เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁] - ตอนที่ 156 ทำคะแนนเป็นอันดับ 1 ของเซิร์ฟเวอร์
บทที่ 156 ทำคะแนนเป็นอันดับ 1 ของเซิร์ฟเวอร์
วินาทีต่อมา หวังเหาก็กลับมาปรากฏตัวในเกมและจ้องมองซูเย่ด้วยความประหลาดใจ
เมื่อสักครู่นี้ เขาจัดการบริจาคเงินเรียบร้อย นายตำรวจหนุ่มอยากรู้เหมือนกันว่าบุคคลปริศนาผู้นี้จะสามารถรู้ได้หรือไม่
“ผมได้รับเงินบริจาคของพวกคุณแล้ว”
ซูเย่พยักหน้าด้วยความพอใจ
“นายได้รับแล้วเหรอ?”
“ทำไมเงินถึงไปเข้าที่นายได้ล่ะ?”
หวังเหาถามออกมาด้วยความตกตะลึงระคนร้อนใจ
เขาอุตส่าห์บริจาคเงินให้แก่องค์กรที่มีการรับรองอย่างถูกต้องตามกฎหมายจากภาครัฐ แล้วเงินเหล่านั้นจะไปเข้าที่เทพ X ได้อย่างไร?
“ผมบอกไม่ได้หรอกครับ”
ชายหนุ่มส่ายหน้าเล็กน้อย
หวังเหาสะดุดใจกับคำพูดของอีกฝ่าย
มีบางอย่างที่เขาจะมองข้ามไปไม่ได้เด็ดขาด
ถ้าเหตุการณ์เป็นเช่นนี้ หมายความว่าเทพ X ต้องมีวิธีบางอย่างที่สามารถตรวจสอบการโอนเงินของเขาได้แน่นอน หวังเหามั่นใจว่าหากตนเองหาวิธีนั้นพบเจอ ก็จะต้องสืบสาวกลับไปถึงตัวตนที่แท้จริงของเทพ X ได้แน่นอน!
“ทีนี้นายคงบอกฉันได้แล้วใช่ไหมว่าวิธีเปิดม่านพลังต้องทำยังไงบ้าง?”
“ไม่มีอะไรซับซ้อนเลยครับ
เขาตอบ “สัญลักษณ์ที่อยู่บนม่านพลังคือตัวเลขที่ได้มาจากผังหล่อซู่ มันเป็นศาสตร์แห่งการดูฮวงจุ้ยชนิดหนึ่ง เราแค่ต้องลองเคาะลงไปตรงตำแหน่งตัวเลขให้เท่ากับจำนวนครั้งเท่านั้น สมมติว่าเป็นตำแหน่งของเลขเก้า เราก็ต้องใช้มือแตะลงไปตรงนั้นเก้าครั้ง อะไรทำนองนี้ครับ”
หวังเหาไม่เข้าใจเลยว่าผังหล่อซู่คืออะไร
เมื่อซูเย่เห็นสีหน้าของนายตำรวจหนุ่ม เขาก็ได้แต่ถอนหายใจออกมา ก่อนจะเดินนำหวังเหากลับขึ้นไปบนยอดเขาที่หน้าประตูทองเหลืองอีกครั้ง
ซูเย่ทดลองเปิดม่านพลังให้ดู พร้อมกันนั้น เขาก็พยายามอธิบายหลักการพื้นฐานของการคำนวณด้วยผังเซียนเทียนปากั้วกับผังหล่อซู่ให้นายตำรวจเข้าใจ
เมื่อเริ่มเข้าใจแล้วว่าสัญลักษณ์บนม่านพลังหมายถึงอะไรบ้าง หวังเหาก็ต้องเบิกตาโตด้วยความเหลือเชื่อ
หัวหน้าทีมสืบสวนพิเศษต้องยอมรับจากใจจริงเลยว่า นี่คือวิธีการที่เขาไม่คาดคิดมาก่อน
การเปิดม่านพลังที่ไม่มีใครสามารถทำได้ตลอดระยะเวลาหลายปี ในที่สุด วันนี้ก็มีคนสามารถทำได้แล้ว
พลัน หวังเหาไม่รู้จะอธิบายความรู้สึกของตนเองอย่างไรดี
เพราะต้องมีคนที่มีความรู้เกี่ยวกับศาสตร์ฮวงจุ้ยเท่านั้น ถึงจะสามารถมองออกว่านี่เป็นแผนผังเซียนเทียนปากั้วอะไรนั่น
“แล้วนายรู้ได้ยังไงว่ามันเป็นแผนผังจากวิชาดูฮวงจุ้ย?”
หวังเหาถามขณะเดินเข้าสู่เขตสนธยาพร้อมเทพ X
“มีอะไรที่ผมไม่รู้บ้างล่ะ?”
ซูเย่ตอบด้วยน้ำเสียงยียวน
ได้ยินดังนั้น หวังเหาก็เกือบจะสบถคำหยาบออกมาด้วยความหมั่นไส้ แต่ถึงอย่างไรก็ตาม วันนี้เขาก็ได้รู้แล้วว่าการเปิดม่านพลังต้องทำอย่างไร
ค่อยไปคิดบัญชีแค้นกันวันหลังก็ยังไม่สาย!
“เอาล่ะ ยังไงซะถือว่าฉันติดหนี้นาย เพราะฉะนั้น วันนี้ฉันจะปล่อยนายไปก่อนแล้วกัน!”
หวังเหาพูดด้วยความฉุนเฉียว ก่อนจะเบือนหน้าไปทางอื่นเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายเห็นสีหน้าของตนเอง และอีกเหตุผลหนึ่งก็คือ เขาอยากจะออกสำรวจพื้นที่เขตสนธยาเต็มแก่แล้ว
แต่เมื่อออกสำรวจกันได้พักใหญ่ นายตำรวจหนุ่มก็ต้องพบกับความผิดหวัง
เพราะเขตสนธยาแห่งนี้มีขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ แต่ก็ไม่มีสิ่งของใดมีค่าให้เกิดความน่าสนใจแม้แต่น้อย
ดังนั้น สองหนุ่มจึงเดินกลับออกมาสู่โลกภายนอก
แต่แล้วหวังเหาก็หยุดชะงักและหันมาถามเทพ X อย่างกะทันหันว่า “ยังมีภารกิจอีกอย่าง ไม่รู้ว่านายอยากทำหรือเปล่า?”
“ภารกิจอะไรครับ?”
ซูเย่ถามด้วยความสนใจ
“ห่างจากยอดเขานี้ไป 30 กิโลเมตร มีสัตว์ประหลาดออกอาละวาดอยู่ตัวหนึ่ง ถ้านายสามารถหาจุดอ่อนของมันได้ นายเลือกเอาก็แล้วกันว่าอยากจะรับของขวัญเป็นเงินหนึ่งล้านหยวน หรือรับเป็นหยกปราณธรรมชาติสองชิ้น!”
หวังเหาบอกกับเขา
ได้ยินดังนั้น ชายหนุ่มไม่รอช้ารีบควบเฉิงหวงเทพเจ้าหายลับไปจากสายตาทุกคนทันที
กว่าที่หวังเหาจะรู้ตัว เขาก็พูดอะไรไม่ทันเสียแล้ว
หมอนี่เป็นผีหรือไงนะ เดี๋ยวมาเดี๋ยวไป ว่องไวยิ่งกว่าสายลมเสียอีก
แล้วเจ้ากวางยักษ์นั่นมันเป็นตัวอะไรกัน?
“สงสัยต้องสั่งให้ทีมสืบสวนลองตามหาเจ้ากวางแบบนี้ดูบ้างเสียแล้ว”
หวังเหาลอบคำรามอยู่ในใจ ตอนที่เขากดออกมาจากระบบ มุมปากของนายตำรวจหนุ่มก็ปรากฏรอยยิ้มขึ้นเล็กน้อย
…
เฉิงหวงเทพเจ้ามีความเร็วน่าเหลือเชื่อ ระยะทาง 30 กิโลเมตร มันใช้เวลาเดินทางเพียงพริบตาเดียวเท่านั้น
ซูเย่พบเจอทะเลสาบขนาดใหญ่อยู่ตรงหน้าแห่งหนึ่ง
สัตว์ประหลาดยักษ์กำลังนอนหลับอยู่ข้างทะเลสาบ ชั้นน้ำแข็งที่เกาะอยู่ตามร่างกายของมันดูน่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง
แค่ยืนมองอยู่ไกล ๆ ก็สามารถทำให้ผู้คนเหน็บหนาวไปถึงขั้วหัวใจแล้ว!
“บัดซบ หลอกกันนี่หว่า!”
ชายหนุ่มหันหลังกลับและหลบหนีออกมาโดยไม่ต้องเสียเวลาคิด
สัตว์ประหลาดข้างทะเลสาบตัวนั้น เขายังไม่มีระดับพลังแข็งแกร่งมากพอที่จะสู้กับมันได้ในตอนนี้ อย่าว่าแต่มีเงินรางวัลหนึ่งล้านหยวนเลย ต่อให้เป็นสิบล้านหยวน เขาก็ทำไม่ได้!
ตัวเขาจำเป็นต้องอัปเลเวลให้สูงมากกว่านี้เสียก่อน
…
ในเวลาเดียวกันนี้ ณ เขตป่าลึกแห่งหนึ่งในโลกแห่งเกม
“ภารกิจพิเศษอะไรกันนะ มันจะช่วยทำให้คนอื่นอัปเลเวลได้เร็วกว่าเราหรือเปล่า?”
ผู้เล่นที่ทำภารกิจตามหาสมุนไพรหายากสำเร็จเป็นคนแรกอย่าง ‘เจ้าเวหา’ ขณะนี้กำลังออกไล่ล่าฆ่าสัตว์ประหลาดอย่างบ้าคลั่ง เพราะหวังที่จะอัปเลเวลให้สูงมากกว่าเดิม แต่เขาก็ฆ่าสัตว์ประหลาดไปด้วยพร้อมกับบ่นพึมพำไปด้วยว่า
“แต่ภารกิจที่จะทำให้อัปเลเวลได้สองระดับในรวดเดียวคงไม่ใช่ของง่าย คงไม่มีใครทำได้สำเร็จหรอกมั้ง”
ดาบในมือตวัดฟันวูบ
สัตว์ประหลาดที่อยู่ตรงหน้าล้มตายลง
หลังจากนั้น เจ้าเวหาก็ตรวจสอบระดับคะแนนของตนเองในปัจจุบัน
“เราตามหลังเทพ X อยู่แค่เลเวลเดียวเท่านั้น”
“คำนวณจากระดับความเร็วของเรา วันพรุ่งนี้เราน่าจะไล่หมอนั่นทันแน่นอน!”
เมื่อเห็นตารางคะแนนที่ปรากฏอยู่ตรงหน้า เจ้าเวหาก็ยิ้มออกมาด้วยความพอใจ แต่ก่อนที่เขาจะกดปิดตารางคะแนนนั้น หน้าจอก็เกิดความเปลี่ยนแปลงวูบวาบ
วินาทีต่อจากนั้น
เจ้าเวหาต้องยืนเบิกตาโตด้วยความตกตะลึง
ปรากฏว่าผู้เล่น X เลื่อนระดับขึ้นไปอยู่เลเวล 35 แล้ว!
“นี่มันอะไรกันเนี่ย ทำไมถึงอยู่เลเวล 35 แล้ววะ? ก่อนหน้านี้หมอนั่นเพิ่งอยู่เลเวล 33 เองไม่ใช่หรือไง?”
“แต่ถ้าหมอนั่นมันอัปเลเวลได้ ก็ต้องมีข้อความแจ้งเตือนประกาศบนท้องฟ้าสิ ทำไมถึงไม่มีประกาศนะ?”
เจ้าเวหายืนคิด สีหน้าเคร่งเครียด
แล้วเขาก็นึกถึงความเป็นไปได้บางอย่าง
หรือว่าเทพ X จะสามารถทำภารกิจพิเศษได้สำเร็จและได้รับหยกปราณธรรมชาติเป็นของรางวัล?
“แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ใจคอผู้ดูแลระบบจะไม่คิดประกาศให้คนอื่นรู้หน่อยหรือไง?”
เจ้าเวหารู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง
“แบบนี้มันไม่ชอบมาพากลแล้ว!”
แต่อย่างไรก็ตาม
ในจังหวะนั้นเอง
“ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่น ‘X’ ที่ได้กลายเป็นผู้เล่นคนแรกของเกม Fantasy Dream ผู้สามารถเลื่อนระดับขึ้นสู่เลเวล 34 ได้สำเร็จ และทำคะแนนเป็นอันดับ 1 ของเซิร์ฟเวอร์ในขณะนี้!”
“ขอแสดงความยินดีกับผู้เล่น ‘X’ ที่ได้กลายเป็นผู้เล่นคนแรกของเกม Fantasy Dream ผู้สามารถเลื่อนระดับขึ้นสู่เลเวล 35 ได้สำเร็จ และทำคะแนนเป็นอันดับ 1 ของเซิร์ฟเวอร์ในขณะนี้!”
ข้อความแจ้งเตือนปรากฏขึ้นมาบนท้องฟ้า
เจ้าเวหาพูดอะไรไม่ออกอีกแล้ว
ผู้ดูแลระบบเกมสามารถอ่านความคิดเขาได้หรือไงเนี่ย!
…
ในเวลาเดียวกันนี้
บรรดาผู้เล่นที่กำลังทำภารกิจเก็บสมุนไพรและแร่หินชนิดต่าง ๆ พร้อมใจกันเงยหน้ามองข้อความแจ้งเตือนบนท้องฟ้า ก่อนจะพูดอะไรไม่ออกไปอีกนานสองนาน
ต่อให้พวกเขาจะรู้ดีว่าท่านเทพ X มีศักยภาพดีพอที่จะทำภารกิจพิเศษได้สำเร็จ แต่การอัปเลเวลสองระดับติด ๆ กัน มันก็ยังเป็นเรื่องที่น่าตกใจเกินไปอยู่ดี
เท่ากับว่าวันนี้ท่านเทพ X อัปเลเวลได้ห้าระดับแล้ว!
แล้วพวกเขายังจะเล่นเกมนี้ต่อไปเพื่ออะไรอีก!
“เฮ้อ ทุกครั้งที่มีข้อความแจ้งเตือนปรากฏขึ้นมาบนท้องฟ้า ฉันก็ได้แต่สังหรณ์ใจว่ามันต้องเป็นประกาศการอัปเลเวลของท่านเทพ X แน่ ๆ แต่พวกเรายังจะทำอะไรได้อีก? พวกเราไม่ใช่คนที่ทำภารกิจพิเศษได้สำเร็จนี่นะ!”
“น่าโมโห! น่าโมโหจริง ๆ!”
…
“ต้นโซวูพันปีมีค่าขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย?”
ในป่าลึกแห่งหนึ่ง ซูเย่ก็กำลังตกใจไม่แพ้ทุกคนเช่นกัน
เขาไม่ได้อัปเลเวลเพราะทำภารกิจพิเศษเปิดม่านพลังได้สำเร็จ แต่เขาอัปเลเวลได้สองระดับรวด เพราะเก็บสมุนไพรพันปีต้นนี้กลับออกมาจากเขตสนธยาต่างหาก
“สมแล้วที่เป็นสมุนไพรวิเศษพันปี ถึงพลังปราณธรรมชาติจะไม่หนาแน่น แต่ก็มีมูลค่าไม่น้อยเช่นกัน”
ซูเย่ถอนหายใจ
เขาเลิกล้มความคิดที่จะอัปเลเวลขึ้นไปอีกและเปลี่ยนมาเป็นขี่เจ้ากวางยักษ์ออกสำรวจภูมิประเทศโดยรอบแทน
…
ณ เขตแผนที่ระดับ 32
เมื่อเห็นว่าตนเองยังมีช่องว่างห่างจากเทพ X ถึงสี่เลเวล ความมุ่งมั่นของเจ้าเวหาที่จะเป็นผู้เล่นหมายเลขหนึ่งของเกม Fantasy Dream ก็แรงกล้ากว่าเดิม
“นายอยากให้ฉันใช้ไม้แข็งเลยใช่ไหม?”
เจ้าเวหาพูดด้วยสีหน้าเย็นชา
แผนเดิมของเขาคือการอัปเลเวลขึ้นไปเทียบเท่ากับเทพ X ให้ได้ หลังจากนั้น ค่อยท้าประลองต่อสู้กันต่อหน้าผู้เล่นทุกคน เมื่อสามารถเอาชนะเทพ X ได้แล้ว เจ้าเวหาผู้นี้ก็จะกลายเป็นผู้เล่นอันดับหนึ่งอย่างสมบูรณ์แบบ
นอกจากเขาจะได้ชื่อว่าเป็นผู้พิชิตเทพ X อย่างแท้จริง เจ้าเวหายังจะถูกจดจำในฐานะผู้ยิ่งใหญ่ของเกม Fantasy Dream ตัวจริงเสียงจริงอีกด้วย
เจ้าเวหาถึงกับวางแผนทุกขั้นตอนเอาไว้อย่างชัดเจน เขาตั้งใจเก็บสะสมคะแนนเช่นเดียวกับประสบการณ์ไล่ล่าสังหารสัตว์ประหลาด เพื่อให้ตนเองมีความพร้อมสำหรับการเผชิญหน้าเทพ X มากที่สุด
แต่ตอนนี้
การอัปเลเวลแบบไม่หยุดยั้งของเทพ X ทำให้แผนการทุกอย่างของเจ้าเวหาพังทลาย
“วันนี้ฉันจะปล่อยให้นายตายใจไปก่อน แต่หลังจากนี้ เราได้เห็นดีกันแน่”
“หึ”
เจ้าเวหาคำรามในลำคอด้วยความโกรธแค้น
หลังจากนั้น เขาก็ไล่ฆ่าสัตว์ประหลาดด้วยความบ้าระห่ำมากกว่าเดิม
…
เป็นเวลา 6:00 น.
ข้อความแจ้งเตือนให้ผู้เล่นออกจากระบบลอยขึ้นมาบนท้องฟ้า
ซูเย่เตรียมตัวออกจากเกมอยู่ก่อนแล้ว
“พาหนะของท่านยังไม่ได้รับการจัดเก็บ ต้องการจัดเก็บ ‘เฉิงหวงเทพเจ้า’ เข้าสู่คลังเก็บของหรือไม่?”
ข้อความแจ้งเตือนจากระบบเด้งขึ้นมา
“สามารถเก็บกวางตัวนี้เอาไว้ใช้งานต่อได้ด้วยเหรอเนี่ย?”
ซูเย่ยิ้มเล็กหน่อย เขาเริ่มคุ้นเคยกับการขี่กวางตัวนี้ไปไหนมาไหนเสียแล้ว
“จัดเก็บ!”
ซูเย่กดเลือกโดยไม่ลังเล
แล้วเฉิงหวงเทพเจ้าก็ค่อย ๆ เลือนหายไปในอากาศ
ก่อนที่โลกแห่งเกมจะดับวูบลง
…
เป็นเวลา 22:00 น.
ซูเย่ใช้หมวก VR ของตนเองเข้าสู่โลกแห่งเกมอีกครั้ง เพราะมันคือหมวกที่ยังไม่ได้รับการอัพเกรด เขาไม่สามารถเข้าเล่นเกม Fantasy Dream ในโหมดที่แท้จริงได้ และเข้าเล่นได้แต่เพียงโหมดสังเวียนผู้กล้าเท่านั้น
ชายหนุ่มเดินสำรวจรอบ ๆ เขตแดนสังเวียน
เขาพบว่าผู้คนที่นี่เกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นในทางที่ดี
ซูชือกับจินฟานฝึกวิชาการต่อสู้ร่วมกับคนอื่น ๆ ขณะนี้มีฝีมือพัฒนามากขึ้นแล้ว
ซูเย่อดพยักหน้าด้วยความพอใจไม่ได้
หลังจากนั้น เขาก็กดออกจากระบบ
ก่อนจะขึ้นไปยังห้องเก็บของเหลือใช้บนดาดฟ้าหอพัก
และนำหมวก VR ที่ขโมยมา กลับเข้าสู่โลกแห่งเกมอีกครั้ง
“ท่านได้รับคำท้าประลอง กรุณากดเพื่อตรวจสอบ”
ทันทีที่เข้าสู่โลกแห่งเกม หน้าต่างข้อความก็เด้งแจ้งเตือนขึ้นมาทันที
คำท้าประลองอย่างนั้นหรือ?
ซูเย่ถึงกับชะงักงัน
เขากดดูข้อความโดยเร็ว
“ท่านได้รับคำท้าประลองจาก ‘เจ้าเวหา’ กรุณาเข้าสู่บอร์ดข้อความเพื่ออ่านเนื้อหาเพิ่มเติม!”
เจ้าเวหา?
ซูเย่ขมวดคิ้วด้วยความมึนงง
นั่นมันชื่อของผู้เล่นที่อยู่อันดับสองบนตารางคะแนนไม่ใช่หรือ?