เด็กอัจฉริยะ แม่ลึกลับ - ตอนที่ 100 น้าของหนิงเส่าเฉินมองออกว่าเธอปิดบังใบหน้าไว้
"คุณ……ครู……” เฉินเป้ยอีไม่ว่าอย่างไรก็ไม่เคยคาดคิด ว่าวันหนึ่ง คนแรกที่มองเธอออก นึกไม่ถึงว่าจะเป็นเหอเฟย
"แต่งหน้าเก่งนะ!" เหอเฟยกล่าวชื่นชม แต่สีหน้ายังคงนิ่งเฉย เฉินเป้ยอีก้มหน้าลง กัดริมฝีปากล่าง เวลานี้ไม่รู้ว่าควรจะตอบรับอย่างไร
"เมื่อฉันใกล้ชิดกับคุณในครั้งนั้น ฉันก็พบว่าคุณปิดบังใบหน้าที่แท้จริงของตนเองไว้ ตอนนั้น ฉันไม่ได้เปิดโปงคุณ เพราะฉันคิดว่าทุกๆคน ล้วนมีความลับส่วนตัวของตนเอง ฉันไม่ทีสิทธ์ที่จะไปก้าวก่าย" เธอลุกขึ้น เดินไปรอบๆเฉินเป้ยอี เอียงใบหน้าของเธอ แล้วมองอย่างละเอียดถี่ถ้วน จึงพูดต่อว่า :
"แต่ว่า ตอนนี้คุณกับอาเฉินมีความสัมพันธ์กันอย่างนี้ ลูกของอาเฉินนั้น ก็มีความรู้สึกที่ดีต่อกันมาตลอด คนที่ห่วงใยเขา เขาไม่เคยสงสัยใดๆ แต่……ฉันเป็นน้าของเขา ฉันคิดว่า ฉันจนปัญญา ที่จะนั่งดูเฉยๆโดยไม่สนใจได้ ดังนั้น……” เธอนำขวดน้ำยานั้นมาวางไว้ตรงหน้าเธออีกครั้ง
เฉินเป้ยอีรู้ดีว่านี่หมายความว่าอะไร
ลังเลอยู่เล็กน้อย เธอสูดหายใจเข้าลึก แล้วหยิบสำลีเช็ดหน้าจากด้านในโต๊ะมาอย่างไม่ลังเล จากนั้นก็เทน้ำยาล้างเครื่องสำอางให้เต็ม มือที่สั่นเล็กน้อย ดังนั้น จึงเทออกมาจำนวนมาก น้ายาที่เย็นเฉียบ ไหลลงตามแนวนิ้วไปถึงข้อมมือ ความเย็นยะเยือกราวกับว่าแทรกซึมเข้าไปในหัวใจ มันช่างหนาวเหน็บ
ตามที่สำลีเช็ดหน้าเช็ดไปมา ใบหน้าที่สะอาดบริสุทธิ์หมดจดก็ปรากฏตรงหน้าเหอเฟย
เดิมทีเธอเคยคิดว่า ผู้หญิงคนนี้มองใกล้ๆหน้าตาก็ไม่ได้แย่ ใบหน้าจริงๆน่าจะพอใช้ได้
แต่ เมื่อได้เห็นใบหน้าที่แท้จริง แม้ว่าเธอเคยเห็นใบหน้าที่สวยงามทุกรูปแบบ ตอนนี้ก็ตกตะลึงจนต้องมองแล้วมองอีก
เพียงแค่……
"ชัดเจนว่ารูปร่างหน้าตางดงามขนาดนี้ ทำไมถึงต้องทำให้ตนเองเป็นแบบนั้นด้วย?"
คนที่เธอเคยเจอ จะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อปกปิดจุดด้อยของตนเอง ทว่าครั้งนี้ที่เจอ ใช้การแต่งหน้าเพื่อปกปิดจุดเด่นของตนเอง
เฉินเป้ยอีวางสำลีในมือลงบนโต๊ะ เป็นเวลานาน จึงหันกลับมา มองไปที่เหอเฟย แล้วพูดว่า : "คุณน้า คุณไม่รู้สึกว่าเคยเห็นหน้าฉันมาก่อนหรอ?" เธอเรียกว่าคุณน้า เพราะเธอเป็นน้าของหนิงเส่าเฉิน เช่นนั้นหนิงเสี่ยวซี เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่เคยเจอเธอมาก่อน
ในตอนแรกเหอเฟยขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ
แต่หลังจากจ้องมองเธอไม่กี่วินาที ก็หลังตรง ชั่วขณะ ใบหน้าก็เต็มไปด้วยความตกตะลึง
"คุณ……คุณคือแม่ของเสี่ยวซีใช่ไหม?" เรื่องของเสี่ยวซีในปีนั้น จากปากของพี่สาวเธอ ก็เคยได้ยินมาบ้าง แต่ว่า แม้แต่พี่สาวก็บอกว่าไม่มีใครเคยพบเห็นแม่ของหนิงเสี่ยวซีจริงๆ
เฉินเป้ยอีพบว่า ถ้าเธอล้างเครื่องสำอางออก ก็จะบอกคนทั้งโลกได้โดยไม่ตั้งใจ ถึงตัวตนของตนเอง
"งั้น ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ฉันมองออกว่าอาเฉินตกหลุมรักคุณแล้ว ทำไมคุณไม่บอกความจริงกับเขาล่ะ? ฉันคิดว่า เขาน่าจะดีใจมาก เช่นนี้ พวกคุณจะได้อยู่ด้วยกันครบสามคน ไม่ใช่เรื่องที่น่ายินดีของทุกคนหรอ? ทำไมคุณต้องเลือกที่จะปกปิดด้วยล่ะ?"
เฉิยเป้ยอีเม้มริมฝีปากบางๆ มุมปากยกขึ้น ปรากฏรอยยิ้มบนใบหน้า เธอไม่เคยนึกถึงสิ่งเหล่านี้ซะที่ไหนกัน
แต่ว่า…..
"เขามีคู่หมั้นแล้ว ระหว่างพวกเรามันเป็นไปไม่ได้" เธอไม่อยากบอกเหอเฟยว่า แม่ไม่ให้เธอพบกับหนิงเส่าเฉินด้วยโฉมหน้าที่แท้จริง แม้ว่าเธอจะหาเหตุผลไม่ได้ แต่ เธอก็เชื่อว่าแม่ไม่มีทางทำร้ายเธอ
"ที่คุณพูดคือเกาเหวินหรอ? อาเฉินและพี่เขยของฉัน นั่นก็ไม่รู้ประสาเลย มีวิธีตั้งมากมายที่จะตอบแทนบุญคุณ คนทั้งสองจะต้องใช้วิธีแบบนี้ตอบแทนบุญคุณ ก็รู้อยู่แล้วว่าอันที่จริงแล้วเกาเหวิน….." จู่ๆเหอเฟยก็หยุดพูด
หลังจากนั้นนิ้วมือที่เรียวยาวก็ปิดลงบนปาก กระแอมเบาๆเล็กน้อย
"เป้ยอี เพราะสาเหตุนี้ ดังนั้น จึงปกปิดโฉมหน้าของตนเองมาตลอดหรอ?" น้ำเสียงของเหอเฟย ชัดเจนว่านุ่มนวลกว่าเมื่อกี้มาก ในที่สุดเฉินเป้ยอีก็โล่งใจ
"ก็ไม่เชิง หลักๆก็คือ ฉันก็ยังไม่รู้ชัดเจนว่าเพราะเหตุใดตระกูงหนิงถึงต้องการหนิงเสี่ยวซีด้วยการใช้วิธีแบบนั้น" เธอเดินเข้าไป ดึมือของเหอเฟย "ดังนั้น คุณน้า คุณช่วยฉันเก็บไว้เป็นความลับได้ไหม? ฉันกับเส่าเฉิน กับตระกูลหนิง ฉันไม่ความคิดใดๆที่ไม่ดีอย่างแน่นอน เสี่ยวซีเป็นลูกชายของฉัน เดิมทีฉันก็คิดที่จะดูแลเขาปกป้องอยู่ข้างกายเขาในฐานะพี่เลี้ยง สุดท้าย…..คาดไม่ถึงว่า……"
บนใบหน้าของเธอแดงระเรื่อ
"สุดท้ายก็ถูกเสี่ยวซีไอ้หนูนั่น ทำให้เกิดความสัมพันธ์กับอาเฉินใช่ไหม?"
เฉินเป้ยอีขมวดคิ้ว กล่าวอย่างประหลาดใจว่า: "คุณน้า คุณรู้เรื่องนี้ได้ยังไง?" มองจากการแสดงออกก่อนหน้านี้ของเหอเฟย เธอยังคิดว่าเธอไม่รู้เรื่องอะไรเลย
เหอเฟยดึงเธอนั่งลง ตีเบาๆบนหลังมือที่ละเอียดและอ่อนนุ่มของเธอ "ฉันและแม่ของอาเฉินอายุห่างกัน 15 ปี และอายุห่างกับอาเฉิน 10 ปี ดังนั้น ความผูกพันธ์ของพวกเราค่อนข้างดี ก่อนหน้านี้ ฉันไปเยี่ยมเขาที่ตระกูลหนิง เวลานั้นคุณเพิ่งจะออก ฉันได้ฟังอาเฉิยเอ่ยถึงสองคำ เวลานั้นยังคิดว่า เสี่ยวซีเด็กคนนี้ทำไมถึงวุ่นวายขนาดนี้ ฉันไม่รู้ว่าพี่เลี้ยงคนนั้นเป็นคุณ…….ความจริง และพวกคุณยังเป็นแม่ลูกกันจริงๆด้วย!"
เอ่ยถึงหนิงเสี่ยวซี ในสายตาของเฉินเป้ยอีก็ปรากฎความอ่อนโยนในชั่วพริบตา ยิ้มน้อยๆ "เขาเด็กเกินไป เลยคิดเองว่า นั่นก็เพื่อให้ดีต่อฉัน อยากจะพาฉันและเส่าเฉินให้มาอยู่ด้วยกัน"
"โอเคร คุณตอบขอบคุณ ที่คุณมีลูกชายที่ดีแบบนั้น ดูสิ ตอนนี้อาเฉินของพวกเราหลงขนาดไหน? คุณรู้ไหม? เขาตื่นแต่เช้าตรู่โทรมาหาฉัน ขอร้องให้ฉันต้องยอมรับคุณ เขาโตมาขนาดนี้แล้ว ยังไม่เคยขอร้องคนเพื่อใครเลย!"
เหอเฟยไม่เคยเชื่อในโชคชะตา ความรัก ของที่ไม่สำคัญเหล่านี้
แต่เวลานี้มองผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า เธอคล้ายกับจะเชื่อแล้วว่า โฉมหน้าแบบนั้น สถานะแบบนั้น คาดไม่ถึงว่าจะสามารถทำให้หนิงเส่าเฉินที่เย่อหยิ่งเกิดความคิดที่จะเปลี่ยนใจได้ ถ้าไม่ใช่ความรัก แล้วจะอธิบายว่ายังไง?
เฉินเป้ยอีขอบตาแดงก่ำด้วยความซาบซึ้งใจ
"เอาล่ะ คุณอย่าร้องไห้ หากอาเฉินรู้เข้า จะคิดว่าฉันรังแกคุณ" เหอเฟยลุกขึ้น ตบเบาๆที่บ่าของเฉินเป้ยอี หลังจากนั้นก็เครื่องสำอางชุดหนึ่งออกมาจากในลิ้นชัก "มา แต่งหน้าหน่อย คุณวางใจได้ ปากของฉันจะปิดสนิท"
หลังจากเดินไปถึงหน้าประตู เธอก็หันกลับมาพูดว่า: เป้ยอี อาเฉินคุ้มค่าที่คุณจะรักและทะนุถนอม คุณอย่าทำให้เขาเสียใจ" หยุดลงเล็กน้อย เธอก็กล่าวต่อไปว่า: "ส่วนเกาเหวิน ฉันคิดว่า คุณไม่ต้องเอาเธอมาใส่ใจให้มาก บางด้าน บางเรื่อง เทียบกับคุณไม่ได้เลย"
ความหมายในคำพูดเธอ กับบางอย่างในคำพูด ทำให้เฉินเป้ยอีไม่ค่อยเข้าใจเล็กน้อย แต่ ชัดเจนอย่างมากว่า เหอเฟยก็ไม่อยากจะเปิดเผยกับเธอ เฉินเป้ยอียิ้มๆกับเธอ แต่ในใจก็งุนงงอย่างมาก
เกาเหวินคือคนที่หนิงเส่าเฉินเตรียมจะแต่งงานด้วย ในเมื่อพ่อหนิงสามารถร่วมหุ้นกับเธอได้ ให้เธอมีหนิงเสี่ยวซี แน่นอนว่าต้องยอมรับในสถานะนี้ของเธอ อีกทั้งคนก็งดงาม ถึงแม้ความคิดจะลึกลับซับซ้อน แต่ กับหนิงเส้าเฉินก็เอาใจใส่ดูแลอย่างอ่อนโยน ในสายตาของคนในครอบครัว อาจจะ เป็นความคิดจิตใจที่บริสุทธิ์
เวลานี้เหอเฟยบอกว่าเกาเหวินเทียบกับเธอไม่ได้เลยงั้นหรอ? ตกลง มันหมายความว่ายังไง?