เดี๋ยวจะเจอดี คุณสามีตัวเเสบ - ตอนที่ 28 แค่คบเล่นๆก็พอ อย่าพูดคุยเรื่องความรัก
“สู่เสี่ยวหลง เธอถูกใจชู้รักขนาดนั้นเลยเหรอ เพื่อชู้รัก แม้กระทั่งเรื่องนี้เธอก็ใช้มาบังคับฉัน?”จังเฉิงมองฉันด้วยดวงตาแดงก่ำ มือที่อยู่ด้านข้างกำหมัดแน่น ด้านบนเห็นเส้นเลือดขึ้นรุนแรง
“จังเฉิง นี่เป็นปัญหาฉันกับคุณ ไม่เกี่ยวข้องกับคนอื่น ตั้งแต่ลูกของพวกเราจากไป ระหว่างพวกเราก็หมดวาสนาต่อกันแล้ว”
“คุณจะเลือกหรือไม่เลือก?”ฉันมองจังเฉิงด้วยสีหน้าสงบนิ่ง
“สู่เสี่ยวหลง เธออยากไปจากฉันขนาดนั้นเลย?”จังเฉิงจ้องมองฉันไม่วางตา——-
ฉันไม่พูดจา เพราะพูดอธิบายทัศนคติไปทุกอย่างแล้ว
มองเห็นจังเฉิงหัวเราะเสียงดังขึ้นมา หัวเราะจนน้ำตาไหล สุดท้ายก็มองฉันอย่างโหดเหี้ยม พูดประโยคทิ้งไว้“สู่เสี่ยวหลง ถึงแม้ว่าเธอจะตายก็เป็นคนของฉันตระกูลจัง”
พูดจบ ก็หมุนตัวออกไป
คำพูดของจังเฉิงทำให้หัวใจของฉันเต้นเร็วขึ้นมากะทันหัน นับตั้งแต่ที่จังเฉิงลงมือกับฉัน ฉันก็ไม่สามารถใช้สายตาแบบเดิมมองเขาได้อีก สำหรับเขา ฉันจำเป็นต้องระวังตัวตลอดเวลา
หลังจากสามวัน เริ่นเสี่ยวนำหนังสือข้อตกลงการหย่ามาให้ฉัน
“จังเฉิงยินยอมแล้ว?”ฉันขมวดคิ้วมองไปที่เริ่นเสี่ยว
เริ่นเสี่ยวยิ้มเย็น“เขาจะสามารถไม่ยินยอมได้เหรอ?”
ฉันสังหรณ์ใจว่าข้างในอาจะมีอะไรไม่ดีแน่นอน มีความสนใจขึ้นมา ถามเธอ“หรือว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
เริ่นเสี่ยวก็เก็บไว้ไม่ไหว พูดกับฉัน“ไม่รู้ว่าหลินหลิงไปตรวจครรภ์ตั้งแต่เมื่อไหร่ พูดว่าลูกในท้องเป็นผู้ชาย พูดว่าถ้าหากจังเฉิงไม่ช่วยเธอ เธอก็จะเอาเด็กออก”
ฉันไม่เคยคิดว่าหลินหลิงจะโหดร้ายขนาดนี้ คาดไม่ถึงว่าจะใช้อุบายนี้ขู่จังเฉิง ทำเหมือนว่าลูกที่อยู่ในท้องของเธอไม่ใช่ลูกตัวเอง กลับจะเหมือนสามารถจับจังเฉิงไว้ในอุ้งมือได้ทุกเมื่อ
“เรื่องนี้คนตระกูลจังรู้ไหม?”
“จะไม่รู้ได้ยังไงล่ะ ตอนนี้อยากจะปิดก็ปิดไม่อยู่แล้ว แม่สามีเธอคิดถึงหลานจนจะเป็นบ้าแล้ว แน่นอนว่ายืนข้างหลินหลิง ตะโกนว่าจะกำจัดเธอออกไป ไม่อย่างนั้น จะหย่าได้ง่ายดายแบบนี้เหรอ”
พูดพลาง เริ่นเสี่ยวก็ส่งหนังสือข้อตกลงการหย่ามาให้ฉันดู
“แบบนี้ก็ดี เพียงแค่สามารถออกมาจากตระกูลนั้นได้ก็ดีแล้ว”
ฉันก้มหน้ามองหนังสือข้อตกลงการหย่า ไม่มีข้อผูกมัดใดๆจริงๆ นอกจากจะสามารถหยิบเสื้อผ้าของใช้ส่วนตัวแล้ว ก็ไม่ได้อะไรอีกเลย เพียงแต่แบบนี้ก็ดี ในใจฉันก็ดีใจมาก ออกจากตระกูลนั้นได้ ก็เหมือนกับหลุดออกจากเครื่องพันธนาการ ท่วมตัวรู้สึกผ่อนคลาย
ฉันหยิบปากกาหมึกสีดำเซ็นชื่อตัวเองลงไปด้านบน
“ตอนนี้ฉันออกจากโรงพยาบาลไม่ได้ เรื่องที่เหลือยังต้องรบกวนเธออีก”ฉันรู้สึกผิดจึงพูดขอโทษเริ่นเสี่ยว
“ไม่เป็นไร พวกเราเป็นอะไรกันล่ะ!”
ดูเหมือนว่าวิธีนี้เท่านั้นที่จะบรรเทาความเจ็บปวดจากความรักในใจของฉันได้
บางทีอาจจะปลดเครื่องพันธนาการของจังเฉิงโดยสิ้นเชิง ความรู้สึกที่ฉันมีต่อเซิ่งซื่อหาวเหมือนวิ่งออกจากกรง ยิ่งควบคุมไม่ได้
สุดท้ายเริ่นเสี่ยวก็ถอนหายใจออกมา มองฉัน“สู่เสี่ยวหลง ครั้งนี้เธอจบแน่”
ฉันประหลาดใจ“ทำไม?”
“สู่เสี่ยวหลง ตอนแรกไม่ใช่พูดว่าดีมากเหรอ?ไม่คุยเรื่องเงินทอง ไม่คุยเรื่องความรัก ทำไมตอนนี้กลุ้มใจ?”เริ่นเสี่ยวพูดกับฉันด้วยสีหน้าซับซ้อน
ได้ยินคำพูดของเริ่นเสี่ยว ในใจฉันก็รู้สึกแน่นขึ้น ใช่!ตอนแรกพูดกันดีแล้ว
“เริ่นเสี่ยว ฉันก็พึ่งจะค้นพบ มีบางครั้ง มีคน เข้ามาอยู่ในหัวใจของคุณโดยไม่รู้ตัว เวลาที่คุณค้นพบ ก็สายไปแล้ว”ฉันมองเริ่นเสี่ยวด้วยสีหน้าใจคอเหี่ยวแห้ง ในใจก็มีความเลอะเลือน
ความแตกต่างระหว่างฉันกับเซิ่งซื่อหาวห่างไกลกันมากและไม่ต้องพูดถึงฐานะหย่าตอนนี้ ก่อนที่จะพบกับจังเฉิง นั่นก็ไม่สามารถเทียบกับฐานะที่สูงกว่าได้
“เรื่องนี้ ฉันก็ไม่รู้ว่าจะแนะนำยังไง แต่ไม่ว่าจะเป็นยังไง ฉันก็ยังหวังให้เธอดูแลตัวเองให้ดี เธอกับเซิ่งซื่อหาวคบเล่นๆก็พอ อย่าจริงจัง”
เริ่นเสี่ยวพูดจบ ก็ตบมือฉันเบาๆ หลังจากนั้นก็ลุกขึ้นยืนพูดกับฉัน“ฉันจะไปช่วยเธอดำเนินขั้นตอน ทำให้เธอหลุดพ้นให้เร็วที่สุด”
คบเล่นๆ อย่าจริงจัง?
หรือว่าในใจของเซิ่งซื่อหาวก็คิดแบบนี้?ฉันจมอยู่กับความคิดหวาดผวาในใจ แต่เริ่นเสี่ยวออกไปโดยไม่ได้สังเกตเห็น
เวลาตอนบ่าย พ่อแม่ฉันก็มาอีก ครั้งนี้สีหน้าพวกเขาไม่ค่อยดี คิดว่าน่าจะรู้เรื่องที่ฉันหย่ากับจังเฉิงแล้ว
“สู่เสี่ยวหลง เรื่องหย่าเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้คาดไม่ถึงว่าเธอจะไม่ปรึกษาพวกเรา“พ่อฉันมองฉันด้วยสีหน้ามืดครึ้ม น้ำเสียงผิดหวังกับฉัน
“ลูกคนนี้ ไม่ว่าจะแต่งงานหรือหย่า ก็ไม่เคยจะฟังคำพูดของพวกเรา มาถึงตอนนี้แล้ว เธอพูดสิว่ายังเหลืออะไรอีก?ออกจากโรงพยาบาล แม้แต่ที่ซุกหัวนอนก็ไม่มี…”แม่ฉันพูดไปพูดมาก็ร้องไห้อีก
“คุณจะสนใจเธอทำไม เธอไม่ใช่ปีกกล้าขาแข็งแรงเหรอ?หลังจากนี้ถึงจะไม่มีที่ซุกหัวนอนก็ไม่ต้องกลับมาที่บ้าน พวกเราตระกูลสู่ไม่มีลูกสาวแบบเธอ”พ่อฉันปลอบโยนแม่ฉัน และหยิบยกขึ้นมาต่อว่าฉัน
น้ำตาของฉันอดไม่ได้ที่จะไหลออกมา ไม่ใช่ฉันไม่อยากจะบอกเรื่องนี้พวกเขา แต่ถึงรู้ พวกเขาก็ไม่ยอมแน่นอน ถึงเวลาก็จะทะเลาะกันใหญ่โตอีก
คิดไม่ถึงว่า ตอนนี้ก็ยังเป็นเหมือนเดิม รอยแตกต่างระหว่างฉันกับพวกเขาดูเหมือนจะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ฉันพยายามอยากจะพูดเสริม แต่สุดท้ายก็เสียแรงเปล่า
พวกเขาออกไปช่วงบ่าย เมื่อฉันรอให้เริ่นเสี่ยวไปเยี่ยมเยือนพวกเขาแทนฉัน พวกเขาก็เก็บของออกจากโรงแรมไปแล้ว ก่อนที่จะไปก็ไม่ได้บอกลาฉันสักคำ เหมือนกับว่าไม่ต้องฉันลูกสาวคนนี้แล้วจริงๆ
ฉันนอนอยู่ในโรงพยาบาล นึกถึงเวลาที่ฉันเป็นเด็ก คล้ายกับว่าในความประทับใจของฉัน เหมือนพวกเขาเคยยิ้มให้ฉันน้อยมาก และน้อยมากที่จะได้รับคำชมจากพวกเขา ชีวิตของฉันอยู่ภายในเงาเมื่ออายุสิบปีก่อนเสมอ ถูกพวกเขาหยิบมาเปรียบเทียบ
ฉันเมื่อสิบปีก่อน แม้ว่าจะทำตัวซนและดุร้ายเหมือนเด็กผู้ชาย แต่ในสายตาของพวกเขาก็ดีเลิศที่สุด
ฉันใช้โทรศัพท์โทรหาพวกเขา โทรไปกี่ครั้งก็ถูกตัดสาย สุดท้ายจำเป็นต้อง ส่งข้อความยาวไปหาพวกเขา
ในชีวิตของฉัน ผ่านไปอย่างรีบร้อน สุดท้ายก็กลับไปกลับมา ฉันใช้นิ้วมือนับ ข้างกายของฉันเหลือเพียงแค่เริ่นเสี่ยวกับเซิ่งซื่อหาวสองคน
แต่เมื่อนึกถึงคำพูดของเริ่นเสี่ยว ในใจฉันก็ร้อนรนไม่เป็นสุข
ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา สุดท้ายก็อดไม่ได้ที่จะต่อสายหาเซิ่งซื่อหาว
ในสายดังอยู่นานมาก ก็มีคนรับโทรศัพท์ เพียงแต่ในสายโทรศัพท์เป็นเสียงของหลินอี้ดังเข้ามา“ประธานเซิ่งกำลังประชุม”
“คุณมีเรื่องอะไรสำคัญไหม?ถ้ามี ผมสามารถช่วยบอกต่อได้”
“ไม่ต้อง ความจริงก็ไม่ได้มีเรื่องสำคัญอะไร คุณก็ไม่ต้องไปรบกวนเขาหรอก”
พูดจบ ฉันก็วางสายโทรศัพท์ ในใจกลัดกลุ้มใจคล้ายกับมีอะไรขาดหายไป
เวลาตอนเย็น ก็นอนไม่หลับพลิกตัวไปมา ฉันก็โทรศัพท์ไปหาเซิ่งซื่อหาว รอสายอยู่หลายนาที ก็มีคนรับสาย ในใจฉันก็ตื่นเต้นขึ้นมา เวลาที่กำลังจะพูดออกไป เสียงผู้หญิงดังเข้ามาจากในสายโทรศัพท์ก็ “ฮัลโหล!คุณเป็นใคร?”