึกเสียงก่อนหน้านี้ ซูหย่าก็อดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นมองพิจารณาพ่อเซียวแม่เซียว พ่อเซียวดูสุขุมและน่าเกรงขาม แม่เซียวก็อยู่บ้านเป็นแบบอย่างที่ดี ดูเหมือนเป็นแม่ปกติทั่วไป มันยากมาที่จะเชื่อมโยงพ่อแม่กับคำพูดของเซียวอู๋เข้าด้วยกัน
หลังจากทานอาหารเที่ยงกับคนตระกูลเซียวเสร็จ ซูหย่าก็หาข้ออ้างว่าอยู่ที่ตระกูลเซียวคนเดียวรู้สึกเบื่อ อยากกลับตระกูลซู
แม้ว่าจะรู้สึกว่าเจ้าสาวจะกลับไปหาครอบครัวในวันรุ่งขึ้นหลังจากที่แต่งงานนี้ ตามมารยาทแล้วดูไม่เหมาะสมเล็กน้อย แต่ตระกูลเซียวพิจารณาแล้วว่าวันรุ่งขึ้นลูกชายตนเองก็กลับเข้ากองทัพ ซูหย่าก็เพิ่งแท้งไป อารมณ์และร่างกายต้องการการดูแล
ก็เลยไม่ได้ปฏิเสธ
เมื่อเล่อจยาเห็นซูหย่าปรากฏตัวพร้อมกับกระเป๋าเดินทาง ก็ตกใจอย่างมาก “คนตระกูลเซียวให้คุณย้ายออกมาจริงๆเหรอ?”
ซูหย่าทิ้งกระเป๋าไว้ที่หน้าประตู เดินเข้าไปนอนลงบนโซฟา “ลูกชายของพวกเขาหนีไปอย่างไร้ร่องรอย พวกเขาเลยละอายใจที่จะให้ฉันอยู่ต่อมั้ง?”
“เสี่ยวอู๋กลับกองทัพไปแล้วเหรอ?” เล่อจยาประหลาดใจ “นี่เขาทำเกินไปแล้วหรือเปล่า?หลังจากแต่งงานก็หนีไปเลย”
ซูหย่ากินกล้วยอยู่ ได้ยินเล่อจยาพูดแบบนี้ การกระทำของเธอก็ชะงักลง “ยังมีที่มากกว่านี้อีกนะ?เขาบอกว่า จะทำให้ฉันเป็นหม้ายไปตลอดชีวิต”
ชั่วขณะเล่อจยาก็พูดอะไรไม่ออก เธอจับมือของซูหย่า “เสี่ยวหย่า……”
เห็นท่าทางที่เห็นอกเห็นใจของเล่อจยา ซูหย่าก็หัวเราะ “ไม่เป็นไร เขากล้าทำให้ฉันเป็นหม้าย ฉันก็จะสวมเขาให้เขาเอง”
“แค่กๆ……” เกาไห่ที่เพิ่งออกมาจากห้องหนังสือ เพิ่งจะดื่มน้ำไป ได้ยินคำพูดของซูหย่า ก็สำลักทันที
ถอนหายใจแล้วชี้นิ้วไปที่ซูหย่า “ซูหย่า คุณอย่าพาภรรยาฉันไปทำเรื่องไม่ดีนะ”
ซูหย่าได้ยินก็มองเขาอย่างอารมณ์เสีย “ภรรยาคุณ?เธอมีความรักที่ลึกซึ้งต่อคุณ ฉันคิดจะพาไปก็ไม่มีประโยชน์หรอก ขอแค่คุณปฏิบัติต่อเธออย่างดี เธอก็ควักหัวใจออกมาให้คุณแล้ว”
คำพูดที่เกินจริงของเธอ ทำให้เล่อจยาตีๆขาของเธอ “ฉันโอเวอร์อย่างที่คุณพูดแบบนั้นเลยเหรอ?”
คำพูดบนโลกใบนี้บางทีก็แปลกๆ พูดดีกลับไม่ดี พูดแย่แต่กลับมั่นใจ ผ่านไปไม่กี่วันก็กลายเป็นจริง
วันนี้ตอนเช้า เล่อจยายังนอนหลับอยู่ เธอได้ยินเสียงเคาะประตูห้องอย่างรีบร้อน
“ซูหย่า คุณจะไม่ปล่อยให้คนนอนเลยใช่ไหม?” เปิดประตู เล่อจยาก็หาว เห็นสีหน้าตื่นเต้นดีใจของซูหย่าจึงถามว่า “นี่คุณเป็นอะไร?”
“จยาจยา เขากลับมาแล้ว!”
เล่อจยาขมวดคิ้ว “ใคร?เสี่ยวอู๋เหรอ?”
“เขากลับมาแล้ว ฉันอยากจะร้องไห้ ฉันดีใจอะไรเนี่ย คือเขา ปี๋ไค”
ดึงปิดประตู เล่อจยาก็จูงซูหย่าไปห้องรับแขก นั่งลงบนโซฟา “ใช่แล้ว ทำไมฉันถึงลืมเขาไปได้นะ?คุณแต่งงาน เขาจะไม่กลับมาได้อย่างไร?”
ซูหย่าถอนหายใจ “สองสามวันนั้นเขาไปไม่ได้”
ลุกขึ้นไปยังห้องครัว เปิดไฟต้มน้ำ เล่อจยากล่าวว่า “เพียงแต่ เขากลับมาแล้ว คุณดีใจขนาดนี้ เพราะอะไรล่ะ?” พูดจบ เธอก็ขมวดคิ้ว มองซูหย่า “คุณ….คุณต้องการจะสวมเขาให้เสี่ยวอู๋จริงๆเหรอ?”
สีหน้าซูหย่าแดงเป็นเลือดฝาด ชัดเจนว่าตื่นเต้นเล็กน้อย
“คุณรีบไปอาบน้ำเถอะ พวกเรานัดเจอกันสถานที่เดิม”
ซูหย่าส่ายหน้า “คุณอย่ามาทำซี้ซั้ว ตอนนี้คุณเป็นผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว ในท้องก็ยังมีลูกอีกคนหนึ่ง คุณทำแบบนี้ มันผิดจารีตประเพณี เสี่ยวอู๋จะคิดกับคุณอย่างไร พวกเราไม่พูดคุยกันก่อน แต่คุณมาทำแบบนี้ ต่อไป คุณจะพูดกับเขาอีก ก็ไม่มีความหมายแล้ว”
พูดพลาง หยิบหวีที่อยู่ข้างๆขึ้นมา หวีผมที่ยาวให้กับซูหย่า ตั้งแต่ตั้งท้อง ผมของซูหย่า ก็ร่วงอย่างรุนแรง เล่อจยาหวีผมด้วยความเบามืออย่างมาก แต่ก็ยังคงร่วงเป็นจำนวนมาก
“คิดสกปรก ฉันบอกไปแล้ว ต้องทำอะไรอีกล่ะ?อีกอย่าง คุณก็ไม่ใช่ไม่รู้ว่า เขาสนใจผู้ชาย”
เล่อจยาเคยเจอปี๋ไคหลายครั้ง ผู้ชายคนหนึ่งที่สะอาดและบริสุทธิ์พอที่จะบรรยายถึงความไร้เดียงสาได้ ดวงตาใสสะอาด ดวงตาบริสุทธิ์ แต่ถูกซูหย่าบีบบังคับตั้งแต่เด็กจนโต
ตอนเด็กๆคนทั้งสองก็โตมาจากในลานบ้านเดียวกัน
เวลานั้น เธอไม่รู้รสนิยมทางเพศของปี๋ไค และมักจะล้อเล่นระหว่างกันอยู่บ่อยๆ ทุกครั้ง เพียงแค่เธอเอ่ยปาก ปี๋ไคก็จะแสดงท่าทีที่หวาดกลัว พอนึกถึงแล้ว เธอก็ยังอยากจะหัวเราะ
“คุณเพิ่งแต่งงาน เขาก็กลับมา ฉันคิดว่าเขาน่าจะรู้สึกว่าเป็นผู้รอดชีวิตจากภัยพิบัติใช่ไหม?” เล่อจยาหยอกเย้าซูหย่า
“หยุด เดิมทีฉันก็ไม่ได้ชอบเขาอยู่แล้ว ไม่อย่างนั้น เขาจะถูกเอาเปรียบมากขนาดนี้เหรอ”
เล่อจยาไม่โต้เถียงกับเธอ ตั้งท้องอยู่ ต้องเอ็นดูหน่อย
เพียงแต่ ไม่ว่าอย่างไรคนทั้งสอง ก็คาดไม่ถึงว่าจะได้พบกับเซียวอู๋ที่นั่น
“เสี่ยวหย่า ทางนี้” คนทั้งสองเพิ่งเข้าประตูไป ปี๋ไคก็ชูมือขึ้นมายังพวกเขา แล้วร้องเรียกเสียงดัง
“ไม่ยุติธรรมเลย?เรียกแต่เธอไม่เรียกฉัน” นั่งลงแล้ว เล่อจยาก็พูดหยอกล้อ
ซูหย่านั่งลงข้างๆปี๋ไค สวมกอดแขนของเขา แล้วนำศีรษะพิงที่ไหล่ของเขา “ไคไค ฉันแต่งงาน คุณก็ไม่กลับมา คุณใจร้ายเกินไปแล้ว”
เล่อจยารู้สึกขนลุกขึ้นมา ถึงแม้ฉากแบบนี้ เธอจะเคยเห็นมาเป็นร้อยเป็นพันครั้งแล้ว แต่ก็ยังรับรูปแบบการอยู่ร่วมกันของคนทั้งสองไม่ได้ ถึงปี๋ไคจะไม่ได้สนใจผู้หญิง แต่ถึงอย่างไรก็ยังเป็นผู้ชาย เธอนำน้ำแก้วหนึ่งดันไปยังตรงหน้าของซูหย่า “รับดื่มของอุ่นสักหน่อยเถอะ”
ซูหย่าเงยหน้ามองปี๋ไค “ไคไค คุณป้อนฉันหน่อยสิ”
ปี๋ไคก้มหน้า ทอดถอนใจอย่างจนปัญญา ยกแก้วที่อยู่บนโต๊ะขึ้น แล้วป้อนใส่ปากซูหย่า “แต่งงานแล้ว ยังมาทำตัวไร้เดียงสาแบบนี้ อยากจะเห็นจริงๆว่า ใครที่ยอมรับคุณได้ รับเอ่ยปากพูดมาเถอะ”
นี่ก็คือปี๋ไค ถึงแม้ว่าปากจะไม่แยแส แต่ก็ปฏิบัติต่อซูหยาเหมือนเด็กมาโดยตลอด เล่อจยาไม่เคยเห็นเลยว่า ปี๋ไคจะโมโหใส่ซูหย่า
ซูหย่าจิบอึกหนึ่ง แล้วก็เบะปาก “ไคไค ร้อนอะ เป่าให้หน่อย”
ปี๋ไคก็ว่าง่ายจริงๆนำเข้ามาใกล้ปากแล้วเป่าให้ จู่ๆ ก็มีเงาสูงใหญ่เงาหนึ่ง ปรากฏที่บนโต๊ะ เล่อจยาเงยหน้า รีบลุกขึ้นยืน “เสี่ยว….เสี่ยวอู๋”
สายตามองไปยังตรงกันข้าม ชายหญิงทั้งสองคนนั้นคลอเคลียกันอยู่ ทันใด สายตาก็มองไปอย่างเคร่งขรึม