เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2151 สงสัย / ตอนที่ 2152 รู้หรือไม่ข้าเป็นใคร
ตอนที่ 2151 สงสัย
“ขอรับ” เจ้าเขาผู้นั้นรับคำ ก่อนจะขอตัวกลับก่อน
ครั้นเห็นเขากลับไปแล้ว เหล่าเจ้าเขาที่เหลือมองหน้ากัน หนึ่งในนั้นเอ่ยปากอย่างลังเล “เจ้าสำนัก ที่จริงพวกข้าต่างก็สงสัยอยู่อย่างหนึ่ง ไม่รู้ว่าควรพูดดีหรือไม่”
ได้ยินอย่างนั้น เจ้าสำนักมองพวกเขา เอ่ยว่า “มีอะไรก็พูดมาเถิด!”
เห็นอย่างนั้น เจ้าเขาผู้นั้นจึงเอ่ยว่า ไป๋ชิงเฉิงผู้นี้แม้เราจะมั่นใจว่านางคือเฟิ่งซิง แต่เมื่อเวลาผ่านไปนานเข้า พวกข้ารู้สึกว่านิสัยใจคอและพฤติกรรมของนางออกจะ…”
ชั่วขณะหนึ่ง เขาไม่รู้จะสรรหาคำใดมาอธิบายความเป็นไป๋ชิงเฉิง เพียงเอ่ยว่า “บนตัวนาง แม้จะมีกลิ่นอายคนชั้นสูง และมีปานของเฟิ่งหวงอยู่ แต่นางอาจดูเหมือนสง่างามเรียบร้อยไม่แก่งแย่งชิงดีกับผู้ใด ทว่าแท้จริงแล้วกลับเอ่ยวาจาเชือดเฉือนเจ้าแผนการ พวกข้ากังวลว่ามีอะไรผิดพลาดหรือเปล่า?”
ได้ยินอย่างนั้น ดวงตาของเจ้าสำนักฉายแววครุ่นคิด “ถูกต้องแล้ว ข้าก็กังวลเหมือนกัน ในฐานะเฟิ่งซิง ไม่ว่าจะทัศนคติหรือนิสัยใจคอ หรือแม้แต่น้ำใจก็ต้องกว้างขวาง ไป๋ชิงเฉิงหน้าตาและพรสวรรค์ล้วนนับว่ายอดเยี่ยม แต่เรื่องนิสัยใจคอและทัศนคติ กลับค่อนข้าง…”
“อะแฮ่ม!”
เจ้าสำนักกระแอมเบาๆ มองทุกคน กล่าวว่า “เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน! ท่านเซียนหยวนหนัน เจ้าหาโอกาสไปเยือนสำนักบุปผาเซียนสักครั้ง ข้ารู้สึกว่าสำนักบุปผาเซียนมีท่าทีที่พวกเขามีต่อเฟิ่งซิงของเราต่างจากคนอื่นอยู่บ้าง เจ้าไปถามเจ้าสำนักบุปผาเซียนดู เรื่องนี้ต้องดำเนินการอย่างลับๆ อย่าปล่อยให้แพร่งพรายออกไป โดยเฉพาะไป๋ชิงเฉิง ตอนนี้อย่าเพิ่งแสดงท่าทีที่เปลี่ยนไปต่อนาง รอทุกอย่างชัดเจนก่อนแล้วค่อยว่ากันอีกที”
“ขอรับ” เซียนหยวนหนันผู้นั้นรับคำ เอ่ยว่า “ข้าสะสางเรื่องในมือเสร็จ ก็จะออกเดินทางพรุ่งนี้เลย”
ขณะที่พวกเขากำลังหารือกันทางนี้ ในอีกด้านหนึ่ง ซ่งหมิงกำลังพาเฟิ่งจิ่วไปยังยอดเขาโอสถ
“ซ่งหมิง? เจ้ามาหาข้ามีเรื่องใดหรือ?” เจ้าเขาโอสถลูบหนวดเดินมา มองซ่งหมิงที่ใบหน้าเปื้อนยิ้ม ก่อนหันไปมองเฟิ่งจิ่วอย่างพินิจพิจารณา
“นี่ใครหรือ? เหตุใดพามาหาข้า?”
“เจ้าเขาเย่ ผู้นี้ก็คือ…” ซ่งหมิงกำลังจะแนะนำเฟิ่งจิ่ว ก็เห็นเจ้าเขาโอสถที่กำลังลูบหนวดพลันเบิกตากว้าง สาวเท้ายาวๆ เดินไปหาเฟิ่งจิ่ว
“ดอกคู่ใบม่วง!”
เจ้าเขาโอสถจ้องดอกคู่ใบม่วงในมือเฟิ่งจิ่ว เอ่ยว่า “เจ้ามีดอกคู่ใบม่วงได้อย่างไรกัน?”
“แน่นอนว่าบังเอิญได้มาอยู่แล้ว” เฟิ่งจิ่วยิ้มตาหยี ท่าทางผ่อนคลายค่อนไปทางขี้เกียจ เธอมองเจ้าเขาโอสถที่ดวงตาฉายประกายดีใจออกมา ก่อนเผยยิ้ม
“สหายน้อย เจ้าต้องการเงินเท่าใด? ข้าอยากซื้อดอกคู่ใบม่วงของเจ้า!”
แววตาเขาเหมือนตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะคว้ามาให้ได้ สำหรับเขา ยาทิพย์ที่มีค่าเช่นนี้ตกอยู่ในกำมือของเด็กหนุ่มคนหนึ่ง ไม่มีทางใช้มันได้อย่างคุ้มค่าที่สุดแน่นอน ที่สำคัญคือ ตอนนี้เขาขาดดอกคู่ใบม่วงอยู่หนึ่งต้น หนำซ้ำ ต้นนี้ยังเป็นต้นที่อายุห้าร้อยปีเสียด้วย เพียงแค่ เหตุใดจึงดูเหมือนเพิ่งดึงออกมาจากดินกันเล่า?
สายตาของเขาฉายแววประหลาดใจ มองดอกคู่ใบม่วงที่รากยังเลอะเศษดินอยู่ หน้าตาดูประหลาด
เด็กหนุ่มคนนี้ไปเอาดอกคู่ใบม่วงมาจากที่ใดกันแน่?
“ข้าไม่ขาดเงิน ไม่ขาย” เธอส่ายหน้าพร้อมกับนัยน์ตาแฝงยิ้ม
“อย่างนั้นข้าเอายาวิญญาณหรือยาทิพย์แลกกับเจ้า? หรือว่าเจ้าชอบอาวุธวิเศษ? ของเหล่านี้ข้าล้วนมีหมด” เขาเอ่ยด้วยความร้อนใจ ดวงตาจ้องยาทิพย์ในมือเฟิ่งจิ่วเขม็ง
………………………………….
ตอนที่ 2152 รู้หรือไม่ข้าเป็นใคร
“ข้าไม่ขาดยาอายุวัฒนะหรือยาทิพย์ อาวุธวิเศษข้าก็มี” เธอยิ้มตาหยี เห็นตาเฒ่าเริ่มหน้าบึ้ง จึงยิ้มเอ่ยว่า “แม้จะไม่ได้มาแลกเปลี่ยนสิ่งของกับท่าน แต่ว่า…”
“แต่ว่าอะไร?”
เจ้าเขาโอสถถาม นึกในใจว่าเด็กหนุ่มผู้นี้คิดจะเล่นอะไรอยู่กันแน่? ไม่เอายาอายุวัฒนะของเขา ไม่เอายาทิพย์ อาวุธวิเศษก็ไม่เอาด้วย? เขารู้มาว่ายาที่เขากลั่นออกมา เป็นของที่หาซื้อได้ยากข้างนอกนั่น
“ข้าพนันกับท่านสักตั้ง เป็นอย่างไร?”
ได้ยินอย่างนั้น เจ้าเขาโอสถครุ่นคิด มองเฟิ่งจิ่ว ถามว่า “พนัน? ตลอดชีวิจข้าไม่เคยพนันกับผู้ใด และจะไม่พนันด้วย”
แค่กลั่นยาเขาก็ไม่มีเวลาแล้ว จะเอาเวลาที่ไหนไปเล่นพนันกับคนอื่นเขา? พวกพนันเล็กพนันใหญ่อะไรพวกนั้น เขาไม่เข้าใจกติกาเลยแม้แต่น้อย
ซ่งหมิงยืนอยู่ข้างๆ ไม่พูดอะไร พอได้ยินเจ้าเขาโอสถบอกว่าไม่พนัน เขาหันไปมองเฟิ่งจิ่ว
เฟิ่งจิ่วยิ้ม เอ่ยว่า “แทนที่จะบอกว่าพนัน ไม่สู้บอกว่าประลองดีกว่า”
“อ้อ? อย่างไรหรือ?” เขาเริ่มสนใจ เด็กหนุ่มอายุเท่านี้ช่างกล้าคุยโวโอ้อวด รู้หรือไม่ว่าเขาเป็นใคร? กลับกล้าบอกว่าจะประลองกับเขา?
“ประลองกลั่นยา หากท่านเจ้าเขาชนะ ดอกคู่ใบม่วงต้นนี้ข้ายกให้ท่าน หากข้าชนะ…”
เธอยิ้มๆ ประกายเจ้าเล่ห์พาดผ่านดวงตา น้ำเสียงแฝงแววท้าทาย เอ่ยว่า “ได้ยินว่าเจ้าเขามีหญ้าเจ็ดดาราอายุห้าร้อยปีอยู่ต้นหนึ่ง? เอาต้นนั้นมาเป็นของเดิมพัน ท่านเจ้าเขากล้าหรือไม่?”
ได้ฟังน้ำเสียงท้าทายของเด็กหนุ่ม หน้าตาดูมั่นใจ ท่าทางเหมือนเด็กน้อยอวดดีที่ไม่รู้ที่สูงที่ต่ำ ทำให้เจ้าเขาโอสถตะลึงงัน ก่อนจะแหงนหน้าหัวเราะเสียงดัง
“ฮ่าๆๆๆๆ…”
เสียงหัวเราะก้องกังวานสะท้านไปทั่วยอดเขาโอสถ ดึงดูดสายตาของเหล่าลูกศิษย์ให้มองมาด้วยความประหลาดใจ
“เจ้าหนู เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าเป็นใคร?” หัวคิ้วของเขาแฝงรอยยิ้ม มือหนึ่งไพล่หลัง มือหนึ่งลูบหนวด ยิ้มตาหยีมองเด็กหนุ่มที่ไม่รู้จักฟ้าสูงดินต่ำ
เฟิ่งจิ่วหยักยิ้มมุมปาก “รู้ อาวุโสเยี่ยแห่งยอดเขาโอสถสำนักตะวันฉาย ได้ยินมาว่า ในสี่สำนักเซียน หากเปรียบกันเรื่องพรสวรรค์ด้านการกลั่นยา อาวุโสเยี่ย เจ้าเขาแห่งยอดเขาโอสถนับว่าเป็นที่หนึ่ง”
“ในเมื่อรู้แล้ว เจ้าหนูอย่างเจ้ายังกล้าประลองกับข้าอีกหรือ?” เขาตะลึงเล็กน้อย เด็กหนุ่มคนนี้ไม่ใช่ว่าคิดจะมอบของให้เขาเฉยๆ หรอกหรือ?
“แน่นอนว่ากล้า เพียงแต่ ข้ากลัวว่าท่านเจ้าเขาจะไม่กล้า” เธอมองเขายิ้มๆ พร้อมกับท้าทาย
ได้ยินอย่างนั้น เจ้าเขาโอสถลูบหนวด ส่ายหน้ายิ้มๆ “เจ้าหนู เจ้าช่างน่าสนใจ ในเมื่อเจ้าไม่กลัวแพ้ อย่างนั้นข้าก็จะไม่กลัวผู้อื่นหาว่าผู้ใหญ่รังแกเด็ก วันนี้ก็สายมากแล้ว เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน! พรุ่งนี้พวกเราค่อยประลองกัน เป็นอย่างไร?”
“ได้อยู่แล้ว” เธอพยักหน้า ยิ้มเหมือนทีเล่นทีจริง “แต่ข้าหวังว่าท่านเจ้าเขาจะเชิญคนที่เชื่อถือได้มาเป็นสักขีพยานในการประลองพรุ่งนี้สักสองสามคน เพราะข้ากลัวว่าหากท่านเจ้าเขาแพ้แล้วจะไม่ยอมรับ อย่างนั้นข้าคงเสียเปรียบแย่”
“ฮ่าๆๆๆๆ…”
เจ้าเขาโอสถได้ยินอย่างนั้น ได้แต่หัวเราะลั่นอย่างนึกขำ “ได้ๆๆ เจ้าวางใจเถิด! ค่ำนี้ข้าจะไปบอกเจ้าสำนักกับเหล่าเจ้าเขา ขอให้พวกเขามาดูการประลองครั้งนี้ของเรา ถึงเวลานั้น ย่อมจะบอกกติการในการประลองให้พวกเขาทราบ ให้พวกเขาเป็นพยาน อย่างนี้ ภายหน้าข้าจะได้ไม่ตกเป็นที่ครหาว่ารังแกเด็ก”
เธอนัยน์ตาไหวระริก ยิ้มเอ่ยว่า “ท่านเจ้าเขาโอสถ ข้าไม่ใช่เด็กแล้ว ท่านจะดูแคลนข้าไม่ได้เชียว”
………………………………….