เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2109 บุญคุณตระกูลจัว / ตอนที่ 2110 ร่วมฉลองกันคืนนี้
ตอนที่ 2109 บุญคุณตระกูลจัว
ไม่รู้ว่าแม่หนูนี่เมื่อไรจะยอมเขาเสียที?
เวลานี้ เฟิ่งจิ่วที่ตามจัวฉู่ฮุยเข้าไปเห็นว่าข้างในนี้เป็นห้องโถงเล็กๆ ตกแต่งธรรมดาเรียบง่าย นอกจากพระพุทธรูปหนึ่งองค์ก็ไม่มีอะไรอย่างอื่นอีก
ด้านในห้องโถง ฮูหยินผู้เฒ่านั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้าพระพุทธรูปเงียบๆ ในมือของนางมีลูกประคำที่กำลังถูกหมุนช้าๆ กลีบปากขยับเล็กน้อย แต่กลับไม่ได้ยินเสียงใด
“ท่านแม่ มาแล้วขอรับ” จัวฉู่ฮุยเอ่ย มองมารดาที่อยู่ตรงหน้าพระพุทธรูป
ได้ยินอย่างนั้น ฮูหยินผู้เฒ่าหยุดหมุนลูกประคำในมือ ก่อนจะลุกขึ้น ปล่อยให้จัวฉู่ฮุยประคองไปนั่งบนเก้าอี้ จากนั้นจึงค่อยมองผู้มา
ดวงตาชราจับจ้องมาที่เฟิ่งจิ่ว จ้องพิจารณาเงียบๆ นางมองหญิงสาวที่แต่งกายเป็นชายตรงหน้า ถามว่า “แม่นางเป็นลูกศิษย์ของฉู่ป้าเทียนหรือ?”
ได้ยินอย่างนั้น จัวฉู่ฮุยอึ้งเล็กน้อย ก่อนหันไปมองเฟิ่งจิ่ว
เฟิ่งจิ่วเผยยิ้ม สายตาจับจ้องไปที่ฮูหยินผู้เฒ่า ก้าวเข้าไปคารวะ “เฟิ่งจิ่วคารวะอาจารย์แม่ ท่านอาจารย์ของข้า ชื่อฉู่ป้าเทียนจริงๆ เจ้าค่ะ”
ได้ยินอย่างนั้น ฮูหยินผู้เฒ่าเผยยิ้ม “นึกไม่ถึง นึกไม่ถึงว่าเขาจะมีลูกศิษย์ด้วย นึกไม่ถึงว่าเขาจะยังจำได้ว่าตนเองมีลูกหลานอยู่ด้วย หึๆ…”
ด้านใน ทั้งสามคนกำลังพูดคุยกัน ส่วนด้านนอก ชายชรามองจัวจวินเยวี่ยที่กำลังนั่งหลังตรง เขาอยากรู้ว่าข้างในเป็นอย่างไรบ้าง จึงชะเง้อมองเป็นระยะ และมองจัวจวินเยวี่ยที่ใบหน้าไร้อารมณ์ จึงถามว่า “เจ้าไม่อยากรู้หรือว่าพวกเขาคุยอะไรกันอยู่? ไม่เข้าไปดูหน่อยหรือ?”
“ท่านย่ากับท่านพ่ออยู่ข้างใน ไม่มีธุระกงการอะไรของข้า” จัวจวินเยวี่ยตอบ
“ฮี่ๆ เจ้าหนู ข้าจะบอกเรื่องจริงจังอะไรบางอย่างให้เจ้าฟัง” ตาเฒ่าหรี่ตาหัวเราะ ถึงปากพูดว่าจะบอกเรื่องจริงจังให้เขาฟัง แต่ดูจากสีหน้าและเสียงหัวเราะของเขา กลับทำให้จัวจวินเยวี่ยนึกไม่ออกว่าจะเชื่อมโยงตาเฒ่าเข้ากับเรื่องจริงจังได้อย่างไร
เห็นจัวจวินเยวี่ยได้แต่มองเขาโดยไม่พูดอะไร ตาเฒ่ากระแอมเบาๆ เอ่ยว่า “คืออย่างนี้ ข้าเห็นว่าเฟิ่งจิ่วมีความสามารถไม่น้อย เจ้าดูสิ! จอมมารโลหิตที่เราเจอในป่าภูเขาไฟยังรู้จักฉายาภูตหมอของนางเลย แค่เดาก็รู้แล้ว ชื่อเสียงของนางต้องไม่ธรรมดาแน่
อีกอย่างคือไม่ว่าจะเป็นด้านพลังหรือความสามารถนางล้วนโดดเด่นเหนือคนอื่น โดยเฉพาะวิชาแพทย์ของนาง ยิ่งเยี่ยมยอดหาใครเปรียบไม่ได้ คนอย่างนี้หากผูกสัมพันธ์กับนางได้ย่อมเป็นประโยชน์ต่อตนเอง คนอื่นอยากผูกสัมพันธ์กลับทำไม่ได้ แต่พวกเจ้าไม่เหมือนกันนะ พวกเจ้าเป็นทายาทรุ่นหลังของอาจารย์นาง นางยังต้องเรียกย่าของเจ้าว่าอาจารย์แม่เลย มีสายสัมพันธ์ระดับนี้ พวกเจ้าต้องกอดไว้ให้แน่นเชียว จะได้ไม่เสียใจภายหลัง”
พูดมาถึงตรงนี้ ตาเฒ่าเงียบไปครู่หนึ่ง หันไปมองข้างในแวบหนึ่ง ก่อนจะกระซิบเบาๆ ว่า “เพราะฉะนั้น หากนางบอกว่าจะช่วยพวกเจ้า พวกเจ้าอย่าได้เกรงใจ สิทธิประโยชน์ดีๆ เช่นนี้ ไม่เอาก็เสียเปล่า”
ฟังตาเฒ่าพูดจนจบ จัวจวินเยวี่ยได้แต่มองเขาด้วยหางตาอย่างเอือมระอา ไม่พูดอะไร
ภายในห้อง ทั้งสามคนกำลังพูดคุยกัน
ฮูหยินผู้เฒ่ามองเฟิ่งจิ่ว น้ำเสียงแหบชราเอื้อนเอ่ยทีละคำ “หลายปีมานี้ข้าไม่ให้ฉู่ฮุยออกไปสร้างจวนของตนเอง ก็เพราะรู้สึกว่าติดค้างตระกูลจัวอยู่ ปีนั้นหากไม่ใช่เพราะได้เจอสามีคนปัจจุบันของข้า และได้เขาช่วยไว้ ไม่ใช่แค่ข้า แม้แต่ฉู่ฮุยก็คงไม่รอดแล้ว หลายปีมานี้ ก็เป็นตระกูลจัวที่คอยปกป้องพวกข้ามาตลอด ตระกูลจัวมีบุญคุณกับเรา ฉะนั้น แม้ฉู่ฮุยจะไม่เป็นที่ยอมรับของพวกผู้ใหญ่ในตระกูลจัว แต่ข้าก็ยังไม่อนุญาตให้เขาทิ้งตระกูลจัวไป”
เมื่อได้ยินอย่างนั้น จัวฉู่ฉุยเอ่ยว่า “ท่านแม่ ท่านวางใจเถิด! ข้าไม่มีทางลืมบุญคุณที่ตระกูลจัวมีต่อเรา”
………………………………….
ตอนที่ 2110 ร่วมฉลองกันคืนนี้
เฟิ่งจิ่วมองนางด้วยสายตาลึกซึ้ง พยักหน้า “ข้าเข้าใจแล้ว แต่ว่าหากวันหน้ามีอะไรอยากให้ข้าช่วย พวกท่านไปหาข้าได้ที่หอยาสวรรค์ในเมืองร้อยนที” เอ่ยจบ เธอเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนเอ่ยอีกว่า “อาจารย์แม่ ท่านน่าจะป่วยเรื้อรังมานานแล้ว หลายวันนี้ข้าจะพักอยู่ในจวน ช่วยท่านฟื้นบำรุงร่างกายหน่อยก็แล้วกัน!”
วันนี้พูดคุยกันเพียงเล็กน้อย ทำให้เธอรู้ว่านางเป็นคนมีคุณธรรมน้ำใจ ในเมื่อนางเป็นฮูหยินของท่านอาจารย์ แม้ภายหลังนางจะแต่งงานใหม่กับผู้อาวุโสตระกูลจัว แต่ก็ยังต้องเคารพนางเช่นเดิม อีกทั้งเพียงขยับเข็มเงินเล็กน้อยก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร
ได้ยินอย่างนั้นฮูหยินผู้เฒ่าชะงักเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้า “อย่างนั้นก็รบกวนเจ้าแล้ว” เอ่ยจบ ก็หันไปบอกจัวฉู่ฮุย “อย่างนั้นเจ้าก็ต้อนรับดูแลแม่นางเฟิ่งให้ดี”
“ขอรับ ท่านแม่” จัวฉู่ฮุยเอ่ย ก่อนจะคารวะ และออกจากห้องไปพร้อมกับเฟิ่งจิ่ว
ฮุ่นหยวนจื่อกับจัวจวินเยวี่ยที่อยู่ข้างนอกครั้นเห็นพวกเขาออกมาก็ลุกขึ้นเดินเข้าไปหา ฮุ่นหยวนจื่อมองพวกเขา ถามว่า “คุยกันจบแล้วหรือ?”
“อืม” เฟิ่งจิ่วพยักหน้า เอ่ยกับจัวจวินเยวี่ยว่า “ข้าจะอยู่ที่นี่ระยะหนึ่ง พักนี้ต้องรบกวนด้วย”
จัวจวินเยวี่ยไม่ว่าอะไร เพียงเอ่ยว่า “ขอเพียงเจ้าไม่รังเกียจ อยู่นานเท่าใดย่อมได้”
“ไปกันเถิด! พวกเรากลับเรือนตะวันตกกันก่อน” จัวฉู่นฮุยชักชวน ขณะกำลังจะเดินออกไปพร้อมกับพวกเขา ก็เห็นเงาร่างหนึ่งเดินเข้ามาจากข้างนอก ครั้นเห็นผู้มา เขาก็หยุดเดิน
“พี่ใหญ่”
ผู้มาคือผู้นำตระกูลจัว เขาเดินเอามือไพล่หลังมาเพียงลำพัง มองพวกเขาที่อยู่ในลานสวนแวบหนึ่ง ก่อนจะทักทายจัวฉู่ฮุยเป็นคนแรก จากนั้นก็หันไปมองฮุ่นหยวนจื่อ ยิ้มเอ่ยว่า “ท่านเซียน สบายดีหรือไม่”
“ท่านลุงรอง” จัวจวินเยวี่ยคารวะพร้อมกับขานเรียก พอเห็นอีกฝ่ายพยักหน้าและเผยยิ้มเล็กน้อย จัวจวินเยวี่ยก็ยืนเงียบๆ
“น้องรอง เจ้ามาหาท่านแม่หรือ?” จัวฉู่ฮุยถาม สีหน้าอ่อนโยน
“ใช่ แต่ก็ไม่ใช่” เขายิ้มๆ เอ่ยว่า “ข้าได้ยินคนเฝ้าประตูบอกว่าจวินเยวี่ยกลับมาแล้ว หนำซ้ำท่านเซียนก็มาด้วย แล้วยังได้ยินอีกว่าพวกท่านมาหาท่านแม่ที่นี่ จึงมาดูเสียหน่อย ข้าสั่งให้ในครัวเตรียมอาหารไว้แล้ว นานๆ ทีอยู่พร้อมหน้าพร้อมตา ค่ำนี้พวกท่านมากินข้าวด้วยกันที่เรือนตะวันออกเถิด!”
ได้ยินอย่างนั้น ตาเฒ่าลูบหนวด พยักหน้ายิ้มๆ “ก็ดีเหมือนกัน ข้าคนนี้ไม่เคยปฏิเสธของกินอยู่แล้ว แต่ข้าบอกไว้ก่อนนะ อย่างอื่นไม่มีก็ได้ แต่สุราหอมต้องเตรียมไว้ด้วยเล่า”
“หึๆ แน่นอนอยู่แล้ว ท่านเซียนวางใจได้” เขายิ้มเอ่ย หันไปมองพี่ใหญ่ที่ยังไม่รับปาก จึงถามว่า “พี่ใหญ่ ค่ำนี้มากินข้าวด้วยกัน ดีหรือไม่? เรียกเด็กๆ ทั้งสามคนมาให้หมดเถิด! ครอบครัวเราจะได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา พุดคุยถามสารทุกข์สุขดิบกันบ้าง”
เห็นอย่างนั้น จัวฉู่ฮุยจึงตอบว่า “ก็ได้! อย่างนั้นอีกเดี๋ยวข้ากลับไปบอกพี่สะใภ้เจ้าก่อน หัวค่ำพวกข้าค่อยมาอีกที”
“อย่างนั้นก็ดี ข้าไปหาท่านแม่ก่อน จะได้บอกนางด้วย ท่านแม่เองก็ไม่ได้ออกมาเดินข้างนอกนานแล้ว พอดีกับที่วันนี้ท่านเซียนก็อยู่ด้วย จะได้เชิญนางกับท่านพ่อออกมาพร้อมกัน”
“อย่างนั้นพวกข้ากลับก่อน” จัวฉู่ฮุยเอ่ย ก่อนจะเดินกลับไปพร้อมกับพวกฮุ่นหยวนจื่อ
เห็นพวกเขากลับไปแล้ว ผู้นำตระกูลจัวจึงเดินเข้าไปข้างใน เพื่อไปพบท่านแม่ของเขาก่อน…
หลังจากที่พวกเขาเดินเข้ามาในเขตเรือนตะวันตก เฟิ่งจิ่วจึงค่อยหันมาเอ่ยกับจัวฉู่ฮุย “ไม่น่าเล่าท่านแม่ของท่านไม่ยอมให้พวกท่านออกไปสร้างจวนของตนเอง น้องชายของท่าน ดูเหมือนจะดีกับพวกท่านไม่น้อย”
………………………………….