เด็กอัจฉริยะ แม่ลึกลับ - ตอนที่ 130 หนิงเส่าเฉินเข้าโรงพยาบาล
เย่หลินขมวดคิ้ว หันไปมองหน้าประตู เหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ ดังนั้นจึงไม่ได้สนใจว่าน้ำร้อนในมือได้เทราดบนหลังมือ
"ระวัง!" โม่หานรีบพุ่งตัวเข้าไป นำกาต้มน้ำออกจากในมือเธอ จากนั้นก็ดึงมือเธอไปที่ห้องน้ำข้างๆ
เขายืนอยู่ด้านหลังเธอ แล้วเปิดก๊อกน้ำนำมือของเธอมาอยู่ใต้น้ำที่ไหล "คิดอะไรอยู่? ถึงได้เทน้ำร้อนราดมือ"
เย่หลินยิ้มตอบกลับ ใช่สิ คิดอะไรอยู่? มาดึกๆดื่นๆขนาดนี้ เคาะประตูรุนแรงแบบนี้ นอกจากเย่เส่าเฉินแล้วจะมีใคร?
"ปังปัง……” เสียงเคาะประตูด้านนอกยิ่งดังหนักหน่วงขึ้น
"ใคร ใครอะ? นี่ไม่ใช่ประตูห้องน้ำนะ คุณจะรีบร้อนอะไร?" พร้อมกับเสียงเล็กๆดังออกมา ร่างน้อยๆร่างหนึ่ง ก็วิ่งไปที่หน้าประตู คิดจะเปิดออก
"ยัยหนูของคุณนี่ อารมณ์ขันจริงๆ" โม่หานได้ยินเย่เสี่ยวโม่บ่นพึมพำ ก็หัวเราะ เย่หลินยิ้มแล้วก็หัวเราะตามขึ้นมา
เพราะห้องน้ำอยู่ตรงข้ามกับประตูพอดี ดังนั้นเมื่อประตูเปิดออก หนิงเส่าเฉินก็เห็นเย่หลินกับโม่หานอยู่ในห้องน้ำ จริงๆแล้วทั้งสองคนยืนอยู่ใกล้กัน แต่จากมุมที่หนิงเส่าเฉินมองไป โม่หานคนนั้นโอบกอดด้านหลังเย่หลิน และในขณะนี้ ทั้งสองคนไม่รู้พูดอะไรกัน ใบหน้าจึงเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
ใบหน้าหล่อเหลาของเขา เต็มไปด้วยความทุกข์ เม้มริมฝีปากบางๆจนเป็นเส้นตรง เป็นเวลานาน เขาก็พยักหน้า พูดว่า : "เฉินเป้ยอี คุณมันโหดเหี้ยม!" ในน้ำเสียงมีความเย้ยหยันถากถาง มีความโกรธแล้วก็สิ้นหวัง
จากนั้นเย่หลินยังไม่ทันได้ตอบสนองกลับ สิ่งที่เหลือให้เธอเห็น เป็นเพียงแค่ภาพด้านหลังของคนคนนั้น
ถอยออกมาจากในอ้อมแขนของโม่หานโดยจิตใต้สำนึก รีบวิ่งออกไปอย่างโซซัดโซเซ รถสีดำคันนั้นประหนึ่งลูกธนูออกจากสาย ขับออกไปจากสายตาของเธอด้วยความเร็วที่น่าตกตะลึง
เย่หลินกะพริบตาปริบๆ ไหล่ทั้งคู่ตกลง มองดูเหมือนโล่งอก แต่ความจริงแล้วมันเจ็บปวดใจจนไร้เรี่ยวแรง
ตอนนี้เขาไม่อยากจะเชื่อ แต่ก็ต้องเชื่อแล้วใช่ไหม?
"พี่ชาย เหมือนจะเข้าใจอะไรผิดนะ?" โม่หานไม่ได้ไม่รู้เรื่อง ถ้ามองไม่เห็นความผิดปกติของคนทั้งสอง เขาก็โง่เต็มทีแล้ว
เย่หลินส่ายหัว "ไม่มีอะไรหรอก ฉันกับเขามันเป็นอดีตไปแล้ว"
เธอพูดจบก็อยากจะยิ้มให้โม่หาน แต่พบว่าสีหน้ากลับแข็งทื่อ
ถึงแม้ว่าโม่หานจะดูไม่จริงจัง อันที่จริงก็เป็นคนที่มีความรู้ความสามารถ นั่งอยู่กับเธอสักพัก เห็นเธอนั่งใจลอยตลอด ก็เลยหาเหตุผลเพื่อกลับก่อน
เขาไปแล้ว แต่เย่หลินยังนั่งอยู่กับที่
กุมขมับ หลับตาลง เจ็บปวดทรมานไม่หยุด
"เย่หลิน คุณกำลังคิดถึงผู้ชายที่ไม่จริงจังอยู่ใช่ไหม?" เย่เสี่ยวโม่อยู่ตรงหน้าเธอ ปากน้อยๆยังคงดูดขวดนมอยู่ ถามอย่างคลุมเครือเล็กน้อย
"เขามีอะไรดี? เมื่อกี้หนูเห็นท่าทางนั้นของเขา น่ากลัวมาก ลุงโม่คนนี้ดูดีกว่า หนูคิดว่าคุณควรจะลองพิจารณาดู เขาน่าจะสามารถเป็นพ่อของหนูได้"
"อีกอย่าง เอ่อ……” เย่เสี่ยวโม่ดูดนม พูดสักพัก ก็ดูดอีก แล้วพูดเรื่องไร้สาระข้างๆหูเย่หลิน
เย่หลินคิ้วขมวด หงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก "เย่เสี่ยวโม่ คุณให้ฉันอยู่สงบๆสักพักได้ไหม?"
ต่อมาหลายวันมาก เย่หลินก็ไม่ได้พบหนิงเส่าเฉินอีก ชัดเจนว่าเธอน่าจะดีใจ ดีใจที่วันนั้นหนีจากเขาได้สำเร็จ แต่ทำไมในใจถึงเต็มไปด้วยความหดหู่ ทำอะไรก็ล้วนไม่มีชีวิตชีวา
จนกระทั่งหลิวซูเข้ามาหาเธอ
เมื่อหลิวซูมา เธอกำลังปรึกษาหารือกับอู่เล่อเล่อเรื่องความร่วมมือกับอีกบริษัทหนึ่ง จู่ๆหลิวซูก็มุ่งตรงเข้ามา เขาเหวี่ยงทุกอย่างบนโต๊ะของเธอกระเด็นลงกับพื้น
"คุณเย่ หัวใจของคุณทำด้วยหินหรือไง? คุณรู้บ้างไหม เขาทำเพื่อคุณจนตนเองเป็นถึงขนาดไหน? เดิมทีเขาก็นอนไม่หลับอยู่แล้ว หลายปีมานี้เพราะว่าคิดถึงคุณ แต่ละวันๆเขาต้องอาศัยยาถึงจะสามารถหลับลงไปได้ ด้วยเหตุนี้กระเพาะของเขา จึงเกิดมีเลือดออก แต่กลางวันก็ทำแต่งาน เป็นแบบนี้มาตลอด ฉันเห็นเขาก็เหมือนแมลงเม่าบินเข้ากองไฟ อีกอย่าง ถ้าคุณเห็นเขาไม่ได้มีความหมายแล้ว ทำไมคุณต้องมาปรากฏตัวต่อหน้าเขาบ่อยๆด้วย?"
พูดจบ เขาก็หัวเราะเยาะ ลูกกระเดือกขยับ สีหน้ายังคงเคร่งขรึมจนน่ากลัว เขามองไปนอกหน้าต่าง คล้ายกับกำลังคิดอะไร ผ่านไปสักครู่หนึ่ง เขาจึงหันกลับมามองเย่หลิน แล้วหยิบกระดาษแผ่นหนึ่งโยนลงมาบนโต๊ะ "คุณเย่ ถ้าคุณยังมีจิตสำนึกสักหน่อย ฉันก็ขอร้องคุณ ช่วยไปเยี่ยมเขาหน่อยเถอะ!"
พูดจบก็ไม่ให้โอกาสเย่หลินได้พูดอะไร หันตัวกลับแล้วเดินจากไป
ประตูถูกปิดดัง"ปัง"
ครู่ใหญ่เย่หลินก็ยังไม่ได้สติ อู่เล่อเล่อมองหน้าประตู มองๆเย่หลิน ไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่โน้มตัวไปเก็บของบนพื้นขึ้นมา เอากลับมาตั้งที่เดิม มองแผ่นกระดาษที่อยู่บนโต๊ะ แล้วกล่าวว่า: "ประธานเย่ นี่คือที่อยู่ของโรงพยาบาล มีใครเข้าโรงพยาบาลหรือเปล่า?"
เย่หลินนิ่งอึ้งไปทันทีก็เดินเข้าไปสองสามเก้า หยิบกระดาษแผ่นนั้นจากในมืออู่เล่อเล่อ
เธอนั่งลงยองๆกับพื้น กุมศีรษะ อย่างทุกข์ทรมานอย่างมาก
"คุณว่า ฉันต้องไปเยี่ยมไหม?" รู้ดีว่าอู่เล่อเล่อไม่เข้าใจสถานการณ์ของพวกเขา แต่เวลานี้เธอต้องการให้คนคนหนึ่งให้คำตอบกับเธอ บางครั้งเธอก็อยากจะมีชีวิตที่เห็นแก่ตัว อยากจะอยู่ด้วยกันกับหนิงเส่าเฉินโดยไม่สนใจไยดีอะไร
แต่เธอจะไม่สนใจเกาเหวินได้อย่างไร แล้วหนิงเส่าเฉินล่ะ? กลัวว่าเขาจะต้องแบกรับความผิดและโทษตัวเองไปชั่วชีวิต?
คิดถึงตรงนี้แล้ว เธอก็สับสนยุ่งเหยิง ตกลงต้องไปหรือไม่ไปเยี่ยมเขา
ถ้าเธอไปเยี่ยม เรื่องที่ทำก่อนหน้านั้น ก็ไม่กลายเป็นไร้ประโยชน์เหรอ?
แต่ถ้าไม่ไป เธอก็คงไม่สบายใจ
เดิมทีก็คิดว่าอู่เล่อเล่อไม่สามารถบอกอะไรได้ อย่างไรเสียเธอก็เป็นคนโสดอายุสามสิบปีคนหนึ่ง คิดแล้วก็คงไม่มีวิธีที่จะออกความคิดเห็นอะไร
ผลสุดท้าย อู่เล่อเล่อก็โน้มตัวเข้าใกล้ จับเธอลุกขึ้นมา หลังจากนั้นก็เอ่ยว่า: "ไปเยี่ยมเถอะ ตราบใดที่คนคนหนึ่งยังมีชีวิตอยู่ ก็ไม่มีอะไรที่แก้ไขไม่ได้ เกรงว่าเมื่อตายไปแล้ว ไม่ว่าความรักของคุณจะยิ่งใหญ่แค่ไหน คุณจะพยายามอีกกี่ครั้ง ก็คงไม่มีประโยชน์"
พูดจบก็ตบเบาๆที่ไหล่ของเย่หลิน แล้วหันออกจากห้องทำงานไป
เย่หลินมองภาพด้านหลังนั้น ดวงตามืดมนอย่างมาก อู่เล่อเล่อคนนี้น่าจะเป็นคนที่มีเรื่องราวคนหนึ่ง…..
หลังจากเลิกงาน ในที่สุดเย่หลินก็ไปโรงพยาบาล นี่คือโรงพยาบาลฮวาเฉียว เธอเดินเตร่อยู่ชั้นล่างในแผนกผู้ป่วยในเป็นเวลานาน จึงตัดสินใจที่จะเข้าไป
พอดีเห็นคุณหมอคนหนึ่งเดินออกมาจากในห้องผู้ป่วย เธอดึงหมอคนนั้นให้หยุด "สวัสดีค่ะ คุณหมอ ฉันขอถามหน่อยว่า คนคนนี้ ตอนนี้อาการเป็นอย่างไรบ้างคะ?"
คุณหมอคนนั้นมองเธอ มองไปในห้องผู้ป่วย แล้วก็ขมวดคิ้ว "คุณเป็นอะไรกับเขา?"
"ฉัน….ฉันเป็นแม่ของลูกเขา"