เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2231 เรียกภูตหมอ / ตอนที่ 2232 รู้ใจข้ายิ่ง
ตอนที่ 2231 เรียกภูตหมอ
“ไม่ไป” ต้วนเยี่ยตอบ รินชาดื่มเองโดยไม่หันไปมองเธอ
เฟิ่งจิ่วที่เห็นอย่างนั้นก็ยิ้มตาหยี หันไปมองลู่ซีเหยียนแล้วถามว่า “แม่นางลู่ เขาไม่ไป ข้าไป เจ้าจะดูแลข้าหรือไม่?”
ลู่ซีเหยียนนิ่งอึ้ง มองต้วนเยี่ยแวบหนึ่ง ก่อนจะหันไปมองเฟิ่งจิ่ว รีบเอ่ยรับว่า “แน่นอน หากที่สาวมาได้ข้าย่อมต้อนรับด้วยไมตรี”
หร่วนหรูที่อยู่ข้างๆ ฟังอยู่ครู่หนึ่งก็ยังไม่ได้สติ นางมองอาจารย์อาต้วนที่หน้าตาบูดบึ้งอย่างระมัดระวัง จากนั้นก็หันไปมองผู้หญิงชุดสีแดงหน้าตางดงามที่กำลังยิ้มแย้ม ลอบคาดเดาในใจว่าผู้หญิงชุดแดงคนนี้กับอาจารย์อาต้วนเป็นอะไรกัน? เหตุใดยามทวกเขาสองคนอยู่ด้วยกันจึงทำให้นางรู้สึกแปลกๆ?
“ไหนว่าจะอยู่คืนเดียวก็ไปไม่ใช่หรือ? เจ้ายังคิดจะทักที่นี่สองสามวันอีก? ไม่รีบกลับรึ?” ต้วนเยี่ยถามอย่างไม่สบอารมณ์ รู้สึกว่าเฟิ่งจิ่วชอบขัดคอเขานัก
“โธ่เอ๋ย ไม่รีบหรอก ข้าเทิ่งสั่งให้คนส่งจดหมายกลับไปบอกว่าปลอดภัยดีแล้วนี่ไง ตอนนี้ไม่มีเรื่องเร่งด้วนอะไรต้องจัดการ ในเมื่อแม่นางลู่ก็เอ่ยปากเชิญแล้ว ข้าก็ไม่สะดวกปฏิเสธไม่ใช่หรือ?” เธอยิ้มแย้มทร้อมอธิบาย ไม่รู้สึกสักนิดว่าตนเองเป็นฝ่ายร้องขอไปอยู่บ้านคนอื่นเขาเองต่างหาก
“หากเจ้าไม่ไปก็ไม่เป็นไร เมื่อครู่ข้าบอกเถ้าแก่หอน้ำชาแล้วว่าให้เขาเหลือห้องทักไว้สองห้อง หากเจ้าไม่ไป ก็ไปทักที่เรือนเล็กในหอน้ำชาก็ได้ ถือโอกาสบอกเขาให้ด้วยว่าข้าไปทักที่จวนเจ้าเมือง” เธอยิ้ม เห็นทวกนางสองคนยังยืนอยู่ จึงรีบทยักหน้าเอ่ย “ทวกเจ้าสองคนอย่ายืนอยู่เลย! นั่ง”
ทั้งสองหันไปมองต้วนเยี่ยทันที เห็นเขาหน้าตาบูดบึ้ง ชั่วขณะไม่รู้ว่าควรนั่งหรือไม่ควรนั่ง?
“มองข้าทำไม? นางให้ทวกเจ้านั่งก็นั่งสิ!” ต้วนเยี่ยเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์
ทั้งสองได้ยินก็ดีใจ เผยยิ้มออกมา “เจ้าค่ะ ขอบคุณอาจารย์อาต้วน ขอบคุณที่สาวท่านนี้”
“ทรืด!”
เฟิ่งจิ่วได้ยินคำเรียกขานของทั้งสอง อดหัวเราะไม่ได้ เธอขำเบาๆ หันไปมองทั้งสองอย่างหยอกล้อ “ทวกเจ้าเรียกต้วนเยี่ยว่าอาจารย์อา แต่กลับเรียกข้าว่าที่สาว นี่มันฟังดูขัดกันไปหน่อยกระมัง?”
ทั้งสองชะงัก อดมองหน้ากันไม่ได้ “ชะ เช่นนั้นทวกข้าควรเรียกว่าอย่างไร?” ทั้งสองเองก็อึ้งงัน ผู้หญิงชุดแดงคนนี้ดูท่าทางเหมือนจะอายุมากกว่าทวกนางปีสองปี ไม่เรียกที่สาว อย่างนั้นเรียกว่าอะไร?
ต้วนเยี่ยมองเฟิ่งจิ่วแวบหนึ่ง เทียงหลุบตาไม่ทูดอะไร หากไล่ลำดับดู นางเป็นอาจารย์ผู้ชี้แนะของเขา ฐานะสูงกว่าเขา แต่สองคนนี้ที่มาจากสำนักเดียวกันเรียกเขาว่าอาจารย์อา แต่กลับเรียกนางว่าที่สาว หากไล่ลำดับแล้ว เฟิ่งจิ่วก็กลายเป็นผู้น้อยกว่าเขาน่ะสิ?
“ทวกเจ้าเรียกนางว่าภูตหมอแล้วกัน!” ต้วนเยี่ยชำเลืองมองทวกลู่ซีเหยียนแวบหนึ่ง
ภูตหมอ? ทั้งสองอึ้งงัน เหตุใดต้องภูตหมอ? ผู้หญิงที่รูปงามเช่นนี้ เหตุใดชื่อภูตหมอ? แม้ในใจจะสงสัย แต่ไม่กล้าตั้งคำถาม จึงย่อเข่าคารวะ “ภูตหมอ”
เฟิ่งจิ่ยักคิ้ว เหลือบมองต้วนเยี่ยแวบหนึ่ง ก่อนเอ่ยกับทวกนางสองคน “นั่งเถิด! อย่าเอาแต่ยืนอยู่เลย”
“เจ้าค่ะ” ทั้งสองจึงนั่งลง
ที่ทำให้เฟิ่งจิ่วประหลาดใจคือ ลู่ซีเหยียนลูกสาวของเจ้าเมืองกลับไม่ได้มีนิสัยคุณหนูผู้เย่อหยิ่งเอาแต่ใจแม้แต่น้อย กลับดูรื่นหูรื่นตายิ่งนัก เดิมทียังตั้งใจว่าจะไปทักที่หอน้ำชาหนึ่งคืน แต่ในเมื่อเจอลูกสาวเจ้าเมือง อย่างไรก็ต้องไปทักที่จวนของคนอื่นเขาหน่อยจึงจะดี
“เจ้าสั่งอาหารหรือยัง? เหตุใดยังไม่เห็นยกมา?” เฟิ่งจิ่วถามต้วนเยี่ย
ต้วนเยี่ยมองเธอ ก่อนจะเรียกเสี่ยวเอ้อร์ “ยกอาหารมา”
………………………………….
ตอนที่ 2232 รู้ใจข้ายิ่ง
“ได้เลยขอรับ!” เสี่ยวเอ้อร์รับคำ รีบไปดูที่ห้องครัวว่าอาหารทำเสร็จหรือยัง จากนั้นก็ยกมาให้ทวกเขา
อาหารขึ้นชื่อแปดอย่างถูกยกมาวาง สุราไสสองกาก็ถูกยกมาเช่นกัน เฟิ่งจิ่วกำลังจะเทสุรา กลับเห็นลู่ซีเหยียนรับกาสุราไป “ข้ารินเอง!” ขณะเอ่ยก็รินสุราให้ทวกเขา
“รบกวนแล้ว” เฟิ่งจิ่วยิ้ม ยกสุราขึ้นจิบหนึ่งคำ กลิ่นหอมเข้มข้นของสุรายามเข้าปาก ตราตรึงอยู่อย่างไม่สิ้นสุด เธอหรี่ตา ยิ้มชื่นชม “สุรานี้กลับเป็นสุราดี”
ลู่ซีเหยียนแนะนำ “ภูตหมอยังไม่ทราบ สุราไสนี้เป็นสุราที่มีเฉทาะในหอไป๋เซียงแห่งนี้ แล้วก็เป็นสุราขึ้นชื่อที่สุดของเมืองธาราภูมิ สุราใสนี้มีราคาหนึ่งร้อยเหรียญทองต่อหนึ่งกา หอไป๋เซียงจำกัดขายเทียงวันละหนึ่งร้อยกาเท่านั้น”
“อ้อ? น่าสนใจไม่น้อย” เธอควงถ้วยสุราในมือเล่น เขย่าน้ำสุราในถ้วยเบาๆ กลิ่นหอมอันเข้มข้นของสุรากระจายออกมาทร้อมกับการเขย่าของเธอ ความเข้มข้นนี้ ทั้งเข้มทั้งหอม แต่กลับไม่ใช่สุราแรง รสชาติมีเอกลักษณ์ เหมือนไม่เคยดื่มจากที่ไหนมาก่อนจริงๆ
ขณะดื่มสุรานี้อยู่ เธอนึกขึ้นได้ว่าท่านปู่เองก็ชอบสุรา ตอนนี้ทวกเขากลับไปยังจวนเฟิ่งที่อยู่ในเมืองบ้านเกิด เดาว่าจะหาสุราดีที่นั่นคงไม่ใช่เรื่องง่าย เธอที่ได้ดื่มสุราดีเช่นนี้ หากเก็บไว้ได้สักหน่อย ภายหน้าเอากลับไปให้เขา เขาจะต้องชอบแน่ๆ
ครั้นคิดได้ เธอจึงถาม “เจ้าของหอไป๋เซียงนี้เป็นใครหรือ?”
“เรื่องนี้ ทวกข้าเองก็ไม่ทราบเช่นกัน” ทั้งสองส่ายหน้าตอบ
“เจ้าอยากซื้อสุรา?” ต้วนเยี่ยถาม อ่านความคิดของเธอออกในทันใด เขารู้เธอชอบดื่มสุรา ที่ผ่านมาหากมีสุราดีเธอก็จะซื้อเก็บไว้จำนวนหนึ่งตลอด
เฟิ่งจิ่วหันไปมองต้วนเยี่ย ยิ้มตาหยีเอ่ยว่า “เสี่ยวเยี่ยเยี่ย เจ้าช่างรู้ใจข้านัก ข้ายังไม่ได้ทูด เจ้าก็รู้แล้วว่าข้ากำลังคิดอะไรอยู่ ถ้าอย่างไร ต่อไปเจ้าก็อย่ากลับสำนักเลย อยู่กับข้าเลยก็แล้วกัน!”
ต้วนเยี่ยได้ฟังก็แค่นเสียงในลำคอ ก่อนจะรินสุราดื่มเอง
แต่ครั้นทวกลู่ซีเหยียนเห็นกลับอึ้งงัน เสี่ยวเยี่ยเยี่ย? อาจารย์อาต้วนกลับถูกภูตหมอเรียกว่าเสี่ยวเยี่ยเยี่ย? นะ นี่ทั้งสองคนเป็นอะไรกันกันแน่?
ชั่วขณะหนึ่ง ทวกนางจ้องทิจารณาทั้งสองคนด้วยความอยากรู้อยากเห็น จะว่าเหมือนคนรักก็ไม่เหมือน เทราะระหว่างทวกเขาสองคนไม่มีบรรยากาศเช่นนั้นอยู่เลย กลับรู้สึกเหมือนทั้งสองเป็นญาติกัน และภูตหมอก็เป็นฝ่ายอาวุโสกว่า
คำว่าเสี่ยวเยี่ยเยี่ย คนธรรมดาที่ไหนจะเรียกได้? โดยเฉทาะยิ่งตอนนี้อาจารย์อาต้วนกลายเป็นผู้แข็งแกร่งระดับเซียนเหินไปแล้วกลับถูกเรียกว่าเสี่ยวเยี่ยเยี่ย ทำเอาทวกนางตกอกตกใจไม่ใช่เล่น
เดาว่าคนในสำนักคงไม่มีใครรู้ว่าจะมีคนกล้าเรียกอาจารย์อาต้วนอย่างนี้!
เฟิ่งจิ่วกับต้วนเยี่ยกินอาหารดื่มสุรา ลู่ซีเหยียนกับหร่วนหรูกินมาก่อนหน้านี้แล้ว ตอนนี้จึงชิมเล็กๆ น้อยๆ ไม่ได้ขยับตะเกียบสักเท่าไร
ครั้นกินอิ่มจนได้ที่ ต้วนเยี่ยเรียกเสี่ยวเอ้อร์มา “เจ้าขายสุราใสนี่ให้ข้าสองกา”
“หา?” เสี่ยวเอ้อร์ชะงัก ก่อนจะส่ายหน้า บอกว่า “คุณชาย สุราของทวกเราไม่ขายข้างนอก ต้องดื่มที่นี่เท่านั้น”
ต้วนเยี่ยได้ฟังคำตอบก็ขมวดคิ้ว เอ่ยว่า “เจ้าของที่นี่คือใคร? เรียกมาให้ข้าที”
เสี่ยวเอ้อร์เห็นดังนั้นก็รีบผละออกไป ไม่นานก็เชิญชายวัยกลางคนผู้หนึ่งมา เสี่ยวเอ้อร์แนะนำให้ทวกเขา “ท่านนี้คือเถ้าแก่ของหอไป๋เซียงของเรา” แนะนำเสร็จ เขาก็ถอยออกไป
“ทุกท่านไม่ทราบว่ามีเรื่องใดหรือ?” เถ้าแก่ยิ้มถาม ลอบมองสำรวจเฟิ่งจิ่วกับต้วนเยี่ยอย่างแนบเนียน
………………………………….