เด็กอัจฉริยะ แม่ลึกลับ - ตอนที่ 113 ความเรียบง่ายในสามปีถูกทำลายลง
และในเวลาเดียวกันนี้ โรงพยาบาลในต่างประเทศ เกาไห่ที่อยู่ในอาการโคม่ามาตลอดหนึ่งปี จู่ๆก็รู้สึกตัว
"คุณ……คุณว่าอะไรนะ? เขา……เขาฟื้นแล้วหรอ?" สีหน้าเกาเหวินซีดเผือดลงทันที
"ฟื้น ไม่ได้ฟื้น เพียงแต่ เช้านี้ จู่ๆเขาก็เหมือนรู้สึกตัว ขยับๆมือ มีการแสดงออกทางสีหน้า ดูเจ็บปวดทรมานมาก เราตรวจเขาแล้ว ตอนนี้ไม่มีท่าทีที่จะฟื้น แต่ คุณเกา อย่างน้อยก็แสดงให้เห็นว่า คุณเกาจะสามารถฟื้นขึ้นมาได้อย่างแน่นอน"
ต่อมา หมอพูดว่าอะไร เกาเหวินไม่ได้ยินแล้ว ถ้าเกาไห่ฟื้นแล้ว งั้นเรื่องเหล่านั้นของเธอ……
"หยูจี้ มิเช่นนั้น เราโทรหาพี่ชายลูกพี่ลูกน้องของคุณไหม? คุณบอกถ้าหากว่า……”
"ไม่มีถ้าหากว่า" ชูหยูจี้มองเธอ ในแววตามีความมั่นคง ยืนตัวตรง เดินไปที่เก้าอี้ด้านข้างแล้วนั่งลง พูดตัดบทอ้ายหมี่
ไม่มีถ้าหากว่า ไม่มี……
"แต่ว่า……”
"เธอคงไม่อยากให้ฉันบอกเขา" เขาเข้าใจเย่หลินดี เธอไม่ต้องการทำลายงานแต่งงานของหนิงเส่าเฉินในวันนี้อย่างแน่นอน
ในที่สุด ห้องผ่าตัดก็ถูกเปิดออก
"ญาติของเย่หลิน" ชูหยูจี้ยืนขึ้น ฉับพลัน แวบหนึ่งของร่างกาย ก็ซวนเซ จึงล้มลงนั่งกลับไปอีกครั้ง
อ้ายหมี่มีความสงสารในแววตา เดินเข้าไป ประคองเขา "คุณไม่เป็นไรใช่ไหม?"
"ญาติของเย่หลิน"
ชูหยูจี้โตขนาดนี้แล้ว ก็ไม่เคยผ่านความตึงเครียดและความกลัวเช่นนี้มาก่อนเลย
"ขอแสดงความยินดีด้วยค่ะ คุณแม่และลูกสาวปลอดภัยดี"
"ขอแสดงความยินดีด้วยค่ะ คุณแม่และลูกสาวปลอดภัยดี" ชูหยูจี้รู้สึกว่า ตลอดชีวิตเขานี่คือเสียงที่น่าฟังที่สุดที่เคยได้ยินมา
เขาหัวเราะเหมือนกับเด็กๆ หันมา เช็ดน้ำตา ต่อมา ก็ดึงอ้ายหมี่มากอด "อ้ายหมี่ คุณได้ยินไหม เธอบอกว่า คุณแม่และลูกสาวปลอดภัยดี"
อ้ายหมี่พยักหน้า ชั่วขณะนี้ เธออิจฉาเย่หลินจริงๆเลย ที่สามารถทำให้ผู้ชายคนหนึ่ง ทำเพื่อเธอได้ขนาดนี้
แต่ความรักจากก้นบึ้งหัวใจของชายคนนี้ ก็แข็งแกร่งมาก
รู้จัดเจนว่าเย่หลินรักหนิงเส่าเฉิน รู้ชัดเจนว่า เธอกับเขา ไม่ได้รักกัน แต่ว่า ยังคงไม่ลังเล ปีแล้วปีเล่า ผู้ชายที่ยังคงให้ความสำคัญกับความรู้สึกที่มีต่อกันขนาดนี้ เธอเชื่อว่า ก็ไม่ได้แย่
เธอยิ่งเชื่อว่า เวลานี้เขาไม่มีความรักให้เธอ แต่ เธอไม่กลัว เธอรอได้ ต่อให้ต้องรอปีแล้ว ปีเล่า
สามปีต่อมา
"พี่ซวี่ คุณช่วยส่งเสี่ยวโม่ไปโรงเรียนอนุบาลด้วยนะ วันนี้ที่บริษัทฉันมีประชุมตอนเช้า" เย่หลินจับกระเป๋าบนโซฟาขึ้นมา รีบไปที่โต๊ะอาหาร หยิบหมั่นโถวหนึ่งอัน กินไปด้วยเดินออกข้างนอกไปด้วย "เสี่ยวโม่ อย่าลืมดื่มนมนะ……”
"แม่ เดินทางปลอดภัยนะ อย่าลืมดูสัญญาณไฟจราจรแล้ค่อยเดินทาง……” เย่เสี่ยวโม่ขาสั้นๆวิ่งออหมาจากห้อง มองเย่หลินเปลี่ยนรองเท้า แล้วพูดกำชับ
คิ้วเข้มๆตาโตๆ คุณสมบัติบนใบหน้าที่ปราณีตงดงาม 70-80% เหมือพ่อของเธอ
ถึงจะเห็นอยู่ทุกวัน ชั่วพริบตานี้ของเย่หลิน ก็ปรากฎความคิดในชั่วขณะ
พระเจ้าปฏิบัติต่อเธอ ด้วยความเมตตากรุณา หลายปีมานี้ที่จากหนิงเส่าเฉินมา ถ้าข้างกายไม่มีเย่เสี่ยวโม่ เธอก็คิดไม่ออกเลยว่า ตนเองจะทนความทุกข์ยากได้ยังไง
"เย่เสี่ยวโม่ ฉันไม่ใช่เด็ก!" ไม่เหมือนกับหนิงเสี่ยวซีที่พูดน้อย เย่เสี่ยวโม่พูดมากเป็นพิเศษ ถึงแม้จะไม่ได้IQ190เหมือนหนิงเสี่ยวซี แต่ไอคิวก็ไม่ได้ต่ำ
โดยเฉพาะความสามารถในการเลียนแบบภาษา ก็ยอดเยี่ยมอย่างน่าประหลาดใจ มักจะตอกหน้าคนจนแทบสำลักตาย
"ฉันรู้ว่าคุณไม่ใช่เด็ก แต่มักจะคิดถึงผู้ชายคนนั้นที่ทอดทิ้งไป คิดจนเดินชนกำแพงแล้วยังไม่รู้เลย" เด็กคนนี้มองเธออย่างไม่แยแส
เย่หลินขมวดคิ้ว หยุดการกระทำที่จะปิดประตู
"เย่เสี่ยวโม่ เขาเป็นพ่อของคุณนะ" เธอพูดแก้ไขเรื่องที่ถูกต้อง เธอรับประกันได้เลยว่า หลายปีมานี้ แต่ไหนแต่ไรเมื่อเธออยู่ต่อหน้าเย่เสี่ยวโม่ ไม่เคยพูดเรื่องไม่ดีของหนิงเส่าเฉินเลยสักคำ
ตั้งแต่เย่เสี่ยวโม่รู้เรื่องขึ้นมา เธอก็ปลูกฝังเธอว่า เธอนั้นไม่มีพ่อ เพราะเหตุผลที่เฉพาะบางอย่าง พวกเขาจึงไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้ แต่ ถ้าพ่อรู้ว่ามีเธอ ก็จะต้องรักเธออย่างแน่นอน
เธอคิดว่าความจนปัญญาของคนโต ไม่ใช่ความผิด แล้วก็ไม่เกี่ยวกับเด็ก
แต่เย่เสี่ยวโม่คล้ายกับมีความทรงจำที่ไม่ดีต่อหนิงเส่าเฉิน "ต่อไป คุณดูละครให้น้อยๆหน่อยนะ" พูดประโยคนี้แล้ว เธอก็หดหู่ใจเล็กน้อย ชำเลืองมองเธอ รู้สึกจนใจเล็กน้อย ลุ่มหลงเล็กน้อย แต่ที่มาก ก็คือทุกข์ใจ
หลายปีมานี้ เธอมีเวลาอยู่เป็นเพื่อนเธอน้อยมาก ถึงแม้ว่าพี่ซวี่จะดูแลเด็กได้ดีมาก แต่ก็ไม่ใช่คนที่ชอบพูดมาก ดังนั้น การติดต่อทางภาษาของเย่เสี่ยวโม่ แทบจะทั้งหมดล้วนมาจากในทีวี
"เย่หลิน คุณพูดอะไรโดยไม่ไตร่ตรองเลยหรอ? คุณทำเพื่อให้กำเนิดฉัน ชีวิตก็แทบจะไม่มีแล้ว เขาดีงั้นหรอ? ถ้าเขาดี เวลานั้น เขาไปอยู่ที่ไหนล่ะ? ถ้าไม่ได้พ่อชูของฉัน ชีวิตน้อยๆของฉัน ก็ต้องตายตั้งแต่ในท้องของคุณแล้ว"
พูดจบ ใช้สายตาที่แข็งแกร่งดั่งเหล็กกล้าจ้องมองเย่หลิน "จะว่าไป คุณดูสิหลายปีมานี้ คุณคิดว่าเขาคิดว่าตายไปแล้ว คนก็แต่งงานไปแล้ว เมื่อวานคุณพูดถึงในละครนั้นว่าอะไร ปัญญาอ่อน……"
เย่หลินหมดอาลัยตายอยากในช่ะวพริบตา คำพูดที่มากด้วยประสบการณ์เช่นนี้ เธอคิดแล้วจะไม่ประหลาดใจได้ยังไง คาดไม่ถึงว่าเด็กสามขวบคนหนึ่งจะพูดออกมา?
แต่ คำพูดของเธอ ไม่ได้ผิด รู้สึกสะอึกไปชั่วขณะ ปีนั้นที่คลอดเย่เสี่ยวโม่ อันตรายมากจริงๆ หมอบอกว่า ก่อนที่เธอจะคลอด ก็หมดสติไป ถ้าไม่ใช่จิตใจที่แข็งแกร่งของเธอในตอนหลัง เธอก็อาจจะไม่มีชีวิตอยู่แล้วจริงๆ
เรื่องนี้ เธอต้องขอบคุณชูหยูจี้ แต่ เธอก็ไม่โทษหนิงเส่าเฉิน ถึงอย่างไร คนที่ไม่รู้ ก็ไม่ผิด
"เย่เสี่ยวโม่ ถ้าคุณพูดแบบนี้กับแม่อีก แม่จะโกรธจริงๆแล้วนะ" พรรสรรค์ของเย่เสี่ยวโม่คือสามารถพูดได้ตั้งแต่ขวบกว่าๆ เริ่มปรากฎให้เห็นชัดยิ่งขึ้น มักจะเลียนแบบคำพูดของคนเหล่านั้นในทีวี แล้วยังเลียนแบบได้เหมือนจริง ทำให้เธอกลืนไม่เข้าคายไม่ออก แต่ ไม่ยอมรับไม่ได้ว่า เพราะเธอ ชีวิตจึงมีความสุข
"ช่างเถอะ โมโหงั้นหรอ? คุณน่ะ ปากร้ายใจดี" หันกลับไปมองเธออย่างเหยียดหยามทีหนึ่ง เย่เสี่ยวโม่ก็ปีนขึ้นไปบนม้านั่ง แล้วก็หยิบขนมปังชิ้นเล็กใส่เข้าปาก
เย่หลินส่ายหน้า "ตอนเย็นแม่ต้องทำงานล่วงเวลา คุณนอนเร็วหน่อยนะ" เธอมองไปยังเธอ ยิ้มอย่างจนใจ หยิบกระเป๋าแล้วออกจากบ้านไป
"ประธานเย่ ตอนเย็นลูกค้าคนนั้น ที่นัดคุณไว้ล่วงหน้าครึ่งเดือน แต่เธอบอกว่ามีเรื่องเร่งด่วนที่คาดไม่ถึงของตนเอง จึงมาบริษัทไม่ได้แล้ว อยากจะขอให้คุณมาที่สถานที่แต่งหน้า
เย่หลินเพิ่งมาถึงบริษัท วางกระเป๋า ผู้ช่วยอู่เล่อเล่อ ก็เข้ามาต้อนรับ
เย่หลินพยักหน้า นี่คืองานที่ต้องจัดการประจำวัน เธอไม่ได้มีปฏิกริยาตอบสนองมากนัก แต่ยังไงก็ไม่คาดคิด การมีชีวิตที่เรียบๆธรรมดามาสามปี คืนนี้ เริ่มถูกทำให้จบลง