เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁] - ตอนที่ 42 ผู้เล่นนิรนาม!
บทที่ 42 ผู้เล่นนิรนาม!
“พลังจิต!”
ซูเย่หรี่ตาลงเล็กน้อย
สิ่งที่เขาเห็นในตอนนี้ก็คือระดับของพลังจิตที่แตกต่างกันไปในผู้เล่นแต่ละคน
ผู้ที่มีพลังจิตที่เข้มแข็งจะแข็งแกร่งกว่าผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความเร็ว การควบคุมร่างกาย หรือความเสียหายที่สร้างขึ้นเมื่อโจมตีตั๊กแตนกลายพันธุ์
ความเสียหายที่เกิดจากผู้อ่อนแอนั้นไม่สูงมากนัก
“คนจากทีมสืบสวนบอกให้เราเล่นเกมนี้”
“แถมยังมีพลังลึกลับบางอย่างที่แอบตรวจสอบพลังจิตของผู้เล่นตอนเข้าเกมอีก”
“ดูเหมือนว่าความสามารถในเกมจะเกี่ยวข้องกับพลังจิตของผู้เล่นแต่ละคน”
“น่าสนใจ”
ซูเย่ยิ้มออกมาอย่างซุกซน จากนั้นจึงเดินทางต่อไปยังภูเขาที่อยู่เบื้องหน้า
ทันใดนั้นเอง
“ฟึ่บ—” เสียงกระโดดของบางอย่างดังขึ้นมาจากด้านข้างของเขา
ชายหนุ่มเพียงจับเข้าที่ด้ามดาบ และฟันขึ้นเป็นแนวทแยง
“ฉึก” ตั๊กแตนกลายพันธุ์ที่กระโดดออกมาจากป่าถูกสังหารในทันที
ผู้คนที่อยู่บริเวณใกล้เคียงต่างมองชายหนุ่มอย่างตกตะลึง
ซูเย่ไม่ได้สนใจคนพวกนั้นนัก เขายังคงเดินหน้าต่อไปพร้อมกับดาบเล่มใหญ่
“ตอนแรกเราก็ไม่ได้สนใจอะไรนัก แต่ทำไมหลังจากที่เดินมาสักพัก เรากลับรู้สึกคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก?”
น่าสงสัย!
ตั๊กแตนอีกตัวหนึ่งกระโดดลงมาจากกิ่งไม้
“ฉึก”
ซูเย่เหวี่ยงดาบในมืออีกครั้ง
เจ้าตั๊กแตนที่ยังลงไม่ถึงพื้นถูกฟันในไม่กี่วินาทีต่อมา
“ติ๊ง—”
ทันใดนั้น วงแหวนบางอย่างก็สว่างขึ้นจากใต้เท้าของซูเย่ ความรู้สึกสดชื่นแผ่ซ่านไปทั่วทั้งร่าง ทำให้เขารู้สึกสบายตัวมากกว่าเดิม
ขณะเดียวกัน บนเสื้อบริเวณอกด้านซ้ายของเขาก็ปรากฏหมายเลข “1” ที่เป็นสีทองขึ้น
“เลื่อนระดับแล้วเหรอ?”
ซูเย่เปิดดูแถบค่าประสบการณ์ของตน เขาเลื่อนขั้นเป็นระดับ 1 แล้ว
“บ้าน่า! เลื่อนระดับแล้วเหรอ? ฆ่ามอนสเตอร์ได้ตัวหนึ่งในเสี้ยววินาที ทำไมเขาถึงเลื่อนระดับได้ง่ายขนาดนั้นล่ะ? ของฉันมันยากอย่างกับให้เปลี่ยนก้อนอิฐให้เป็นเงินไม่มีผิด! จะบ้าตาย!”
“อย่าพูดอะไรไร้สาระน่า รีบไปฆ่ามอนสเตอร์ต่อได้แล้ว! วันนี้จะต้องเลื่อนขั้นเป็นระดับ 1 ให้ได้!”
ผู้เล่นคนอื่น ๆ ต่างมองไปยังซูเย่ด้วยสายตาอิจฉาริษยา และหันกลับไปโจมตีมอนสเตอร์ตรงหน้าต่อ
…
ทันใดนั้นเอง กระดานจัดอันดับก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าของซูเย่ ชายหนุ่มเพียงเงยหน้าอ่านรายชื่อที่ปรากฏอย่างเงียบ ๆ
เขาพบว่าตอนนี้ตัวเองได้อันดับที่ 1000 ในขณะที่ผู้ที่ได้อันดับสูงสุดนั้นมีความแข็งแกร่งเกือบจะขึ้นเป็นระดับ 2
“ถ้าเราเลื่อนระดับด้วยความเร็วเท่านี้ต่อไปเรื่อย ๆ มันก็ไม่น่าจะเป็นเรื่องยากไม่ใช่เหรอ?”
ซูเย่เก็บดาบเข้าที่เดิมและเดินทางต่อ
ในขณะที่เดินไปเรื่อย ๆ ผู้เล่นคนอื่นต่างหวาดกลัวว่าตนจะถูกจู่โจม ดังนั้นพวกเขาจึงมองไปรอบ ๆ อย่างหวาดระแวง มีเพียงซูเย่เท่านั้นที่ดูเพลิดเพลินกับสภาพแวดล้อมโดยรอบ
ถ้าเจออะไรแปลกก็แค่ฟันมันทิ้งซะ ไม่ต้องตั้งข้อสงสัยอะไรทั้งนั้น
ฆ่ามอนสเตอร์ไปเรื่อย ๆ ในขณะที่เดินเล่น
ไม่นานนัก ซูเย่ก็เดินมาถึงภูเขาที่เป็นเป้าหมาย
ณ ที่แห่งนี้ ผู้เล่นระดับ 1 หลายคนกำลังสังหารมอนสเตอร์กันอย่างเมามัน ซึ่งมอนสเตอร์ส่วนใหญ่ที่อยู่ในพื้นที่นี้คือกอริลลาเหล็ก มอนสเตอร์ระดับ 2
เมื่อมันหันมาเห็นซูเย่ มันก็ไม่รอช้าพุ่งเข้าหาเขาทันที
ชายหนุ่มไม่ได้หลบหลีกมันแต่อย่างใด สายตาจับจ้องเขม็งไปที่กอริลลาเหล็ก
ดวงตาคู่คมจ้องไปที่จุดตายของมอนสเตอร์ตรงหน้า ตรงตำแหน่งหัวใจของมัน ก่อนจะแกว่งดาบในมือ
กอริลลาตรงหน้าชะงักไปครู่หนึ่ง มันแปลกใจกับท่าทีของเขา ก่อนจะคำรามออกมาอย่างดุร้ายและพุ่งเข้าหาชายหนุ่มอย่างบ้าคลั่ง
และในวินาทีนั้นเอง ราวกับกอริลลาตัวอื่นที่กำลังสู้กับผู้เล่นทั้งหมดก็ถูกเรียกให้มารวมกัน พวกมันคำรามออกมาดังลั่น และวิ่งไปหาซูเย่พร้อมกันในคราเดียว
คนทั้งหมดมองสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าอย่างงุนงง
“กอริลลาเหล็กพวกนี้มีระดับสูงเกินไป หนีเร็วเข้า!”
พวกเขากำลังจะบอกให้ซูเย่รีบวิ่งหนี ทว่าภาพที่เกิดขึ้นต่อมากลับทำให้คนทั้งหมดตกตะลึง
ชายหนุ่มตรงหน้าของพวกเขาไม่คิดที่จะหลบหนีแต่อีกฝ่ายกลับก้าวไปข้างหน้า จับด้ามดาบในมือแน่นและพุ่งเข้าใส่กลุ่มมอนสเตอร์ตรงหน้าตนอย่างรวดเร็ว
และครั้งนี้ สีหน้าของผู้เล่นทั้งหมดที่จับกลุ่มกันเพื่อสังหารกอริลลาเหล็กต่างฉายชัดถึงความตกตะลึง
“นี่มันบ้าอะไรวะ?! จัดการมอนสเตอร์ระดับ 2 ได้ในดาบเดียว? แถมยังจัดการมอนสเตอร์ทั้งกลุ่มได้ด้วยตัวคนเดียวเนี่ยนะ?”
“ล้อกันเล่นน่า เขาเพิ่งอยู่แค่ระดับ 1 เองไม่ใช่หรือไง?”
และก่อนที่พวกเขาจะตื่นจากความตกตะลึง
ภายในพริบตา กอริลลาเหล็กที่พวกเขาต้องจับกลุ่มช่วยกันสังหารกลับถูกซูเย่ฟันจนเสียชีวิตภายในดาบเดียว
ความร้อนแผ่ซ่านไปทั่วทั้งพื้นที่ระดับ 2 ทุกอย่างพลันตกอยู่ในความเงียบ และยังคงดำเนินไปเช่นนี้เป็นเวลานาน
กว่าที่คนทั้งหมดจะได้สติ ซูเย่ก็เดินลึกเข้าไปในพื้นที่ของผู้เล่นระดับ 3 แล้ว
“เมื่อครู่นี้ใช่คนหรือเปล่า?”
“หรือว่าจะเป็นพวก NPC?” ผู้เล่นอีกคนพูดขึ้น
“มันแค่พริบตาเดียวเองนะ แล้วค่าประสบการณ์ที่ฉันสั่งสมมาตลอดล่ะ มันหมายความว่ายังไง?”
“บั๊กหรือเปล่า? ฉันจะไปรายงานเรื่องนี้ในฟอรัม!”
ครู่หนึ่ง เหล่าผู้เล่นในพื้นที่ระดับ 2 ต่างมองไปยังพื้นที่ระดับ 3 ตาม ๆ กันเพียงเพื่อที่จะเห็นร่างร่างหนึ่งกำลังเดินไปอย่างรวดเร็ว ไม่สามารถมองเห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายเป็นใครกันแน่
“ผู้เล่นสุดเจ๋ง สังหารมอนสเตอร์ระดับ 2 ได้ด้วยการฟันเพียงครั้งเดียว!”
ผ่านไปเพียงไม่นาน ใครบางคนก็โพสต์เรื่องนี้ขึ้นในฟอรัม
เกมโฮโลแกรมสามารถตั้งฟอรัมคุยกันในเกมได้ตลอดเวลา ดังนั้นผู้เล่นส่วนใหญ่จึงเล่นเกมไปพร้อมกับการพูดคุยเกี่ยวกับวิธีการเล่นเกมกันในฟอรัมและหาเพื่อนร่วมทีม
เมื่อโพสต์นี้ปรากฏขึ้น มันก็ดึงดูดความสนใจของผู้เล่นจำนวนมากทันที
‘แต่ตอนนี้ผู้เล่นที่มีระดับสูงที่สุดเพิ่งขึ้นระดับ 2 เองนะ จะมีคนสามารถสังหารมอนสเตอร์ระดับ 2 ด้วยดาบเดียวได้ยังไง?’
‘ขนาดคนที่เล่นเซียน ๆ ฉันยังเห็นว่าต้องฟันมันถึงสามรอบมอนสเตอร์ถึงจะตาย ยังไงฉันก็ไม่มีทางเชื่อเรื่องนี้เด็ดขาด’
‘กลุ่มของพวกเราเห็นผู้เล่นมือใหม่คนหนึ่งที่สวมหน้ากากตรงทางเข้าของหมู่บ้านซินโซว หมู่บ้านของผู้เล่นมือใหม่ เขาฆ่ามอนสเตอร์ระดับ 1 ได้ในดาบเดียวเหมือนกัน!’
‘ใช่ ๆ เขาใส่หน้ากาก! เจ๋งสุด ๆ ไปเลย!’
ภายในไม่กี่นาที มีผู้เล่นเข้ามาแสดงความคิดเห็นอย่างล้นหลาม
ถึงแม้ว่าโพสต์นี้จะดึงดูดความสนใจของผู้คนมากมาย ทว่าผู้คนส่วนใหญ่ก็เลือกที่จะไม่เชื่อมัน
…
ในขณะที่ผู้เล่นจำนวนมากกำลังพูดคุยกันในฟอรัม ซูเย่ได้เดินมาถึงพื้นที่ของมอนสเตอร์ระดับ 3 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ไม่มีใครกล้าเข้ามาในพื้นที่นี้ เขาเป็นผู้เล่นเพียงคนเดียว ดาบเล่มใหญ่ในมือยังคงกวัดแกว่งบ้างเป็นครั้งคราว
ทุกครั้งที่มีดดาบถูกฟันออกไป มันจะเฉือนเข้าที่จุดตายของมอนสเตอร์อย่างแม่นยำ สังหารสิ่งมีชีวิตรงหน้าได้ภายในครั้งเดียว
หลังจากที่สังหารมอนสเตอร์ระดับ 3 ไปจำนวนมาก ซูเย่ก็พบว่าค่าประสบการณ์ของเขาเพิ่มขึ้นถึง 90% และเขาก็กำลังจะเลื่อนเป็นผู้เล่นระดับ 2
“การฆ่ามอนสเตอร์ทำให้ได้ค่าประสบการณ์เร็วขึ้นก็จริง แต่ว่า…”
ซูเย่มองไปรอบ ๆ ต้นหญ้าขึ้นใหม่ พื้นที่โล่ง ๆ ที่มีเพียงเศษดินเศษหิน ไม่มีสิ่งใดควรค่าพอแก่การสำรวจ
“แผนที่” ชายหนุ่มเอ่ย
ทันใดนั้น แผนที่ที่ดูคล้ายกับโต๊ะก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าของเขา
เขาเหลือบสายตามองพื้นที่ผจญภัยระดับ 1 – 10 ที่เปิดอยู่ในขณะนี้ จากนั้นจึงมองไปยังส่วนที่ลึกที่สุดของมัน พื้นที่มอนสเตอร์ระดับ 10 ถูกเขียนด้วยตัวอักษรสีแดง
เขตอสูรร้าย!
“ถ้าเป็นที่นี่อาจจะมีอะไรสนุก ๆ…”
ซูเย่ยิ้ม เมื่อระบุตำแหน่งได้แล้ว เขาก็รีบมุ่งตรงไปที่เขตอสูรร้ายระดับ 10 ทันที
….
บนเนินเขาห่างไกลออกไป
“เราบอกให้เขาเพิ่มเพื่อนออนไลน์แล้วไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงยังไม่มีสัญญาณอะไรเลย?” ร่างสองร่างตะโกนคุยกันขณะที่กำลังสู้กับกอริลลาเหล็กอย่างดุเดือด
“ฉันไม่เห็นเขาส่งคำขอเป็นเพื่อนมาในสมุดรายชื่อเลย”
ร่างที่ดูคล้ายกับจินฟานจึงเอ่ยว่า “เขาดูเหมือนไม่เคยเล่นเกมมาก่อน….”
“ฉันว่าเราควรไปที่หมู่บ้านซินโซวดีกว่า แล้วก็พาเขาไปพร้อมกันเลย อย่าให้เขาออกจากเกม ไม่อย่างนั้นคงต้องรอถึงพรุ่งนี้กว่าจะได้เล่นกันอีก แถวนี้มีแต่ที่ดี ๆ เหมาะแก่การเพิ่มค่าประสบการณ์ทั้งนั้น เราจะปล่อยให้เขาตายไม่ได้เด็ดขาด” ซุนชือเอ่ย
….
ในอีกด้านหนึ่งของป่า
หญิงสาวสองคนที่มีใบหน้าคล้ายกัน เพิ่งช่วยกันสังหารกอริลลาเหล็กที่พุ่งมาจู่โจมพวกตนสำเร็จ
ดวงหน้าเล็กที่ไม่ได้โดดเด่นอะไร อาจจะถือได้ว่าธรรมดาเสียด้วยซ้ำ ทว่าหากคนจากสถาบันดนตรี
ซิงเหมิงมาเห็น พวกเขาก็คงจะทำทั้งคู่ได้ทันที หญิงสาวทั้งสองจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากสองพี่น้องไป๋จือ
ความงดงามบนใบหน้าถูกลดลงถึง 70%!
“พี่ ฉันเหนื่อยมาก เราพักกันสักนิดเถอะ” ไป๋จือเหยียนเอ่ย เธอหันไปมองรอบ ๆ เพื่อตรวจดูให้แน่ใจว่าไม่มีมอนสเตอร์ตัวอื่นอยู่อีกก่อนจะนั่งลง
“เอาสิ” ไป๋จือหรานเองก็นั่งลงและมองไปรอบ ๆ อย่างระแวดระวัง ก่อนจะเปิดกระดานจัดอันดับออกมาดู
แล้วเธอก็ต้องตกตะลึงกับรายชื่อจัดอันดับที่เปลี่ยนไป
“หืม? X เหรอ? จงใจปกปิดชื่อจริงเอาไว้? ใครกัน?” คิ้วเรียวย่นเข้าหากันเล็กน้อย
“พี่…มีอะไรหรือเปล่า?”
ไป๋จือเหยียนที่เด็ดดอกไม้แถวนั้นขึ้นมาทัดหู ขณะที่เอนหลังพิงต้นไม้เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าสีคราม หันไปถามผู้เป็นพี่สาวด้วยน้ำเสียงไม่สบายใจ
“มีชื่อใหม่ปรากฏขึ้นมาในกระดานจัดอันดับ เธอลองดูสิ”
ขณะที่พูดกับน้องสาว ไป๋จือหรานก็มองหามอนสเตอร์ตัวอื่นไปด้วย เธอระวังตัวเป็นพิเศษ
เมื่อได้ยินคำของผู้เป็นพี่ ไป๋จือเหยียนก็รีบเปิดกระดานจัดอันดับดู ทันใดนั้นเธอก็ลุกขึ้นยืนอย่างตกใจ
“นี่มันบ้าอะไรกัน? มันเป็นใครกันถึงกล้ามาแข่งกับเรา?”
อันดับ 1 และ 2 บนกระดานจัดอันดับเป็นของพวกเธอสองพี่น้องมาตั้งแต่แรก และมันก็ไม่เคยเปลี่ยนไปจากนี้เลยสักครั้ง
แต่มาวันนี้ มีใครที่ไหนก็ไม่รู้กำลังจะเข้ามาแย่งอันดับของพวกเธอ
นี่มันหยามหน้ากันชัด ๆ!
“เขาปกปิดข้อมูลของตัวเองทั้งหมด ตรงชื่อมีตัวอักษรแค่ตัวเดียวเท่านั้น”
“แต่สองสามวันที่ผ่านมา ผู้เล่นที่ได้อันดับต้น ๆ ก็ไม่มีใครใช้ชื่อ X ไม่ใช่เหรอ?”
ไป๋จือเหยียนโมโหเป็นอย่างมาก สายตาคู่งามจับจ้องไปยังกอริลลาเหล็กที่ปรากฏตัวขึ้นมาไม่ไกลนัก
ดูท่าเธอคงจะต้องรีบเลื่อนระดับเสียแล้ว
“ไม่ต้องคิดมากหรอก ไปกันเถอะ”
ไป๋จือหรานลุกขึ้นยืนและกล่าวต่อ “เกมนี้ถูกพัฒนาโดยรัฐ นั่นหมายความว่ามันอาจจะถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป้าหมายบางอย่าง ทุกคนก็เลยจริงจังกับมันเป็นพิเศษ”
“นั่นสินะ” เมื่อได้ยินเช่นนั้น น้องสาวจึงพยักหน้าอย่างเข้าใจ
หญิงสาวกำหมัดแน่นและเอ่ยย้ำชื่อนี้ในใจของตน “แล้วเราจะได้เห็นดีกัน X!”
จากนั้นทั้งคู่จึงรีบมุ่งหน้าไปยังตำแหน่งของกอริลลาเหล็กทันที
…
ภายในช่องแคบแห่งหนึ่ง
ซูเย่เดินเข้าไปยังส่วนที่ลึกที่สุดของภูเขา ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับพื้นที่ในหุบเขา
ตอนนี้เขาอยู่ในพื้นที่ผจญภัยระดับ 10 ที่เขียนด้วยอักษรสีแดงเอาไว้บนแผนที่: เขตอสูรร้าย
ณ บริเวณตีนเขา ซูเย่พบมอนสเตอร์ตัวหนึ่งที่มีลักษณะคล้ายกับหมูแต่มีความสูงประมาณคนสองคนยืนต่อตัวกันกำลังขุดดินอยู่
“โฮกกกกกก…” มอนสเตอร์ตรงหน้าคำรามออกมา
“หวัดดี~”
“นี่มันคือหมู ตัวลิ่น หรือหมากันแน่เนี่ย?” ซูเย่เอ่ยอย่างสงสัย
ทว่าสิ่งมีชีวิตที่กำลังขุดดินอยู่กลับไม่สนใจเขาเลยสักนิด
“ดูแปลกดีแฮะ”
ซูเย่ยิ้มออกมาเล็กน้อยขณะที่วิเคราะห์ข้อมูลของมอนสเตอร์ตรงหน้าตน
เมื่อวิเคราะห์ข้อมูลเรียบร้อย ดวงตาของชายหนุ่มก็เป็นประกายขึ้น