เซียนหมอหญิงแม่ลูกอ่อน - ตอนที่ 471 ต้าซือมิ่งระดับต้องห้าม!
ตอนที่ 471 ต้าซือมิ่งระดับต้องห้าม!
พวกมันกำลังนำพลังของเทพอัสนีที่ถูกขโมยไปอยู่ในร่างของท่านเทพเหล่านี้กลับเข้าไปยังร่างขนาดยักษ์และเหี่ยวเฉาของเทพอัสนี จากนั้น…
“เกิด”
ต้าซือมิ่งที่พ่นคำนี้ออกมาเบาๆ สิ่งที่รวมตัวกันในร่างของเทพอัสนีกลับเป็นพลังที่ลึกลับและผิดปกติ พวกมันกระตุ้นอวัยวะภายใน เส้นเลือด และเนื้อหนังของเทพอัสนีอย่างต่อเนื่อง ทำให้ร่างของเทพอัสนีที่แห้งเหี่ยวกลับมามีชีวิตอีกครั้งอย่างผิดแปลก
ทำเอาซีหวังหมู่ที่แต่เดิมกำลังจะระเบิดพลังแต่กลับถูกจิ่วอิงรั้งไว้ตะลึงงัน เยี่ยนอวี๋กำหมัดแน่น สายตาของนางมองต้าซือมิ่งที่แผลงฤทธิ์เดชที่มิอาจคาดเดาได้ด้วยแววตาซับซ้อนและกังวล
เขากำลังใช้พลังต้องห้ามที่เก่าแก่ยิ่งกว่าพลังคำสาปไท่อี้เพื่อฟื้นคืนชีพลูกน้องเก่าของนาง โดยการแลกด้วยชีวิตของตนเอง! ผู้อื่นไม่รู้ แต่เยี่ยนอวี๋ดูออก
ดังนั้นขณะที่ต้าซือมิ่งเก็บมือกลับมา นางก็ช่วยเหลือชายคนนี้ด้วยวิชาฟื้นคืนชีพเพื่อช่วยฟื้นฟูพลังที่เขาใช้ไป! ทว่าเห็นได้ชัดว่าไม่เป็นผลเท่าไรนัก…
“สู้ช่วยมันไม่ดีกว่าหรือ” ต้าซือมิ่งที่โอบภรรยามาข้างกายก็มองเทพอัสนีตรงหน้าที่เพิ่งฟื้นตัวได้เล็กน้อย “มันยังไม่หายดี ที่เหลือต้องพึ่งเจ้าแล้ว”
“แต่ว่า…” เยี่ยนอวี๋สงสารชายคนนี้! เมื่อเขาสูญเสียพลังไปแล้วก็ยากที่จะชดเชยคืน เพราะว่าพลังของเขาต่างจากสวรรค์เก้าชั้นฟ้าอย่างสิ้นเชิง! ทว่าต้าซือมิ่งที่จูบนางทีหนึ่งแล้วก็เอ่ย “ฟังข้านะ ข้าไม่เป็นอะไร”
“จริง… หรือ?” เยี่ยนเสี่ยวเป่ามุดศีรษะโล้นๆ ออกมาระหว่างท่านพ่อและท่านแม่ของเขาแสดงความห่วงใย “พ่อ สบาย?”
เมื่อต้าซือมิ่งเห็นน้ำตาที่เอ่อล้นออกมาของเด็กน้อย เขาก็เช็ดน้ำตาให้พลางปรามว่า “ลูกผู้ชาย สักแต่ร้องไห้เหมาะสมแล้วหรือ”
“ไม่ได้ ร้อง!” เยี่ยนเสี่ยวเป่าเถียงข้างๆ คูๆ เขามีเหตุผลของตนเอง “น้ำหยดลงมาเอง!”
เยี่ยนอวี๋ขบขันกับพฤติกรรมของเด็กน้อยอีกครั้ง หลังจากนางจูบสองพ่อลูกแล้วก็ปกคลุมเทพอัสนีด้วยพลังฟื้นคืนชีพ ทำให้ชีวิตที่เพิ่งฟื้นตัวได้เล็กน้อยแข็งแรงขึ้น!
ส่วนพวกต่ำช้าเมืองต้าจ้างฟู รวมถึงเจ้าเมืองอะไรนั่นก็ถูกจิ่วอิงมัดไว้แล้ว! อีกทั้งมันยังผูกเทพเหล่านี้ไว้กับหางของมันอย่างคล่องแคล่ว…
เมื่อซีหวังหมู่ตั้งสติได้ มันก็เห็นภาพเช่นนี้ตรงหน้า ทำให้มันอดสงสัยในตัวอสูรไม่ได้ “นี่เจ้ากำลังทำอะไรอยู่นี่!?”
“เจ้าไม่เข้าใจหรอก!” จิ่วอิงผูกเทพเหล่านี้อย่างมีความสุข และยังบ่นว่า “ยังไม่อลังการพอ ต้องผูกเยอะกว่านี้ถึงจะเท่”
ซีหวังหมู่ “…”
เดี๋ยวนี้อสูรร้ายเล่นอะไรแบบนี้กันแล้วหรือ
…
สองเหตุการณ์เกิดขึ้นในคราวเดียวกัน
ขณะที่เยี่ยนอวี๋พวกเขารีบไปช่วยเทพอัสนีนั้น ลูกไก่สีเหลืองที่คาบจางเจ๋อเหอและหลินอวี่วิ่งหนีย่อมหนีไม่สำเร็จ มันถูกพลังไท่สื่อที่ตี้เซินปล่อยออกมากดทับจนล้มลงกับพื้น
“จิ๊บ!” ลูกไก่สีเหลืองพยายามต่อต้าน
ตี้เซินกลับระเบิดพลังออกมาบดขยี้ลูกไก่และเทพไร้ประโยชน์ที่ถูกขาของมันจับไว้คนละข้าง ไม่สามารถขยับตัวได้เลย “เป็นเพียงอสูรตัวน้อยยังคิดจะหนีจากเงื้อมมือของข้ารึ น่าขันสิ้นดี”
ลูกไก่สีเหลืองโมโหปรี๊ดแตก! แต่ความรู้สึกที่ร่างถูกกดทับนั้น ทำให้มันไม่สามารถทำอะไรได้ ถึงแม้ในร่างของมันจะมีพลังจักรพรรดิอสูรอยู่น้อยนิด แต่ก็เบาบางเกินไป อีกทั้งมันยังเด็กเกินไป
แต่มันก็ยังไม่ยอม ในร่ายกายของมันกำลังเดือดพล่าน ต่างจากภายนอกที่ถูกบดขยี้จนไม่สามารถขยับตัวได้ แต่มันก็เจ้าเล่ห์ รู้จักปกปิด ‘การรวบรวมพลัง’ ของตนเองไว้
ทว่ายังไม่ทันรอให้ลูกไก่สีเหลืองรวมรวบพลังสำเร็จ ตี้เซินก็ย่อตัวลงมาข้างหน้าพวกเขา ชั่วขณะหนึ่ง นางยังกล่าวอย่างมีแผนการว่า “ในเมื่อพวกเจ้าติดตามคนเลวเหล่านั้น ดูท่าคงรู้เรื่องไม่น้อย หากค้นวิญญาณพวกเจ้า คงจะได้เรื่องน่าสนใจไม่น้อย” อย่างเช่น… มั่นใจได้ว่านังสารเลวนั่นคือปฐมราชินีหยวนชูหรือไม่!
เมื่อคิดได้ดังนี้ ตี้เซินก็ยื่นมือเรียวยาวไปทางจางเจ๋อเหอ เห็นได้ชัดว่านางจะลงมือกับจางเจ๋อเหออีกแล้ว ทำเอาจางเจ๋อเหอทุกข์ใจ เขาจะระเบิดตนเองก็ไม่ได้! ไม่สามารถควบคุมร่างกายของตนเองได้เลย หากถูกค้นวิญญาณ ความลับปฐมราชินีถูกเปิดโปง เช่นนั้น… จางเจ๋อเหอแค่คิดก็อยากจะร้องไห้แล้ว!
แต่ขณะที่มือของตี้เซินรวมรวมพลังอยู่นั่นเอง…
หวีด!
จู่ๆ เสียงนกหวีดร้องแหลมสูงก็ดังขึ้น! ทันใดนั้น…
ฟู่!
เพลิงวิหคทมิฬอันเหี้ยมเกรียมอย่างไม่เคยมีมาก่อนกำลังซัดไปยังใบหน้าของตี้เซิน
ตี้เซินหน้าเปลี่ยน “บรรพบุรุษวิหคทมิฬ อสูรโบราณขุนเขาและท้องทะเล”
ฟิ้ว!
อินหลิวเฟิงที่กลายร่างเป็นวิหคทมิฬ เขาก็พัดม้วนนำตัวจางเจ๋อเหอ หลินอวี่และลูกไก่จากไปด้วยความว่องไว
“ฝันไปเถอะ!”
ตี้เซินระเบิดพลังไท่สื่ออีกครั้ง! ทว่า…
“ไสหัวไปซะ!”
ลูกไก่สีเหลืองตะเบ็งเสียง มันกลายร่างเป็นไก่สีเหลืองตัวใหญ่ในทันที และปล่อยพลังโกลาหลอันแปลกประหลาดและเหม็นคาวไปทางตี้เซิน เห็นได้ชัดว่าเต็มไปด้วยพิษร้ายที่มิอาจคาดเดาได้!
“องค์หญิงเจ็ด!” เหล่าผู้พิทักษ์รีบกางโล่ศักดิ์สิทธิ์ปกป้องตี้เซินทันที
แซ่ด!
โล่ศักดิ์สิทธิ์ชั้นดีนับไม่ถ้วนถูกกัดกร่อนอย่างรวดเร็ว ทำเอาเหล่าเทพผู้พิทักษ์ตกใจจนรีบปกป้องตี้เซินไว้และถอยทัพ!
“ไม่ต้องสนใจข้า! ไปจับพวกเขา!” ตี้เซินตะเบ็งเสียงอย่างโมโห
เสียดายที่หลังจาก ‘ควันสีเหลือง’ หายไปแล้ว ก็ไม่พบเงาของพวกอินหลิวเฟิงเลย
“ให้ตายเถอะ!” ตี้เซินเกรี้ยวกราด “ไปหาเดี๋ยวนี้!”
“ขอรับ องค์หญิงเจ็ด!” เหล่าเทพผู้พิทักษ์กำลังจะเคลื่อนไหว
ทว่าจู่ๆ ตี้เซินก็พูดขึ้นอีกว่า “ช้าก่อน!” นางรู้ดีว่าเกรงว่า ‘คนอ่อนแอ’ ที่ไม่ปกติเหล่านี้จับตัวได้ยาก จึงคิดว่าต้องใช้แผนยิงศรทีเดียวได้นกสองตัว
เมื่อคิดได้เช่นนี้ ตี้เซินก็สั่งว่า “อย่าได้ตีกลองชูธงศึก ค้นหาอย่างลับๆ ก็พอ ขณะเดียวกันให้เมืองเซวียนหยวนประโคมข่าวไปว่าข้าจับผู้ต้องหารางวัลหนึ่งร้อยเหรียญสวรรค์สองสามคนนั่นได้แล้ว อีกสามวันจะลงโทษประหารชีวิตที่ลานประหารสวรรค์ชั้นหนึ่ง”
ทว่านางเพิ่งจะจัดแจงเสร็จก็มีผู้พิทักษ์มารายงานว่า “องค์หญิงเจ็ด! ข่าวล่าสุด ผู้ต้องหาไปเมืองต้าจ้างฟูแล้ว เจ้าเมืองต้าจ้างฟูขอความช่วยเหลือจากเหนียงเหนียงแล้วขอรับ”
“มาได้ประจวบเหมาะจริงๆ!” ตี้เซินแสยะยิ้ม “ส่งข่าวไปเมืองต้าจ้างฟู ให้คนเลวกลุ่มนั้นมามอบตัวที่เมืองเซวียนหยวน มิเช่นนั้นข้าจะประหารชีวิตพวกเขาทั้งหมด! ให้ดวงวิญญาณแหลกสลาย จิตวิญญาณดับสิ้น”
“แต่พลังของเมืองเซวียนหยวน…” ผู้พิทักษ์ที่มารายงานจำเป็นต้องเตือนว่า “โจรกลุ่มนี้แข็งแกร่งเกินไป องค์หญิงท่านกระทำเช่นนี้เกรงว่าจะไม่ค่อยเหมาะสม จะเป็นอันตรายต่อชีวิตท่านเอง”
“ชนะอย่างบริสุทธิ์ไม่ได้ ใช้เล่ห์เหลี่ยมไม่เป็นรึ ฮึ ส่งสารของข้าไปเชิญเผ่าเทพสุริยันจันทรามาช่วยข้า” ตี้เซินยกมุมปากอย่างเย็นชา นัยน์ตาเต็มไปด้วยความชั่วร้าย
ในขณะเดียวกัน…