เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2269 ชุดเขียวปรากฏตัวอีกครั้ง / ตอนที่ 2270 อย่างนั้นก็ไปกันเถอะ
- Home
- เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า
- ตอนที่ 2269 ชุดเขียวปรากฏตัวอีกครั้ง / ตอนที่ 2270 อย่างนั้นก็ไปกันเถอะ
ตอนที่ 2269 ชุดเขียวปรากฏตัวอีกครั้ง
เพียงแต่ในนี้ล้วนมีแต่ผู้ฝึกวิชามารกับคนเลว หากมีวันหนึ่งเธอทลายเขตอาคมและค่ายกล แล้วจะจัดการกับคนข้างในนี้อย่างไร?
นึกถึงตรงนี้ เธอครุ่นคิดเงียบๆ ดูท่าก่อนจะทลายเขตอาคม เธอต้องจัดระเบียบทุกคนที่อยู่ในนี้เสียก่อน แต่ตอนนี้ เรื่องสำคัญที่สุดก็คือพัฒนาพลัง
มีเพียงพลังแข็งแกร่งแล้วเท่านั้น เธอจึงจะสามารถกำราบคนในนี้ได้ จะสังหารหรือจะเก็บไว้ ล้วนต้องใช้พลังมาตัดสิน
“อย่างนั้นก็สร้างกำลังขึ้นมากลุ่มหนึ่งก็แล้วกัน! เทียบกับผู้ฝึกวิชามารพวกนั้น พวกผู้ฝึกตนที่เต็มไปด้วยไอพิฆาตเหล่านั้นยังน่าคบหากว่า” เธอพึมพำ พลางเดินไปยังทิศทางที่ผู้ฝึกตนไร้สังกัดเหล่านั้นมักปรากฏตัว
เธอจะสร้างกลุ่มผู้ฝึกตนขึ้นมา กลุ่มคนที่สามารถต่อกรกับผู้ฝึกวิชามารในนี้ได้ และคนพวกนี้ก็จะหาจากเหล่าผู้ฝึกตนที่ไร้สังกัดที่อยู่ในนี้
เธอหยิบผลไม้ลูกหนึ่งออกจากห้วงมิติมากินพลางเดินไปในป่า ปล่อยดวงจิตออกไป สังเกตการเคลื่อนไหวรอบๆ เมื่อมาถึงในป่า ยังคงเห็นผู้ฝึกวิชามารบางส่วนนั่งรวมกลุ่มกัน แล้วก็มีผู้ฝึกตนบางส่วนนั่งอยู่แถวๆ นั้นด้วย สำหรับการปรากฏตัวของเธอ คนพวกนั้นลอบมองพิจารณาอย่างเงียบๆ
ทว่าสายตาของเธอมองผ่านผู้ฝึกวิชามารพวกนั้นไปหยุดอยู่ที่ผู้ฝึกตนเหล่านั้น ดวงจิตกวาดสำรวจ มองเห็นระดับวรยุทธ์ของพวกเขาอย่างชัดเจน
ที่นี่มีผู้ฝึกตนสิบสามคน ผู้ฝึกวิชามารสิบกว่าคน ล้วนนั่งกระจัดกระจายกันอยู่แถวๆ นี้ ผู้ฝึกวิชามารพวกนั้นยังไม่ต้องเอ่ยถึง แต่ผู้ฝึกตนพวกนั้น เธอมองสังเกตคร่าวๆ พลังต่ำสุดอยู่ในระดับกำเนิดวิญญาณขั้นสูงสุด ในจำนวนพวกเขา พลังระดับเซียนเหินมีมากที่สุด และก็มีสามสี่คนที่มีพลังอยู่ในระดับเซียนเหินขั้นสูงสุด จวบจนถึงปราชญ์เซียนขั้นกลางหนึ่งคน
เธอมองดูแวบหนึ่ง ปราชญ์เซียนขั้นกลางคนนั้นเป็นชายฉกรรจ์วัยกลางคนผู้หนึ่ง เสื้อผ้าบนตัวเก่ามาก มีหลายจุดที่ขาด ผมเผ้าที่รวบขึ้นก็ไม่ได้เป็นระเบียบมาก แต่หลุดรุ่ยลงมาหลายช่อ อาจเพราะสัมผัสได้ถึงสายตาพิจารณาของเธอ เขาเงยหน้ามองเธอ แววตาน่าครั่นคร้าม มีแววกระหายเลือด ไอพิฆาตรอบกายแผ่กระจาย
เห็นอย่างนั้น นัยน์ตาของเธอมีประกายวาบผ่าน พลังของคนคนนี้ไม่เลว หากดึงมาเป็นพวกจะต้องเป็นกำลังสำคัญได้แน่ เพียงแต่อีกฝ่ายเป็นปราชญ์เซียนขั้นกลาง พลังเช่นนี้ถือว่าแกร่งมากแล้วเมื่อเทียบกับคนในนี้ หากจะดึงมาเป็นพวกคงไม่ง่าย
จากข้อมูลที่ได้จากปากของผู้ฝึกวิชามารคนนั้น ผู้ฝึกตนที่อยู่ในนี้ล้วนไม่อยากถูกผูกมัด ไม่ยอมรับการถูกควบคุมดูแลจากเจ้านาย ในเมื่อเป็นอย่างนี้ อยากจะดึงคนมาเป็นพวกก็ต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับอีกฝ่าย หรือมีเหตุผลที่จะทำให้พวกเขายอมติดตาม
เธอละสายตากลับมา เขย่งปลายเท้ากระโดดขึ้นไปพักผ่อนบนต้นไม้ ไม่สนใจสายตาค้นหาที่คนอื่นมองมาที่เธอ
ผู้ฝึกตนที่อยู่รอบๆ ล้วนกำลังมองพิจารณาเฟิ่งจิ่ว ชายหนุ่มสวมชุดสีเขียว ท่าทางสะอาดสะอ้าน อีกทั้งยังอายุไม่มาก การปรากฏตัวอย่างกะทันหันของคนอย่างนี้ในสถานที่เช่นนี้ พวกเขาต่างก็ประหลาดใจอย่างมาก
ด้วยเหตุนี้จึงพิจารณาอย่างละเอียดครู่หนึ่ง เห็นว่าชายหนุ่มชุดเขียวไม่ใช่ผู้ฝึกพลังวิญญาณ แต่เป็นผู้ฝึกพลังเร้นลับ หนำซ้ำยังเป็นผู้ฝึกระดับเทพนักรบ อายุกระดูกเท่านี้ก็มีพลังแข็งแกร่งขนาดนี้แล้ว ถือว่าหาตัวจับได้ยากในนี้ เห็นได้ว่าชายคนนี้มีพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยมมาก เพียงแต่คนอย่างนี้มาปรากฏตัวที่นี่ได้อย่างไร?
อีกอย่าง แต่ก่อนไม่เคยเห็นว่ามีชายชุดเขียวอย่างนี้ปรากฏตัวแถวนี้สักครั้ง หรือว่าชายคนนี้เป็นพวกเดียวกับหญิงชุดแดงที่ปรากฏตัวเมื่อครึ่งเดือนก่อน?
………………………………….
ตอนที่ 2270 อย่างนั้นก็ไปกันเถอะ
นึกมาถึงตรงนี้ มีหลายคนที่เกิดแผนการในใจขึ้นมา เพียงแต่นี่เป็นเพียงความคิดชั่ววูบ เพราะอย่างไรพวกเขาก็ไม่ได้เห็นชายหนุ่มอยู่กับหญิงสาวคนนั้น ยิ่งไปกว่านั้น หญิงสาวผู้นั้นไม่มีกลิ่นอายพลังวิญญาณเลยแม้แต่น้อย แต่ชายหนุ่มคนนี้กลับมีกลิ่นอายพลังเร้นลับ อยู่ที่นี่ผู้ฝึกพลังเร้นลับไม่ได้ดิบดีอะไร แม้จะเป็นผู้ฝึกพลังเร้นลับระดับเทพนักรบก็เดาว่าพลังต่อสู้เทียบผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณไม่ได้ด้วยซ้ำ!
ยิ่งไปกว่านั้น อยู่ในนี้หากเป็นผู้ฝึกตนที่เป็นพันธมิตรกัน จะไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด ยามมีเรื่องจะได้ช่วยเหลือกันได้
ครึ่งเดือนมานี้ คนของกลุ่มอำนาจทั้งแปดล้วนกำลังตามหาผู้หญิงชุดแดงและชายฉกรรจ์ที่มีแผลเป็นบนหน้า ได้ยินมาว่า คนพวกนั้นกำลังคาดเดาว่าสองคนนั้นเป็นพวกเดียวกัน เพราะตั้งแต่ปรากฏตัวครั้งนั้น สองคนนั้นก็หายตัวไปพร้อมกัน เห็นได้ว่าจะต้องซ่อนตัวอยู่ที่ไหนสักที่แน่นอน
“พวกข้าจะไปหาอาหารในป่าอสูร มีใครอยากจะไปด้วยกันหรือไม่?” ผู้ฝึกวิชามารคนหนึ่งถามขึ้น ข้างกายเขา ยังมีผู้ฝึกวิชามารระดับเซียนเหินขั้นสูงสุดนั่งอยู่ด้วยคนหนึ่ง
ผู้ฝึกตนที่อยู่แถวๆ นั้นเงียบงัน ไม่มีใครตอบรับ คนที่รู้จักสองคนนี้ต่างรู้ดี ใครที่ไปกับพวกเขาล้วนไม่เคยได้กลับมา
เห็นคนที่นั่งอยู่รอบๆ ไม่มีใครรับคำ สองคนนั้นลุกขึ้นยืนมองหน้ากัน หนึ่งในนั้นเผยยิ้มชั่วร้ายบนใบหน้า กวาดสายตามองทุกคนแวบหนึ่ง ก่อนจะหยุดอยู่ที่ชายหนุ่มชุดเขียวที่อยู่บนต้นไม้เพียงลำพัง
ทั้งสองพยักหน้าให้กัน สาวเดินไปหยุดใต้ต้นไม้ ตะโกนเรียกชายหนุ่มชุดเขียวบนต้นไม้ “เฮ้ย! เจ้าไปกับพวกข้า”
คนอื่นๆ ที่เห็นอย่างนั้นแหงนหน้ามองขึ้นไปบนต้นไม้อย่างสงสัย ที่คิดจะพาชายหนุ่มชุดเขียวคนนี้ไป? พวกเขาเอ่ยปากชวน เดาว่าชายชุดเขียวคงหนีไม่พ้นแล้ว
ผู้ฝึกวิชามารบางคนมองอย่างนึกสนุก ในตามีประกายตื่นเต้นกระหายเลือดเหมือนกำลังรอดูฉากสนุก พวกเขาจินตนาการได้เลยว่าจุดจบของชายชุดเขียวคนนั้นจะเป็นอย่างไร
เพราะผู้ฝึกวิชามารสองคนนั้นเอ่ยปากชวนแล้ว เช่นนั้นแม้จะไม่ตายในป่าอสูร ก็จะต้องถูกฆ่าระหว่างทางกลับมาอย่างแน่นอน หากไม่ยอมตามไป อย่างนั้น เขาก็จะต้องตายตั้งแต่ตอนนี้!
และไม่ว่าเขาจะเลือกอะไร สุดท้ายก็ต้องตายอย่างหนีไม่พ้นอยู่ดี
เฟิ่งจิ่วที่อยู่บนต้นไม้เหล่มองสองคนข้างล่างแวบหนึ่ง นัยน์ตาไหวระริก ก่อนถามพวกเขาว่า “ให้ข้าไปป่าอสูรกับพวกเจ้า?”
“ใช่” ผู้ฝึกวิชามารที่อยู่ข้างล่างรับคำ ดวงตากระหายเลือดคู่นั้นจ้องเขาที่อยู่ข้างบน
เฟิ่งจิ่วลูบคาง ถามว่า “ได้ยินมาว่าที่นั้นมีแต่สัตว์อสูรที่ดุร้าย แม้แต่คนในแปดกลุ่มอำนาจใหญ่ของที่นี่ก็ยังไม่กล้าเข้าใกล้ส่งเดช?”
“ถูกต้อง”
ผู้ฝึกวิชามารรับคำอีกครั้ง หนึ่งในนั้นเอามือจับกระบี่ยาวที่เอว คล้ายว่าขอเพียงชายชุดเขียวเอ่ยปฏิเสธ เขาก็จะลงมือสังหารเสีย
“แสดงว่า เนื้อสัตว์ล้วนอยู่ที่นั่นน่ะสิ?” ดวงตาของเธอเป็นประกาย ดวงหน้าหมดจดมีแววตื่นเต้นคาดหวังพาดผ่าน
“ใช่แล้ว”
ผู้ฝึกวิชามารคนนั้นตอบอย่างใจเย็น จ้องสีหน้าตื่นเต้นดีใจของชายชุดเขียว ขณะที่ในใจกลับหัวเราะหยัน ถึงแม้เนื้อสัตว์จะอยู่ที่นั่นหมด แต่เงื่อนไขก็คือต้องมีวิธีการที่จะล่าสัตว์อสูรให้ได้ก่อน สัตว์อสูรที่อยู่ในนั้นล้วนมีนิสัยดุร้ายป่าเถื่อน แม้แต่ผู้ฝึกตนอย่างพวกเขา คิดจะล่าสังหารยังเป็นเรื่องยากแทบสำลัก
“ได้ อย่างนั้นก็ไปกันเถอะ!” เธอยิ้มรับ กระโดดลงมาจากต้นไม้
………………………………….