เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁] - ตอนที่ 110 แบบนี้ก็ได้เหรอ
บทที่ 110 แบบนี้ก็ได้เหรอ
“ฮ่าฮ่าฮ่า วันนี้โอกาสของพวกเรามาถึงเสียที! ท่านเทพ X คุณเป็นคนมีฝีมือสูงส่ง และผมก็เคารพในฝีมือของคุณมาก แต่วันนี้ พวกเรามาที่นี่เพื่อขอท้าประลองกับคุณ”
ซูชือยื่นมือออกมาจับมือซูเย่เขย่าพร้อมระเบิดเสียงหัวเราะชอบใจ
“เราวนดูคลิปวิดีโอของคุณนับครั้งไม่ถ้วน การลงมือของคุณทุกกระบวนท่าล้วนสมบูรณ์แบบ แน่นอนว่าถ้าสู้กันแบบตัวต่อตัว พวกเราคงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคุณ ดังนั้นเราจึงอยากจะร่วมมือเล่นงานคุณพร้อม ๆ กัน เพื่อที่จะได้รู้ว่าท่านเทพ X ในตำนานมีความแข็งแกร่งสักแค่ไหน”
เรื่องของเรื่องก็คือซูชือกับจินฟานมาช่วยรุ่นน้องล่าสัตว์ประหลาดในเขตแผนที่ระดับ 18 และจังหวะที่กำลังไล่ล่าสัตว์ประหลาดกันอยู่นั้นเอง พวกเขาก็มองเห็นท่านเทพ X ขี่ดาบงูขาวลอยลงมาในพื้นที่บริเวณนี้พอดี
เห็นดังนั้นซูชือก็แต่งตั้งตัวเองเป็นหัวหน้ากลุ่ม รวบรวมสมัครพรรคพวกมาปิดล้อมเทพ X เพื่อที่จะทดสอบดูว่าวิชาหมัดของพวกเขาคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว
นั่นจึงส่งผลให้สมาชิกในกลุ่มพิชิตสวรรค์ด้วยมือเปล่าต่างก็มารวมตัวกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา
“ผลั่ก!”
ซูเย่ยิ้มเล็กน้อย สะบัดข้อมือ และเหวี่ยงซูชือลอยกระเด็นออกไป
“เข้ามาเลย!”
ซูเย่โบกสะบัดมือขวา
แล้วดาบที่เคยอยู่ในมือของเขาก็ปักลงไปบนพื้นดิน
ชายหนุ่มกวาดสายตามองผู้คนรอบตัว เตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้ด้วยมือเปล่า
เมื่อเห็นว่าซูเย่ยอมรับคำท้า แววตาของทุกคนก็เป็นประกายฮึกเหิมมากขึ้นกว่าเดิม
ซูชือกับจินฟานเป็นผู้อยู่ข้างหน้าสุด
“ในเมื่ออยากจะประลองกันล่ะก็ เดี๋ยวฉันจะทำให้นายรู้เองว่าพลังทำลายล้างของกำปั้นคนมันร้ายกาจขนาดไหน!”
ซูเย่กวาดตามองกลุ่มคนที่อยู่เบื้องหน้า สุดท้ายสายตาของเขาก็กลับมาจดจ่ออยู่ที่เพื่อนร่วมห้องทั้งสองคนของตัวเอง แล้วมุมปากของชายหนุ่มก็บิดตัวเป็นรอยยิ้มเล็กน้อย
กระบวนท่าแรกคือการปล่อยหมัดเข้าสู่ลำตัว
ซูชือใช้กระบวนท่านี้
กำปั้นขวาของเขาเหวี่ยงเข้ามาที่ด้านข้างลำตัวของซูเย่ เป้าหมายคือกระแทกหมัดเข้าใส่พื้นที่ใต้หัวใจ
แต่หมัดลอยไปไม่ถึงตัวซูเย่
เพราะว่าในเวลาเดียวกันนั้น ซูเย่ก็ใช้กระบวนท่าเดียวกันนี้เล่นงานซูชือ
แต่กำปั้นของเขากระแทกเข้าใส่หน้าอกของซูชือ ไม่ใช่พื้นที่บริเวณใต้หัวใจ
ได้ยินเสียงดังผลั่ก!
ซูชือลอยกระเด็นออกไป ตัวคนร่วงลงกระแทกพื้นดิน
ก่อนที่ชายหนุ่มจะลุกขึ้นมาเบิกตาโตจ้องมองซูเย่ด้วยความประหลาดใจ
กระบวนท่าเดียวกัน องศาเดียวกัน พลังหมัดเท่ากัน แต่ท่านเทพ X กลับมีความรวดเร็วมากกว่าซูชือ ทำให้กำปั้นของอีกฝ่ายพุ่งเข้ามาถึงตัวเขาก่อน
“กระบวนท่าแรกใช้แบบนี้ก็ได้เหรอ?”
ซูชือเริ่มต้นทบทวนวิชาหมัดด้วยความบ้าคลั่ง
ซูเย่ที่ทำให้ซูชือลอยกระเด็นออกไปแล้วไม่ได้หยุดอยู่แต่เพียงเท่านั้น เขาหันขวับกลับมา เล่นงานจินฟานที่ยืนอยู่ไม่ห่างออกไป
กระบวนท่าที่สองคือการสับมือเข้าใส่ลำคอ
มันเป็นกระบวนท่าที่สันมือจะต้องกระแทกเข้าใส่บริเวณใกล้เคียงกับลูกกระเดือกของจินฟาน
แต่ในวินาทีนั้น
ซูเย่ก็รั้งมือของตนเองไว้
โดยที่มือของเขาอยู่ห่างจากลำคอของจินฟานเพียงหนึ่งมิลลิเมตร
จินฟานยืนตัวแข็งทื่อ ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมท่านเทพ X ถึงหยุดการโจมตีอย่างกะทันหัน หากนี่เป็นในชีวิตจริง จินฟานก็คงจะต้องคอหักตายไปแล้ว!
วินาทีต่อมา
ซูเย่ตวัดเท้าขวาเตะเข้าใส่น่องของจินฟาน
ได้ยินเสียงดังผลั่ก
จินฟานล้มลงไปนอนกองอยู่บนพื้น
แต่ในสมองของชายหนุ่มกำลังจดจำท่วงท่าการโจมตีของท่านเทพ X เร็วจี๋
ยิ่งคิดทบทวนดูเท่าไหร่ ชายหนุ่มก็ยิ่งรู้สึกว่าการโจมตีของอีกฝ่ายมีความน่ากลัวมากเท่านั้น นี่เป็นเพียงกระบวนท่าพื้นฐาน แต่ท่านเทพ X กลับโจมตีออกมาได้อย่างอันตรายยิ่ง
จังหวะนั้น ผู้โจมตีคนที่สาม และคนที่สี่ก็เข้ามาถึงตัวซูเย่
การต่อสู้แบบสองรุมหนึ่งเริ่มขึ้นแล้ว!
ซูเย่หมุนตัวกลับหลัง และเหวี่ยงหมัดไปกระแทกเข้าใส่ศีรษะของผู้โจมตีคนที่สาม
นั่นทำให้ผู้โจมตีคนที่สามลอยกระเด็นไปกระแทกเข้ากับผู้โจมตีคนที่สี่โดยไม่ได้ตั้งใจอย่างแรง
ส่งผลให้ชีวิตของทั้งสองคนในเกมประจำคืนนี้ต้องจบลงโดยทันที
แต่การโจมตีก็ยังมีมาอย่างต่อเนื่อง คู่ต่อสู้คนที่ห้าขยับเข้ามาพยายามจะเตะเขาจากข้างลำตัว…
ซูเย่ตอบโต้กลับไปโดยควบคุมพลังของตัวเองไม่ให้รุนแรงเกินไปนัก
เมื่อเขาโจมตีหนึ่งกระบวนท่า ก็จะต้องมีหนึ่งคนปลิวกระเด็นออกไป!
ไม่มีหมัดไหนทำให้ใครถึงตายอีกแล้ว
มิเช่นนั้นคืนนี้คงมีจำนวนผู้เล่นเสียชีวิตยาวเป็นหางว่าว
“วิชาหมัดขั้นพื้นฐานที่พวกคุณตำรวจสอนเรามา มันน่ากลัวถึงขนาดนี้เลยเหรอ?!”
ซูชือกับจินฟานจ้องมองการเคลื่อนไหวของท่านเทพ X ด้วยความตกตะลึง ก่อนที่จะต้องถอนหายใจออกมาด้วยความเศร้า พวกเขาฝึกกระบวนท่าเหล่านี้ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ แต่เมื่อเห็นการใช้งานของท่านเทพ X ทั้งสองหนุ่มก็ได้รับรู้แล้วว่าไม่ว่าจะเป็นองศาการออกหมัด ความเร็วของหมัดแรงหมัด จังหวะในการต่อยหมัด…ล้วนแตกต่างไปจากพวกเขาอย่างสิ้นเชิง!
“ไม่แปลกใจเลยที่คุณตำรวจหวังเหาจะบอกว่าท่านเทพ X คือผู้ฝึกยุทธ์ระดับสูง นายลองดูการโจมตีของเขาสิ!” ซูชือกับจินฟานนั่งมองการเคลื่อนไหวของท่านเทพ X และพยายามจดจำทุกรายละเอียด เพื่อเอามาใช้งานกับตนเองในภายหลัง
ดูเหมือนว่าท่านเทพ X ก็ตั้งใจจะให้พวกเขาศึกษาการเคลื่อนไหวของตนเองเช่นกัน เพราะทั้งสองหนุ่มสังเกตเห็นว่าท่านเทพ X ลดระดับความเร็วในการออกหมัดลงพอสมควร
แต่ถึงจะลดระดับความเร็วลงแล้ว มันก็ยากที่ทุกคนจะมองทันอยู่ดี
“ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนอ่อนหัดไปเลยว่ะ” จินฟานคลี่ยิ้มด้วยความขมขื่น “ตอนแรกฉันอุตส่าห์มั่นใจแล้วนะว่าทักษะการใช้เพลงหมัดของฉันไม่เป็นสองรองใครเด็ดขาด อย่าว่าแต่คนธรรมดาจะต้องแพ้ฉัน แม้แต่ท่านเทพ X ฉันก็ต้องสู้ได้ไม่มีปัญหา พอมาเห็นด้วยตาของตัวเองแบบนี้แล้ว ฉันนี่มันเป็นกบในกะลาจริง ๆ…”
“สมแล้วที่เป็นเทพ X ผู้โด่งดัง”
“ในโลกของเกม Fantasy Dream ไม่มีใครจะแข็งแกร่งมากไปกว่าท่านเทพ X อีกแล้ว”
“เขาแข็งแกร่งมากเกินไป”
บรรดากลุ่มผู้เล่นที่ถูกท่านเทพ X โจมตีลอยกระเด็นออกมา ต่างก็พากันมานั่งจับกลุ่มกันดูการต่อสู้ของชายหนุ่มในตำนานด้วยความตื่นตาตื่นใจ
กระบวนท่าเหล่านี้ช่างดูงดงาม และน่าเกรงขามเหลือเกิน!
นี่ไม่ใช่สิ่งที่จะสามารถฝึกฝนได้ในระยะเวลาสั้น ๆ แน่นอน!
เมื่อเปรียบเทียบเพลงหมัดของท่านเทพ X กับเพลงหมัดของพวกเขาแล้ว…ทุกคนก็รู้สึกเหมือนตนเองเป็นเพียงเด็กน้อยที่เพิ่งหัดเดินเท่านั้น
ใช่ พวกเขาเปรียบเสมือนเด็กน้อยที่เพิ่งหัดเดิน!
หลายคนหันมองหน้ากันด้วยความหมดหวัง จากนั้นในดวงตาก็เป็นประกายวาวโรจน์
ไม่มีโอกาสไหนเหมาะสมสำหรับการเรียนรู้มากไปกว่านี้อีกแล้ว!
นี่คือโอกาสที่หาได้ยากยิ่ง!
บัดนี้
ท่านเทพ X กำลังแสดงฝีมือจัดการคู่ต่อสู้ร่วมสิบคนล้มลงไปราวกับใบไม้ร่วง
จางกงหมิงยืนปากอ้าตาค้าง ถึงก่อนหน้านี้ เขาจะเคยประลองฝีมือกับท่านเทพ X มาแล้ว แต่ชายหนุ่มไม่คิดเลยว่าอีกฝ่ายจะมีความแข็งแกร่งถึงขนาดนี้ ตัวคนเดียวสามารถรับมือผู้เล่นได้เป็น 10 คน ถ้าไม่เรียกว่าเป็นเทพแห่งการทำลายล้างแล้วจะเรียกว่าอะไรได้อีก?
“นี่มัน…”
“คนพวกนี้เป็นผู้ฝึกยุทธ์ระดับหนึ่งทั้งหมดเลยนะ!” จางกงหมิงอุทานอยู่ในใจ
ตัวเขาเองก็เพิ่งเลื่อนระดับขึ้นมาเป็นผู้ฝึกยุทธ์ระดับหนึ่งอย่างเป็นทางการได้ไม่นาน แต่ก็ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในคนที่สามารถใช้เพลงหมัดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
นั่นจึงเป็นเหตุผลที่มีสาวงามจำนวนมากเข้าหาจางกงหมิง
ดังนั้น เน็ตไอดอลหนุ่มจึงหลงลำพองในความเก่งกาจของตนเองมาตลอด
แต่แล้ว
สิ่งที่กำลังปรากฏขึ้นเบื้องหน้าในขณะนี้ก็ได้กระชากจางกงหมิงให้กลับคืนสู่ความเป็นจริงอีกครั้ง!
นอกจากเขาจะคิดไม่ถึงว่าท่านเทพ X จะเป็นผู้ฝึกยุทธ์เหมือนกันแล้ว ท่านเทพ X ยังสามารถใช้งานเพลงหมัดขั้นพื้นฐานได้อย่างชำนาญอีกด้วย!
“เราลืมไปได้ยังไงนะ เขาเก่งขนาดนี้ก็คงต้องเป็นผู้ฝึกยุทธ์อยู่แล้ว!”
เมื่อเห็นการต่อสู้ที่เกิดขึ้นตรงหน้า จางกงหมิงก็ดีดตัวลอยขึ้นไปในอากาศ เก็บดาบสะพายไว้ด้านหลัง และพุ่งตรงเข้าไปหาท่านเทพ X ด้วยความเร็ว…